“คุณหนู กู้จื่อเฟยทนไม่ไหวแล้ว ต้องได้ส่งเธอไปล้างท้องทันที มิเช่นนั้นเธอจะตายอยู่ที่นี่”
สาวใช้รายงานด้วยความเร่งรีบ
คนปลายสายอีกด้านกลับไม่พูดอะไร เงียบอยู่นาน
กู้จื่อเฟยนอนอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ แต่กลับรู้สิกว่ายิ่งหนาวขึ้นกว่าเดิม ความรู้สึกเจ็บปวดกระจายไปทั่วร่าง มันเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างกับจะฉีกร่างเธอเป็นชิ้นๆ
สติของเธอเริ่มเลือนราง เธอกัดลิ้นแน่น เพื่อรักษาสติที่เหลือเพียงนิด
เธอกำลังเดิมพัน
เดิมพันว่าเจียงเป้ยนีไม่ยอมให้เธอตายที่นี่แน่ ต้องยอมให้เธอไปล้างท้องที่โรงพยาบาล
ขอเพียงแค่ได้ออกจากที่นี่ เพียงแค่ออกไปได้ เธอก็มีโอกาสหาวิธีติดต่อกับเย้นโม่หลิน
ผ่านไปไม่กี่นาที ในที่สุดสาวใช้ก็ตัดสายโทรศัพท์
ดูท่าทีแล้วเหมือนเบาใจลง
หล่อนรีบร้อนมาบอกกับสาวใช้อีกคนว่า
“คุณหนูตกลงให้พาเธอไปล้างท้องที่โรงพยาบาล รีบไปเถอะ พวกเรายกเธอลงไป”
ในสตัอฟนมึนงงนั้น กู้จื่อเฟยโดนหามขึ้นรถตู้คันหนึ่ง สาวใช้ทั้งสองตามติดอยู่คนละข้างของเธอ
ด้านข้างมีชายฉะกันชุดดำสองนั่งอยู่ บวกกับชายหนุ่มอีกสองคนที่นั่งข้างคนขับ
ส่งเธอไปโรงพยาบาล ให้คนตัดตามมาตั้ง 6 คน เจียงเป้ยนีช่างปกป้องเธอแน่นหนาเหลือเกินนะ
กู้จื่อเฟยถูกส่งไปทางผ่านวีไอพี ส่งถึงห้องผ่าตัดโดยตรง
ระหว่างทางไม่เห็นมีคนผ่านมาเลยสักคน
เมื่อเข้ามาในห้องผ่าตัด สาวใช้พูดความกับคุณหมอแล้วจึงให้กู้จื่อเฟยเข้าไป
เธอถูกส่งตรงถึงเตียงผ่าตัด เตียงพร้อมเริ่มผ่าตัดทันที
ในตอนที่ท่อล้างท้องจะป้อนเข้าปากเธอนั้นกู้จื่อเฟยกลับผลักท่อล้างท้องออกอย่างแรง
เธอจับมือของคุณหมออย่างตระหนก พูดออกมาน้ำเสียงติดขัด
“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย ฉันถูกจับตัวมา ช่วยฉันด้วย”
คุณหมอและพวกผู้ช่วยต่างก็มองกู้จื่อเฟยด้วยความประหลาดใจ ทั้งหมดมึนงง พร้อมทั้งตกใจ
ในตอนนี้เองที่พวกเขาสังเกตเห็น หน้าของกู้จื่อเฟยมีรอยแผลเป็นจากมีดไขว่ขีดไปมา แล้วยังมีแผลเลือดชิมบนแผ่นหลัง
ดูท่าแล้ว ช่างน่าเวทนาจริง
พวกเขาอดสงสารไม่ได้ แต่คัดถึงคำสั่งที่ได้รับก่อนหน้าแล้ว พวกเขาได้แต่เม้นปากไม่มีใครพูดสักคำ
ในใจกู้จื่อเฟยหวั่นเกรงไปหมด
ในระหว่างทางมานั้น เธอหาทางหนีไม่ได้สักนิดเพราะการตัดตามที่รัดกุม ตอนนี่ในห้องผ่าตัดไม่มีคนของเจียงเป้ยนีมันเป็นโอกาสเดียวของเธอ
เธอร้องไห้ตาพร่ามัว พูดเสียงสั่นว่า
“คุณหมอช่วยฉันด้วย ขอคุณหมอละ ขอให้คุณหมอช่วยฉันด้วย พวกเขาจับฉันมา ทำให้ฉันเสียโฉม ทำการรักษาบาดแผลที่หลังและทำให้มันบาดเจ็บช้ำไปช้ำมา ทำแผลฉีกแล้วทำการรักษา พวกเขาทำการทรมานฉันตลอดมา หากเป็นแบบนี้ต่อไป สักวันฉันจะต้องตายแน่ๆ ใครต่างก็พูดว่าคนเป็นหมอมีความเมตตา ขอคุณเถอะ ช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วยนะ”
คุณหมอคิ้วขมวด “แต่พวกเราไม่มีวิธีจริง คุณหนูคนนั้นได้ส่งคนมาก่อนหน้ามาบอกให้รักษาความลับการผ่าตัด มิเช่นนั้นพวกเราจะมีอันตรายถึงชีวิต อีกอย่าถึงพวกเราจะอยากช่วยเธอ แต่ด้านนอกก็ยังมีคนเฝ้าอยู่ เธอหนีไปไม่มีทางหนีหรอก”
พวกเขาเป็นหมอ มีดผ่าตัดในมือสามารถช่วยชีวิตคนได้ แต่ไม่สามารถใช้ต่อสู้ได้
กู้จื่อเฟยก็ได้คัดถึงความเป็นไปได้ด้านนี้ เธอทนความอึดอัดเอาไว้ รีบพูดขึ้นว่า
“แจ้งตำรวจ พวกคุณแจ้งตำรวจตอนนี้ เมื่อตำรวจมาก็สามารถช่วยฉันได้แล้ว”
คุณหมอส่ายหัว “พวกเขาอยู่ด้านนอกได้เตรียมการไว้หมดแล้ว เมื่อตำรวจเข้าใกล้โรงพยาบาลพวกเขาจะรู้ทันที และเธอจะถูกพาตัวออกไปทันที อีกอย่าง หากทำแบบนั้น พวกเราก็จะมีอันตรายไปด้วย ฉันต้องรับผิดชอบต่อคนของโรงพยาบาล”
ในเวลาวิกฤติเช่นนี้ทุกคนก็ต้องคิดถึงตัวเองก่อน จะมีกะจิตกะใจนึกถึงคนแปลกหน้าอย่างเธอได้เช่นไร
กู้จื่อเฟยเข้าใจดี แค่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหน็บหนาวในหัวใจ
เธอกัดฟัน “ฉันไม่ทำให้พวกคุณลำบาก งั้นช่วยฉันบางอย่างได้มัย หลังจากเสร็จงานนี้แล้ว ช่วยโทรศัพท์หาเบอร์โทรหนึ่งให้ที”
เธอมองไปที่พวกหมอด้วยความวิงวอน นี่คือทางออกสุดท้ายของเธอ
คุณหมอลังเลอยู่สักครู่ จากนั้นผงกหัว “ได้ เอาเบอร์โทรให้ผม”
“ขอบคุณ ขอบคุณคุณหมอ”
กู้จื่อเฟยรู้สึกตื้นตันมาก เธอรีบรับกระดาษมา แล้วเขียนเบอร์โทรของเย้นโม่หลินลงไป
เธอพูดอย่างเร่งรีบว่า “เชื่อว่าเย้นโม่หลิน คุณเพียงแค่บอกเขาว่า กู้จื่อเฟยอยู่ที่ชายฝั่งเวลส์ อยู่ในประภาคารที่เขาเคยไปครั้งก่อน ให้เขามาช่วยฉัน”
“ได้”
คุณหมอรับกระดาษมาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ “เธอควรต้องได้เริ่มล้างท้องแล้ว หากช้ากว่านี้ จะสร้างความเสียหายที่รักษาไม่ได้กับเธอเอง”
ในที่สุดกู้จื่อเฟยก็สามารถวางหินหนักในใจลงได้ เธอมีความหวังที่จะได้รับความช่วยเหลือ เธอจึงให้ความร่วมมือกับหมอเต็มที่
เมื่อล้างท้องเสร็จ กู้จื่อเฟยนอนบนเตียงผู้ป่วยที่เคลื่อนย้ายได้ เธอโดนเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด
เธอมีสติอยู่ เธอรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว แผลด้านหลังของเธอก็ได้รับการรักษาแบบถูกต้องเป็นครั้งแรก
เพียงแต่ เมื่อออกจากห้องผ่าตัดมาก็เห็นการปลอมหน้าเป็นสาวใช้ของเจียงเป้ยนี
เจียงเป้ยนีตอนนี้ถูกแจ้งความจับจากตระกูลเย้น ถ้าหากโผล่หน้าออกมาในที่สาธารณะก็จะใช้หน้าของสาวใช้
หน้าตาธรรมดา สามัญ แบบที่เดินในกลุ่มคนก็จะไม่มีใครใส่ใจมองแม้เพียงนิด
เจียงเป้ยนีมาแล้ว มันทำให้กู้จื่อเฟยทั้งเกลียดชัง และ ตื่นเต้น มือที่อยู่ใต้ผ้าห่มกำเข้าเป็นหมัดแน่น
แต่หน้าของเธอกลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา
พูดให้ถูกต้องคือ หน้าของเธอมีเพียงบาดแผลที่น่าเกลียด มองไม้ออกว่ามีอารมณ์แบบไหน
เจียงเป้ยนีเดินมาที่ข้างเตียงกู้จื่อเฟยมองลงมาจากด้านบน สีหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยามรังเกียจ
“เล่นมุกกินยาฆ่าตัวตายเหรอ กู้จื่อเฟยในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวแล้วสิ”
กู้จื่อเฟยกัดฟัน ไม่สนใจหล่อน
เจียงเป้ยนีหัวเราะเยาะเย้ยหยัน “แต่ว่านะ เปรียบเทียบกันแล้วการกินยาฆ่าเชื้อฆ่าตัวตายมีความเสี่ยงที่จะถูกช่วยชีวิตกลับมา ไม่เท่ากับการโดดตึกฆ่าตัวตายซะยังดีกว่า”
กู้จื่อเฟยรู้สึกสะดุดในใจ เธอรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
มือของเจียงเป้ยนีหยิกที่คางกู้จื่อเฟย เล็บยาวนั้นแทบจะทะลุเข้าไปในเนื้อของเธอ
“หรือเธอคิดว่า เพียงแค่ออกมาจากประภาคารได้ เธอจะมีโอกาสหนีรอดงั้นเหรอ”
ในตาของกู้จื่อเฟยกระตุกไหว ในใจหวั่นไหวสับสนไปหมด
หรือว่าเจียงเป้ยนีคาดเดาอะไรได้ในนั้นเหรอ
“คุณหนู นี่คือเบอร์โทรศัพท์ที่เธอให้ผม เธอให้ผมโทรหาเบอร์นี้”
คุณหมอผู้รับผิดชอบเคสผู้ป่วยเดินเข้ามา เอากระดาษที่กู้จื่อเฟยเอาให้ยื่นให้กับเจียงเป้ยนี
เขาพูดต่อด้วยหน้าที่ไร้อารมณ์ “ตามที่คุณหนูสั่งการ พวกเราไม่ได้ช่วยเหลือเธอในด้านใดด้านหนึ่ง คุณหมอวางใจได้”
กู้จื่อเฟยมองคุณหมอด้วยความตกใจ เธอรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ไหม้เกรียมทั้งตัว
เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ แผนที่เธอคิดมาเพื่อขอความช่วยเหลือ กลับถูกทำลายอย่างง่ายดาย
คุณหมอที่ตอบตกลงเธอในห้องผ่าตัด เขาไม่ได้มีความคิดอยากช่วยเธอจริง
เขาเป็นคนของเจียงเป้ยนีแต่ต้นแล้ว
ใช่แล้ว เธอมันโง่เกินไป
เธอควรจะคิดได้ตั้งแต่แรก
เจียงเป้ยนีคงไม่ให้โอกาสเธอหนีรอดออกไปแม้แต่นิดเดียว ถึงว่าจะให้เธอเข้าโรงพยาบาล ก็ต้องให้ผ่านทางทางเดิน VIP ที่ไม่มีคน จัดสรรหมอพยาบาลขอเป็นคนของหล่อนเอง
จะเป็นไปได้ไง จะช่วยเธอได้ยังไง
กู้จื่อเฟยสิ้นหวังมากการมองเห็นของเธอมืดดำพร่ามัวไปหมด ในอกรู้สึกเหมือนมีหินก้อนใหญ่อัดแน่นในนั้น อย่างกับจะทำให้เธอหายใจไม่ออกจนตาย