เย้นหว่านทันเพียงแค่ร้องตะโกนขึ้น จากนั้นเพียงพริบตาก็ถูกลากไกลออกไปหลายสิบเมตร เธอตื่นจากความกลัวสุดขีด และพยายามอย่างสุดความสามารถในการคว้าสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว แต่ว่าทางเดินนั้นลื่นมาก และทางเดินที่กำลังมุ่งไปยังริมระเบียงเรือก็ไม่มีใครสักคน การขอความช่วยเหลือของเธอนั้นจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้
จิตใจของเย้นหว่านแตกสลาย กลัวสุดขีด
ไม่รู้เลยว่าวัตถุสิ่งนี้คืออะไร แต่ว่าการโจมตีนั้นแข็งแกร่งมาก แทบไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะตอบโต้ได้ หากเธอถูกลากออกไป เธอก็จะเหมือนกับเด็กคนนั้น ที่มีเพียงความตายสถานเดียว
เธอยังไม่อยากตาย
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้เย้นหว่านเกิดพลังมหาศาลขึ้น ในขณะที่เธอกำลังจะถูกดึงออกจากเรือ เธอก็รีบคว้าราวเหล็กกั้นไว้ ทำให้ไม่ให้ถูกดึงลากออกไปจากเรือ
แต่แรงที่ดึงเธอนั้นแข็งแกร่งมาก แค่พริบตาเย้นหว่านก็เหมือนกับยางรัดที่ถูกดึงปลาย ดึงจนถึงขีดสุด จนเกือบจะขาดออกเป็นสองท่อน
ผิวหนังของเธอค่อยๆ แตกแยกจนรู้สึกเจ็บ
ศีรษะของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ ไม่มีเวลาไปสนใจความเจ็บอีกแล้ว จึงกัดฟันดึงราวเหล็กกั้นนั้นไว้ ถึงได้มีโอกาสหันไปมองเจ้าหนวดนั้น
เมื่อมองไป เธอถึงได้รู้ว่าอะไรคือความสยดสยองสะพรึงกลัวจนต้องตกใจ
เธอคิดว่าสิ่งนี้ไม่ได้มีอยู่จริงในโลกนี้ แต่ความเป็นจริงราวกับการถูกตบเข้าที่กกหู ถูกตบเข้าที่ใบหน้าของเธออย่างจัง ทำให้เธอได้เห็นได้รู้ถึงความลึกลับและความอันตรายในท้องทะเล
ท่ามกลางลมพายุกระหน่ำ เสียงฟ้าร้องดังโครมครืน ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิด บนคลื่นที่ซัดสาด หมึกยักษ์ที่ตัวขนาดใหญ่กว่าเรือลำนี้กำลังเกาะหนึบอยู่บนตัวเรือ ลำตัวที่ใหญ่ยาวติดอยู่กับเรือราวกับเมือก ทำให้ด้านนี้ของเรือจมลงอยู่ในทะเล
ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ตัวเรือเอียงอยู่ในทะเล ทำให้รู้สึกว่าเรือกำลังจะจม
ถึงว่าขณะที่เดินอยู่บนทางเดิน ก็รู้สึกว่าเรือไม่เพียงแต่สั่นโยกเยก ยังรู้สึกเอียงมากอีกด้วย
เรือถูกพันรัดด้วยหมึกยักษ์ขนาดใหญ่
นี่หมึกยักษ์เห็นพวกเขาเป็นอาหารราวกับกุ้งเล็กปลาตัวน้อยหรือไร
เย้นหว่านรู้สึกหนังศีรษะชาไปหมด ร่างครึ่งตัวลอยอยู่กลางอากาศ ยังไม่ได้ทันที่จะคิดหาวิธีเอาชีวิตรอด ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นราวเหล็กกั้นที่แข็งแกร่งนั้นงอคดภายใต้การกระชากดึงของหนวดหมึกยักษ์
เสียง “กึกๆ กักๆ ” ราวกับเสียงคำสาปปลิดวิญญาณ ที่ต้องการจะดึงเธอให้ตกลงไปในนรก
แรงดึงมหาศาลนี้ทำให้เย้นหว่านเจ็บปวดสุดขีด กระดูกและเส้นเลือดในร่างกายประหนึ่งจะถูกฉีกขาดออกจากกัน แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่สามารถหยุดราวเหล็กกั้นที่ค่อยๆ แตกแยกออกจากกันได้
เมื่อราวเหล็กกั้นขาด เธอก็จะไม่มีโอกาสรอดอีกต่อไป
เย้นหว่านลนลานอย่างมาก ชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย จึงได้ตะโกนออกอย่างสุดกำลัง “ช่วยด้วย——ช่วยด้วย——”
ฟ้าร้องครืนๆ เสียงลมพายุก้องกังวาน เสียงหวีดร้องไม่หยุดบนเรือ ทำให้เสียงของเธอราวกับเสียงยุงเสียงมดที่กำลังจะจมลงไปอย่างไร้การเหลียวแล
“กึก……”
เสียงที่แผ่วเบา แต่กลับดังก้องอยู่ในหูของเย้นหว่านราวกับเสียงระเบิด เธอมองตาปริบๆ นอตที่สำคัญที่สุดของราวเหล็กกั้นนั้นได้หลุดออกมา
ราวเหล็กกั้นที่หักรับไม่ไหวกับแรงจับของเธอ ทันใดนั้นก็พังเละลงไปราวกับเต้าหู้
ฉับพลันร่างกายของเธอก็ถูกหนวดปลาหมึกดึงกระชากลงไป
“ไม่!”
ความกลัวตายย่างกรายเข้ามา ทำให้ดวงตาของเย้นหว่านดำทะมึน
และในเวลานี้ จู่ๆ นิ้วมือที่เห็นข้อต่อนิ้วอย่างชัดเจนลอยมาจากอากาศ มาคว้าข้อมือของเย้นหว่านไว้
ร่างของเย้นหว่านที่กำลังจะตกลงไปนั้นจึงได้ถูกดึงไว้
เธอติดอยู่บนกราบเรือที่เย็นยะเยือก แล้วเงยหน้าขึ้นมองอย่างลนลาน ก็เห็นถึงใบหน้าของถังจุ้ยที่ซีดเผือดดุจกระดาษ กำลังหมอบคว่ำอยู่บนกราบเรือ และใช้แรงดึงมือของเธอไว้
ถังจุ้ย เป็นถังจุ้ยที่มาช่วยเธอไว้ได้ทัน
“เสี่ยวหว่าน อย่าขยับ ผมจะตัดหนวดของมัน”
แววตาของถังจุ้ยเต็มไปด้วยความดุดัน มืออีกข้างหนึ่งถือกริชไว้ และฟาดตัดไปที่หนวดที่พันรัดขาของเย้นหว่านอย่างแม่นยำและรวดเร็ว
ตำแหน่งที่เขาฟาดนั้นแม่นยำมาก ฟาดลงตำแหน่งใต้ขาของเย้นหว่าน การฟาดครั้งนี้ทั้งดุดัน และใบมีดก็คมมาก ทำให้หนวดนั้นถูกตัดออกเป็นสองท่อน
แรงพันรัดของหนวดหมึกฉับพลันก็หายไป เย้นหว่านจึงรู้สึกโล่งอิสระขึ้น
“โฮกก——”
เสียงร้องโหยหวนของหมึกยักษ์แหลมดังสะเทือนดินกระแทกเข้ามาในหู ดังยิ่งกว่าเสียงฟ้าผ่าเสียอีก
หนวดถูกตัดออก ทำให้มันโกรธมาก ดวงตาสีดำดุจน้ำหมึกในท้องทะเลที่สึกได้ลอยขึ้นมา จ้องมองมาทางเย้นหว่านกับถังจุ้ย
ในขณะเดียวกัน หนวดสองเส้นราวกับแส้ที่ตกลงมาจากฟากฟ้า เหวี่ยงเข้ามาฟาดพวกเขา
“ไป”
ถังจุ้ยไม่ลังเล ดึงเย้นหว่านขึ้นมาจากกราบเรือ และวิ่งหนีอย่างเร็วที่สุด
“ปัง!”
ในจุดที่พวกเขาอยู่เมื่อสักครู่ ถูกหนวดเส้นหนึ่งฟาดจนเละ ถ้าหากว่าพวกเขายังอยู่ตรงนั้น ตอนนี้กระดูกก็คงละเอียดไปแล้ว
เย้นหว่านเย็นวาบไปทั้งตัว แต่กลับไม่มีเวลามาให้เธอนั่งกลัวได้อีก เพราะหนวดอีกเส้นหนึ่งกำลังเหวี่ยงเข้ามาหาพวกเขา
ปฏิกิริยาตอบโต้ของเธอกับถังจุ้ยนั้นรวดเร็วมาก รีบวิ่งเข้าไปด้านในเรือ เพื่อหลบการโจมตีของหนวดนั้น
“โฮกก——”
จับไม่โดนเหยื่อตัวเองกลับได้รับบาดเจ็บ ยิ่งทำให้หมึกยักษ์โมโห ส่งเสียงร้องคำราม ร่างที่มหึมานั้นได้ขึ้นมาจากท้องทะเล หนวดหมึกเกาะเรือติดเรือราวกับเมือก
มองทะลุหน้าต่าง ทุกคนสามารถมองเห็นว่าตัวดูดสีดำขนาดมหึมาที่บดบังท้องฟ้าอยู่ด้านนอกนั้น ทำให้คนรู้สึกสะพรึงกลัว
นี่ยังเป็นปลาหมึกอยู่เหรอ
นี่มันสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ใต้ท้องทะเลลึกชัดๆ
และจุดจบของการทำให้สัตว์ประหลาดตัวนี้โกรธ ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถรับไหวได้
หนวดของมันทำให้ตัวเรือสั่นโยกเยก จากนั้นค่อยๆ บีบรัด ทำให้ได้ยินแต่เสียงการบีบตัวเรือให้แหลกอย่างน่ากลัวจนขนลุกขนพอง
เย้นหว่านชะงักเท้าลงกะทันหัน สีหน้าซีดเผือดดุจกระดาษ
เธอกับถังจุ้ยสบตากัน ต่างคนต่างมองเห็นความหวาดกลัวในแววตาซึ่งกันและกัน
หมึกยักษ์ตัวนี้ต้องการจะบดขยี้เรือลำนี้ให้แหลกหรือ
สัตว์ประหลาด! สัตว์ประหลาด!
“รีบไปหาโห้หลีเฉินกัน”
เย้นหว่านไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดบนร่างกายตัวเอง วิ่งมุ่งไปยังจุดที่ได้นัดกันไว้
แต่ เมื่อเธอกำลังจะไปถึงแล้วนั้น ทางที่อยู่ตรงด้านหน้า จู่ๆ ด้านบนกลับพังถล่มลงมา เป็นการกดลงมาของหนวดหมึกยักษ์ ทำให้ทางที่อยู่ด้านหน้าของเธอแยกออกจากกัน
และตัวเรือดูเหมือนว่าจะแยกออกจากกันด้วย เธอกับถังจุ้ยจึงต้องถอยหลังอย่างไม่สามารถควบคุมได้
เย้นหว่านคว้าลูกบิดประตูได้ทันเวลา ถึงหยุดถอยลงได้อย่างหวุดหวิด
เธอมองไปด้านหน้า ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นทางเดินที่เดิมทีปิดผนึกมิดชิด ถูกหมึกยักษ์ทุบแหลกจนเปิดโล่งโจ้ง เริ่มจากด้านหน้าของเธอ ที่เรือทั้งลำถูกผ่าครึ่ง!
นี่เป็นเรือขนาดใหญ่ที่หรูหรา วัสดุที่ใช้ก็แข็งแรงทนทานมาก แต่เมื่ออยู่ตรงหน้าหมึกยักษ์ตัวนี้ กลับประหนึ่งเต้าหู้ก็ไม่ปาน
จึงยิ่งทำให้เย้นหว่านจิตใจลนลาน เรือถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน เธอยังไม่ได้ไปสมทบกับโห้หลีเฉินเลย!
“เย้นหว่าน!”
เวลานี้มีเสียงชายหนุ่มดังมาจากอีกฟากของเรือ
ซึ่งระยะห่างออกไปหลายเมตร เย้นหว่านมองเห็นโห้หลีเฉินรีบวิ่งมาที่ขอบเรือ
คั่นด้วยลมพายุฝน เย้นหว่านมองเขาอีกครั้ง น้ำตาซึมเมื่อได้เห็นเขาอีกครั้งในชีวิต
เธอรีบโบกมือให้กับเขา “ฉันอยู่นี่ โห้หลีเฉิน ฉันอยู่ที่นี่”
โห้หลีเฉินตะโกน “คุณอย่าขยับนะ ผมจะมาหาคุณ!”
เย้นหว่านมองดูช่วงระยะห่างนี้ที่ห่างขึ้นเรื่อยๆ และได้ห่างประมาณห้าหกเมตรแล้ว ห่างขนาดนี้ อีกทั้งลมพายุฝนอีก โห้หลีเฉินจะมาได้อย่างไร