บทที่ 344 เธอจะจากไปในเร็วๆนี้แล้ว
เย้นหว่านไม่สบายใจ ใบหน้ารักษาสีหน้าที่สงบอย่างยากลำบาก เธอกำลังอยากพูดพอเป็นพิธีแล้วจากไป กลับเห็นเนื้อหาในกรอบรูปอย่างเหนือความคาดหมาย
ในนั้นเป็นโครงการสวนสนุกโครงการนึง มีซุปเปอร์โมเดลชื่อดังอย่างแอนนาเป็นพรีเซนเตอร์
นี่เป็นพรีเซนเตอร์ที่ก่อนหน้านั้นโห้ถิงกรุ๊ปไม่มี ดูท่าแล้วคงจะจ้างมาใหม่
คนๆนั้นเห็นเย้นหว่านสงสัย เลยรีบอธิบายขึ้นมาอย่างขยัน
“นี่เป็นโปสเตอร์ของโครงการสวนสนุกหลินไห่ค่ะ เพิ่งทำออกมา กำลังจะเอาไปแขวนค่ะ ช่วงนี้เพราะโครงการใหม่ของสวนสนุก ทุกคนในบริษัทต่างก็ยุ่งจนหัวฟู ทำงานถึงขั้นวิ่งเลยค่ะ”
“ใช่ค่ะ ท่านประธานเสนอออกมาอย่างกะทันหัน ทุกคนล้วนทำโอทีเร่งงาน แม้แต่ท่านประธานเองก็แทบจะพักอยู่ที่บริษัท ยุ่งจนไปไหนไม่ได้เลยค่ะ”
เย้นหว่านประหลาดใจ โห้หลีเฉินแทบจะพักอยู่ที่บริษัท?
ดูท่าเขาคงใส่ใจกับโครงการสวนสนุกนี้สุดๆ ตอนนี้กะจิตกะใจทั้งหมดอยู่ที่งานหมด เรื่องของเธอไม่มีรับผลกระทบใดๆกับเขาเลย
ก็ใช่ สำหรับเขาแล้ว เขาก็แค่ทำแผนแต่งงานครั้งนี้ล้มเหลว ในแวดวงธุรกิจ พ่ายแพ้กับโครงการครั้งนึง ยังมีโครงการใหม่ๆนับไม่ถ้วน
ไม่เหมือนเธอ กลับไม่สบายใจเพราะเหตุนี้ หมดสภาพมาเป็นเวลานานขนาดนี้ ราวกับโลกทั้งใบได้พังลงมายังไงอย่างงั้น
เหมือนคำพูดคำนั้นที่พูดกันทั่วไปในเน็ต ใจไม่หวั่นไหวก็ย่อมไม่เจ็บ
เย้นหว่านยิ้มอย่างประชดประชัน เธอหัวเราะเยาะตัวเอง
——
ลาออกจากงาน เย้นหว่านก็ไม่มีงานทำอย่างสิ้นเชิงแล้ว วันๆอยู่แต่คฤหาสน์ของเย้นโม่หลิน อย่างกับมอดตัวนึง
เย้นโม่หลินก็ไม่อนุญาตให้เธอทำงานตอนกลางคืนอีก ทุกคืนเขาจะมาที่ขอบเตียงเธอ เล่านิทานก่อนนอนให้เธอฟัง
เย้นหว่านก็ได้คุยเงื่อนไขกับเขา ขอแค่เธอนอนหลับแล้ว เขาก็จะต้องกลับไปพักผ่อน ถึงแม้เย้นโม่หลินไม่วางใจ แต่ก็เปลี่ยนความคิดของเย้นหว่านไม่ได้
ชีวิตแบบนี้ ก็ถือว่าใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นอยู่
ส่วนเรื่องกลับยุโรป ถึงแม้เย้นโม่หลินไม่ได้เอ่ยขึ้นมาอีก เย้นหว่านกลับรู้ว่าเขารอเธออยู่ตลอด
กับยุโรปที่ไม่รู้ พ่อแม่ที่ไม่รู้นั้น เย้นหว่านเต็มไปด้วยความแปลกใจและกระวนกระวายใจ
เธอค่อนข้างลังเล และตัดสินใจไม่ได้
บาทีเธอเองก็รู้ดี ถ้าจากไปปุ๊บ ชาตินี้ทั้งชาติเธอก็อาจจะไม่กลับมาเมืองหนานแล้ว จะอำลากับคนและเรื่องของที่นี่ตลอดกาล
ถึงที่นี่จะไม่มีสิ่งที่เธอห่วงหาอาลัยอาวรณ์แล้วก็เถอะ แต่ยังไงซะก็เป็นที่ๆใช้ชีวิตมายี่สิบกว่าปี อำลาก็ต้องใช้เวลาและความกล้าหาญอยู่
“เสี่ยวหว่าน พี่พาเธอไปที่ๆนึง”
เช้าวันนี้ หลังทานอาหารเช้าเสร็จ เย้นโม่หลินก็ได้เรียกเย้นหว่านที่เตรียมตัวกลับห้องนอนตัวเองไว้
หลายวันมานี้ เย้นโม่หลินหาสารพัดข้ออ้าง เดินเล่น ช็อปปิ้ง พาสุนัขไปเดินเล่น ก็จะดึงเย้นหว่านออกมาจากห้องนอนและไปเดินเล่นสักพัก
เย้นหว่านก็ชินแล้ว เธอได้พยักหน้า
ที่เหนือความคาดหมายคือ สถานที่ๆเย้นโม่หลินพาเธอมาครั้งนี้ คือสวนสนุกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเรื่องความสนุกของเมืองหนาน
แถมวันนี้ยังเป็นสุดสัปดาห์ สวนสนุกมีคนเยอะมาก และคึกคักมากเป็นพิเศษ
เย้นหว่านสงสัย“พี่พาฉันมาที่นี่ทำไมคะ? ฉันไม่อยากเล่นเครื่องเล่น”
ช่วงนี้สภาพจิตใจของเธอสงบมาก เหมือนยัยแก่อายุห้าหกสิบ ไม่มีอารมณ์พลุ่งพล่านใดๆเลย
สถานที่อย่างสวนสนุกแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะกับเธอเลย
เย้นโม่หลินยื่นมือจับมือเล็กๆของเย้นหว่านไว้ ดึงเธอเดินไปข้างหน้า
เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “บ้านคนอื่น สมัยเด็กล้วนเป็นพี่ชายที่พาน้องสาวมาเล่นสวนสนุก เมื่อก่อนพี่ไม่มีโอกาสนี้ ได้แต่อิจฉาคนอื่น ตอนนี้กว่าจะได้น้องสาวคืนมาไม่ใช่ง่ายๆ เธอก็ให้พี่ได้สมใจหน่อย โอเคมั้ย?”
เย้นหว่านเม้มปาก เหตุผลนี้อีกแล้ว แต่เธอยังไม่สามารถปฏิเสธได้อีก
หลายปีมานี้เธอไม่มีญาติพี่น้อง เย้นโม่หลินก็ไม่มีน้องสาวเช่นกัน หัวใจดวงที่ร้อนรนดั่งพี่ชายดวงนั้น ก็ต้องการๆชดใช้และปลอบโยนเหมือนกัน
เย้นหว่านจึงตามใจเขา
“แต่ รอเดี๋ยว”
เย้นหว่านดึงเย้นโม่หลินไว้ จากนั้นได้มองดูรอบๆ แล้วเห็นร้านสะดวกซื้อร้านนึง
“พี่รอฉันแป๊บนึงนะ เดี๋ยวฉันกลับมา”
ระหว่างพูด เย้นหว่านก็ได้วิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อ
ไม่นาน เย้นหว่านก็ถือแมสปิดปากที่ซื้อใหม่มาชิ้นนึง ยื่นให้กับเย้นโม่หลิน“พี่ใส่อันนี้เถอะ เพื่อเลี่ยงไม่ให้ผู้คนมารุมล้อม”
หน้าตาของเย้นโม่หลินหล่อขั้นเทพจริงๆ ถึงแม้เขาไม่ใช่ดารา แต่ขอแค่ยืนอยู่ในที่ๆคนเยอะ ก็สามารถก่อให้เกิดการมุงดูจากสาวๆที่คลั่งไคล้ได้ แม้กระทั่งแสวงหาด้วย
เดิมทีสวนสนุกคนก็เยอะจนเบียดเสียดกันจะแย่อยู่แล้ว ถ้ามุงดูเย้นโม่หลินอีก งั้นการจราจรก็ติดขัดไปโดยตรงเลย
“น้องสาวพี่นี่เอาใจใส่จริงๆ!”
เย้นโม่หลินรับแมสปิดปากมาอย่างไว จากนั้นก็ใส่ปิดหน้าตัวเองไว้ และใช้มือลูบศีรษะของเย้นหว่าน
เหมือนกับว่าแมสปิดปากราคาไม่กี่หยวนชิ้นนี้ สำหรับเขาแล้วเป็นสิ่งของที่ล้ำค่ามาก
เพราะยังไงซะ นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่เย้นหว่านมอบให้กับเขา
เย้นหว่านเม้มปาก ทีนี้ถึงได้เดินตามเย้นโม่หลินเข้าไปในสวนสนุก
เข้าไปได้ไม่นาน เย้นหว่านก็รู้สึกเสียใจแล้ว
ปกติเธอไม่ใช่คนใจกล้า และไม่ค่อยมาเที่ยวสวนสนุก แต่ผู้ชายที่ดูเหมือนสูงส่งและสง่าผ่าเผยอย่างเย้นโม่หลิน กลับชอบเครื่องเล่นที่หวาดเสียวพวกนั้นมาก
และเหตุผลของเขาก็ฟังขึ้นซะด้วย บอกจะชดใช้ช่วงเวลาวัยเด็กในการเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกกับน้องสาว
ดังนั้นจึงดึงเย้นหว่านเล่นสารพัดอย่างที่หวาดเสียว รถไฟเหาะ สวิงฮัมเมอร์ ทาวเวอร์ดรอป……
เล่นมารอบนึง เย้นหว่านตกใจจนใกล้จะลืมว่าตัวเองเป็นใครแล้ว
“ไม่ อันนั้นน่ากลัวเกิน ฉันไม่เล่นแล้ว”
เย้นหว่านอยากร้องไห้ ดึงมือของเย้นโม่หลินเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่อยากเดินไปข้างหน้าแล้ว
เครื่องเล่นบนพื้นก็แล้วไป แต่ตอนนี้เย้นโม่หลินจะพาเธอไปเล่นโดดร่ม
นั่นเป็นการออกกำลังกายที่ลอยอยู่บนอากาศสูงมากเชียวนะ เย้นหว่านรู้สึกตัวเองเริ่มกลัวความสูงแล้ว
เย้นโม่หลินมองดูสีหน้าที่สดใสของเย้นหว่าน เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก นี่เป็นช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เป็นสีหน้าหนึ่งเดียวที่โผล่ขึ้นมานอกเหนือจากจิตตก
เขาย่อมไม่ปล่อยเธอไปแบบนี้แน่
“ให้เวลาเธอเตรียมตัวหน่อย เราไปเล่นรถไฟเหาะก่อน”
เย้นโม่หลินชี้ไปที่รถไฟเหาะที่อยู่ไม่ไกล
เทียบกับโดดร่ม เห็นได้ชัดว่ารถไฟเหาะจะค่อนข้างดีกว่า เย้นหว่านรีบพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าวกิน
ในขณะเดียวกัน อีกทิศทางนึงของสวนสนุก มีผู้ชายกลุ่มนึงที่สวมใส่ชุดสูทเนี๊ยบเดินอยู่
คนที่อยู่นำหน้าดูเหมือนจะเป็นผู้จัดการ เขานำทีมคนกลุ่มนึง มาต้อนรับผู้ชายที่เดินมาตรงหน้าด้วยความเป็นมิตรไมตรี
“คุณโห้มาแล้วเหรอครับ สวนสนุกรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ขอต้อนรับการมาสำรวจงานของคุณครับ”
โห้หลีเฉินสวมใส่ชุดลำลองสีเทาทั้งตัว ใบหน้าหล่อเหลาสีหน้าเรียบเฉย แววตาเย็นชา
เขาอ้าปากเล็กน้อย “นำทาง”
เขาจะสร้างสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์ในหลินไห่ จึงมาสำรวจงานตามสถานที่จริง
เขาเพิ่งเดินเข้าไป เวลานี้ เสียงมือถือกลับดังขึ้น
นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของเขา คนปกติทั่วไปไม่สามารถโทรเข้ามาได้ คนที่สามารถโทรเข้ามาได้ก็ต้องเป็นเรื่องที่เร่งด่วนทั้งนั้น
โห้หลีเฉินรับสาย
ในสาย มีเสียงที่แก่ชราของจูเหลียนอีงดังขึ้น“เฉิน หลานอยู่ไหน?”
“มาสำรวจงานที่สวนสนุกครับ”
“หลานวางงานในมือก่อน ย่ามีเรื่องสำคัญมากจะคุยกับหลาน”
“คุณย่าพูดมาเถอะครับ”
โห้หลีเฉินคุยโทรศัพท์ไปด้วย และเดินไปข้างหน้าด้วย
ไม่มีทีท่าจะวางงานลงเลย
จูเหลียนอีงพูดต่อ “เป็นเรื่องของเสี่ยวหว่าน วันนั้นเป็นความผิดของย่าเอง ที่ให้เสี่ยวหว่านได้ยืนเรื่องพวกนั้น เธอต้องเข้าใจหลานผิดแน่ๆ ย่าดูออกว่าเด็กคนนี้ใช่ว่าจะไม่มีใจให้หลาน หลานไม่ควรยอมแพ้ไปแบบนี้นะ”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว“นี่เป็นเรื่องในอดีตแล้วครับ ถ้าคุณย่าแค่จะพูดเรื่องนี้ ผมยังยุ่งอยู่ วางสายก่อนนะครับ”
“เฉิน!”
จูเหลียนอีงรีบเปิดปากพูด ขัดขวางการวางสายของโห้หลีเฉิน
เธอถอนหายใจอย่างจนปัญญาแล้วพูด “คนของตระกูลเย้นมาแล้ว จะมารับเย้นหว่านไป เธออาจจะ……”จะจากไปในเร็วๆนี้แล้ว……..