การจู่โจมของมนุษย์พันธุ์แกร่งห้าหกสิบคน และทุกคนต่างมาพร้อมกับความโกรธเกลียดที่มีต่อฝู้ยวนเข้ากระดูกดำ ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้จึงค่อนข้างดุเดือดรุนแรง
แม้ว่าหานจื่อจะช่วยแบกรับแรงกดดันส่วนหนึ่งไปแล้ว ฝู้ยวนก็ยังคงรับมืออย่างลำบาก
แต่ก็แค่รับมือลำบากเท่านั้น บีบเขาให้ต้องถอย กลับไม่สามารถบีบให้เขาจนตรอกหมดหนทางได้ ไม่สามารถเด็ดชีวิตของเขาได้
ส่วนหานจื่อในฐานะผู้นำทัพของเขา ก็ยิ่งพยายามสุดชีวิตในการขัดขวางการโจมตี จนทำให้ตัวของหานจื่อได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง
เป็นอีกครั้งที่เอวของเธอถูกของมีคมบาดจนเป็นแผล และเลือดสดๆ ก็ไหลออกมา
ร่างของหานจื่อสั่นเล็กน้อย สีหน้าขาวซีดอย่างเห็นได้ชัด
ป่ายฉีมองภาพเหล่านี้อยู่ในที่ลับ แล้วร่างก็บีบเกร็งขึ้นฉับพลัน นิ้วมือกำแน่นขึ้นเป็นกำปั้น สายตาจ้องไปยังบาดแผลบนตัวของหานจื่อ
เขาเหมือนกับคันธนูที่ถูกดึงตึงแน่น พร้อมจะยิงได้ตลอดเวลา
วิธีการนี้ของโห้หลีเฉินนั้นดีทุกอย่าง และก็สามารถปราบฝู้ยวนได้จริงๆ อีกทั้งเพิ่มโอกาสให้พวกเขาในการรับชัยชนะ แต่เสียอยู่ตรงที่ เพื่อไม่ให้ฝู้ยวนเห็นถึงพิรุธ มนุษย์พันธุ์แกร่งเหล่านี้ก็ต้องพยายามอย่างสุดความสามารถในการโจมตีหานจื่อ
หานจื่อในตอนนี้เหมือนกับเกราะในร่างคนที่แข็งแกร่ง เป็นโล่บังธนู และก็ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด สาหัสที่สุด
แล้วย้อนกลับไปมองฝู้ยวน ถึงแม้จะรับมืออย่างยากลำบาก แต่ก็ยังสามารถรับมือไหว ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างน้อย สภาพการณ์ของเขาในตอนนี้ อย่างน้อยยังสามารถประคองไปได้อีกสักพัก
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป คนที่ตายก่อนต้องเป็นหานจื่ออย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าเย้นหว่านกับหานจื่อจะไม่เคยติดต่อกันมาก่อน แต่ลึกๆ เธอคือคนที่ป่ายฉีใส่ใจห่วงใย ซึ่งอนาคตอาจเป็นไปได้ที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ เป็นธรรมดาที่เย้นหว่านก็ต้องให้ความสนใจความเป็นความตายของเธอ
เย้นหว่านกล่าวกับโห้หลีเฉินด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ “พวกเราจะลงมือกันเมื่อไหร่”
“ยังไม่ถึงเวลา” โห้หลีเฉินตอบกลับอย่างเคร่งขรึม มองดูฝูงคนที่กำลังต่อสู้กัน สายตาเย็นชาอย่างเชือดเฉือน
มองดูหานจื่อโดนไปอีกหนึ่งแผล เย้นหว่านคิ้วก็ยิ่งขมวดแน่น “แต่ว่าหานจื่อเธอ……”
“เสี่ยวหว่าน ไม่ต้องเป็นห่วงเธอ ตอนนี้เป้าหมายหลักคือการสังหารฝู้ยวน สำหรับหานจื่อนั้น…… เธอน่าจะยังต้านไหว ถ้าหากว่าต้านไม่ถึงตอนท้าย นั่นก็เป็นชะตากรรมของเธอ”
น้ำเสียงของป่ายฉีแผ่วเบาสุดขีด กล่าวออกมาจากริมฝีปากทีละคำๆ
น้ำเสียงของเขาที่ฟังแล้วดูสุขุมใจเย็นสุดขีด ประหนึ่งกำลังเอ่ยถึงบุคคลแปลกหน้าที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตัวเอง แต่กำปั้นของเขากลับกำแน่น จนเส้นเอ็นที่แขนปูดนูน เผยให้เห็นถึงอารมณ์ที่แท้จริงของเขา
เย้นหว่านค่อนข้างตะลึงมึนงง มองดูความใจเย็นของป่ายฉีที่มากเกินไป ในใจจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
นี่เขารู้ความรู้สึกของตัวเองไหม
ต้องขอบคุณเทคโนโลยีเสริมความแกร่งของฝู้ยวน ถึงแม้ว่ามนุษย์พันธุ์แกร่งเหล่านี้จะเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป แต่ว่าพลังนั้นกลับแข็งแกร่ง ร่างกายกำยำ ไม่กลัวความเจ็บปวด ประหนึ่งกับเครื่องจักรสังหารคนที่บ้าคลั่ง รู้จักแต่บุก โจมตี และก็โจมตี
ถึงแม้ฝู้ยวนเคยเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายตัวเอง แต่ว่าการเสริมนั้นเห็นได้ชัดว่าแตกต่างไปจากพวกเขา
เดิมทีเขาเป็นชายชราที่ผมหงอกขาวโพลน ตอนนี้รูปลักษณ์ภายนอกกลับดูอ่อนเยาว์ลงสิบกว่าปี ดูเป็นชายวัยกลางคนที่แข็งแรงกำยำ ริ้วรอยบนใบหน้าก็จางลงไปไม่น้อย
นอกจากจะมีร่างกายแข็งแกร่งและคล่องแคล่ว เขากลับยังมีความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดที่ชัดเจนอีกด้วย
คุณสมบัติต่างๆ มีการเพิ่มขึ้น แต่เขายังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไป
จุดนี้สามารถทำให้เขาได้เพลิดเพลินสนุกกับชีวิต ไม่ถึงกับต้องตกต่ำมาเป็นมนุษย์พันธุ์แกร่งเหมือนหุ่นยนต์แบบนี้ ที่มีร่างกายและจิตวิญญาณแยกออกจากกัน แต่ขณะเดียวกันจุดนี้ก็กลายมาเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของเขาในตอนนี้
มนุษย์พันธุ์แกร่งไม่มีความเจ็บปวด แต่เขามี
เวลาที่เจ็บปวด กล้ามเนื้อจะบีบรัดเป็นเวลานาน ทำให้จิตใจอ่อนล้า ทำให้เขายิ่งลำบากในการรับมือ
ระหว่างที่ต่อสู้ หานจื่อได้กล่าวอย่างเย็นเยือก :
“คนของพวกเราน้อย ต้านต่อไปได้ไม่นาน หมดแรงเมื่อไหร่ก็คือตายเมื่อนั้น เจ้านาย ท่านไปที่ห้องนิรภัยเถอะ”
ฝู้ยวนหน้ามืดคล้ำลงอย่างมาก มองดูมนุษย์พันธุ์แกร่งเหล่านี้โจมตีเขาไม่หยุด ก็รู้สึกโมโหโกรธมาก
คนเหล่านี้ เขาอุตส่าห์ทุ่มเททุ่มแรงศึกษาค้นคว้าออกมา ควรต้องเป็นทีมที่แข็งแกร่งของเขา แต่ตอนนี้กลับบ้าคลั่งดุเดือด ทุกคนต่างเป็นบ้ากันไปหมด และหันมาแว้งกัดเขา
ยกก้อนหินมาทุบเท้าของตัวเองจนต้องกลั้นความเจ็บปวดที่ทรมานกว่าการให้เขาทานอุจจาระเสียอีก
“เมื่อสักครู่พวกมันออกมาจากน้ำยา อย่างน้อยครึ่งเดือนที่ไม่จำเป็นต้องดื่มหรือกิน อยู่อัดกันที่นอกห้องนิรภัยก็ไม่ยอมกระจาย กูไม่มีเวลามากมายขนาดนั้นที่จะมาเสียเวลากับพวกมัน”
ฝู้ยวนพลางถอยพลางกล่าว แววตาเย็นชาสุดขีด “หานจื่อ ผมต้องการโทรศัพท์ ขวางพวกมันไว้”
เดิมทีหานจื่อก็รับมืออย่างยากลำบากอยู่แล้ว หลังจากได้รับคำสั่งนี้ ก็ถูกโจมตีหลายทีในทันใด และพุ่งเข้ามาด้านหน้าของฝู้ยวน
เธอระเบิดพลังในการต่อสู้ทั้งหมด ต้านทานการโจมตีของทุกคนไว้
ฝู้ยวนจึงมีเวลาหายใจ และรีบหยิบโทรศัพท์ที่พกติดตัวออกมาทำการโทรออกทันที
โห้หลีเฉินมองดูการกระทำของเขา ในแววตาประกายแสงแห่งความเย็นเยียบ
แต่นี่กลับเป็นความเซอร์ไพรส์!
ปฏิกิริยาของพวกเย้นหว่านก็เช่นกัน ต่างคนต่างสบตา ปรากฏความดีใจขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยออกมา
ถังจุ้ยก้าวถอยหลังเบาๆ ไปอยู่ในจุดที่ฝู้ยวนไม่สามารถมองเห็น แล้วเปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้นรีบทำการค้นหาการติดตามตำแหน่งของโทรศัพท์ทันที
สักพัก โทรศัพท์ก็ถูกรับสาย ฝู้ยวนตะคอกขึ้นอย่างเสียงดัง “ทางผมกำลังเผชิญกับความลำบาก มนุษย์พันธุ์แกร่งเกิดจลาจลทำการต่อต้าน และได้ล้อมตัวผมไว้ คุณรีบส่งคนมาช่วยผมเดี๋ยวนี้”
ตอนที่เขาตะคอกขณะคุยโทรศัพท์นั้น เพียงลำพังหานจื่อคนเดียวไม่อาจจะต่อต้านขัดขวางทุกคนได้ ในรูม่านตาล้วนเป็นวัยรุ่นมนุษย์พันธุ์แกร่งในชุดสีดำ ทั้งรวดเร็วและไร้ความปรานีพุ่งกระโจนเข้าไปหาฝู้ยวน
ฝู้ยวนรีบทำการหลบ แต่ก็ยังโดนแขน โทรศัพท์ในมือจึงร่วงหล่นตกลงพื้นดังปัง
“เหี้ย!”
เขาอยากจะไปหยิบโทรศัพท์ แต่ก็ถูกมนุษย์พันธุ์แกร่งคนอื่นพุ่งเข้ามาหาและรุมล้อมเขาไว้
จากนั้นก็หันไปมองทางหานจื่อ เธอก็ถูกมนุษย์พันธุ์แกร่งล้อมไว้เช่นกัน ถูกรุมโจมตี จนยืนแทบไม่ไหว
ฝู้ยวนโมโหสุดขีด ได้แต่ตะคอกขึ้น:
“ถอย เข้าไปในห้องนิรภัย!”
โทรศัพท์เมื่อสักครู่ถูกรับสายแล้ว ทางฝั่งนั้นต้องได้ยินคำพูดของเขาอย่างแน่นอน ตอนนี้เข้าไปอยู่ในห้องนิรภัยเพื่อรอการช่วยเหลือ
ฝู้ยวนรีบทำการถอย มนุษย์พันธุ์แกร่งก็ไล่ตามไม่ปล่อย จนโกลาหลวุ่นวายไปหมด
เย้นโม่หลินกล่าวอย่างเคร่งขรึม:”จะต้องฆ่าเขาให้ได้ก่อนที่เขาจะเข้าไปในห้องนิรภัย”
ในห้องนิรภัยจะต้องมีการป้องกันอย่างดีเยี่ยมแน่นอน หากเข้าไปแล้วจะทำการโจมตีจากด้านนอกลำบาก การลอบสังหารฝู้ยวนของพวกเขาก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก
โห้หลีเฉินพยักหน้า แล้วถามถังจุ้ยว่า “ทางฝั่งนั้นวางสายโทรศัพท์หรือยัง”
“ยังครับ ผมกำลังไล่หาที่มาของสัญญาณ สามารถยืนยันได้แล้วว่าอยู่แถวหมู่เกาะทะเลใต้” ถังจุ้ยตอบกลับ
“ตามต่อไป ตามตำแหน่งให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เมื่อพูดจบ โห้หลีเฉินก็ลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ และเดินไปตามความมืดเข้าใกล้ตำแหน่งของฝู้ยวน
เย้นโม่หลินเข้าใจในทันที และเดินตามไปพร้อมกับป่ายฉี
เย้นหว่านอยากจะตามไปด้วย แต่กลับยังคงนิ่งอยู่ที่เดิม นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่เธอจะเข้าไปร่วมได้แล้ว ถังจุ้ยกำลังไล่หาข้อมูลในคอมพิวเตอร์ เธอจึงอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องเขา เผื่อในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
ฝั่งนี้ โห้หลีเฉินภายใต้การคุ้มกันของมนุษย์พันธุ์แกร่ง เข้าไปรวมกลมกลืนกับฝูงจลาจลอย่างเงียบๆ
เขาเดินเข้าไปใกล้ฝู้ยวนที่กำลังทำการถอยอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง……