บทที่ 225 เธอไปไหนแล้ว
นี่เขากำลังทำอะไร?
ท่าทีคุกคามของผู้ชายดูดุร้ายมาก รังสีอำมหิตที่เก็บไม่มิด ทำเหมือนจะกัดกินเธอเข้าไปทั้งตัว
เย้นหว่านใจกระตุก ร่างกายแข็งเกร็งฉับพลัน เนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อย
เธอกลัวมากเลย เหมือนกำลังอยู่ในฝันร้ายว่าจะโดนข่มขืน
เธองับปากกัดเต็มแรงตามสัญชาตญาณ
“ซี๊ด”
โห้หลีเฉินเจ็บ เขาชะงักลง
ริมฝีปากเขามีรอยเลือดโผล่มา
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเย้นหว่านตรงๆ สายตายังคงประกายไฟเปรี้ยงปร้าง มองไม่ออกว่าโกรธหรืออยาก
ดูแล้วยังอันตรายเหมือนเดิม
เย้นหว่านกลับกลัวจนถึงขีดสุด มันถึงจุดต้องโต้ตอบแล้ว เธอจ้องเขาเขม็ง ไม่กลัวเลยสักนิด
เธอย้อนถามกลับ: “โห้หลีเฉิน คุณเห็นฉันเป็นอะไร?”
เห็นเป็นอะไร?
โห้หลีเฉินอึ้ง เห็นริมฝีปากเธอย้อมไปด้วยเลือด ท่าทางขัดขืนดิ้นรนของเธอ เขาหยั่งกับโดนใครชกมา และได้สติ
เมื่อกี้เขาทำอะไร? เขารังแกเธอหรอ?
เขาได้สติ รีบปล่อยเธอ “เย้นหว่าน ผม…”
“โห้หลีเฉิน ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ!”
เย้นหว่านร้องตะโกนรออกมา ผุดลุกจากโซฟา วิ่งออกไปข้างนอกอย่างไม่เหลียวหลังกลับ
เธอวิ่งอย่างเร็ว เหมือนเขาเป็นปีศาจร้าย
โห้หลีเฉินนั่งตัวแข็งบนโซฟา มองตามแผ่นหลังเย้นหว่าน ในใจรู้สึกอึดอัดเหมือนมีก้อนหินทับไว้
เขามีสติควบคุมตัวเองได้เสมอ แต่เมื่อกี้เขาหลุดความควบคุมแล้ว
เย้นหว่านวิ่งหน้าตาตื่นออกจากห้องลงไปชั้นล่าง เธอถึงค่อยผ่อนคลายลงหน่อย
เมื่อกี้เธอเกือบโดนเขาข่มขืนแล้ว
ท่าทีเขาดุร้ายหยั่งกับโจรป่า ทำท่าจะกินเธอหมดตัว กิริยาดุร้ายบ้าอำนาจหวังครอบครองเธอ ทำให้เธอหวาดกลัวมาก
เธอไม่รู้เลยว่าเขาเห็นเธอเป็นอะไรกันแน่?
พอโกรธแล้วจะทำอะไรเธอก็ได้งั้นหรอ?
“เย้นหว่าน คุณมาทำอะไรที่นี่น่ะ?”
เสียงผู้ชายอ่อนหวานฟังรื่นหูโผล่ขึ้นมาที่ห้องโถงโรงแรม
ฉูรั่วไป๋เดินก้าวเท้ายาวมายืนข้างเย้นหว่าน
พอเข้าใกล้ เขาถึงเห็นว่าเย้นหว่านปากเจ่อแดง เสื้อผ้าหลุดรุ่ยเหมือนพึ่งโดนรังแกมา
ฉูรั่วไป๋ขมวดคิ้วทันที เขารีบถอดเสื้อนอกออกคลุมให้เธอ
เขาถามอย่างเป็นห่วง และเก็บกดความโกรธไว้
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
จู่ๆก็ได้รับความอบอุ่นอย่างไม่คาดคิด เย้นหว่านอึ้งไปเล็กน้อย หันมาก็เจอฉูรั่วไป๋
พอหันมาเห็นเสื้อนอกที่คลุมตัวอยู่ เธอถึงพึ่งนึกได้ว่า เธอรีบวิ่งออกมา ยังไม่ทันได้จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ตอนนี้สภาพเธอคงดูแย่มาก
สภาพแย่แบบนี้กลับโดนฉูรั่วไป๋เห็นเข้าซะได้
เย้นหว่านก้มหน้าอย่างละอาย “ไม่เป็นไร ฉันออกมาเดินเล่นน่ะ”
เธออยากถอดเสื้อนอกคืนให้ฉูรั่วไป๋ แต่พอก้มหน้าเห็นเสื้อผ้าตัวเองยังหลุดลุ่ยอยู่ ก็ได้แต่เดินต่อไป
เขาเดินตามมา “ผมเดินเล่นเป็นเพื่อนนะ”
เขาเม้มปาก ไม่ได้ถามอะไรต่อ ในเมื่อเย้นหว่านไม่อยากพูดถึง เขาก็จะไม่ทำให้เธอลำบากใจ
เย้นหว่านเดินขาแข็ง ดูเศร้ามาก
เธอส่ายหน้า “นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนดีไหม? ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันเดินเล่นแป๊บเดียวก็ดีแล้ว”
ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์รับมือใคร
ฉูรั่วไป๋ยังคงเดินตามเธอ เขาเดินช้ากว่าเธอก้าวหนึ่ง แต่อยู่ใกล้มากเหมือนอยู่ข้างๆ
สายตาเขาจับจ้องมาที่เธอ เป็นความสนใจแบบที่เขาเองไม่เคยเป็นมาก่อน
“ผมก็กะจะมาเดินเล่นเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอก เดินด้วยกันแหละ”
ฉูรั่วไป๋หาข้ออ้างเรื่อยเปื่อย
ทางเป็นทางสาธารณะ เย้นหว่านจะห้ามเขาเดินก็ไม่ได้ เลยไม่ได้พูดอะไรต่อ
ตอนกลางคืนของเมืองเจียงค่อนข้างหนาว ยิ่งด้านนอกยิ่งหนาวเป็นพิเศษ ลมพัดมาทีระลอกเข้าหน้าเย้นหว่าน จนเธอหนาวไปถึงหัวใจ
เธอไม่ได้อยากเดินเล่นข้างนอก โดยเฉพาะในสภาพแย่จนต้องคลุมเสื้อนอกของฉูรั่วไป๋แบบนี้
แต่เธอไม่อยากกลับไปมากกว่า ไม่รู้จะเผชิญหน้าโห้หลีเฉินที่โหดร้ายแบบนั้นยังไง
ตอนนี้แค่คิดว่าต้องอยู่กับเขา เธอก็กลัวแล้ว
กลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอ กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นจริง งั้นต่อไปความสัมพันธ์ของเธอกับเขาคงยิ่งพูดยากมากขึ้น
แต่เธอกับโห้หลีเฉินต่างรู้ดีว่าเป็นคนสองคนที่ไม่มีทางมีอนาคตร่วมกันได้
เย้นหว่านพึ่งรู้สึกได้ชัดเจนตอนนี้เองว่า ระหว่างเธอกับโห้หลีเฉินจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
ต่อไปควรทำยังไงดี เธอกลับมีดแปดด้าน
ที่ห้องพักโรงแรม
โห้หลีเฉินไม่รู้ว่านั่งบนโซฟานานแค่ไหน นานจนแทบจะกลายเป็นหินแกะสลัก
ในห้องเงียบจนแทบขาดใจ
ในสมองเขามีแต่ภาพเย้นหว่านวิ่งออกไป วิ่งลืมตายแบบนั้น เหมือนเขาเป็นปีศาจร้าย เธอกลัวจนได้แต่หนีไป
เขาอยากจับเธอไว้ แต่พอคิดถึงตอนเขาหลุดควบคุมและทำกับเธอลงไป แรงแม้แต่จะยกมือขึ้นของเขาก็ไม่มีแล้ว
ตอนนี้เธอคงเกลียดเขามาก
คนทีไม่อยากเจอมากที่สุดคงเป็นเขาล่ะมั้ง
โห้หลีเฉินรู้สึกหมดแรงพ่ายแพ้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เย้นหว่านสำหรับเขาแล้วเหมือนหลุมดำ ทำให้เขาขาดสติครั้งแล้วครั้งเล่า และทำความผิดลงไป เขาต้องทำยังไงกับเธอกันแน่นะ?
ตั้งแต่เล็กจนโต โห้หลีเฉินจัดการอย่างเป็นระเบียบแบบแผน เรียบร้อยเพอร์เฟคส์ โลกนี้แทบไม่มีเรื่องที่เขาจัดการไม่ได้ แต่พอเจอเย้นหว่าน เขากลับเจอปัญหายากที่แก้ไม่ได้
ตอนนี้เขาสับสนมาก เขาทำเย้นหว่านตกใจกลัวหนีไปแล้ว ตอนนี้เขาควรทำยังไงดี? ไปตามเธอหรือไม่ตาม?
ตามเธอไป จะพูดอะไรได้ เธอจะยกโทษให้เขาหรอ ไม่ตาม นั่งรออยู่นี่งั้นหรอ?
โห้หลีเฉินไม่เคยปวดหัวแบบนี้มาก่อน
เขาคิ้วขมวด หันไปมองทางประตูอีกครั้ง และเห็นการ์ดที่ร่วงลงพื้นอย่างไม่ตั้งใจ
มันเป็นห้องที่เย้นหว่านไปเปิดไว้
เธอไม่ได้หยิบการ์ดไป?
กระเป๋ากับมือถือเธอ็วางอยู่ที่นี่
โห้หลีเฉินมองออกไปนอกหน้าต่างทันที เห็นข้างนอกมืดสนิท นี่มันดึกมากแล้ว
เธอไม่ได้เอาอะไรไปเลย วิ่งออกจากที่นี่ไปแล้วจะไปไหนได้?
บ้าชะมัด
อารมณ์ทั้งหมดแปรเปลี่ยนเป็นกังวล โห้หลีเฉินผลุดลึกขึ้น ก้าวเท้ายาวออกไปข้างนอก
เขาเดินไปตามทางจนถึงห้องโถงโรงแรม ทุกจุดที่สามารถพักผ่อนได้เขาไปหาหมดแล้ว แต่ไม่เจอแม้แต่เงาเย้นหว่าน
ดึกขนาดนี้ เธอไม่มีอะไรติดตัวเลย จะไปไหนได้?
โห้หลีเฉินเป็นห่วงขมวดคิ้วแน่น ไม่สนอะไรอีก รีบโทรหาเว่ยชี “รีบไปถามคนในบริษัทให้หมด เมื่อกี้ใครเจอเย้นหว่านบ้าง? หรือว่าตอนนี้เย้นหว่านอยู่ห้องใคร”
เว่ยชีที่อยู่ปลายสายสงสัยมาก
บอสอยู่กับคุณเย้นหว่านไม่ใช่หรอ แทบจะตัวติดเป็นตังเมแล้ว ทำไมจู่ๆจะมาตามหาเธอล่ะ?
เขาเก็บความสงสัยลงท้องไว้ และตอบทันทีว่า: “ครับ บอส ผมจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้”