“โรคกลัวเชื้อทางจิตแค่กลัวเชื้อจากคนนอก กับคนที่ชอบนั้นมันไม่มีอยู่จริง”
ป่ายฉีพูดอย่างไม่พอใจ เดินตรงไป “กับข้าวเตรียมเสร็จรึยัง?ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว”
แองเจล่าจ้องเขาอย่างไม่พอใจ “นายเป็นหมูหรอ?วันๆ เอาแต่กินอย่างเดียว”
สีหน้าของป่ายฉียิ่งดูไม่ดีขึ้นมา
ระหว่างทางรู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว มาถึงที่นี่ เห็นแองเจล่าก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่
เขาถีบประตูตรงหน้าออก แล้วเดินเข้าไปอย่างก้าวร้าว
แองเจล่าตบหัวของเขาอย่างกลัดกลุ้มใจ ถามเย้นหว่าน “เขาได้กินเพลิงระเบิดหรอ?”
เย่นหว่านส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “น่าจะใช่มั้ง”
น่าจะรุนแรงกว่าการกินยาผิดอีก
คิดอยู่ เย้นหว่านก็ถามขึ้นมาว่า : “น้าเมย์พรุ่งนี้จะกลับมาเวลาไหน?”
เดิมทีถ้าถึงคืนนี้ก็สามารถเริ่มการแก้สะกดจิตในทันที แต่ว่าเฮเลนา เมย์กลับมีเรื่องด่วนขึ้นมาทันที ก็เลยรีบออกไป
พรุ่งนี้ถึงจะกลับมา
รอมาคืนหนึ่ง เย้นหว่านไม่เป็นอะไร แต่เธอกลับเป็นห่วงเรื่องสภาพของป่ายฉีอยู่เล็กน้อย
ตอนนี้บนตัวของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังไปทั่วร่างกาย
เย้นหว่านกลัวว่าเขาจะบ้าในกลางดึก แล้วเอามีดมาไล่ฟันโห้หลีเฉิน
“หม่ามี๊บอกว่าเป็นเย็นพรุ่งนี้”
แองเจล่าพูดไปด้วยตาก็ได้มองไปทางโห้หลีเฉิน มองใบหน้าที่หล่อเหล่าของเขาไว้ ก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
เธอพูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่า “เสี่ยวหว่าน สามีของเธอหล่อจังเลย ฉันขอลิ้นยันได้ไหม?”
ลิ้นยัน?
เลียหน้าของเขาหรอ?
สีหน้าของโห้หลีเฉินในตอนนี้ดูไม่ได้เลย เหมือนกับภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิดออกมา อันตรายถึงขีดสุด
เย้นหว่านรู้สึกได้ถึงเปลวไฟรอบตัวโห้หลีเฉิน รีบกดที่ไหล่ของเขาไว้
เธอรีบอธิบายขึ้นมาว่า : “แองเจล่าชอบไล่ตามดารา ก็คือชอบคนที่หน้า ลิ้นยันไม่ได้หมายถึงอย่างอื่น ก็คืออยากจะมองนายให้เยอะหน่อย”
“ฉันมีภรรยาแล้ว” โห้หลีเฉินดื้อดึง
นี่ก็หมายความว่า ขนาดคนอื่นมองเขาก็ปฏิเสธ
นี่มันขี้งกเกินไปแล้ว
แองเจล่ารู้สึกผิดหวังเล็กๆ แต่ คนหล่อถึงแม้ว่าจะขี้งกแต่ก็ยังหล่อ
เธอยืนอยู่ตรงหน้าอย่างทื่อๆ ไม่อยากจะขยับขาน้อยๆ นั้นเลย
เย้นหว่านหมดหนทางแล้วจริงๆ เด็กสาวคนนี้เป็นคนบ้าผู้ชายที่หล่อ เห็นผู้ชายที่หล่อก็ขยับขาไม่ไหวแล้ว
แต่ว่านิสัยของโห้หลีเฉินก็รู้เป็นอย่างดี
เขาไม่ชอบคนอื่นคอยมองเขาแล้วไหลน้ำลายไปด้วย
อีกอย่าง เธอเองก็ไม่ชอบที่ผู้หญิงคนอื่น จ้องมองสามีของตัวเองอย่างเคลิ้มขนาดนี้
เย้นหว่านกระแอมแล้วพูดว่า “แองเจล่า ข้างนอกลมแรงมาก เข้าไปเถอะ พวกเรายังไม่ได้กินข้าวกันด้วย หิวกันหมดแล้ว”
“หิวแล้ว?”
แองเจล่ามองหน้าหลีเฉินด้วยสายตาที่ตั้งตาคอย “ฉันได้เตรียมของกินไว้แล้ว รสชาติดีมากด้วย พวกเธอรีบเข้ามากิน”
พูดไปด้วย เธอก็ได้กระโดดไปถึงหน้าประตู จากนั้นก็เปิดประตูออก ต้องรับเย้นหว่านและโห้หลีเฉินให้เข้าไปอย่างเร่าร้อน
เย้นหว่านมองสีหน้าที่ดูไม่ดีของโห้หลีเฉิน แล้วเข็นเขาเข้าไป
ตอนที่เข้าไป ป่ายฉีได้นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเริ่มกินแล้ว
แองเจล่าเห็นแบบนี้ ก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจ
“ทำไมนายไม่รอแล้วกินก่อนล่ะ?ไม่มีมารยาทบนโต๊ะอาหารเลยแม้แต่น้อย”
ท่าทางของป่ายฉีที่กำลังหั่นสเต๊กเนื้อก็ได้หยุดลง
ชี้ปลายมีดไปทางแองเจล่า “หุบปากของเธอซะ ไม่อย่างนั้น ฉันก็จะหั่นเธอเหมือนกับอันนี้”
พูดเสร็จ เขาก็ได้เก็บมีดไปหั่นสเต๊กเป็นครึ่งอย่างโหดร้าย
แองเจล่าเห็นก็ขนลุกไปหมด
แต่ก็ได้หึขึ้นมาอย่างไม่กลัวตายทีหนึ่ง แล้วนั่งลงตรงหน้าของป่ายฉีอย่างโกรธ
ก็ได้จับมีดไว้ ท่าทางที่หั่นอยู่บนจานนั้น เหมือนกับว่าจะหั่นใครเป็นชิ้นๆ เลย
ป่ายฉี: “…….” ชิ ขี้เกียจเถียงกับเด็กที่ยังโตไม่เต็มที่
เย้นหว่านนั่งลงข้างๆ แองเจล่า โห้หลีเฉินนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเธอ
เธอเลือกหาตำแหน่งนี้โดยเฉพาะ กั้นไว้ตรงกลาง จะได้หลีกเลี่ยงตาที่เอาแต่มองไปบนตัวโห้หลีเฉินของแองเจล่า
แต่ เย้นหว่านมองความสามารถในการชอบผู้ชายของแองเจล่าน้อยไป
เธอยืดคอออกมามองไปที่หน้าของโห้หลีเฉินอย่างเดียว คอยชื่นชมใบหน้าที่หล่อเหล่าดั่งพระเจ้าของเขา
ยังพึมพำเป็นบางครั้งว่า “ฉันรู้สึกว่าดาราที่ฉันชอบเมื่อก่อนเป็นขยะไปเลย นี่สิที่เรียกว่าเทพบุตร”
“เสี่ยวหว่าน ฉันขอถ่ายรูปคุณโห้รูปหนึ่งได้ไหม?ฉันจะทำเป็นวอลล์เปเปอร์ติดไว้บนหัวเตียง”
“เสี่ยวหว่าน ฉันขอลายเซ็นของคุณโห้อันหนึ่งได้ไหม?”
เย้นหว่านถูกเธอกวนจนกินไปแค่เพียงไม่กี่คำ ก็ไม่มีความอยากอีกเลย
รู้ว่าเด็กสาวแค่ชอบผู้ชายที่หล่อ ไม่มีความคิดอย่างอื่น แต่ว่าความกระตือรือร้นนี้ ทำให้รับไม่ไหวจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ความเย็นที่ออกมาจากตัวของโห้หลีเฉิน ยิ่งอยู่ยิ่งเย็น ยิ่งอยู่ยิ่งเย็น
เธอเป็นห่วงว่าโห้หลีเฉินจะทนไม่ไหวแล้วจับฆ่าแองเจล่ากับที่เลย
“กินเสร็จแล้ว?”
โห้หลีเฉินมอข้างแล้วถามเย้นหว่าน
สเต๊กบนจานของเย้นหว่านกินไปแค่ชิ้นเดียว อาหารอย่างอื่นก็ไม่แต่เตะต้องเลย
เธอพยักหน้าอย่างเกรง แล้วหาเหตุผล “ระหว่างทางเหนื่อยเกินไป กินอะไรไม่ค่อยลง”
“ฉันเองก็เหมือนกัน” โห้หลีเฉินพูด “พวกเรากลับไปพักผ่อนที่ห้องกันก่อนเถอะ”
เย้นหว่านชอบใจมาก เพราะจะได้หนีจาก แองเจล่าที่พูดไม่หยุด
เธอก็ได้รีบบอกลากับคนที่กินข้าวอยู่บนโต๊ะ เสร็จแล้วก็เข็นโห้หลีเฉินไป
เร็วมาก เหมือนกับกำลังหนีภัยอะไรสักอย่าง
จนกระทั่งแผ่นหลังของเย้นหว่านและโห้หลีเฉินหายไปแล้ว แองเจล่ายังมองทางที่พวกเขาจากไปอยู่อย่างนั้น
เธอกัดซ้อมไว้ แล้วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“ทำไมถึงมีผู้ชายที่หล่อขนาดนี้เนี่ย มีเสน่ห์เหลือเกิน เป็นอาหารตาชั้นดีจริงๆ ถ้าฉันมีรูปของเขาใบหนึ่งจริงๆ มั่นใจได้เลยว่าพวกกลุ่มเพื่อนของฉัน ต้องอิจฉาฉันมากแน่ๆ อยากจะเปลี่ยนเทพบุตรและอปป้ากับฉันแน่ๆ ”
ป่ายฉีหึทีหนึ่งอย่างดูถูก “ตาบอด”
รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขาก่อนหน้านี้ หน้าตาของเขาถึงจะไม่ใช่แนวเดียวกับโห้หลีเฉินแต่พูดได้เลยว่าหล่อไล่เลี่ยกันเลย
แต่ว่าผู้หญิงคนนี้ ตอนที่เห็นเขากลับไม่มีความตะลึงหรืออะไรเลย เขายังคิดว่าที่เธอไล่ตามพวกดาราพวกอปป้าเพราะว่าความสามารถซะอีก
เห็นปฏิกิริยาของแองเจล่าในวันนี้ ป่ายฉีถึงรู้ว่า ที่แท้เธอตาบอด
…….
เย้นหว่านพาโห้หลีเฉินไปในห้องที่เธอเคยนอนก่อนหน้านี้
ของตกแต่งภายในห้องเหมือนกับตอนที่เธอไปเลย นอกจากการทำความสะอาดภายในห้อง ไม่ได้เตะต้องของอย่างอื่นของเธอเลย เธอก็ได้ผิดประตู แล้วเดินไปด้วยพูดไปด้วย : “ฉันไปเปิดน้ำอาบน้ำให้นาย นายอาบน้ำ…….”
ยังไม่ทันพูด มือของเธอก็ถูกจับไว้กะทันหัน ร่างกายก็ได้ล้มลงไปข้างหน้าอย่างห้ามไม่อยู่ ล้มลงไปที่ตัวของโห้หลีเฉินโดยตรง
และปากของเขา ก็ได้กดทับลงมา
รุนแรงและเร่าร้อน เหมือนกับฝนตกฉับพลันในเมืองที่แห้งแล้ง บ้านจนทำให้คนบ้าคลั่งได้
เขาได้กอดไว้แน่นกว่าเดิม แรงเยอะมากจนเหมือนว่าจะขยี้เธอเข้าในกระดูกเลือดเนื้อเลย
อ้อมกอดที่ห่างหายไปนาน จูบที่ดุเดือด ทำให้ตัวของเย้นหว่านเกรงแข็งไปหมด ขอบตาก็ได้แดงขึ้นมาทันที
เธอก็ได้กอดตอบเขากลับ ตอบสนองจูบของเขา
ปล่อยให้เขาได้เอาความต้องการของตัวเอง