ดวงตาของโห้หลีเฉินสั่นเทา สีหน้าดูทำอะไรไม่ถูก
เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า”เมียจ๋ะ……”
“ฉันอยากอยู่กับเธอ”
สายตาของเย้นหว่านแน่วแน่ขึ้นเรื่อยๆ “ฉันรู้ว่าอาการของนายมันร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ใช่ไหม?”
แววตาของโห้หลีเฉินดูหม่นหมองมากยิ่งขึ้น มันเต็มไปด้วยความทำอะไรไม่ถูกและหลบเลี่ยงอย่างบอกไม่ถูก
เขาปิดบังเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดกับเย้นหว่าน แต่ว่าก็ไม่อยากโกหกเธอ
แต่ว่าตอนนี้เธอทำแบบนี้แล้ว……
โห้หลีเฉินกุมมือเล็กๆ ของเธอด้วยความรักไว้ในฝ่ามือของเขา “เธออยู่กับฉันเธอจะเจ็บปวด แถมยังมีลูกอีก ฉันกลัวว่าเธอจะรับไม่ไหว”
ทุกครั้งที่อาการของเขากำเริบ ความเจ็บปวดพวกนั้นมันตายซะยังจะดีกว่า แม้แต่เขายังแทบจะทนไม่ได้
แล้วยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดว่าเย้นหว่านเห็นเข้า เธอจะเจ็บปวดและเศร้าขนาดไหนกัน
เขากลัวว่าเธอจะเจ็บปวด เธอก็กลัวว่าเขาจะเป็นห่วง
ดังนั้นประมาณครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ เย้นหว่านก็เลยไม่เคยมาที่นี่เลย
แต่ว่าช่วงนี้หลังจากที่แคทเธอรีนมาที่นี่ และพูดอะไรแบบนั้น เย้นหว่านก็รู้สึกว่า เธอควรจะอยู่ข้างๆ โห้หลีเฉิน
เวลาที่เขาเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมากที่สุด เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนเขาและผ่านมันไปด้วยกัน
พวกเขาอยู่ด้วยกัน จะสามารถผ่านมันไปด้วยกันได้เสมอ
“ฉันทำได้” สีหน้าของเย้นหว่านดูแน่วแน่เป็นอย่างมาก “ก่อนหน้านี้นายดูแลฉันมาโดยตลอด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังจากนี้ฉันจะเป็นคนดูแลนายเอง”
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านด้วยความอึ้ง มีความรู้สึกร้อนพล่านเกิดขึ้นในอกของเขา
เขาดึงเย้นหว่านมากอดไว้ในอ้อมแขน กอดเธอแน่นมาก พร้อมกับยิ้มกว้าง
“ยัยบื้อ การดูแลเธอมันเป็นความรับผิดชอบของฉันในฐานะที่เป็นสามีอยู่แล้ว แต่ว่า ถ้าเธออยากจะแสดงให้เห็นล่ะก็ ฉันก็อยากจะให้เธอได้ลองเป็นภรรยาและแม่ที่ดี”
เย้นหว่านหน้าแดงขึ้นมาในทันที พูดถึงเรื่องการดูแลอยู่ ทำไมถึงวนมาเรื่องการเป็นภรรยาและแม่ที่ดีได้?
แต่ว่า มองดูท้องของตัวเอง เหมือนกับว่าตอนนี้เธอจะเป็นภรรยาและแม่ที่ดีจริงๆ
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอได้เปลี่ยนจากเด็กสาวแรกแย้ม กลายเป็นภรรยาของเขาไปแล้ว
“แต่ว่า……” โห้หลีเฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำ “ตอนที่ฉันทำการรักษา เธอดูไม่ได้นะ มันค่อนข้างจะเจ็บ ฉันซ่อนไว้ไม่ได้ ฉันไม่อยากให้มันอยู่ในความทรงจำของเธอ”
เย้นหว่านรู้ดี ตั้งแต่ต้นจนจบเขายังรู้สึกสงสารเธอ
การที่อนุญาตให้เธอเข้าร่วมการรักษา ก็ถือว่าเป็นการที่เขายอมถอยมากที่สุดแล้ว
เย้นหว่านรู้สึกปวดใจ แล้วก็พยักหน้าอย่างแรง
“โอเค”
เธอพูด “นายเองก็ต้องรับปากฉัน ไม่ว่าจะเรื่องไหนนายก็ห้ามปิดบังอาการกับฉันอย่างเด็ดขาด”
ก่อนหน้านี้ โห้หลีเฉินจะบอกแค่ข่าวดีกับเธอเท่านั้น หลังจากเริ่มมีอาการก็สามารถควบคุมได้ดีมาก และกำลังดีขึ้น
แต่ที่จริงแล้วเมื่อดูจากใบหน้าที่ซีดเผือดของเขา ร่างกายที่ผอมบางของเขา และสภาพจิตใจของเขา เธอก็มองออกว่าการของเขามันแย่ลงเรื่อยๆ
และอาการปวดแบบนี้ นอกจากอยู่รอจนลูกเกิด ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว
โห้หลีเฉินตอบรับ อยากกอดเย้นหว่านไว้ในอ้อมแขนแน่น
พอกินข้าวเสร็จ โห้หลีเฉินก็ต้องไปตรวจร่างกายมาอีกครั้ง
แคทเธอรีนเห็นว่าเย้นหว่านเข้ามาด้วยกัน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในทันที ไม่ง่ายเลยกว่าจะควบคุมอารมณ์ได้ แล้วก็วางท่าเหมือนคุณหมอ
“คุณเย้น ฉันจะตรวจให้คุณโห้ คุณอยู่ด้วยน่าจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นะคะ”
ทุกคนต่างเรียบเย้นหว่านว่าคุณนาย แต่ว่าเธอเอาแต่เรียกว่าคุณเย้น
เย้นหว่านยิ้ม “ฉันจะยืนอยู่ข้างๆ ก็พอค่ะ ไม่ทำให้คุณเสียเวลาหรอก”
“เวลาที่ฉันตรวจ ไม่ค่อยเคยชินกับการที่มีคนอื่นอยู่ด้วย……”
“ฉันไม่ใช่คนอื่น แต่ว่าเป็นภรรยาของเขา”
โห้หลีเฉินตัดบทของแคทเธอรีนอยากเย็นชา น้ำเสียงของเขาจริงแท้แน่นอนยังไม่ต้องสงสัย “คุณเป็นหมอมืออาชีพ ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ นิคมสามารถควบคุมตัวเองได้”
เขาพูดประโยคที่แน่วแน่
ถ้าเกิดว่าแคทเธอรีนยังปฏิเสธอีก งั้นก็แสดงว่าเธอไม่ใช่หมอมืออาชีพแล้ว
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในด้านนี้ ก็เลยถูกเชิญมาที่นี่ แต่ต่อให้ความสามารถของเธอจะมากแค่ไหนก็ตาม เธอก็ถูกโห้หลีเฉินตั้งใหม่อยู่ดี
คนที่มีสิทธิ์พูดอย่างเด็ดขาดนั้น มีแค่โห้หลีเฉินเพียงคนเดียวเท่านั้น
แคทเธอรีนคลี่ยิ้มอย่างแข็งทื่อและพยักหน้า “โอเค งั้นเดี๋ยวคุณเย้นนั่งรอด้านข้างนะคะ”
เธอต้องยอมรับการตัดสินใจที่ทำให้เธอไม่พอใจอย่างไม่มีทางเลือก
เธอหันไปมองเย้นหว่านด้วยสายตาที่ไม่พอใจ เธออารมณ์เสียเป็นอย่างมาก เสียใจที่ตอนเช้าเธอตัดสินใจอย่างคุณหันพลันแล่น
บางทีเธอไม่ควรจะไปหาเย้นหว่านแล้วพูดอะไรแบบนั้นเลย
มันทำให้เย้นหว่านสงสัยในตัวเธอ แล้วก็มานั่งเฝ้าถึงที่นี่ ทำให้เธอไม่มีโอกาสได้อยู่กับโห้หลีเฉินสองต่อสอง
ผู้ชายคนนี้เดิมทีก็เข้าใกล้ได้ยากอย่างกับภูเขาน้ำแข็งอยู่แล้ว ตอนนี้โอกาสก็ยังน้อยลงไปอีก
แต่ว่าถ้าเกิดยอมแพ้ไปแบบนี้……
แคทเธอรีนก็ไม่ยอมหรอก
ตราบใดที่ยังไม่สามารถยึดครองตำแหน่งจากเย้นหว่านได้ ก็แสดงว่าเธอยังมีโอกาส ตอนนี้โห้หลีเฉินอยู่ห่างจากเธอไม่ได้ นี่คือที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเธอ
แคทเธอรีนพาโห้หลีเฉินไปตรวจร่างกาย
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ทุกวัน ทั้งภายในและภายนอก ตรวจร่างกายและสังเกตข้อมูลและตัวชี้วัดต่างๆ
แล้วเป็นเพราะว่าสาเหตุของอาการโห้หลีเฉิน การตรวจสอบหลายครั้งก็จำเป็นต้องถอดเสื้อ
เย้นหว่านนั่งอยู่ด้านข้างโดยที่ไม่ได้พูดอะไร เธอเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่แคทเธอรีนถอดเสื้อให้กับโห้หลีเฉินนั้น แววตาของเธอมีความหลงใหล
ถึงแม้ว่าเธอจะซ่อนเร้นไว้อย่างดี แต่ว่าสายตาที่ผู้หญิงมองผู้ชาย มันไม่สามารถปกปิดได้สนิทหรอก
เย้นหว่านขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอรู้สึกรำคาญใจ
ว่ากันว่าในสายตาของผู้ป่วย เมื่อผู้ป่วยถอดเสื้อผ้าออกจนหมดก็เหมือนกันหมด แม้แต่การต้องตรวจร่างกายด้านๆ ที่ยากที่จะพูดถึง ในสายตาของหมอแล้ว ก็ยังสามารถทนได้
แต่ว่าแคทเธอรีนนั้นไม่เหมือนกัน
เธอมีความคิดแบบนั้นกับโห้หลีเฉิน เธอไม่ได้เห็นโห้หลีเฉินเป็นผู้ป่วยธรรมดาๆ เลย เห็นเป็นผู้ชายที่เธออยากได้
ดังนั้นเพียงแค่เห็นร่างกายท่อนบนของเขา หัวใจของเธอก็สั่นไหว
ความรู้สึกนี้มันน่าอึดอัดเป็นอย่างมาก การที่ให้แคทเธอรีนได้ประโยชน์จากการรักษานี้ เหมือนเป็นการดูถูกโห้หลีเฉิน
เย้นหว่านกลัดกลุ้มใจ แต่ว่าเธอไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ได้
ไม่ว่าจะยังไง แคทเธอรีนนอกจากความคิดเล็กน้อยพวกนั้นของเธอ แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถทำอะไรที่มันดูเกินไปได้
ถ้าเกิดเธอบอกว่าเธอแคร์เรื่องนี้ เหมือนว่าก็จะจุกจิกเกินไป
นอกจากนี้แคทเธอรีนยังเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในด้านนี้อีกด้วย คือหมอที่ดีที่สุด
แม้แต่เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของโห้หลีเฉิน……
อดทน อดทน อดทน
สายตาของโห้หลีเฉินต้องมองไปที่เย้นหว่านอย่างไร้ร่องรอย แสงสลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
การตรวจร่างกายเสร็จสิ้นแล้ว
ขั้นตอนต่อไปคือการให้น้ำเกลือ
แคทเธอรีนเตรียมยาด้วยตัวเอง โห้หลีเฉินก็พาเย้นหว่านเดินออกมาด้านนอก
“นายรอฉันแป๊บนะ เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน”
ผู้หญิงเวลาตั้งท้องแล้วจะปัสสาวะบ่อยขึ้น เย้นหว่านก็ไม่มีทางเลี่ยงเหมือนกัน
โห้หลีเฉินลูบของเธอ “ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม?”
“ฉันไม่ใช่เด็กนักเรียนนะ ไปเข้าห้องน้ำหรือยังต้องมีคนไปเป็นเพื่อนอีกเหรอ? เดินแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นเอง เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”
เย้นหว่านยิ้มอย่างหยอกล้อ แล้วก็ไปห้องน้ำเพียงคนเดียว
พอมองว่าเธอเดินออกไปแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มโห้หลีเฉินก็มืดลงในทันที เขาโบกมือเรียก
เว่ยชีก็เดินเข้ามา “คุณชาย มีอะไรจะสั่งหรือเปล่าครับ?”
“ไปหาหมอคนอื่นที่เชี่ยวชาญในด้านนี้ ความสามารถพอๆ กัน แล้วก็เปลี่ยนตัวแคทเธอรีนออกไปซะ”
เว่ยชีตะลึง “ความสามารถหมอแคทเธอรีนนั้นไม่เลวเลยนะครับ ทำไมจู่ๆ ต้องเปลี่ยนตัวเธอด้วย?”
โห้หลีเฉินมองดูทิศทางที่เย้นหว่านเดินออกไป แววตาดูอ่อนโยน
“ผู้หญิงน่ะนะ ต่อให้จะไม่พูด แต่ว่าก็ต้องขี้หึงอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้หญิงที่ท้องอยู่”
เว่ยชีเข้าใจโดยทันที “ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ”