บทที่258 ใกล้เกินไปแล้ว!
แต่ตอนนี้ยังมีอย่างอื่นที่จะต้องทำอีก
โห้หลีเฉินจึงพูดขึ้น: “ไปเก็บของเถอะ อีกเดี๋ยวเราจะต้องไปดูห้องแสดงผลงานแล้วนะ”
“ว่าไงนะ? ”
เย้นหว่านถามขึ้นด้วยความตกใจ “พวกเราถูกเลือกให้เข้าไปดูผลงานได้หรอ? ”
ถ้าอย่างนั้นเสื้อผ้าทั้งหมดในลานจัดแสดงก็สามารถเข้าไปดูใกล้ๆ ได้อย่างนั้นหรอ? หรือแบบนี้อาจจะสามารถพูดคุยกับดีไซเนอร์ที่ออกแบบอย่างใกล้ชิดได้เลย
เย้นหว่านไม่คิดเลยว่าเธอจะโชคดีอะไรขนาดนี้
โห้หลีเฉินลังเลก่อนจะตอบ “ก็นับว่าใช่นะ”
นับว่าใช่ ก็คือใช่แหละ
แต่มันเหมือนเป็นการบังคับกลายๆ เย้นหว่านดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ได้อภิสิทธิ์กลโกงบางอย่าง
ความหมายนี้ก็คือเกรงว่าโห้หลีเฉินจะใช้อำนาจของเขาในการเข้าไปแบบนี้ใช่ไหมนะ?
เธอเพียงพูดเฉยๆ ทำไมถึงโชคหล่นทับแบบนี้
แต่อย่างไรก็ได้ไปแล้ว เย้นหว่านก็จะไม่ทำตัวเป็นผ้าขาว ไม่มีทางเสียโอกาสดีๆ แบบนี้ไปฟรีแน่นอน
เธอรีบลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะตรงดิ่งเข้าไปที่ห้องน้ำทันที
ในระหว่างที่เดินไปก็พูด “แป๊บเดียวก็เสร็จ”
บางทีอาจจะเพราะอย่างให้เย้นหว่านได้พักผ่อนมากหน่อย โห้หลีเฉินจึงปลุกเธอโดยไม่เผื่อเวลามากนัก ห่างจากเวลาบ่ายสองไปประมาณสิบกว่านาที
เย้นหว่านมองดูนาฬิกา ก่อนจะรีบจัดการตัวเองอย่างไวที่สุด
แต่งหน้าสบายๆ ไม่ใช้เวลานาน แต่การใส่ชุดนั้นค่อนข้างจะเป็นปัญหาอยู่หน่อยๆ
หลังจากที่เย้นหว่านผ่านพ้นและเสียเวลาจากการสวมชุดแล้ว เธอก็เจอกับปัญหาที่น่าปวดหัวอีกอย่างหนึ่ง
ชุดนี้มันออกแบบมาอย่างดีไปทุกอย่าง เพียงแต่ด้านหลังมันถูกออกแบบมาให้ผูกโบ และเธอไม่สามารถที่จะทำเองได้ จำเป็นต้องให้คนอื่นช่วย
ในตอนเช้านั้นเย้นหว่านให้เพื่อนร่วมงานเป็นคนช่วย แต่ว่าตอนนี้…..
ในห้องนอกจากเธอแล้ว ก็มีแต่โห้หลีเฉิน
ให้เขาช่วยดีไหมนะ?
เพียงคิดจะให้เขาผูกโบที่หลังให้ เย้นหว่านก็หัวใจเต้นรัวจนหายใจจะไม่ทันอยู่แล้ว
แต่หากไม่ให้เขาช่วย เธอเองก็ไม่อาจจะหาวิธีใส่ชุดนี้ออกไปได้
หลังจากที่เถียงกับตัวเองอยู่สามนาทีที่มีค่านั้น เย้นหว่านก็เหลือเวลาอยู่ไม่มาก เธอกัดฟันกรอด และเดินเปิดประตูห้องน้ำ
“เอ่อ คุณโห้ ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ”
โห้หลีเฉินเปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อยแล้ว แต่งองค์ทรงเครื่องครบ นอกจากดูแพงแล้วก็ยังหล่อมากด้วย
เขาหันมองใบหน้าที่เอนโผล่หน้ามาจากประตูห้องน้ำ “มีอะไร? ”
เย้นหว่านหน้าแดง “ชุดฉันหน่ะ ด้านหลังมันต้องผูกเชือก ฉันผูกเองไม่ได้ คุณช่วยฉันผูกหน่อยได้ไหม? ”
“ได้สิ”
โห้หลีเฉินตอบอย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมหล่อของเขานิ่งสนิท
มันทำให้เธอเขินจนแทบจะบิดอยู่แล้ว
หัวใจของเธอเต้นอย่างรุนแรงก่อนจะเปิดประตูออก
โห้หลีเฉินเดินสาวเท้าเข้ามาในห้องน้ำ ทันทีที่ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องน้ำ มันก็ทำให้รู้สึกว่าห้องน้ำนั้นแคบลงทันที
เย้นหว่านยืนอยู่หน้ากระจก หันหลังให้แก่โห้หลีเฉิน แต่ก็สามารถเห็นเขาได้อย่างชัดเจนในเงาสะท้อนของกระจก
ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ยืนตรงแต่วอย่างประหม่า
“ดึงเชือกให้มันแน่นๆ แล้วก็ผูกมันก็โอเคแล้ว”
ถึงแม้มันจะง่ายๆ แต่เย้นหว่านก็พูดมันอยู่ดี ด้วยเพราะโห้หลีเฉินเป็นชายตระกูลสูงที่ไม่ค่อยจะเคยทำอะไร เกรงว่าจะไม่เคยผูกชุดให้กับผู้หญิงมาก่อน
พอคิดๆแล้ว เย้นหว่านก็รู้สึกเป็นเกียรติกับตัวเธอเองอย่างยิ่ง
ถ้ามันไม่มีความกระดากอายอยู่ด้วยนี่ แบบนี้นี่มันควรที่จะรู้สึกประสบความสำเร็จอย่างดีทีเดียว
“อือ”
โห้หลีเฉินเพียงตอบกลับเบาๆ มองไปที่ด้านหลังของเย้นหว่านอย่างมั่นคง
ถึงแม้เธอจึงพยายามดึกชุดเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่ในมุมของเขานั้น มันก็ยังเห็นผิวขาวงามและแผ่นหลังที่เรียงสวยงามอยู่ดี
อีกทั้งการที่เปิดเพียงบางส่วน และปิดในบางส่วนแบบนี้มันช่างดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก
สายตาของโห้หลีเฉินมืดลง อดไม่ได้ที่จะหายใจแรงขึ้น
ใบหน้าของเขามืดคล้ำลง นิ้วค่อยๆ จับไปยังเชือกข้างหลังเธอ
ผู้หญิงคนนี้ ใจกล้าให้เขาทำแบบนี้ได้ยังไง? นี่มันเป็นช่วงเวลาที่เขาอาจจะรังแกเธอได้นะ นี่ไม่คิดว่าเขาเป็นผู้ชายหรืออย่างไร
อยากที่จะ…..สำเร็จโทษเธอเสียจริงๆ
เย้นหว่านยืนตัวตรงแน่ว ไม่อาจจะพูดได้เลยว่าเธอเป็นกังวล ดวงตาเธอทอประกายระยิบระยับสะท้อนอยู่ที่กระจก
โห้หลีเฉินยืนอยู่ด้านหลังของเธอ ถึงแม้เขาจะก้มหน้าอยู่ แต่ก็สูงกว่าเธอมาก เธอจึงได้เห็นใบหน้าของเขา ซึ่งมันดูจริงจังมาก
ดูเหมือนตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง ไม่ได้มีความคิดอื่นใดปะปน
มองดูตรงนี้ มันดูเป็นภาพที่งดงามมากทีเดียว
เพียงแต่ ใบหน้าของเย้นหว่านนั้นกลับยิ่งแดงขึ้นไปอีก ร่างกายยิ่งรัดแน่น ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายตัว
ด้านหลัง มันอาจจะเพราะเป็นครั้งแรกของโห้หลีเฉินซึ่งเขาทำไม่คล่องมือ เมื่อเขากระชับมือกับเชือก นิ้วก็ไปสัมผัสกับแผ่นหลังของเย้นหว่าน
นิ้วเย็นๆที่สัมผัสกับผิวด้านหลังของเย้นหว่านนั้นมันรู้สึกร้อนราวกับไฟ มันร้อนแถมยังทำให้คันยุบยิบ
กระแสความร้อนที่ไม่คุ้น ยิ่งทำให้ร่างกายของเย้นหว่านร้อนราวกับน้ำเดือด
ร่างของเธอยิ่งดึงมันก็ยิ่งแน่น รู้สึกเหมือนจะทนเหมือนจะทนไม่ได้แล้ว หัวใจเต้นแรงจนใกล้จะหลุดออกมา
การที่ให้โห้หลีเฉินมาผูกเชือกหลังให้เธอมันเป็นการตัดสินใจที่ผิดที่สุดในชีวิตแล้ว อีกอย่างนี่มันก็น่าอายที่สุดด้วย
เย้นหว่านกัดปากน้อยๆ กำมือแน่น มันไม่ง่ายเลยที่จะอดทนเอาไว้
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ดูเหมือนเป็นการทรมานนานราวศตวรรษ เชือกที่หลังของเย้นหว่านก็ผูกเรียบร้อย
“เสร็จแล้ว” โห้หลีเฉินพูดเสียงเข้ม
ทันทีที่โห้หลีเฉินปล่อยมือนั้น เย้นหว่านก็ได้โล่งใจในที่สุด
“ขอบคุณนะ”
เธอแทบจะอยากบินหนีออกมาจากในห้องนั้น รีบกลับตัวเตรียมวิ่งออกมาจากห้องน้ำทันที
แต่ว่า….
เธอเดินออกมาเร็วเกินไป เท้าที่เหยียบลงบนพื้นห้องน้ำที่ลื่น พอเธอเหยียบลงไปเท่านั้น ก็หน้าคว้ำไปด้านหน้า
“อ๊ะ! ”
เย้นหว่านร้องออกมาอย่างตกใจ ในตอนที่กำลังร่วงลงสู่พื้นนั้น จู่ๆ เอวก็ถูกรัดไว้ด้วยท่อนแขนที่แข็งแรง
จากนั้น เธอก็ตกลงไปอยู่ในอ้อมกอดของโห้หลีเฉิน
กลิ่นของชายหนุ่มที่คุ้นเคยลอยเข้ามา มันเป็นกลิ่นที่หอม เมื่อสูดเข้ามาแล้วนั้นก็ทำให้ร่างของเย้นหว่านสั่นไปทั้งตัว
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างกระสับกระส่าย ก็พบเข้ากับใบหน้ายิ้มแย้มของชายหนุ่ม
ความห่างของคนทั้งคู่ใกล้กันไม่เกินหนึ่งเซนติเมตร
ลมหายใจติดขัด แต่บรรยากาศนั้นแสนอบอุ่น
สองริมฝีปากหากเพียงขยับเข้าใกล้อีกเพียงนิดก็จะสามารถแนบชิดเข้าหากันได้เลย
เย้นหว่านชะงักไม่ขยับตัวไปไหน
หัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ราวกับอยากที่จะหลุดและบินออกไป
โห้หลีเฉินมองไปที่เย้นหว่านด้วยสายตาลุ่มลึก ลมหายใจแรงขึ้นราวกับไฟ
ในอ้อมกอด ร่างที่อ่อนนุ่มของเธอทำให้เขาหลงใหล
ด้านหน้า เป็นริมฝีปากแสนหวานที่เขาถวิลหา
ความยับยั้งชั่งใจของเขา ถูกทำลายลง
สายตาของโห้หลีเฉินฉายประกายวิกล ริมฝีปากเตรียมจะกดลงไป
ร่างกายของเขาพร้อม การที่จะจูบเธอนั้น เขาคิดถึงมันมานานมากแล้วหล่ะ
เย้นหว่านเบิกตากว้าง ร่างกายรุกสั่นไปทั้งตัว ดูเหมือนจะตกใจเธอจึงผลักตัวของโห้หลีเฉินออกทันที
เธอไม่มองหน้าเขาสักนิด วิ่งก้มหน้าออกไปทันที