ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง
เพื่อเอาใจหยูฉู่สอง เพื่อให้ได้เป็นท่านอาวุโสเจ็ดแห่งตระกูลหยู เขาไม่ลังเลที่จะสังหารครอบครัวเพื่อยึดอำนาจ
และคนที่มีความทะเยอทะยานสูงคนนี้ คิดว่าตอนนั้นก็คงมีการวางแผนอย่างลับๆ ว่าจะทำอย่างไรถึงยึดอำนาจของหยูฉู่สองได้ แล้วกลายเป็นผู้นำของตระกูลหยู
เพียงแต่น่าเสียดายที่ต่อมาโห้หลีเฉินกับเย้นหว่านนำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ตระกูลหยู ทำให้ตระกูลหยูพังทลาย ทำให้ไม่เหลือต้นไม้ใหญ่ให้ท่านอาวุโสเจ็ดซบพิง ทำให้แผนการดับสลายลง
ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนมาควบคุม ข่มขู่โห้หลีเฉิน ให้เขาใช้ความสามารถทางด้านธุรกิจ ควบคู่ไปกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของตระกูลหยูกับตระกูลเย้น ด้วยแรงผลักดันที่ทรงพลัง จะต้องสร้างอาณาจักรธุรกิจขึ้นได้ภายในสามปี
ขอเพียงบริษัทโห้ถิงกรุ๊ปยืนอยู่ในตำแหน่งอันดับหนึ่งของโลกอย่างมั่นคง เขาก็จะสามารถรับตำแหน่งและกลายเป็นประธานของบริษัทที่เป็นอันดับหนึ่ง จากนั้นค่อยๆ ทำการกลืนกินอำนาจกองกำลังอื่นๆ
และเขาก็จะกลายเป็นผู้ควบคุมอำนาจทางการเงินของโลก
แต่น่าเสียดายที่แผนการทั้งหมดนี้ของเขา อยู่ภายใต้สายตาฉู่หยุนซีผู้ที่ซึ่งรอดมาจากความตาย เขาคุมขังเย้นหว่านสามปี ก็เพื่อจะดับฝันของท่านอาวุโสเจ็ดและเอาชนะเขาในวินาทีสุดท้าย
ความเคียดแค้นฝังอยู่ในใจมานานหลายสิบปี วันนี้ เห็นศัตรูที่เกลียดเข้ากระดูกดำ ดวงตาของฉู่หยุนซีจึงแดงก่ำ
เขาควบคุมเก้าอี้เข็นค่อยๆ เข็นเข้าไปใกล้ท่านอาวุโสเจ็ด จึงเห็นถึงแรงอาฆาตในแววตาได้อย่างชัดเจน
“วันนี้ ก็คือวันตายของคุณ”
ด้านหลังเป็นกำแพงเหล็ก ท่านอาวุโสเจ็ดถอยจนไม่มีที่ให้ถอย มองฉู่หยุนซีที่นั่งอยู่บนรถเข็น เขากลับรู้สึกกลัว
นิ้วมือของเขาสั่นขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ แล้วก็กล่าวข่มขู่
“อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาอีก กูก็จะฆ่าเย้นหว่านซะ!”
“ผมบอกแล้ว เธอกับผมไม่มีความเกี่ยวข้องกัน เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของผมเท่านั้น ผมไม่สนใจความเป็นความตายของเธอหรอก ผมต้องการแค่ชีวิตของคุณ”
คำพูดของฉู่หยุนซี เยือกเย็นไร้ความปราณี
ถูกความแค้นบดบังดวงตา นอกจากแก้แค้นแล้ว ก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ตอนนี้ไพ่ใบสุดท้ายของท่านอาวุโสเจ็ดก็คือเย้นหว่าน เมื่อรู้ว่าเย้นหว่านไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เขาจึงเกิดอาการลนลาน
เขาเงยหน้าขึ้นมองเย้นโม่หลิน “เย้นโม่หลิน ฉู่หยุนซีไม่สนใจเย้นหว่าน มึงก็จะไม่สนใจด้วยเหรอ รีบพาฉู่หยุนซีออกไปเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นหากเกิดการปะทะขึ้นมา คนที่จะตายคนแรกก็คือเย้นหว่าน!”
เย้นโม่หลินคล้อยตามคำพูดแล้วจริงๆ
เขาเดินเข้าไปหาฉู่หยุนซีด้วยสีหน้าดำทะมึน พลางเดินพลางตะโกน “ผมไม่สนความแค้นอะไรของคุณทั้งนั้น ถ้าหากคุณกล้าทำร้ายน้องสาวของผม ผมก็จะเด็ดชีวิตของคุณ”
ในขณะที่พูด เย้นโม่หลินยื่นมือออกมาจับรถเข็นของฉู่หยุนซีไว้ ทำการลากเขาให้ถอยหลัง
เมื่อท่านอาวุโสเจ็ดเห็นดังนั้น ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่แล้ว ในเวลานี้——
ขณะที่ท่านอาวุโสเจ็ดกำลังผ่อนคลายนั้น ฉับพลันเย้นหว่านก็ขยับตัว แล้วล็อกข้อมือของท่านอาวุโสเจ็ดไว้ เคลื่อนไหวอย่างดุดันและรวดเร็ว สามารถแย่งกริชของท่านอาวุโสเจ็ดมาได้ จากฝ่ายรับกลายมาเป็นฝ่ายรุก และใช้กริชจี้กลับไปที่ลำคอของเขา
รอยบาดแผลบนคอของเย้นหว่านยังคงมีเลือดไหล แต่เธอกลับไม่สนใจ แววตาเย็นยะเยือก
“ท่านอาวุโสเจ็ด คุณแพ้แล้ว”
ท่านอาวุโสเจ็ดตัวแข็งค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ราวกับถูกโยนลงไปในโรงน้ำแข็ง และกลายเป็นน้ำแข็งในทันที
เขารู้ว่าเย้นหว่านนั้นมีความสามารถพอตัว จึงไม่ได้ประมาทตัวเธอ แต่เมื่อสักครู่ที่โต้เถียงกับฉู่หยุนซีนั้น สติที่จดจ่ออยู่ที่เธอได้ถูกดึงไป เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ก็ถูกเย้นหว่านคว้าโอกาสนี้ไว้ได้!
เย้นหว่านคือไพ่คิงที่จะทำให้ชีวิตเขารอด แต่ว่าตอนนี้……
“เหอะๆ ที่แท้พวกมึงก็วางแผนไว้ทั้งหมดแล้ว ร่วมมือกันได้ดีจริงๆ เข้าเป็นปี่เป็นขลุ่ยจริงๆ ”
เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เพียงชั่วข้ามคืน ราวกับแก่ชราฉับพลัน
เย้นโม่หลินปล่อยมือออกจากรถเข็นของฉู่หยุนซี ทั้งคู่ไม่หลงเหลือร่องรอยของการทะเลาะแม้แต่น้อย เข้ากันได้ดิบได้ดี
ฉู่หยุนซีมองท่านอาวุโสเจ็ดด้วยสายตาอย่างเย็นชา “ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเหมือนคุณ ที่เลือดเย็น โหดร้าย ไร้ความปราณี เห็นแต่ผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว”
เมื่อสักครู่ที่พูดไปแบบนั้น เพียงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของท่านอาวุโสเจ็ด ให้เย้นหว่านมีโอกาสในการตอบโต้
เพราะถึงอย่างไรก็อยู่ร่วมกันมาสามปี ฉู่หยุนซีไม่มีทางที่จะทนเห็นเย้นหว่านตายไปต่อหน้าต่อตา โดยที่ไม่ทำอะไร
เย้นหว่านพยักหน้าให้เขาอย่างซาบซึ้งใจ กริชที่จี้อยู่บนคอของท่านอาวุโสเจ็ดก็ยิ่งกดแน่นขึ้น
เธอขบเคี้ยวเขี้ยวฟันแล้วกล่าว “โห้หลีเฉินอยู่ที่ไหน”
ท่านอาวุโสเจ็ดยิ้มเยาะอย่างเจ้าเล่ห์ “ถ้ากูบอกมึงไป มึงก็จะต้องฆ่ากูทันทีอย่างแน่นอน มึงคิดว่ากูจะบอกมึงเหรอ”
“ถึงคุณไม่บอก ฉันก็ฆ่าคุณอยู่ดี และคุณก็จะต้องตายในไม่ช้า”
เย้นหว่านกล่าวออกมาทีละคำๆ
ครั้งหนึ่ง มือของเธอที่ทำได้เพียงแค่วาดภาพออกแบบเท่านั้น แม้แต่ไก่ก็ไม่เคยเชือด บริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับกระดาษ แต่ว่าตอนนี้ การสังหารคน สำหรับเธอกลับเป็นเรื่องง่ายๆ ประหนึ่งการดื่มน้ำทานอาหาร และสามารถมองดูได้โดยไม่แม้แต่กะพริบตา
ท่านอาวุโสเจ็ดไม่สงสัย ว่าเธอจะกล้าไม่กล้าลงมือ
เขากลัวความตาย อีกทั้งยังรู้ดีว่า ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยอมปริปากพูด เย้นหว่านไม่ช้าก็เร็วจะต้องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินตามหาตัวโห้หลีเฉินจนเจอ
ถึงแล้วเขาจะกำชับคนดูแลโห้หลีเฉินแล้วว่า หากไม่ชอบมาพากล ก็ให้สังหารโห้หลีเฉินทันที
แต่ หนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิต เขายังไม่อยากตาย
หากยังไม่ตาย ย่อมมีโอกาสเสมอ แต่ถ้าหากตาย ทุกอย่างก็จบลงไม่เหลืออะไรอีกต่อไป
ท่านอาวุโสเจ็ดกัดฟันแล้วกล่าว “เย้นหว่าน กูอยากจะยื่นข้อเสนอกับมึง กูจะพามึงไปหาโห้หลีเฉิน แล้วมึงก็ปล่อยกูไป ถ้าไม่ หนึ่งชีวิตก็แลกหนึ่งชีวิต”
“ตกลง”
เย้นหว่านตอบรับอย่างไม่ลังเล
สำหรับเธอแล้ว โห้หลีเฉินสำคัญกว่าทุกสิ่งเสมอ
ท่านอาวุโสเจ็ดกลับยังคงรู้สึกไม่สบายใจ แล้วก็หันไปมองทางฉู่หยุนซี “แล้วมันล่ะ”
ฉู่หยุนซียิ้มอย่างดูแคลน “ผมบอกแล้ว ว่าผมนั้นไม่เหมือนกับคุณ ไม่เลือดเย็นโหดร้าย เพิกเฉยต่อชีวิตของผู้บริสุทธิ์หรอก ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ แต่ ต่อไปผมก็ยังจะตามไล่ล่าคุณอยู่ดี”
นี่เป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว ไม่เพียงแต่ฉู่หยุนซีที่ตามไล่ล่าเขา เย้นโม่หลินเองพวกเขาก็ต้องตามไล่ล่าเขาเช่นกัน
ขอเพียงเขาสามารถรอดไปได้ เขาก็จะมีวิธีในการปกป้องตัวเอง
ตอนนี้เขาต้องการแค่เพียงโอกาสเดียวในการมีชีวิตรอดเท่านั้น
ท่านอาวุโสเจ็ดสงบใจแล้วกล่าวขึ้น “โห้หลีเฉินนั้นอยู่บนเกาะแห่งนี้ เดินออกไป”
เย้นหว่านกับเย้นโม่หลินส่งสายตากันแล้วพยักหน้า เย้นโม่หลินก้าวเดินมาข้างหน้า จับกริชแล้วจี้ลำคอของท่านอาวุโสเจ็ดต่อ
เย้นหว่านเดินนำทางออกไปตามที่ท่านอาวุโสเจ็ดบอก
เธอรีบร้อน รีบร้อนอยากจะหาโห้หลีเฉินให้เจอ
บนเกาะตอนนี้ถูกคนของโห้หลีเฉินควบคุมไว้หมดแล้ว และทุกห้องก็ถูกค้นแล้ว แต่ก็ยังตามหาโห้หลีเฉินไม่เจอ
ท่านอาวุโสเจ็ดพาพวกเขามาถึงห้องที่อยู่ตรงกลาง จากนั้นทำการกดปุ่มเปิดปิด ห้องใต้ดินก็ถูกเปิดขึ้น
เย้นหว่านจึงเข้าใจทุกอย่างทันที
ไม่แปลกเลยที่ท่านอาวุโสเจ็ดทำไมถึงอยากจะหนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิต เกาะนี้เป็นเกาะขนาดเล็ก มีพื้นที่น้อย ชั้นใต้ดินก็มีไม่เยอะ ถ้าหากตามหาอย่างละเอียด ก็จะต้องเจอโห้หลีเฉินในไม่ช้าอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าเขาจะได้กำชับลูกน้องไว้แล้วก็ตาม แต่ด้วยความสามารถของเย้นโม่หลิน ไม่แน่บางทีเขาอาจจะยังสามารถช่วยโห้หลิเฉินออกมาได้
วันนี้เขายอมจำนน ใช้หนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิต นั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เมื่อมองไปยังบันไดในห้องใต้ดิน เย้นหว่านแทบจะรอไม่ไหวรีบเดินลงไป หัวใจของเธอเต้นแรงตึกตัก เธอรับรู้ได้ว่าโห้หลีเฉินนั้นอยู่ด้านล่าง
“ใคร”
เสียงระแวดระวังดังมาจากด้านล่าง
แล้วเย้นหว่านก็มองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีท่าทีเย็นชา กำลังยืนอยู่ข้างเตียง ในมือถือกริชแล้วจี้ไปที่ลำคอของโห้หลีเฉิน