สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 1322 ตีเพราะห่วงด่าเพราะรัก

คนที่คอยป้องกันวิลล่าส้ายน่า ว่าต้องพบกับศัตรูที่แข็งแกร่งเข้า

เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีฝีมือชั้นสูง และกำลังวังชา พวกเขาสิบกว่าคนอุ้มเข้าสู้กับเธอเพียงคนเดียว แต่ก็กินแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ และกำลังค่อยๆ ลดลง

ฝีเท้าของเธอ ทำให้คนที่พุ่งเข้าหาตัวเองล้มเจ็บไปทีละคน

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาต้องทนได้ไม่นานแน่ จึงเรียกกำลังเสริมมาช่วย

ภายในสายเป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่งกัดฟันตอบด้วยความโกรธดังออกมา ” ผมเอง ”

ไม่นานนัก ป่ายฉีก็ตามฆ่าอย่างรวดเร็ว

เขารีบลงมือ แล้วมัดตัวหานจื่อเอาไว้

สายตาของหานจื่อดูเย็นชาและมองไปยังแผลที่ท้องของเขา ” มารนหาที่ตายหรือไง? ”

เธอยังหาตัวเขาเพื่อที่จะฆ่าปิดปากไม่เจอเลย แต่เขากลับส่งตัวเองใส่พานแล้วส่งมาถึงประตูขนาดนี้ พอดีเลยวันนี้จะได้ทำสองภารกิจให้เสร็จ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว

ป่ายฉียิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ” แต่มันก็เป็นแค่แผลเล็กๆ น่ะนะ มันไม่กระทบถึงฝีมือจองผมหรอก แต่คุณนี่สิ สามปีไม่เห็นหน้าเห็นตา ก็ไม่เห็นว่าจะเปลี่ยนไปสักนิด ยังคงชอบพูดจาคุยใหญ่คุยโตอยู่เหมือนเดิม ”

หานจื่อขมวดคิ้ว

ป่ายฉีพูดต่อ ” สามปีก่อนคุณก็เอาแต่พูดว่าจะฆ่าผมทั้งวันนั่งคืน แต่สุดท้ายก็ฆ่าไม่ได้ แต่ตอนนี้คุณจะฆ่าผมก็คงเป็นไปได้ยากนะ ”

การที่สามปีก่อนไม่ได้ฆ่าป่ายฉี มันเป็นความอับอายในหน้าที่กำลังก้าวหน้าของหานจื่อ

ข้อความอัพอายเธอจึงหันตัวกลับไปเป็นคนที่ใช้ชีวิตธรรมดาทั่วไป เพราะเปลี่ยนไปแล้ว ก็เลยไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก และได้ไว้ชีวิตเขาเช่นกัน

แต่ตอนนี้เธอกลับมาทำอาชีพเดิมแล้ว การที่เขากล้าขุดเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก มันไม่ใช่ว่าเขากำลังทิ่มแทงหัวใจเธออยู่งั้นเหรอ

สายตาของหานจื่อเปลี่ยนไปเย็นชากว่าเดิม และพูดออกมาทีละคำ ซึ่งฟังดูเย็นชาและทิ่มแทงไปจนถึงกระดูก

” ตอนนี้ คุณควรตายซะ ”

พูดจบ เธอก็พูดไปจู่โจมเขายังไม่ลังเล ไม่เหลือแม้แต่ความรู้สึกเลยสักนิด

ป่ายฉีเตรียมตัวเอาไว้ตั้งนานแล้ว จึงรีบรับมือโดยทันที

ทั้งสองต่างเป็นคนที่มีความสามารถ และเป็นคนที่ดุดัน เวลานี้การต่อสู้ผ่านไปอย่างดุเดือด ยากที่จะแยกออกจากกันได้

แต่ถึงจะมีฝีมือที่สูงและรับมือเอาไว้ได้ ชายอื่นที่ยืนดูอยู่ก็ไม่มีโอกาสเข้ามาช่วย

แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ยังคงพยายามหาช่วงที่หานจื่อเผลอเพื่อซุ่มโจมตี แต่มีชายคนหนึ่งอีกนิดจะทำสำเร็จแล้ว เมื่อเข้ามาใกล้ๆ ก็ถูกป่ายฉีถีบหงายไป

ป่ายฉีโกรธแล้วด่าออกมา ” ไอ้สาระเลว ไสหัวไปซะ ใครใช้ให้พวกแกมาลอบกัดแบบนี้? ผู้หญิงคนนี้เป็นของฉัน จะตีจะทำร้ายหรือจะฆ่า ก็มีแค่ฉันคนเดียวที่จะเป็นคนตัดสิน ”

คนทั่วบริเวณนั้น : ” …….. ” เมื่อก่อนป่ายฉีคุณชายไม่ได้ใส่ใจกับการต่อสู้ตาต่อตาฟันต่อฟันแบบนี้นี่นา เขาไม่ใช่คนเก็บงานรวดเร็วฉับไวหรอกเรอะ?

การลอบกัดกับวิธีพวกนี้เขาก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว เขาแค่สนใจว่ามันเสร็จเรียบร้อยดีหรือเปล่า

แต่วันนี้เปลี่ยนแนวแล้วหรือไง?

หรือว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิง แล้วก็เป็นผู้หญิงสวยซะด้วย หรือว่าต้นไม้หมื่นปีอย่างลูกพี่เราจะมีเยื่อใย คิดถึงความหลัง?

เพราะคิดถึงตรงนี้ พวกผู้ชายก็ต่างพากันสะบัดหัวไปมา เป็นไปไม่ได้ ชะตาของป่ายฉีถูกลิขิตไว้เพื่อความโสดเท่านั้น ไม่มีทางไปเกี่ยวพันกับผู้หญิงเด็ดขาด

เพราะคิดดูแล้ว อาจเป็นเพราะมันเป็นเรื่องยากที่เขาจะได้เจอศัตรูตัวฉกาจ ก็เลยเกิดความอยากเอาชนะขึ้นมา ก็เลยอยากจะเอาชนะด้วยวิธีที่ยุติธรรมกับอีกฝ่ายที่เป็นผู้หญิงสินะ

อื้ม ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ

เหมือนกับว่าพวกเขาพยายามหาเหตุผลเพื่อซัพพอร์ตตัวเอง และไม่ได้สนใจเลยว่าอีกนิดเดียวร่างกายของป่ายฉีจะมีรอยแผลจากคมมีดกรีดลงไป

ถึงแม้จะไม่หนักมาก แต่ถ้าเทียบกับคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิดอย่างหานจื่อ ก็คงจะดูน่าเวทนาอยู่เล็กน้อย

เมื่อตะวันบ่ายคล้อย ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นส้มอมแดงสวยงามทั้งผืน

เย้นหว่านเหยียบพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดง เมื่อลงจากรถแล้วก็เดินเข้ามาในลานบ้าน

ชายใส่สูทดำสองคนรีบเข้ามารับ ” คุณนาย ระวังด้วยนะครับ ผู้หญิงคนนั้นเป็นนักฆ่ามือฉกาจ ผมจะคอยคุ้มกันคุณเอง พวกเราคุ้มกันรอบตัวเธอแล้วเดินเข้าไป ”

” ไม่เป็นไรหรอก รู้จักกันน่ะ ”

เย้นหว่านโบกมือปฏิเสธ พร้อมกวาดสายตาดู ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มในขณะที่มองไปหานจื่อ

สามปีก่อนที่อยู่ใต้พื้นทะเลทราย สถานการณ์โดยรอบตอนนั้นอันตรายมาก เธอเป็นผู้หญิงที่ปราดเปรียวและห้าวหาญ เย้นหว่านแค่โฟกัสได้ถึงความเข้มแข็งของเธอ และไม่ได้สนใจถึงรูปลักษณ์ภายนอกของเธอเลยสักนิด

ตอนนี้พอได้เห็นแล้ว ก็รู้ได้ทันทีว่าหานจื่อเติบโตมาด้วยหน้าตาที่ใช้ได้เลยทีเดียว หญิงสวยที่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง คำคำนี้คงจะนิยามลักษณะของเธอได้พอประมาณ

ด้วยรูปลักษณ์เช่นนี้ อีกทั้งนิสัยเฉพาะตัว ช่างดูเหมาะสมกับป่ายฉีเหลือเกิน

ชายที่มีความสามารถและหญิงสาวที่สะสวย นี่มันพรหมลิขิตที่ถูกกำหนดให้คู่กันชัดๆ

ใบหน้าของเย้นหว่านเผยรอยยิ้มที่แลดูอบอุ่นเหมือนรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคน และพูดกับหานจื่อว่า

” หานจื่อ สวัสดีจ้ะ ฉันคือเย้นหว่าน ฉันได้ยินป่ายฉีพูดเกี่ยวกับเธอมาตั้งนานแล้ว ก็เลยอยากเจอเธอมาตลอด วันนี้ในที่สุดก็ได้เจอสักที เธอสวยกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะ ”

หานจื่อไม่ได้ตอบสนองกับคำพูดของเย้นหว่าน แต่ใจจดใจจ่ออยู่กับการโจมตีป่ายฉี

เธอรับมืออย่างดุดัน ไม่ออมมือเลยสักนิด

แต่ป่ายฉีกลับทำตัวเหมือนปลาไหล แต่ก็เป็นปลาไหลรู้จักจู่โจมเช่นกัน หลบหลีกด้วยความเร็ว โจมตีอย่างหนักหน่วง ที่น่าตะลึงก็คือจนถึงตอนนี้เธอก็ยังเอาชนะเขาไม่ได้

ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ก็ไม่รู้ว่าต้องสู้กันอีกนานแค่ไหน

เย้นหว่านก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับการที่หานจื่อไม่สนใจเธอ แต่ใบหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็พูดต่อ

” เป็นทั้งคนสวยและมีความสามารถ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถตีเสมอกับป่ายฉีได้ นี่สี่ถึงเรียกว่าเพชรตัดเพชร น่าเห็นอกเห็นใจ ถึงว่าล่ะทำไมป่ายฉีถึงชอบเธอ ”

ชอบ?

หานจื่อแปลกใจ ภายในดวงตาที่เย็นชา ยากที่จะสังเกตได้ถึงความผันแปรชั่วขณะ

ป่ายฉีโกรธขึ้นมาในทันที จากนั้นก็ตะโกนเสียงดัง ” เย้นหว่าน พูดอะไรไร้สาระเนี่ย ผมไม่ได้ชอบเธอสักหน่อยเข้าใจไหม? ”

” ไม่ชอบงั้นเหรอ? แล้วทำไมตลอดสามปีที่ผ่านมานายไม่เคยลืมเธอเลยล่ะ แล้วยังไปอยู่ในเมืองที่พวกนายเคยอยู่ด้วยกันเพื่อตามหาเธออีก ทุกครั้งที่เดินบนถนนที่มีผู้คนพลุกพล่าน นายก็อยากจะเจอเธอนี่นา ”

เย้นหว่านเปิดเผยด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ” ฉันรู้ว่านายอายจนไม่กล้ายอมรับ แต่ความรู้สึกที่นายมีต่อ หานจื่อคนนอกมองยังไงก็รู้ ”

คนนอกมองก็รู้กับผีน่ะสิ

ถึงแม้เขาจะเคยไปอยู่เมืองที่เขากับหานจื่อเคยอยู่ด้วยกันเพื่อตามหาเธอ สามปีมานี้ที่อยู่การชอบเดินตามถนนจนเป็นความเคยชินโง่ๆ นั่น แต่เขาไม่ได้อะไรอาวรณ์ในตัวหานจื่อถึงสามปีหรอกนะ!

ป่ายฉีกัดฟัน ” รีบเข้าไปปรนนิบัติสามีของเธอกินข้าวเถอะ อย่าเอาแต่พูดจาไร้สาระอยู่ตรงนี้เลย เสียเวลาคนจะทะเลาะกัน ”

” อุ๊ย ขอโทษที พี่คำพูดของฉันมันไปกระทบกับจิตใจนักสู้ของนาย ” เย้นหว่านขอโทษอย่างใจจริง

ป่ายฉี: ” ……… ” เธอไม่พูดจะดีเสียกว่า

สีหน้าของเย้นหว่านก็ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม เธอมองไปที่หานจื่อ ” สาวน้อยหานจื่อ ป่ายฉีนิสัยหัวแข็งเกินไป ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้เขายอมจำนนได้ เธอคือหนึ่งเดียวคนนั้นนะ ฉันเห็นบางอย่างในตัวเธอ ยังคำที่ว่าตีเพราะห่วงด่าเพราะรัก เธอตีเขาหนักๆ ไปเลย ยิ่งตีให้เขาเจ็บมากเท่าไหร่ เขาก็จะรักเธอมากเท่านั้น ”

ท่าทางพี่โจมตีอย่างหนักหน่วงของหานจื่อ ดูเหมือนจะสั่นเล็กน้อย แถมทิศทางก็ยังดูเอียงอย่างเห็นได้ชัด

ป่ายฉีไม่ใช่คนที่ซื่อตรงขนาดนั้น แม้แต่เพื่อนของเขาเอง ก็ยังไม่มีความซื่อตรงเลย

การต่อสู้ก็คือการต่อสู้ จะทำอะไรเรื่อยเปื่อยจนเละเทะแบบนี้ได้ยังไง!

” จริงสิ อย่าเอาแต่ต่อสู้กันอย่างเดียวล่ะ ฉันเอากับข้าวกลับมาด้วย ถ้าพวกเธอเหนื่อยก็กินข้าวกันก่อนแล้วค่อยสู้กัน ”

ขณะที่พูด เย้นหว่านก็เอาข้าวกล่องวางบนโต๊ะไม้หินอ่อนตรงลานบ้าน

เธอหยิบฝากของกล่องข้าวออก ส่งผลให้กลิ่นที่หอมหวนของกับข้าวลอยมาตามลม ดึงดูดให้ตัวตะกละที่อยู่ในท้องคนนั้นดิ้นไปตามๆ กัน

เดิมทีป่ายฉีไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แต่เมื่อได้กลิ่นหอมรัญจวนใจนี้แล้ว เขาก็หิวขึ้นมาทันที

” โอ้โห! เสี่ยวหว่านเธอวางยาพิษในนั้นหรือเปล่า ”

พูดไปเขาก็หันยังหานจื่อ จากนั้นก็ยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วพูดว่า ” หานจื่อ เธอหิวหรือเปล่า ไม่งั้นพวกเราไปกินข้าวก่อน แล้วค่อยสู้ต่อเป็นไง? ”

หานจื่อ: ” ……. ” นี่พวกเขากำลังฆ่ากันอย่างเอาเป็นเอาตายโอเคไหม?

ยังจะกินข้าวอีก! นี่เขาเห็นการต่อสู้ของเธอเป็นเรื่องเล่นๆ อย่างงั้นเหรอ

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset