แคทเธอรีนบีบบังคับทีละขั้นๆ
เว่ยชีขมวดคิ้วแน่น พลางทั้งพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “คุณนาย คุณอย่าไปฟังคำพูดเพ้อเจ้อของเธอเลย คุณกำลังท้องอยู่ คุกเข่าไม่ได้นะครับ”
เพราะว่าการคุกเข่าในครั้งนี้ มันไม่ใช่การคุกเข่าแบบธรรมดาแน่นอน
เพราะมันเป็นการทำลายเกียรติจนแหลกสลาย จนส่งผลกระทบมายังจิตใจด้วย และต้องกลายเป็นฝันร้ายของเย้นหว่านไปทั้งชีวิต
เพราะว่าเธอยังตั้งท้องอยู่ แถมตอนนี้ยังไม่สามารถรับการถูกการดูถูกเช่นนี้ได้
แคทเธอรีนหัวเราะเยาะเย้ยให้ “ใช่ เย้นหว่านผู้สูงศักดิ์คุกเข่าไม่ได้ งั้นโห้หลีเฉินก็ตายไป ฮ่าๆ ถือว่าเป็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่กันคู่หนึ่ง ที่แท้โห้หลีเฉินก็รักอยู่ฝ่ายเดียว ช่างน่าสงสารเวทนาจริงๆ ”
เธอโดนฉีกหน้าจริงๆ คำพูดนี้มันช่างน่าไม่น่าฟังจนเสียดหูขึ้นเรื่อยๆ
เย้นหว่านหน้าซีดเผือด พลางมองแคทเธอรีนด้วยสายตาเย็นชาใส่
จากนั้นก็พูดเน้นทุกคำ “แกต้องการให้ฉันคุกเข่าจริงๆ ใช่ไหม?”
แคทเธอรีนเริ่มสนใจมากขึ้นกว่าเดิม จากนั้นก็นั่งลงตรงตู้หัวเตียง ตั้งหน้าตั้งตารอคอย
“ใช่สิ แกคุกเข่า ฉันก็ไม่ลงมือช่วยเธออย่างแน่นอน”
แค่เย้นหว่านคุกเข่าลง เธอก็จะลิขิตผลกระทบเป็นเงาที่มิอาจจะลบเลือนไปได้จากหัวใจของเธอ
เย้นหว่านกล้าทำร้ายเธอ เธอก็จะทำให้เย้นหว่านเจ็บเป็นร้อยเท่าพันเท่า!
จนส่งผลกระทบไปถึงพัฒนาการของลูกในท้องของเธอ ก็จะยิ่งดี
เย้นหวานมองโห้หลีเฉินที่เจ็บปวดทรมานอย่างปวดใจ พลันก้าวเท้า มุ่งหน้าไปทางแคทเธอรีน
จากนั้น มีเสียงดัง “เพี๊ยะ” ดังลั่นขึ้นมา เป็นเสียงตบหน้าดังลั่นสนั่นหวั่นไหว
รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของแคทเธอรีนถูกตบจนค้างไปแล้ว พลางจ้องมองเย้นหว่านอย่างตกตะลึง มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอยังกล้าตบหน้าเธออีก
แคทเธอรีนแหกปากตะโกนดังลั่น “เย้นหว่าน นี่แกไม่อยากให้โห้หลีเฉินมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช่ไหม?”
เย้นหว่านยังไม่หยุดมือ พลางบีบคอของแคทเธอรีนเอาไว้แน่น และในเวลาเดียวกัน ก็หยิบมีดปอกผลไม้ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา จิ้มลงบนใบหน้าของแคทเธอรีน
สีหน้าของเย้นหว่านเย็นเฉียบราวกับราชาปีศาจ
“แคทเธอรีนนี่แกคิดว่าที่นี่คือที่ไหนกัน? ถึงได้ให้คนอย่างแกมีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉัน? ฉันจะให้แกสองทางเลือกเท่านั้น”
“หนึ่ง ถ่วงเวลาต่อไปเรื่อยๆ ถ้าโห้หลีเฉินเกิดเรื่องขึ้น ฉันรับประกันได้เลยว่าจะให้แกอยากตายก็ตายไม่ได้ จะทรมานแกไปจนตาย ยังมีอีก ครอบครัวของแก ฉันจะไม่ปล่อยไปแม้สักคนเดียว แกทำให้ฉันสูญเสียคนที่ฉันรักไป ฉันจะให้คนที่แกใส่ใจอยู่ทุกคน ตายไปเป็นเพื่อนทั้งหมด”
แคทเธอรีนตัวสั่นอย่างหวาดกลัว “แกกล้าเหรอ!”
แววตาของเย้นหว่านสั่นอย่างบ้าคลั่ง ปลายแหลมของมีดปอกผลไม้ทิ่มลงแรงลงเรื่อยๆ จนใบหน้าของแคทเธอรีนพลันมีเลือดไหลซึมออกมาแล้ว
“แกคิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ?”
ความเจ็บปวดที่อยู่บนใบหน้า รวมทั้งตรงบริเวณต้นคอด้วย นั่นมันเป็นอันตรายจนถึงแก่ความตายที่เริ่มคุกคามไปทั่วตัว
แคทเธอรีนตัวเริ่มเย็น ในเวลานี้เองถึงได้รู้อย่างแท้จริงว่า แม้ว่าจะเป็นคนที่อ่อนโยนก็ตาม ก็สามารถกลับกลายเป็นปีศาจร้ายได้
เย้นหว่านเองก็ไม่อยู่นอกเหนือจากนั้น
กระทั่งบ้าคลั่ง น่ากลัว โหดร้ายมากกว่าด้วย
น้ำเสียงของแคทเธอรีนเริ่มอ่อนลงแล้ว “ตัวเลือกที่สองคืออะไร?”
เธอยังไม่อยากตาย
เพราะไม่อยากให้ครอบครัว รวมถึงเพื่อนของเธอต้องติดร่างแหไปด้วย
เย้นหว่านปล่อยมือจากเธอ พลันผลักเธอไปข้างเตียง
พร้อมทั้งออกคำสั่งทันที “ช่วยเขา”
เธอกำมีดปอกผลไม้ไว้แน่น พร้อมทั้งแผ่ความเกลียดชังออกมา “ถ้าแกกล้าเล่นตุกติกตอนรักษา หรือว่าเขาตาย ฉันรับประกันได้เลยว่าทางเลือกที่หนึ่ง มันจะเป็นจริงทั้งหมด”
แคทเธอรีนตัวแข็งทื่อพร้อมทั้งพิงตัวลงข้างเตียงทันที ราวกับสัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บ มันหนาวตั้งแต่ฝ่าเท้าลามมาถึงศีรษะ
เย้นหว่านที่เป็นแบบนี้ ก็คือราชาปีศาจดีๆ นี่เอง
ความเกลียดชังที่แผ่ไปทั่วไป จนทำให้คนเกิดความหวาดหวั่นในใจ
เธอเหมือนเจ้ากระต่ายน้อยที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างเอาใจที่ไหนกัน ก็แค่เป็นคุณหนูพันล้านที่ถูกคนในตระกูลปกป้องดูแล ความดุร้ายของเธอ รวมทั้งโกรธเคือง เห็นได้ชัดว่าความรุนแรงนั้น ถูกความอ่อนโยนปกปิดไว้ทั้งหมด
คนที่ฐานะสูงส่งเหนือคน ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ
เธอไม่กล้ายั่วยุเย้นหว่านที่เป็นลักษณะเช่นนี้ และยังไม่อยากตายด้วย
แคทเธอรีนไม่ถ่วงเวลาอีกต่อ พร้อมทั้งรีบจัดการปฐมพยาบาลช่วยเหลือ จนมือของตนเองยุ่งเป็นระวิง
เธอเคยทำมาแล้วสามครั้ง กระบวนการเช่นนี้ ถือว่าคุ้นเคยที่สุดแล้ว
แต่ว่าเย้นหว่านเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก
ตอนที่เห็นแคทเธอรีนเริ่มช่วยคนนั้น ความตึงเครียดในหัวสมองของเธอ ในที่สุดก็เริ่มผ่อนคลายลงแล้ว
ใครจะรู้ว่า ขาทั้งสองข้างของเธอนั้นสั่นเทาขนาดไหน
เมื่อครู่ตอนที่ข่มขู่แคทเธอรีนนั้น ก็แค่การพยายามต่อสู้สุดชีวิต
เธอแน่ใจว่าแคทเธอรีนไม่ได้ต้องการจะให้โห้หลีเฉินตายไปจริงๆ และมั่นใจว่าแคทเธอรีนยิ่งกลัวตายมากกว่า แค่ใช้การข่มขู่ด้วยอารมณ์โกรธแค้นชิงชัง ถึงทำให้แคทเธอรีนหวาดกลัวได้
เพื่อชีวิตที่อยู่รอด เธอเลยใช้ความสามารถเต็มที่ให้การช่วยให้โห้หลีเฉินรอดชีวิต
นี่มันเป็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าเยอะ กับการที่ให้เธอมานั่งคุกเข่าลง
ส่วนเย้นหว่านนั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะมาปรับอารมณ์ พลางมองโห้หลีเฉินที่อยู่บนเตียง ด้วยอาการตกใจจนตาค้าง
วิธีการรักษาของแคทเธอรีนนั้น ก็คือการกดลงตรงหน้าอกของโห้หลีเฉิน เพื่อให้เลือดของเขาได้ออกมาเยอะขึ้นกว่าเดิม
กลิ่นเลือดสดๆ ไหลคละคลุ้ง ราวกับเปื้อนใบหน้าของเขาไปครึ่งหน้า จนเลอะไปครึ่งเตียง
เย้นหว่านตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ทั้งหวาดกลัว และกลัวว่าการที่โห้หลีเฉินเลือดหมดออกมาเช่นนี้จะทำให้เลือดไหลมาหมดตัว
เว่ยชีผ่านตอนอาการกำเริบของโรคมาสามครั้งแล้ว และเคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อนแล้ว
เขาประคองเย้นหว่านเอาไว้ พลางกระซิบพูดปลอบใจ
“คุณนาย อย่าได้กลัว หลังจากเลือดไหลออกแล้ว คุณชายก็จะดีขึ้น ตอนนี้กลิ่นคาวเลือดมันคลุ้งเกินไป คุณก็ยังตั้งท้องอยู่ ผมจะส่งคุณออกไปรอ ตกลงไหม?”
“ไม่ ฉันต้องการจะเฝ้าเขา”
เย้นหว่านหน้าซีดเผือด ทว่าก็ส่ายหน้าอย่างแน่วแน่
เธอต้องการจะเฝ้าเขา
กระทั่งกลิ่นคาวเลือดที่ทำให้หัวใจแหลกเป็นเสี่ยงๆ เธอก็ไม่สามารถกะพริบตาได้ เพราะว่าเธอกลัว ความหวาดกลัวที่มาจากก้นบึ้งหัวใจมันกำลังก่อคลื่นจนตีขึ้นมาเป็นละลอกอย่างไม่ขาดสาย
กลัว กลัวว่าจู่ๆ จะไม่มีเขาแล้ว
อาการกำเริบของโรคช่างอันตรายเกิน เหมือนเป็นการดูดพลังชีวิตของเขา ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกครั้ง
เว่ยชีได้แต่ประคองเย้นหว่านเอาไว้ และอยู่เป็นเพื่อนเธอ
เย้นหว่านมองขั้นตอนการรักษาอย่างกล้ำกลืนฝืนทนด้วยความเจ็บปวด แต่ว่าตอนที่แคทเธอรีนหยิบเอาเข็มยาวๆ ออกมาหนึ่งอันและปักลงบนหน้าอกของโห้หลีเฉินในเวลานั้น ก็สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป
“นี่แกกำลังทำอะไร?”
เย้นหว่านตกใจจนสิ้นสติแล้ว สติสัมปชัญญะมาถึงขีดสุดแล้ว จิตใต้สำนึกของเธอรู้ว่า ร่างกายที่บกพร่องของโห้หลีเฉิน ยังต้องมาถูกเจาะเป็นรูอีก ก็จะพบเจอกับเคราะห์หนักจนถึงแก่ความตาย
มือเท้าของเธอเย็นเฉียบ
แคทเธอรีนได้ยินแล้ว ก็หันศีรษะกลับมามองเย้นหว่าน
เมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเธอแล้ว จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกสุขใจขึ้นมาบ้าง
ความโกรธเคืองที่อัดอั้นในใจของเธอนั้นก็ผุดขึ้นมาทันที
เธอพูดถากถางกลับ “เจาะหน้าอกของเขาเป็นรู ทำไมเหรอ ดูแล้วมันน่ากลัว คุณห้ามฉันได้นะ”
ใบหน้าของเว่ยชีเริ่มทำสีหน้าน่าเกลียดมาก ” “แคทเธอรีนคุณหยุดพูดให้เปลืองน้ำลายสักที”
เมื่อพูดตักเตือนจบ เขาก็รีบอธิบายให้เย้นหว่านทันที “เรื่องการเจาะหน้าอก เป็นสิ่งที่ต้องทำ”
เย้นหว่านไม่เข้าใจในวิธีการรักษาช่วยชีวิตคน ก็แค่เห็นว่ามีเข็มใหญ่ขนาดนี้เจาะลงบนหน้าอกของเขา ก็รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกแล้ว
เธอกัดฟันต่อ เสียงแข็งมาก พร้อมทั้งสั่นเทาไม่หยุด
“ฉันไม่สนแก แกรีบช่วยคนเร็ว”
สวรรค์ย่อมรู้ดีว่าคำพูดนี้ของเธอนั้นต้องการความกล้าหาญมากมายขนาดไหน ที่จะเอาความเป็นความตายของโห้หลีเฉิน มาหยิบยื่นให้ถึงมือผู้หญิงที่คิดไม่ซื่อคนหนึ่ง
แคทเธอรีนไม่ลงมือทันที แต่กลับหัวเราะถากถางหนักกว่าเดิม
“เย้นหว่าน เห็นแล้วใช่ไหม ว่าแกไม่รู้เรื่องอะไรเลย แกมันก็ภาระดีๆ นี่เอง”
“แกมาถ่วงเวลาในขั้นตอนการรักษาของฉัน อีกเดี๋ยวเกิดอะไรขึ้นมา จะมาโทษฉันไม่ได้นะ”
“เพราะทุกอย่างเป็นเพราะแกทำเองทั้งนั้น”
เย้นหว่านโมโหจนเลือดไหลพุ่งปรี๊ด จนร่างกายสั่นเทาอย่างอดใจไม่ไหว จนใกล้จะเป็นลมอยู่รอมร่อ
เว่ยชีกัดฟันพูด “อย่าได้ไปฟังเธอพูดมั่วๆ เธอไม่กล้าลงมือทำผิดพลาดหรอก ก็แค่พูดเพื่อให้คุณโกรธเท่านั้นเอง อย่าไปหลงกลเธอ”
เย้นหว่านพยักหน้า พร้อมทั้งเปล่งเสียง “อื้อ” ออกมาจากปากอย่างแร้นแค้น
เธอรู้ ว่าแคทเธอรีนไม่กล้าหรอก
แต่คำพูดของแคทเธอรีน ราวกับน้ำท่วมเรือ มันก้าวข้ามการป้องกันในหัวใจของเธอและได้รับชัยชนะไป