คุณนายเฟิงมองเขาที่กำลังเดินจากไป ตบโต๊ะด้วยความโกรธ
“มันกล้าเตือนฉันงั้นหรอ!”
ลู่ซือยวี่เห็นเช่นนี้ก็รีบเอาอกเอาใจ
“คุณน้าหมิง พี่จิงเหยากำลังโมโหอย่าถือสาเลยนะคะ ทำให้ตัวเองหงุดหงิดเปล่าๆ”
พูดจบ เธอก็ทำหน้ารู้สึกผิดเม้มปากและพูดว่า: “ที่จริงแล้วเป็นความผิดของฉันเอง ถ้าฉันไม่หุนหันพลันแล่นเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ ขอโทษนะคะคุณน้าหมิงที่ทำให้ต้องเป็นห่วง”
คุณนายเฟิงเห็นท่าทีเธอกำลังเศร้า แม้ว่าเธอกำลังโกรธอยู่แต่ก็ปลอบและพูดว่า: “ยัยเด็กบ้า มันไม่ผิดที่แกหรอก ทุกคนก็มีพลังแอบชอบใครสักคน แกก็แค่ไปต่อสู้เพื่อสิ่งที่อยากได้”
ลู่ซือยวี่ได้ยินแบบนี้แต่ก็ยังรู้สึกแย่และพูดว่า: “แต่พี่จิงเหยาปฏิเสธ แล้วยังจะไล่ฉันออกจากบ้านอีก ฉันไม่อยากไปเลยคุณน้าหมิง ฉันไม่ไปจากบ้านนี้ได้ไหม ช่วยอ้อนวอนพี่จิงเหยาให้ฉันได้ไหม? บอกกับเขาว่า ฉันผิดไปแล้วครั้งหน้าจะไม่ทำอีก”
คุณนายเฟิงได้ยินเช่นนี้ ก็เลยเอามือไปแตะที่ไหล่ของเธอและตบเบาๆ
“ซือยวี่ ขอแค่มีโอกาส น้าหมิงจะรับเธอกลับมาอีก”
เฟิงจิงเหยาไม่รู้ว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่
เขาออกมาจากบ้านใหญ่ ก็ตรงกลับไปที่บ้านใหม่
เมื่อกลับถึงห้อง เขาก็เห็นกู้ฉางชิงกำลังนั่งปักผ้าอยู่ข้างระเบียง
ภายใต้แสงระยิบระยับ ทำให้เขารู้สึกมีช่วงเวลาที่สงบ
ทันใดนั้นกู้ฉางชิงสังเกตเห็นว่าในห้องมีมากกว่าหนึ่งคน ทำให้เธอตกใจจนลุกจากเก้าอี้
“ใครอะ?”
เธอถามด้วยความเย็นชา ไม่ทันระวังมือไปโดนบนโต๊ะปักผ้าและถูกเข็มทิ่มแทง เจ็บจนร้องออกมา
เฟิงจิงเหยาตกใจเสียร้องของเธอ ยังไม่ทันได้คิดทบทวนความคิดของเขาก็รีบถามด้วยความกังวลว่า: “เป็นอะไรมากไหม?”
ในขณะที่เขากำลังถามก็จับมือกู้ฉางชิงขึ้นมาดูและตรวจเช็คอย่างละเอียด
ก็เห็นบนนิ้วสีขาวนวลผ่องของเธอหยดเต็มไปด้วยเลือด
“ทำไมไม่ระวังเลย?”
มองไปที่หยดเลือดและขมวดคิ้ว
กู้ฉางชิงได้ยินจึงตั้งสติกลับมา
เธอมองเลือดที่กำลังหยด ตกใจรีบยกมือขึ้นและเอาเข้าปากดูดนิ้วไว้
“ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่โดนเข็มจิ้มนิดเดียว”
เฟิงจิงเหยาไม่เชื่อคำที่เธอพูด
“รอแปปนึง ฉันจะไปเอากล่องยา”
พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไป
ไม่นานนัก เขาก็กลับมาพร้อมกับกล่องยา ล้วงมือเข้าไปเอาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อและพาสเตอร์ออกมา
“ยื่นมือมา”
น้ำเสียงนุ่มนวลธรรมชาติ ทำให้กู้ฉางชิงตะลึงและยื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัว
เฟิงจิงเหยาจับมือเธอล้างแผลให้อย่าระมัดระวังและติดพาสเตอร์ให้
“ได้รับบาดเจ็บ คืนนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว รีบพักผ่อนนอนเช้าๆ”
เมื่อทำแผลเสร็จเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองกู้ฉางชิง
กู้ฉางชิงวิ่งแล่นเข้ามาในดวงตาของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยบลัชออนสีแดงอ่อนทำให้หัวใจเขาเต้นเร็วผิดจังหวะ
“ไม่…..เป็นไร ชุดนี้กำลังจะเสร็จแล้วเหลือแค่ปักอีกไม่กี่จุด ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว “
เธอเดินไปที่โต๊ะทำงานและปกปิดใบหน้าที่ไม่สบายใจเอาไว้
ในใจรู้สึกกระสับกระส่าย
เธอพยายามให้ตัวเองใจเย็น ไม่สนใจสิ่งที่กำลังมองอยู่ข้างหลังและกลับไปที่ทำงานต่อ
เฟิงจิงเหยาไม่ได้สังเกตเห็นความแปลกของเธอ แต่ยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้จริงจัง และดื้อรั้นทำให้คนหลง
เขาเดินไปหากู้ฉางชิงและจับแก้มเธอโดยไม่รู้ตัว
สัมผัสที่เย็บเฉียบทำให้กู้ฉางชิงสะดุ้ง รู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ข้างๆ ทำให้เขินแก้มแดงไปทั้งหน้า
“มี……มีอะไรหรอ?”
เธอมองไปที่เฟิงจิงเหยา
เฟิงจิงเหยามองสายตาที่กำลังสงสัยของเธอก่อนที่จะตั้งสติและตอบด้วยเสียงเลิ่กลักว่า: “ไม่มีอะไร แค่เห็นผมมันร่วงลงมากลัวจะไปส่งผลต่อเธอ ปักต่อเถอะฉันไม่รบกวนละ “
พูดจบ เขาก็เดินเข้าห้องน้ำไป
……
วันรุ่งขึ้น ยากมากที่วันนี้เฟิงจิงเหยาไม่ออกบ้านแต่เช้า
แต่กู้ฉางชิงลุกจากเตียง บริษัทมีประชุมด่วนแต่เธอต้องทานข้าวเช้าเสร็จก่อนถึงจะออกไปได้
กู้ฉางชิงไม่สนใจอะไรและทานข้าวต่อ
ในขณะเดียวกัน เสี่ยวเหมยก็ร้อนรนเดินเข้ามา
“คุณนายรอง คุณลู่จะไปแล้ว”
“เธอจะไปไหน?”
กู้ฉางชิงไม่ได้คิดอะไรถามไปโดยไม่รู้ตัว
“กลับบ้านตระกูลลู่ ฉันได้ยินมาว่า คุณชายเป็นคนเชิญให้กลับเอง”
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ มือที่ขยับก็หยุดนิ่งและถามด้วยความปละหลาดใจว่า: “เกินอะไรขึ้น?”
เสี่ยวเหมยเห็นเธอท่าทางไม่รู้อะไรเลยจึงรีบเล่าสิ่งที่เธอได้ยินออกมา
“ได้ยินมาว่าเมื่อคืนคุณชายทะเลาะกับบ้านหลักทางนุ้นอย่างไม่พอใจ”
กู้ฉางชิงขมวดคิ้ว มื้อค่ำของเมื่อคืนคุณนายเฟิงก็ไม่ได้เรียกเธอ เธอก็เลยไม่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
เธออยากถามรายละเอียดเรื่องนี้กับเสี่ยวเหมย แต่เสี่ยวเหมยเองก็ตอบไม่ได้และถามคำถามพวกนี้เหมือนกัน
กู้ฉางชิงหมดหนทางทำได้เพียงปล่อยมันไป
เธอนึกถึงเมื่อคืนตอนที่เฟิงจิงเหยากลับมาก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร บางทีก็ไม่เข้าใจความคิดของเขา
นี่มันก็ดีๆอยู่ทำไมถึงให้ลู่ซือยวี่ออกไป หรือว่าจะเป็นเรื่องของวันนั้นนะ?
บางทีอาจจะเป็นไปได้…..หลังจากคืนนั้นผู้ชายคนนั้นคงไม่พอใจมากแน่ๆ
คิดแบบนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะสะใจออกมา
จากนี้บ้านตระกูลเฟิงไม่มีลู่ซือยวี่ ชีวิตของเธอก็คงจะสงบสุขไม่น้อย
แต่เธอไม่รู้ว่าเรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับเธอด้วย
หลังทานข้าวเสร็จ เธอกำลังจะไปที่บริษัท
คิดไม่ถึงว่าเดินออกถึงประตู ก็เห็นลู่ซือยวี่ยืนอยู่พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระมองไปรอบๆด้วยความไม่พอใจ
จะว่าไปเธอก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว อยู่ๆต้องออกไปกระทันหันใครก็คงทำใจไม่ได้ที่ต้องจากไป
“คุณหนู ฉันไม่อยากให้คุณจากไป”
สาวใช้ของเธอดึงเธอเอาไว้และพูดด้วยน้ำตา
ลู่ซือยวี่ดวงตาเต็มไปด้วยความซับซ้อน เธอเองก็ไม่อยากจากไป
“วางใจเถอะ ฉันจะคิดวิธีกลับมาให้ได้ แกอย่าลืมเรื่องที่ฉันบอกไว้ล่ะ”
“คุณหนูเชื่อใจเถอะ ฉันจะช่วยคุณเฝ้ามองนางผู้หญิงคนนั้นไว้อย่างดี”
สาวใช้พยักหน้าตอบด้วยความหนักแน่น และด้วยท่าทางนี้ ทำให้เธอเห็นกู้ฉางชิง สีหน้าเปลี่ยนทันที กัดฟันและพูดว่า: “คุณหนู ผู้หญิงคนนั้นอยู่ข้างหลัง!”
ลู่ซือยวี่ได้ยินเช่นนี้ก็หันกลับไปมอง
ก็เห็นกู้ฉางชิงที่กำลังเดินมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สะใจ สะดุดตาเธอ
นังผู้หญิงคนนี้ตอนนี้คงได้ใจมากสินะ?
เธอจ้องไปที่กู้ฉางชิงอย่างขมขื่นเธอเธอกำหมัดแน่น จนเล็บหยิกเข้าที่เนื้อก็ไม่รู้สึกอะไร
กู้ฉางชิงสังเกตเห็นสายตาที่ขุ่นเคืองนี้ เขาตั้งใจที่จะไม่สนใจและเดินตรงไปที่ประตู
คาดไม่ถึงว่าคุณนายเฟิงจะเดินออกมาจากบ้านใหญ่ ใบหน้าขมวดคิ้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดี: “กู้ฉางซิน แกมาที่นี่ทำไม? มาดูตลกหรอ?”
กู้ฉางชิงถูกว่าอย่างไม่มีเหตุผล มองไปที่ลู่ซือยวี่ก็เข้าใจได้ว่าที่คุณนายเฟิงพูดนั้นหมายถึงอะไร ทำให้เธอพูดไม่ออก
“แม่ ประตูมันอยู่ทางนี้ฉันจะออกไปก็คงต้องผ่านประตูนี้ ไม่ได้มาหาพวกเธอหรอก”
เธออธิบายด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่พวกเขาสองคนก็ไม่เชื่อ
ลู่ซือยวี่เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวพูดข้างๆเธอว่า: “กู้ฉางซิน แกได้ใจไปก่อนเถอะ ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้หรอกแล้วเราจะได้เห็นดีกัน ฉันจะรอดูว่าแกจะอยู่ที่นี่ได้อีกเท่าแค่ไหน!”
พูดจบ เธอก็หยิบกระเป๋าสัมภาระขึ้นรถ จากไปอย่างสง่าผ่าเผย……
สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 92 ไล่เธอออกไป
Posted by ? Views, Released on September 28, 2021
, สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ