บทที่ 360 สนามบิน
รถของโห้หลีเฉินขับด้วยความเร็วสูง ใช้เวลาสั้นที่สุดในการเร่งมาถึงสนามบิน
บ่ายโมงสี่สิบห้านาที
ไฟลท์บินของบ่ายสองโมงได้เริ่มขึ้นเครื่องแล้ว
ฉินฉู่เดินตามอยู่ด้านหลังของโห้หลีเฉิน และพูดอย่างเร่งรีบ “หลีเฉิน พวกเขาน่าจะขึ้นเครื่องแล้ว พวกเราไม่สามารถเข้าไปตรงจุดตรวจความปลอดภัยได้ จะทำยังไงดี?”
โห้หลีเฉินมีสายตาที่เยือกเย็นและพูดอย่างแข็งกร้าวเผด็จการทุกถ้อยคำ
“เครื่องบินทั้งหมดของที่นี่บินออกไปไม่ได้แม้แต่ลำเดียว”
คนที่เขาจะร้างเอาไว้ ไปไม่ได้เด็ดขาด
โห้หลีเฉินก้าวเท้ายาวเดินไปทางทางผ่านพิเศษของสนามบิน เว่ยชีรอเขายู่ที่นั่นตั้งนานแล้ว
เขาเห็นหน้าโห้หลีเฉินแล้ว มีสีหน้าที่ดีใจ และรีบรายงาน “คุณชายครับ เตรียมพร้อมหมดแล้วครับ เราได้สั่งปิดสนามบินเรียบร้อยแล้วครับ ก่อนที่คุณชายจะหาตัวคุณเย้นเจอ จะไม่มีเครื่องบินๆออกไปจากที่นี่เลยครับ”
“อืม”
โห้หลีเฉินตอบด้วยเสียงต่ำแล้ว ได้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเร็วขึ้น
ฉินฉู่ยกมุมปาก ปิดสนามบิน?! ทุกไฟลท์บินเลื่อนเวลาบิน?
เย็ดแม่ง ต้องใจป้ำขนาดนี้เลยเหรอ ถึงว่าโห้หลีเฉินถึงได้มีที่พึ่งพิงจึงไม่เกรงกลัวขนาดนี้
ถึงเย้นหว่านติดปีก ก็บินไปไม่ได้
โห้หลีเฉินเดินผ่านทางพิเศษของสนามบิน ก็ได้ขึ้นรถที่เตรียมไว้ตั้งนานแล้ว และขับไปยังเครื่องบินลำที่เย้นหว่านนั่ง
เนื่องจากจะถึงเวลาบินแล้ว รถรับส่งก็ได้รับผู้โดยสารมาถึงแล้ว ที่ทางขึ้นเครื่องมีผู้คนยืนเข้าแถวอยู่
แต่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกลับขวางอยู่ที่ทางเข้า ไม่ให้ใครขึ้นเครื่องเลย
หัวหน้าพนักงานต้อนรับยิ่งถือโทรโข่งใหญ่ไว้ ยืนอยู่ที่บนพื้นต่างระดับ ป่าวประกาศให้ทุกคน
“ผู้โดยสารทุกท่านครับ ต้องขออภัยครับ เพราะเหตุฉุกเฉิน เวลาขึ้นเครื่องดีเลย์ ขอให้ทุกท่านรออย่างมีความอดทน อย่าเดินไปมั่วครับ”
ได้ยินป่าวประกาศนี้ ทันใดนั้นก็มีผู้โดยสารไม่พอใจแล้ว
พูดแขวะ “พวกเรามารอถึงที่นี่แล้ว พวกคุณเพิ่งมาบอกว่าดีเลย์? อย่างน้อยก็น่าจะให้พวกเราขึ้นไปรอบนเครื่องก่อน ยืนเข้าแถวรออยู่ที่นี่ ต้องยืนนานเท่าไหร่?”
“ก็นั่นน่ะสิ นี่หมายความว่ายังไงกันแน่? อากาศยิ่งอยู่ยิ่งหนาวแล้ว พวกเรายืนอยู่ที่นี่หนาวมากเลยนะ”
ผู้คนต่างก็วิพากวิจารณ์อย่างไม่พอใจ
พนักงานต้อนรับบนเครื่องได้แต่ปลอบโยน แต่ท่าทีที่ไม่อนุญาติให้ขึ้นเครื่องกลับเฉียบขาดมาก
พอรอปุ๊บ ก็รอสิบกว่านาทีเลย
ผู้คนยิ่งอยู่ยิ่งไม่พอใจ ต่างก็ร้อนรนใจแล้ว
“เอี๊ยด——”
จู่ๆเสียงเหยียบเบรคดังขึ้น เห็นแค่รถหรูสีดำหมุนร้อยแปดสิบองศาอย่างเร่งรีบ และจอดลงอย่างนิ่ง
อยู่ในสนามบินไม่อนุญาติให้ขับรถส่วนบุคคลเข้ามา รถคันนี้โผล่ที่นี่ได้ยังไง?
แถมยังขับรถได้ไวขนาดนั้น ยโสโอหังขนาดนั้น!
สายตาของผู้คนได้จดจ่อไปทุกคน ต่างก็มองไปที่รถหรูคันนั้น
“คัก”เสียงนึง ประตูของรถหรูเปิดออก
รองเท้าหนังเงาวับเหยียบบนพื้นก่อน ขึ้นไปอีกคือขาที่เรียวยาว ชุดสูทที่เนี๊ยบและสั่งตัดเป็นพิเศษ ยังมีใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้คนแค่ดูก็วิญญาณล่องลอยหายไป
ผู้คนต่างก็เอ๋อค้างไว้ มองผู้ชายที่ลงมาอย่างตะลึงในความหล่อ จนพูดไม่ออก
พวกผู้หญิงยิ่งอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงโห่ออกมา
“หล่อจัง!ก้าวร้าวดุดันมาก!”
“เขาคือใคร? ฉันอยากจีบเขา”
“อย่าแม้แต่จะคิดเลย คนที่สามารถขับรถหรูแบบนี้มาที่สนามบินได้ ไม่เพียงแค่มีตังค์แต่ยังต้องมีอำนาจด้วย!คนธรรมดาทั่วไปอย่างพวกเรา มากสุดก็ได้แค่มองดูให้เป็นบุญตาแค่นั้นแหละ”
สาวๆต่างก็แสดงความคิดเห็นกันอย่างเสียงเบา ถึงแค่มองดูก็เหอะ ต่างก็ตื่นเต้นจนน้ำลายจะไหล
“ว้าว เขามองมาทางพวกเราแล้ว!”
“เขากำลังมองฉันอยู่เหรอเนี่ย?”
“เหมือนเขากำลังมองฉันนะ เขากำลังมองฉัน!”
ไม่นาน พวกสาวๆก็ได้ส่งเสียงกรี๊ดออกมา ด้วยความตื่นเต้นและอบอุ่นเป็นมิตรไมตรีกว่าก่อนหน้านี้
เพราะพวกเธอเห็น โห้หลีเฉินก้าวเท้ายาวตรงดิ่งมาที่พวกเขา
สายตาที่ลุ่มลึกน่าหลงใหลนั้น กวาดสายตาผ่านพวกเขาทุกคน
ไม่พลาดสักคน
แต่ยิ่งดู แววตาของโห้หลีเฉินยิ่งเย็นชา
เขามองผู้คนที่เข้าแถวพวกนี้ไปๆมาๆสามรอบ กลับไม่เห็นร่างเงาของเย้นหว่าน!
เธอล่ะ? !
“คนมากันครบแล้วเหรอ?”
โห้หลีเฉินถามด้วยเสียงเย็นชา
เว่ยชีก็ประหลาดใจมาก เขาได้ตรวจสอบไฟลท์บินของเย้นหว่านอย่างละเอียดแล้วเชียวนะ ถึงเจาะจงพาโห้หลีเฉินมาหาคนที่เครื่องบินลำนี้
เขาปาดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วดึงหัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องมา
“เย้นหว่านล่ะ?”
หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องรู้ว่าพวกเขามาหาคน จึงได้เตรียมพร้อมตั้งนานแล้ว ได้เตรียมใบรายชื่อของผู้โดยสารไว้เรียบร้อยแล้ว และเอาออกมาในทันที
ดูอย่างละเอียดรอบนึง เขาตอบอย่างหวาดผวา “คุณผู้ชายครับ เย้นหว่านไม่ได้อยู่ไฟลท์บินนี้ครับ”
“อะไรนะ? เป็นไปไม่ได้!”
เว่ยชีตกใจมาก“ก่อนผมแจ้งให้ทางนี้ทราบเพิ่งได้ตรวจสอบ เย้นหว่านอยู่ไฟลท์บินนี้แหละ!”
อีกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เย้นหว่านสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ หรือว่าไปจากอะไรอย่างนี้ เขาถึงขั้นไม่ได้ขัดขวางให้ปล่อยรถบัสรับส่งออกมาตามเวลา และรับพวกเขาทั้งหมดไปที่หน้าเครื่องบินตามปกติ
จนถึงก่อนประกาศว่าไม่สามารถขึ้นเครื่อง ก็ไม่ควรจะข้อผิดพลาดใดๆสิถึงจะถูก!
หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องสีหน้าเศร้า“ไม่มีจริงๆครับ”
ใบหน้าหล่อเหลาของโห้หลีเฉินห้อยแล้วห้อยอีก ในใจมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
เขาถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “แล้วไฟลท์บินอื่นล่ะ?”
นิ่งไปครู่นึง เขาพูดออกมาด้วยเสียงแหบแห้งอีก“รวมทั้งไฟลท์ที่บินไปแล้ว”
“ผมจะตรวจสอบเดี๋ยวนี้เลยครับ!”
หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องรีบเอาแท็บเล็ตออกมาตรวจสอบ ผ่านไปสักพัก เขาถึงพูดว่า “เห็นแล้วครับ ตอนแรกคุณเย้นหว่านบินไฟลท์นี้จริงๆครับ แต่เมื่อไม่นานมานี้ กลับยกเลิกกะทันหันครับ”
โห้หลีเฉินแววตาเปลี่ยนเล็กน้อย “เธอไม่ได้ไปเหรอ?”
สีหน้าของหัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องดูยิ่งแย่แล้ว เขาพูดอย่างอ้ำๆอึ้งๆ
“อาจจะบินไปแล้วครับ สิบห้านาทีที่แล้ว มีเที่ยวบินนึงที่บินไปปารีส ประธานบริษัทลงมารับทั้งสามขึ้นเครื่องเองครับ”
ผู้โดยสารที่แทรกแถวบินโดยตรงแบบนี้เจอไม่มาก แถมประธานเป็นคนจัดเตรียมเองด้วย
แล้วมองโห้หลีเฉินที่ทรงพลังมาหาคนโดยตรง ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ก็แน่ใจแปดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าสามคนนั้นก็คือคนที่โห้หลีเฉินตามหา
สีหน้าของโห้หลีเฉินมืดครึ้มจนน่ากลัว เขาพูดออกมาทีละถ้อยคำ “ตรวจสอบกล้องวงจรปิด!”
“ครับ…..ครับ”
หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องรีบขออนุมัติสิทธิดำเนินการ แล้วตรวจสอบกล้องวงจรปิด ข้อมูลกล้องวงจรปิดแบบนี้เป็นความลับภายในของบริษัทการบิน แต่ฝ่ายตรงข้ามคือโห้หลีเฉิน ประธานของพวกเขาได้บอกทักทายไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าให้ความร่วมมือกับการปฏิบัติทุกอย่างของเขา
แม้แต่ปิดสนามบินเรื่องแบบนี้ก็ทำมาแล้ว ยังกลัวกับอิแค่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเหรอ
ไม่นาน หัวหน้าพนักงานต้อนรับก็ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเจอ แล้วยื่นให้โห้หลีเฉินด้วยความเคารพ
ภาพในกล้องวงจรปิด คือเย้นหว่านกับผู้ชายอีกสองคน อยู่ภายใต้การนำทางอย่างเอาใจและประจบประแจงของผู้ชายวัยกลางคน ได้ขึ้นเครื่องบินที่บินไปปารีส
และเที่ยวบินนั้น เพิ่งบินไปเมื่อกี๊!
“แคร๊ก”เสียงนึง แท็บเล็ตที่อยู่ในมือของโห้หลีแตกเป็นเสี่ยงๆโดยตรง
ไม่นึกเลยว่าเขามาช้าไปก้าวนึง!
“เย็ดแม่ง! นี่ต้องจงใจแน่ๆเลย!”
ฉินฉู่ดูคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดจนจะกระอักเลือด นี่ก็มาทันท่วงทีแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะแคล้วคลาดกัน ทำให้คนวิ่งหนีไปได้
อีกอย่างระหว่างเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินไม่มีความขัดแย้งอะไรที่จำเป็นต้องหลบหน้ากัน ดังนั้นเย้นหว่านก็ไม่จงใจวิ่งหนีแบบนี้หรอก งั้นคนที่ดำเนินการเรื่องนี้
“คือเย้นโม่หลิน! เขาเป็นคนทำแน่ๆ”
ฉินฉู่ชี้ผู้ชายสูงส่งไร้ที่ติที่อยู่ในคลิปนั้น โมโหจนกัดฟันกรอด
สายตาของโห้หลีเฉินมืดมน “ที่นายพูด มันหมายความว่ายังไง?”