สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 303 คุณติดหนี้ชีวิตผมแล้ว

บทที่ 303 คุณติดหนี้ชีวิตผมแล้ว

หลังจากมองตามป่ายฉีเข้าห้องผ่าตัดไป เส้นประสาทของจูเหลียนอีงที่ตึงแน่น ในที่สุดก็หย่อนลงมาหน่อย ไม่ได้เหลือเพียงความเจ็บปวดที่หมดหวังอีกแล้ว

หล่อนได้สติกลับมา มองทางเย้นหว่านด้วยความรู้สึกผิดในใจอยู่บ้าง

“เสี่ยวหว่าน ต้องขอบใจหนูมากที่ไปตามหาป่ายฉีมา เมื่อกี้เรื่องพวกนั้นที่พวกเขาทำกับหนู ต่อไปย่าจะจัดการพวกเขาอย่างเข้มงวด”

ได้ยินคำพูดนี้ ชั่วขณะนั้นญาติพี่น้องเหล่านั้นต่างตื่นตกใจกันอย่างมาก คุณนายตระกูลโห้บอกจะลงโทษ ต้องไม่ใช่แค่ง่ายดายแล้วผ่านไปได้อย่างเด็ดขาด

ถ้าโห้หลีเฉินถูกช่วยจนรอดชีวิต ครั้งนี้คนที่ทำให้เย้นหว่านลำบากต่างต้องประสบหายนะแน่

ในใจพวกเขาสับสน เวลานี้มีบางคนที่เสียใจ และยิ่งมีบางคนที่วาดหวังให้ไม่ต้องช่วยชีวิตโห้หลีเฉินกลับมาได้

ในใจเฝิงเสวียนหลันไม่พอใจถึงขีดสุด สถานการณ์มาถึงแบบนี้แล้ว คาดไม่ถึงเย้นหว่านยังถูกจูเหลียนอีงคุ้มครอง แม้กระทั่งยกให้สูงยิ่งขึ้น

ถ้าโห้หลีเฉินถูกช่วยให้ฟื้น เย้นหว่านไม่เพียงไม่ต้องไสหัวไปจากตระกูลโห้ แถมยังกลายเป็นผู้มีคุณูปการยิ่งใหญ่ของตระกูลโห้อีกด้วย

งั้นเรื่องแต่งงานก็ยิ่งไม่หนีไปไหน

“ถึงแม้หล่อนจะเป็นคนที่ตามหาป่ายฉีมาได้ ก็ไม่ใช่ชดเชยที่ตัวเองทำผิดเท่านั้นเหรอ อย่าลืมนะว่าที่หลีเฉินนอนอยู่ในห้องผ่าตัดในตอนนี้เป็นเพราะใครกัน”

เฝิงเสวียนหลันพูดมาประโยคหนึ่งแบบไม่เบาไม่แรง ฟังขึ้นมายังเหมือนต่อว่า แต่กลับนำความผิดไปใส่ไว้บนหัวของเย้นหว่านใหม่อีกครั้ง

พอมาแบบนี้ ไม่ว่าโห้หลีเฉินจะถูกช่วยขึ้นมาหรือไม่ เย้นหว่านก็ไม่ได้มีคุณูปการมากมาย

นี่เป็นเรื่องที่เธอสมควรทำ

แต่ความหมายบีบบังคับให้ยอมอย่างเรื่องราวควรจะเป็นเช่นนั้นอันนี้ กลับทำให้คนฟังไม่สบายใจเอามากๆ

จูเหลียนอีงขมวดคิ้ว ถลึงตาใส่เฝิงเสวียนหลันอย่างพอใจทีหนึ่ง ในนั้นเต็มไปด้วยความหมายข่มขู่

เฝิงเสวียนหลันยังอยากพูดอะไรอีก ทว่าได้แต่หุบปากไปอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม

“เสี่ยวหว่าน หนูอย่าไปฟังพวกหล่อนพูดเลย เรื่องรถชนเป็นเพียงอุบัติเหตุ”

จูเหลียนอีงปลอบโยนเย้นหว่านด้วยเสียงละมุน กลับเห็นสายตาเย้นหว่านมองทางห้องผ่าตัดอย่างตั้งใจ ไม่ได้ฟังความหมายที่พวกเขาพูดกันตั้งแต่แรก

เวลานี้สมาธิทั้งหมดของเธอ พลังใจล้วนอยู่ที่ตัวของโห้หลีเฉิน

มองเห็นเย้นหว่านเป็นแบบนี้ จูเหลียนอีงตะลึงเล็กน้อย นึกถึงก่อนหน้านี้แล้วก็ใช่ คนพวกนี้ทั้งตีทั้งด่าเย้นหว่าน แม้กระทั่งเธอยังไม่ได้ตอบโต้กลับเพื่อตนเองเลยสักประโยค

ไม่ใช่เพราะเธอขาดเหตุผล แต่ว่าเดิมทีเธอไม่ได้ใส่ใจ สิ่งที่เธอสนใจมีเพียงแค่ความปลอดภัยของคนในห้องผ่าตัดเท่านั้น

จูเหลียนอีงมองเย้นหว่านอยู่ก่อนจะส่ายหน้าติดๆ กัน เบ้าตาแดงอยู่บ้าง ซึ่งเป็นความปลื้มใจ

ในที่สุดหล่อนก็มองเห็นความใส่ใจและความรู้สึกที่เย้นหว่านมีต่อโห้หลีเฉินได้อย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง ถึงแม้จะยังไม่ชัดเจนว่าทำไมโห้หลีเฉินถึงถอนหมั้น แต่เห็นลักษณะของสองคนนี้ที่ต่างฝ่ายต่างหัวใจผูกกัน พวกเขาไม่ควรไม่ได้อยู่ด้วยกัน

มีป่ายฉีร่วมอยู่ในคณะแล้ว โห้หลีเฉินก็มีความหวังที่จะรอดต่อไป แต่ว่าก่อนหน้าที่ผลสุดท้ายยังไม่ได้ออกมา หัวใจของเย้นหว่านแขวนอยู่กลางอากาศตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ขึ้นไม่ลง

เธอยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัดแบบไม่ขยับเขยื้อน ดวงตาจ้องประตูบานนั้นไม่กะพริบ ลมหายใจช้ามากเบามาก ราวกับหากเธอทำอะไรมากเข้าหน่อย จะไปกระทบกับวินาทีแรกที่ประตูบานนั้นเปิดออกมาแจ้งผลลัพธ์

ไม่รู้ว่ารอมานานเท่าไร เชื่องช้าราวกับผ่านมาครึ่งศตวรรษหนึ่งอย่างนั้น

เสียง “ก๊อกแก๊ก” ประตูห้องผ่าตัดเปิดแล้ว

คนที่ปรากฏอยู่หน้าประตูนั้น เป็นป่ายฉีที่สวมชุดหมอสีขาว เขาเดินไปด้วยถอดเสื้อคลุมไปด้วย ท่าทีตามสบายเหมือนกำลังกลับบ้าน

ชั่วขณะนั้นหัวใจของเย้นหว่านเด้งขึ้นมา

จูเหลียนอีงรีบเดินเข้าไปก่อน ถามว่า “คุณป่ายฉี หลีเฉินเป็นยังไงบ้าง?”

ป่ายฉีนำเสื้อคลุมที่เปื้อนเลือดตัวนั้นโยนลงไปในถังขยะ ทว่าไม่ได้สนใจจูเหลียนอีงสักนิด เดินตรงไปยังด้านหน้าของเย้นหว่านทันที

เขายิ้มพูดอย่างอันธพาล “เสี่ยวหว่าน ตอนนี้คุณติดหนี้ชีวิตผมครั้งหนึ่งแล้วนะ”

ติดหนี้ชีวิตเขาครั้งหนึ่ง นี่หมายความว่าช่วยโห้หลีเฉินได้แล้ว

เส้นประสาทสมองที่ตึงแน่นของเย้นหว่านปัดขาดแล้ว

เรี่ยวแรงที่เธอค้ำยันไว้นั้น หลังจากชั่วพริบตาเดียวที่ดีใจก็ถูกยึดเวลาไปทั้งหมด ตรงหน้าเธอมืดหม่น จากนั้นหกล้มเข้าไปทางป่ายฉี

“เย้นหว่าน”

ป่ายฉีรีบรับเย้นหว่านเอาไว้ ขมวดคิ้วด้วยความกังวล รีบดึงมือของเธอเข้ามาหมายจะตรวจร่างกายให้เธอ

คนเหล่านั้นของตระกูลโห้ไม่ได้สังเกตถึงสภาพอาการของเย้นหว่านเลย เอาแต่ถามมาอย่างรีบร้อนและดีใจ

“คุณป่ายฉี โห้หลีเฉินไม่เป็นอะไรแล้วใช่รึเปล่า? ไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอ?”

“คุณป่ายฉี คุณช่วยโห้หลีเฉินให้รอดแล้วจริงเหรอ?”

ถึงแม้ป่ายฉีจะพูดไปแล้ว แต่ว่าพวกเขายังอยากได้รับคำตอบหนึ่ง ได้คำหนึ่งที่ว่า ใช่

แม้กระทั่งรวมถึงจูเหลียนอีงด้วย หล่อนปล่อยให้พ่อบ้านประคองไว้ มองป่ายฉีอย่างวาดหวัง

ในสายตานั้นเป็นความตื่นเต้นและกังวลถึงที่สุด

คนเหล่านี้ทำเสียงหึ่งๆ รบกวนข้างหู ป่ายฉีขมวดคิ้วอย่างไม่อดทน ชั่วขณะนั้นสายตาเปลี่ยนไปเย็นยะเยือกและอันตราย

สายตาที่หนาวเหน็บของเขากวาดผ่านผู้คนในเหตุการณ์ “ในสายตาของผม โห้หลีเฉินยังไม่ได้มีความสำคัญเท่าเส้นผมเส้นหนึ่งของเย้นหว่านเลย ผมไม่สนใจจริงๆ ที่จะส่งโห้หลีเฉินกลับไปยมโลกอีกครั้ง”

คำพูดที่ก้าวร้าวนั้นเป็นการข่มขู่และเหยียดหยามอย่างโจ่งแจ้ง

คนเหล่านั้นของตระกูลโห้ใช้ชีวิตเยี่ยงราชามาจนเคยชินแล้ว หลายปีมานี้แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีใครกล้าเหยียดหยามพวกเขาตระกูลโห้ขนาดนี้ ชั่วขณะหนึ่งผู้คนจำนวนมากล้วนผุดไฟที่ท้องขึ้น

ป่ายฉีคนนี้ ความจริงช่างกำเริบเสิบสาน

แต่ตอนนี้ชีวิตของโห้หลีเฉินยังแขวนไว้บนมือของเขา ทำให้พวกเขายังไม่กล้าทำอะไรต่อเขา

จูเหลียนอีงสูงศักดิ์มาแต่ไหนแต่ไร นานหลายปีไม่เคยถูกใครไม่ไหว้หน้าแบบนี้เลย

หล่อนตะลึงนิดหน่อย และไม่นานก็จับประเด็นไว้ได้ โห้หลีเฉินถูกชิงกลับมาจากยมโลกได้แล้ว

เขาไม่เป็นไรแล้ว

ในที่สุดจูเหลียนอีงก็โล่งอกไปทีหนึ่ง ท่ามกลางความยินดีอันยิ่งใหญ่ หล่อนเป็นคนหนึ่งที่สงบอารมณ์มากที่สุด แล้วเอาอารมณ์ไปติดตามคนอื่นๆ

หล่อนมองเย้นหว่านที่อยู่ในอ้อมอกของป่ายฉี “เสี่ยวหว่านเธอเป็นยังไงบ้าง?”

“หึ”

ป่ายฉีหัวเราะเยาะ ห่วงใยตอนนี้ สายเกินไปหน่อยหรือเปล่า?

เขาไม่วางใจมอบเย้นหว่านให้คนตระกูลแบบนี้

ป่ายฉีอุ้มเย้นหว่านขึ้นมา ใบหน้าหล่อเหลาเมินเฉย จากนั้นยกเท้าออกไป

ภาพเงาด้านหลังที่เย่อหยิ่งโดดเดี่ยวและกำเริบเสิบสาน มีความบ้าระห่ำที่อวดดีที่สุดในโลก

ความบ้าระห่ำที่ทำให้คนไม่รู้สึกรื่นตานี้ กลับไม่มีใครกล้าไปยั่วยุอย่างง่ายดาย

อย่างแรก ป่ายฉีช่วยชีวิตโห้หลีเฉินไว้จริง เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของตระกูลโห้ อย่างสอง ป่ายฉีสามารถพูดได้ว่าเป็นตำนานบนโลกคนหนึ่ง หลายปีก่อนหน้านี้ ฝีมือการรักษาโรคก็เป็นที่ตื่นตะลึงไปทั่วโลกแล้ว ด้านหลังยิ่งเป็นเพราะสาเหตุที่พัวพันอยู่เบื้องหลังที่ซับซ้อนยิ่งใหญ่สารพัดอยู่

ถึงแม้ตระกูลโห้จะยิ่งใหญ่ แต่ว่าคนแบบนี้ ไม่ว่าใครต่างก็ไม่ยินยอมผิดใจเอาง่ายๆ

จูเหลียนอีงมองภาพเงาด้านหลังของป่ายฉีแล้วขมวดคิ้วอย่างแรง แอบรู้สึกว่าจะเกิดเรื่องราวที่ไม่ดีมากขึ้น ท่าทีของป่ายฉีทำให้หล่อนรู้สึกไม่สงบ

อีกอย่างเย้นหว่านเหมือนจะไม่สามารถโดนเขาอุ้มไปแบบนี้ได้

หนุ่มสาวอยู่ตามลำพัง ถ้าเกิดเรื่องอะไรจะวุ่นวายได้

จูเหลียนอีงอยากเอ่ยปากห้ามไว้ เวลานี้ประตูของห้องผ่าตัดกลับถูกผลักเปิดอีกครั้ง

คนที่ออกมาครั้งนี้ นอกจากหมอที่ตื่นเต้นเกินไปหลายคนแล้ว ที่สำคัญที่สุดก็เป็นเตียงคนไข้ที่เข็นอยู่นั้น

ด้านบนเตียงคนไข้ โห้หลีเฉินกำลังนอนใส่หน้ากากออกซิเจนอยู่ หน้าหล่อเหลาใบหนึ่ง ซีดขาวจนไร้สีเลือด กำลังนอนหลับลึก

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset