ร่างของเย้นหว่านเกร็งแข็งราวกับก้อนน้ำแข็ง
นิ้วมือของเธอกำแน่น เล็บมือที่เกือบจะทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อ แต่เธอกลับควบคุมตัวเองไว้ ไม่แสดงอาการลนลานออกมา และไม่เปล่งเสียงเรียกให้หยุดแต่อย่างใด
เธอกล่าว “ฆ่าตาแก่เฒ่าคนนี้ทิ้ง กลับไปมีรางวัล”
เจมส์โกรธจนแทบจะเป็นบ้า “ได้ อย่างนั้นก็ตายไปด้วยกันเลย”
ก่อนที่บอดี้การ์ดชุดดำจะกระโจนเข้าไปถึงตัว เขาก็โมโหมากและจะกดปุ่มสวิตช์
“อย่า!”
เวลานี้ เสียงของชายหนุ่มได้ตะโกนขึ้นด้วยความหวาดกลัว
โห้หลีเฉินผลักเหล่าชายหนุ่มชุดดำอย่างแรง ดวงตาแดงก่ำ แล้วรีบเดินเข้าไปที่ด้านหน้าของเจมส์ จากนั้นอ้าแขนทั้งสองข้างบังเขาไว้
เหล่าชายหนุ่มที่โจมตี เมื่อเห็นว่าเป็นโห้หลีเฉิน จึงได้หยุดแล้วยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
เจมส์จึงได้ชะงักนิ้วมือที่อยู่ใกล้ปุ่มสวิตช์เพียงไม่กี่มิลลิเมตร
เย้นหว่านเลิกคิ้ว “โห้หลีเฉิน คุณมาได้ยังไง คุณทำลายโซ่ตรวนนั้นได้อย่างไร”
“เย้นหว่าน บางทีฉลาดมากเกินไปก็อาจจะเสียรู้ในความฉลาดนั้นได้ ผู้หญิงที่คุณใช้ปลอมเป็นตัวคุณคนนั้น ถึงแม้ว่าจะมีรูปลักษณ์เหมือนกับคุณ น้ำเสียงและพฤติกรรมก็ไม่มีความแตกต่าง แต่อย่างไรเธอก็ไม่ใช่คุณ หลอกผมไม่ได้หรอก ผมแกล้งทำเป็นทะเลาะกับเธอ อาศัยจังหวะที่เธอไม่ทันตั้งตัว ตีเธอจนสลบ”
โห้หลีเฉินพลางพูดพลางยิ้มอย่างระอา “เหมือนอย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด คุณเป็นห่วงการป้องกันโดยรอบของวิลล่าจะถูกโจมตี จึงไม่ได้ขังตายผมไว้ในห้อง แน่นอนจะต้องทิ้งกุญแจไว้ และกุญแจนั้นก็อยู่บนตัวของเธอ”
ดังนั้น เขาจึงวิ่งออกมาด้วยแผนซ้อนแผนนี้ และมาหยุดเธอได้ในวินาทีสำคัญ
ใบหน้าของเย้นหว่านเย็นชาสุดขีด “โห้หลีเฉิน คุณหลีกไป ไอ้สารเลวนี้ยังไงวันนี้ฉันก็จะต้องฆ่าให้ได้ เขากล้าบังอาจมาควบคุมคุณ ถือเป็นโทษที่สมควรตาย”
“เย้นหว่าน จะให้ผมพูดเป็นครั้งที่เท่าไหร่ว่าผมไม่ได้ถูกล้างสมอง และผมก็ไม่ได้ถูกควบคุม ผมทำเพื่อแรบบิท นาฬิกาพกเรือนนี้คือชีวิตของแรบบิทจริงๆ คุณใจเย็นก่อนได้ไหม เชื่อผมสักครั้งเถอะ”
โห้หลีเฉินลนลานจนน้ำเสียงแหบแห้งไปหมด
แต่เมื่อเผชิญกับความบ้าคลั่ง ความลนลานของเขา เย้นหว่านกลับไม่สะทกสะท้านจนทำให้หัวใจคนรู้สึกเย็นวาบ “โห้หลีเฉิน เมื่อก่อนคุณจะไม่สูญเสียการควบคุมตัวเองแบบนี้ คุณในตอนนี้ไม่เหมือนคุณเลยด้วยซ้ำ”
ดังนั้น เธอจึงไม่เชื่อเขา
เย้นหว่านกล่าว “คุณเป็นสามีของฉัน ฉันไม่มีทางทำร้ายคุณ แต่ว่าพวกเขาฉันจะต้องสังหารอย่างแน่นอน ลำพังคุณคนเดียวไม่สามารถหยุดฉันได้หรอก โห้หลีเฉินอย่ามาผิดใจทะเลาะกันแบบนี้เลย หลีกไป”
ท่าทีที่ดื้อรั้นดึงดันของเธอ ทำให้คนรู้สึกสิ้นหวัง
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อกลุ่มชายชุดดำได้ยินเสียงของเธอ ก็เริ่มเคลื่อนไหวเดินเข้าไปห้อมล้อมพวกเขาด้วยท่าทางรุกฆาต
สีหน้าของเจมส์ดำทะมึน แล้วตะโกนใส่โห้หลีเฉินอย่างเสียงดัง “โห้หลีเฉิน ห้ามเธอไว้ หากว่าผมตาย ลูกสาวของคุณก็จะต้องตายด้วย”
โห้หลีเฉินร่างเกร็งไปหมด ความโกรธแผ่กระจายไปรอบๆ จนแทบจะปะทุออกมา
เขาจ้องเย้นหว่านตาเขม็ง แล้วกัดฟันพูดออกมาทีละคำทีละประโยค “เย้นหว่าน คุณบังคับผมเองนะ!”
เขาพลางพูดพลางหยิบกริชออกมาแล้วจี้ที่คอของตัวเอง
เย้นหว่านตกใจช็อกมาก “โห้หลีเฉิน คุณจะทำอะไร”
“เย้นหว่าน ปล่อยเจมส์ซะ ไม่เช่นนั้น ผมก็จะตายอยู่ตรงหน้าคุณ คุณไม่เชื่อว่าแรบบิทสามารถตายได้ อย่างนั้นความตายของผมอยู่ตรงหน้าคุณ คุณคงจะเชื่อแล้วใช่ไหม”
โห้หลีเฉินบ้าคลั่งจนดวงตาแดงก่ำ
เย้นหว่านประหนึ่งตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง มองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
เสียงพูดของเธอนั้นสั่นเครือ “คุณ นี่คุณถึงกับใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเขาอย่างนั้นเหรอ”
ใช่ เธอสามารถไม่เชื่อเรื่องที่ว่าแรทบิทสามารถตายได้ แต่เธอกลับไม่สามารถตอบโต้การข่มขู่ด้วยชีวิตของโห้หลีเฉินได้
ที่เธอทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ไม่เคยคิดที่จะบีบให้ใครต้องตาย
เย้นหว่านแทบจะเป็นบ้าแล้ว “โห้หลีเฉิน นี่คุณจะทำแบบนี้จริงเหรอ คุณรู้ไหมว่าทำแบบนี้ จะทำให้ความรักความรู้สึกของพวกเราแย่ลง พวกเราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก!”
“เย้นหว่าน หากว่าคุณฆ่าเจมส์ นั่นต่างหากที่จะทำให้ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิม แรบบิทเป็นลูกพวกเรา เป็นหัวใจของคุณ ผมไม่อยากเห็นคุณต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเพราะการตายของเธอ”
คำพูดของเขายังคงคิดเพื่อเธอเสมอ
คำพูดที่ฟังแล้วลึกซึ้งกินใจ แต่กลับทำให้เย้นหว่านน้ำตาไหลไม่หยุด
“คุณรู้ไหมว่าที่ฉันพยายามทำทุกอย่าง ไม่รีรอที่จะใช้กองกำลังตระกูลเย้น ใช้เวลาวางแผนยาวนานเช่นนี้ ก็เพื่อต้องการช่วยคุณจัดการกับมือที่คอยควบคุมคุณอยู่เบื้องหลัง แต่ว่าฉันกลับคิดไม่ถึงว่า คุณ……”
เธอสะอึก “คุณกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว จะให้ฉันช่วยคุณอย่างไร”
เธอไม่สามารถช่วยได้อีก
น้ำเสียงของเธอที่ดูสิ้นหวังและเจ็บปวดรวดร้าว
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วแน่น เจ็บปวดใจสุดขีด แต่ก็ยังดึงดันถือกริชจี้อยู่ที่คอของตัวเอง ใบมีดที่คมกริบ ได้ปาดโดนผิวของเขาจนเลือดสดๆ ซึมออกมาสองสามหยด
เขากล่าว “เย้นหว่าน รอผมส่งเจมส์จากออกไปอย่างปลอดภัยแล้ว ผมจะกลับมาหาคุณ”
คำพูดจริงจังของเขาประหนึ่งคำสัญญาก็ไม่ปาน แต่ว่าเย้นหว่านกลับรู้สึกสิ้นหวัง ไม่อยากจะเชื่ออีก
กลับมาแล้วไง
ก็แค่หุ่นเชิดที่ถูกควบคุมโดยคนอื่นเท่านั้น
“คุณไปเถอะ แล้วก็อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไม่มีจิตวิญญาณ คุณก็ไม่ใช่คุณโห้คนที่ฉันรักอีกต่อไป”
เย้นหว่านหันหลังไปอย่างสิ้นหวัง แล้วก็เดินออกไป
แผ่นหลังของเธอที่อ้างว้างท้อใจ ราวกับว่าพริบตาเดียวเธอสูญเสียพลังทุกอย่าง โดดเดี่ยวและเดียวดาย
มือของโห้หลีเฉินที่กุมกริชได้กำแน่นขึ้น หัวใจเจ็บปวดทุกข์ทรมานสุดขีด
เขาระงับอารมณ์ในจิตใจอย่างยากลำบาก ดวงตาแดงก่ำ แล้วหันหน้าไปพูดกับเจมส์อย่างดุดัน “ยังไม่รีบไปอีก”
เห็นสถานการณ์ถูกควบคุมไว้แล้ว เจมส์จึงรีบพาพวกมุ่งเดินออกไปด้านนอก
แต่แล้ว ครั้นเดินได้เพียงไม่กี่ก้าว กลุ่มชายชุดดำที่อยู่ด้านข้างได้ลงมือขึ้นทันใด หยิบมีดจ้วงแทง จนคนล้มลงไปเจ็ดแปดคน
เจมส์ตกใจจนตัวสั่นเทา แล้วรีบถอยกลับไปหลบอยู่ด้านหลังของโห้หลีเฉิน
เขาตวาดขึ้น “พวกคุณไม่อยากให้โห้หลีเฉินมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม”
เย้นหว่านจากไปแล้ว ที่ยังอยู่คือเย้นโม่หลิน
สายตาของเขาเยือกเย็นสุดขีด ราวกับก้อนน้ำแข็งที่แหลมคมจ้องทิ่มแทงโห้หลีเฉิน
“น้องสาวผมไม่กล้าฆ่านาย แต่สำหรับผมไม่มีคำว่าปรานี โห้หลีเฉินนายเอาชีวิตของตัวเองมาข่มขู่นั้น ใช้กับผมไม่ได้”
เมื่อคำพูดนี้เปล่งออกมา เจมส์ก็เย็นวาบไปทั้งตัว
เขาจึงหยิบเรือนนาฬิกาพกออกมาอีกครั้ง นิ้วมือเตรียมพร้อมจะกดลงไป
โห้หลีเฉินเห็นการกระทำของเขา ม่านตาจึงหด แล้วกล่าวกับเย้นโม่หลินด้วยสีหน้าที่เย็นชา
“ใช้กับนายไม่ได้ก็จริง แต่ว่านายก็ไม่กล้าฆ่าผมอยู่ดี เพราะถ้าคุณทำ เย้นหว่านก็จะไม่มีวันยกโทษให้นายได้ในชีวิตนี้”
“นี่นาย!”
เย้นโม่หลินราวกับถูกจี้โดนจุดอ่อน โกรธจนสีหน้าดูแย่ “โห้หลีเฉิน คุณนี่มันช่างระยำจริงๆ ”
“อย่ามามาก หลบไป”
โห้หลีเฉินยืนตรงอยู่ด้านหน้า จะสาวเท้าก้าวเดินไปด้านนอก
เนื่องจากเห็นลูกน้องถูกฆ่าตาย เจมส์เกรงว่าจะถูกลอบจู่โจมอีก จึงจำเป็นต้องอยู่ใกล้กับโห้หลีเฉินให้มากที่สุด แล้วกัดฟันพูดเสียงเบาๆ “ปกป้องผมด้วย”
หางตาจึงเหลือบเห็นคนที่อยู่ด้านหลังในระยะชิดใกล้ ความเย็นวาบก็แวบขึ้นในดวงตาของโห้หลีเฉิน
เขากล่าว “ได้”
เมื่อสิ้นสุดเสียงลง กริชในมือของเขาก็ได้เปลี่ยนทิศทางในทันใด หันไปทางด้านหลังด้วยความเร็วแสงที่คนไม่สามารถตั้งตัว และแทงเข้าไปที่หัวใจของเจมส์อย่างรุนแรง
เจมส์ตกใจสุดขีด “มึง มึง……”
เขาที่ต้องการที่จะกดปุ่มสวิตช์นาฬิกาพก แต่ว่าโห้หลีเฉินได้เตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ได้ใช้มืออีกข้างหนึ่งคว้าแขนของเขาไว้อย่างรวดเร็ว