สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 206 ศัตรูตัวฉกาจของผู้หญิง

บทที่ 206 ศัตรูตัวฉกาจของผู้หญิง

เมื่อเห็นท่าทางสงสัยของเย้นหว่าน ฉูรั่วไป๋จึงได้ขยับเข้าไปใกล้เธออีกแล้วกระซิบเสียงเบาที่ข้างหูเธอ

“จริงๆ แล้วผมดื่มเหล้าไม่เก่ง แต่พวกเขาก็ไม่เคยปล่อยโอกาสให้พลาดเลย ถ้าขืนยังไปอีกผมได้เมาแน่”

กลับกลายเป็นเรื่องที่น่าเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

เย้นหว่านจึงได้ตัดสินใจที่จะเดินไปไหนมาไหนด้วยกันกับฉูรั่วไป๋

“งั้นก็ไปกันเถอะค่ะ แล้วพวกเราจะไปยังไงกัน?”

“แสร้งว่าไปเข้าห้องน้ำก็ได้ครับ”

พูดแล้วฉูรั่วไป๋ก็ลุกขึ้นยืน ดึงเย้นหว่านผ่านกลุ่มคนเดินออกไปยังด้านนอก

มีคนเจอเขาเข้าจึงเอ่ยถามเขาออกมา “ฉูรั่วไป๋นายจะไปไหน?”

“ห้องน้ำ”

เมื่อคนนั้นเห็นว่าด้านหลังของฉูรั่วไป๋มีเย้นหว่านอยู่จึงเอ่ยถามขึ้นมาอีก “แล้วเย้นหว่านล่ะ? ไปเข้าห้องน้ำเหมือนกันเหรอ?”

เย้นหว่านหน้าแดงขึ้นมา รู้สึกขาดความมั่นใจเป็นอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดก็ยังฟังดูคลุมเครืออีกด้วย

เธอรู้สึกอายไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปอย่างไร ในเวลานั้นเองฉูรั่วไป๋จึงได้ช่วยตอบกลับให้เธอแทน

“เย้นหว่านไม่เคยมาที่นี่ หาห้องน้ำไม่เจอ ฉันเลยจะพาเธอไป”

ถือว่าเป็นเหตุผลที่ดีมาก

แต่ทว่านักดีไซน์เนอร์ที่เป็นผู้ชายของเมืองเจียงต่างพากันส่งเสียงล้อเลียนออกมาในเวลานั้น เป็นทำนองดูราวกับว่าระหว่างฉูรั่วไป๋และเย้นหว่านมีอะไรบางอย่าง

ห้องน้ำก็ยังสามารถเปลี่ยนเป็นบรรยากาศที่คลุมเครือได้อีก

เย้นหว่านยิ่งถูกกระตุ้นให้รู้สึกปวดหัวมากขึ้นอีก คนพวกนี้ทำไมถึงได้พากันคิดเรื่องสกปรกแบบนี้ได้กันนะ?

ขืนอยู่ต่อไปไม่รู้ว่าพวกเขาจะพากันสร้างปัญหาอะไรมาให้เธออีก

เธอรีบพูดขึ้นมาว่า “คุณฉู ไปกันเถอะค่ะ”

“ครับ”

ฉูรั่วไป๋รีบตอบรับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันหลังเดินจากไปโดยไม่สนใจกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังอีก

เมื่อตัวเอกไปแล้ว สองสามคนนั้นก็ไม่มีเป้าหมายอะไรอีก จึงได้พากันนั่งลงดื่มเหล้าต่อ

หวางกวนจิ้งที่กำลังคุยเล่นอยู่เมื่อมองไปทางฝั่งประตูเธอก็ถึงกลับต้องขมวดคิ้ว

แม้ว่าจะมีคนเอะอะไร้สาระอยู่สองสามตรงฝั่งนั้น แต่ว่าเย้นหว่านก็เป็นถึงคู่หมั้นของโห้หลีเฉิน หากว่าเธอมีเรื่องอื้อฉาวกับผู้ชายคนอื่นก็อาจจะส่งผลกระทบกับชื่อเสียงของโห้หลีเฉินได้ไม่ใช่เหรอ?

เธอกำลังลังเลว่าจะตามไปดีหรือไม่ ในเวลานั้นก็มีแก้วเหล้าแก้วหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าเธอ

เป็นนักดีไซน์เนอร์สาวคนหนึ่งของเมืองเจียงเธอเข้ามาพูดคุยกับหวางกวนจิ้งอย่างสนิทสนม “พี่หวาง เมื่อก่อนฉันติดตามผลงานของพี่มาตลอดเลยค่ะ พี่เป็นนักดีไซน์เนอร์ที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ฉันชื่นชมพี่มากจริงๆ ค่ะ ต่อไปหลังจากนี้ก็ช่วยชี้แนะฉันด้วยนะคะ”

“แน่นอน ต้องเป็นการร่วมงานกันที่สนุกมากแน่”

ความสนใจของหวางกวนจิ้งถูกดึงดูดไป ทำให้ต้องหันไปพูดคุยต่อด้วยความเกรงใจ

ด้านฉูรั่วไป๋เขากำลังพาเย้นหว่านออกมาทางด้านหลังของประตูบาร์

เมื่อเดินออกมาจากประตูเล็กแล้วก็พบกับถนนสายหนึ่งที่เงียบมาก ซึ่งตรงกันข้ามกับเสียงอึกทึกที่ดังมาจากฝั่งของบาร์

เมื่อหูได้ยินเสียงที่เงียบลง เย้นหว่านก็รู้สึกผ่อนคลายและสบายขึ้น

เธอพูดออกมาอย่างชื่นชมว่า “คุณฉู คุณนี่สุดยอดมากเลยค่ะ รู้แม้กระทั่งที่ซ่อนของประตูด้านหลังนี้ด้วย”

จากตำแหน่งที่อยู่บนดาดฟ้าของพวกเขาทำให้มองเห็นบริเวณโดยรอบได้ทั้งหมด จึงสามารถทำให้มองเห็นทางออกเองได้โดยธรรมชาติ

ถ้าเธอออกไปทางประตูด้านหน้า เธออาจจะถูกเพื่อนร่วมงานพบเข้าโดยง่าย

หลังจากที่ออกมาทางประตูหลังก็จะไม่มีใครพบเห็น และสามารถแอบหนีไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ฉูรั่วไป๋พูดออกมาด้วยท่าทีสบายๆ “คุณมาที่นี่สองสามครั้ง เดี๋ยวก็คุ้นเคยกับถนนหนทาง แล้วเดี๋ยวก็รู้เองครับ”

เย้นหว่านประหลาดใจ เธอไม่คาดว่าผู้ชายสุภาพบุรุษอย่างฉูรั่วไป๋จะชอบมาเที่ยวบาร์

นอกจากเขาจะดูเป็นสุภาพบุรุษผู้สูงส่งแล้ว เขายังดูเป็นคนที่มีเหตุผลอีกด้วย

ฉูรั่วไป๋ชี้ไปฝั่งถนนตรงหน้าแล้วพูดว่า “ฝั่งนั้นเป็นแม่น้ำ มีสวนสาธารณะอยู่ใกล้แม่น้ำ บรรยากาศไม่เลวเลย ตอนกลางคืนก็บรรยากาศปลอดโปร่งดี คุณอยากจะไปเดินเล่นผ่อนคลายสักหน่อยไหม?”

เย้นหว่านที่ดื่มเหล้าไปเธอก็รู้สึกอยากจะสูดอากาศสายลมเย็นๆ สักหน่อย

เธอจึงพยักหน้า “โอเคค่ะ”

“ไปกันเถอะครับ”

ฉูรั่วไป๋มองไปที่เย้นหว่านด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ก่อนจะก้าวขายาวๆ เดินนำเธอไป

เขาเดินไม่เร็วไปไม่ช้าไป เพิ่งเดินห่างจากเย้นหว่านเพียงครึ่งก้าว ก่อนจะรอเธอแล้วเดินเคียงข้างกันไป

เดินด้วยกันอย่างใกล้ชิดและดูสนิทสนม

เย้นหว่านที่เดินอยู่ข้างฉูรั่วไป๋ เธอสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดก่อนจะค่อยๆ ผ่อนคลายลมหายใจออกมา

ฉูรั่วไป๋ถือได้ว่าเป็นไกด์ที่ดีมากคนหนึ่ง แม้แต่ตอนกลางคืนมีเพียงสวนสาธารณะข้างแม่น้ำ ทว่าเขาก็ยังสามารถพูดคุยแนะนำให้เธอได้รู้เรียนราวของผู้คนที่เมืองเจียงได้

เย้นหว่านเดินไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกอยากเที่ยวขึ้นมา

เมื่อเดินออกมาจากสวนสาธารณะ เย้นหว่านที่เดินอยู่ข้างทางจู่ๆ เธอก็ได้กลิ่นหอมของปิ้งย่าง เมื่อมองตามไปเธอก็เห็นแผงขายปิ้งย่างอยู่ไม่ไกล

แม้ว่าจะดึกมากแล้ว แต่ก็ยังมีคนกำลังกินเยอะอยู่เลย

เมื่อมองไปก็เห็นหนุ่มสาวกำลังนั่งกินปิ้งย่างกันอยู่ เย้นหว่านใจลอยไปชั่วขณะ อดนึกไปถึงครั้งก่อนที่ไปดูดอกไม้ไม่ได้ โห้หลีเฉินเองก็เคยพาเธอนั่งทานอาหารตรงแผงลอยริมทางแบบนี้

ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินชอบทานอาหารแบบไหน เธอยังคิดไปเองเลยว่าเขาชอบทานแบบนี้

เมื่อตอนนี้เมื่อกลับไปนึกถึง ถึงได้รู้ว่าคนระดับเขาจะทานอาหารตามแผงลอยได้อย่างไร? อาหารตามแผงลอยริมทางแบบนี้ มันเหมาะกับคนแบบเธอต่างหาก…….

หัวใจที่เต้นกระหน่ำอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ภายในหัวของเย้นหว่านก็คิดเพียงเรื่องของโห้หลีเฉินวนกลับไปกลับมา

ฉูรั่วไป๋มองไปที่เย้นหว่านอย่างงุนงง เมื่อเห็นแผงปิ้งย่างอยู่ไม่ไกลจึงเอ่ยถาม

“อยากกินเหรอครับ?”

“ห๊ะ?”

เย้นหว่านที่ยังไม่ทันได้ตั้งสติ จึงไม่เข้าใจความหมายของฉูรั่วไป๋ในตอนนั้น

ฉูรั่วไป๋จึงพูดขึ้นอย่างอดทนอีกครั้งว่า “อยากกินปิ้งย่างเหรอครับ? กลิ่นมันหอมมากเลย อยากกินด้วยกันสักหน่อยไหมครับ?”

เย้นหว่านมองไปที่ชายหนุ่มที่ดูสูงศักดิ์ในชุดสูทเธอก็เกิดอาการประหลาดใจอยู่เล็กน้อย

“คุณฉูทานปิ้งย่างตามริมถนนได้ด้วยเหรอคะ?”

เธอคิดว่าคนที่อยู่ในสังคมชนชั้นสูงอย่างเขาจะไม่ชอบใจอาหารแผงลอยอย่างนี้ซะอีก

ก็เหมือนกับกู้จื่อเฟยที่ไม่เคยทานอาหารแผงลอยตามริมทางมาก่อน

ทว่ากลับไม่สนใจ “ผมก็กินเป็นครั้งคราวครับ อาหารตามแผงลอยรสชาติก็ไม่ได้ต่างจากร้านอาหารเลยนะครับ ถ้าจะว่าผมเป็นคนมีชื่อเสียง แต่ผมก็เป็นคนธรรมดาทั่วไปนะครับ ตอนเด็กๆ ผมก็โตมากับการกินปิ้งย่างแผงลอยนี่แหละครับ”

เย้นหว่านรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

เธอชื่นชมในความสามารถของฉูรั่วไป๋ ทว่าไม่รู้เลยว่าเดิมทีเขาก็เป็นแค่คนปกติธรรมดา

เมื่อเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้ระยะห่างภายในใจสั้นลง เย้นหว่านดูราวกับว่าไม่ต้องระวังตัวมากนักเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ทั้งยังมีหัวข้อสนทนาร่วมกันได้อีก

“งั้นพวกเราก็ไปกินสักสองไม้เถอะค่ะ”

“ครับ”

ฉูรั่วไป๋เดินตามเย้นหว่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเริ่มหยิบตะกร้าอันเล็กมาใส่ปิ้งย่าง ดูเป็นการกระทำที่ดูคุ้นเคย

เย้นหว่านยิ้มแย้มก่อนจะพูดอย่างติดตลกว่า

“ถ้าเหล่าแฟนคลับของคุณรู้เข้าว่าคุณชอบกินปิ้งย่างแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะตกใจจนกรามค้างหรือเปล่านะคะ”

ฉูรั่วไป๋ยืนอยู่ข้างเย้นหว่านอย่างเป็นธรรมชาติ เขาเอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณก็ดูไม่เห็นตกใจจนกรามค้างเลยนิครับ”

“จริงๆ แล้วฉันค่อนข้างประหลาดใจมากเลยนะคะ”

เย้นหว่านหยิบไม้ปิ้งย่างมาใส่ตะกร้า ในหัวก็อดที่จะนึกไปถึงตอนที่โห้หลีเฉินทานปิ้งย่างไม่ได้

จริงๆ แล้วเธอก็ไม่แปลกใจมากนัก เพราะเคยเห็นคนชนชั้นสูงอย่างโห้หลีเฉินทานอาหารบนแผงลอยกับตาตัวเอง

หลังจากที่เลือกไม้ปิ้งย่างเรียบร้อยแล้ว เย้นหว่านและฉูรั่วไป๋ก็มานั่งทานด้วยกันบนโต๊ะเล็กๆ

แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของฉูรั่วไป๋ ก็ยังดึงดูดสายตาจากสาวๆ โต๊ะข้างๆ ได้เป็นอย่างดี ด้านเย้นหว่านเองก็ได้รับสายตาอิจฉาริษยามาแทน

เธอถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้

ทุกครั้งที่มากินปิ้งย่างเธอก็มักจะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของผู้หญิง ต้องโทษที่ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอนั้นหล่อเกินไป

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset