บทที่ 462 รับผิดชอบหรือไม่รับผิดชอบ?
พอได้ยินเสียงเย้นหว่านปิดประตู เย้นโม่หลินถึงได้ค่อยๆ หันหน้ามา เห็นสายตาวูบวาบของกู้ซึง มันยากมากที่จะอธิบายในเพียงไม่กี่คำได้
โห้หลีเฉินเม้มปาก สีหน้าสั่นไหวนิดหนึ่ง และอธิบายว่า
“ผมกับเย้นหว่านไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”
เขาเห็นชัดเจนแจ่มแจ้งขนาดนั้นแล้ว ไม่ใช่แบบนั้น แล้วจะเป็นแบบไหนได้อีก?
ไม่อธิบายยังจะดีกว่า พออธิบายแล้ว ก็เหมือนกับการยืนยันมากกว่าเดิม
ทันใดนั้นสีหน้าของเย้นโม่หลินก็พังทลายลง เขาก้าวไปด้านหน้าหลายก้าว แล้วก็คว้าคอเสื้อของโห้หลีเฉินไว้ สีหน้าดุร้าย
“กู้ซึง นายรังแกน้องสาวฉัน แล้วยังจะไม่ยอมรับอีกเหรอ? ”
เขาคำรามออกมาด้วยความมั่นใจอย่างมาก เขาไม่ยอมรับแม้แต่นิดเดียวว่าเมื่อกี้ที่เขาเห็นคือเย้นหว่านต่างหากที่ขืนใจคนอื่นเขา
โห้หลีเฉินรู้สึกลำบากใจอย่างมาก “ผมไม่ได้รังแกเธอ แต่ว่าเธอ……”
พูดได้ครึ่งเดียว ก็ต้องสบตากับสายตาที่ข่มขู่และดุร้ายของเย้นโม่หลิน โห้หลีเฉินก็ต้องสงบปากสงบคำไป
พอเย้นโม่หลินเห็นว่าเขาอ่านสถานการณ์ออก เขาก็ดุร้ายมากขึ้น
พูดอย่างเผด็จการว่า “ตอนนี้นายกะจะทำยังไง จะรับผิดชอบน้องสาวฉันรึเปล่า? ”
เขาสามารถตอบว่าไม่ได้ไหมล่ะ? ท่าทางแบบนี้ เหมือนกับผู้ร้ายที่ลักพาตัวผู้ชายจากครอบครัวที่บริสุทธิ์มาเพื่อบังคับให้แต่งงานเลย
โห้หลีเฉินรู้สึกลำบากใจ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ครุ่นคิดอยู่นาน แล้วก็พูดออกมาเหมือนกับฝืนใจอย่างมาก
“ผมกับเย้นหว่าน จะลองคบกันดูครับ”
“แค่ลองคบกันยังงั้นเหรอ? ”
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงทดสอบกู้ซึงอยู่ แต่ว่าเขาเห็นกู้ซึงกับเย้นหว่านนั้นคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วแล้ว ไม่แน่ว่าอีกไม่กี่วันเย้นหว่านก็จะขึ้นเตียงเขาแล้ว เขาจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทุกอย่างให้กับน้องสาวของเขา
แม้ว่าตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้นแล้วก็ตาม กู้ซึงก็จะไม่สามารถแค่ใส่กางเกงแล้วก็เดินออกไปได้
แต่ว่าถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้คิดแบบนั้น ถ้ายังงั้นตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ห้ามเขาแตะต้องเย้นหว่านอีกแม้แต่ปลายนิ้ว
“ก่อนที่จะยืนยันความสัมพันธ์ที่เป็นทางการ ผมจะไม่ทำอะไรกับเย้นหว่านเด็ดขาด”
เหมือนกับว่าเล็งเห็นความกังวลของเย้นโม่หลิน โห้หลีเฉินก็รับประกันอย่างจริงจัง
เย้นโม่หลินลังเลนิดหน่อย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการ แต่คำตอบนี้ก็พอจะผ่านด่านไปได้
ถ้ายังงั้นก็ให้พวกเขาลองคบกันดูก่อนแล้วกัน……
“จำสิ่งที่นายพูดไว้ด้วยนะ! ”
เย้นโม่หลินจ้องโห้หลีเฉินด้วยสายตาข่มขู่ แล้วก็ปล่อยคอเสื้อของเขา
โห้หลีเฉินถอยไปด้านหลังสองก้าว สีหน้าสงบนิ่ง ยกนิ้วที่ข้อต่อเด่นชัดของเขาขึ้นมาจัดแจงคอเสื้อที่ยุ่งเหยิง
ในดวงตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นของเขา มีรอยยิ้มที่ประสบความสำเร็จ
ถึงแม้ว่าเขาจะดูเหมือนฝืน แต่ว่าความจริงแล้ว เรื่องราวมันเป็นไปตามที่เขาคิดไว้ ท่าทางของเย้นโม่หลินแบบนี้ ราวกับว่าเห็นด้วยที่จะให้เขากับเย้นหว่านพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปแล้ว……
แม้กระทั่ง กลายเป็นสนับสนุนให้เขาคบกับเย้นหว่านอีกต่างหาก
เย้นหว่านยังไม่รู้ว่า โห้หลีเฉินได้จัดการพ่อแม่เธอไปเรียบร้อยแล้วอย่างไม่รู้ตัว
โห้หลีเฉินกับกู้จื่อเฟยพักที่บ้านของตระกูลเย้นอย่างปลอดภัย อยู่ในฐานะแขก หลายวันนี้เย้นหว่านก็เอียนอยู่กับพวกเขาทั้งวัน
บางทีเย้นโม่หลินก็มาเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญอยู่บ้าง ทุกครั้งที่เขามา กู้จื่อเฟยก็จะมาพัวพัน เบี่ยงเบนความสนใจ
ให้เย้นหว่านกับโห้หลีเฉินมีเวลาส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
หลายวันมานี้ การที่ได้อยู่กับโห้หลีเฉิน เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและความสบายที่หาได้ยากของเย้นหว่าน
แต่ว่าข้อเสียในสิ่งที่งดงามแบบนี้ก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบโห้หลีเฉินต้องสวมใส่หน้าตา และตัวตนของกู้ซึง
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของเย้นหว่านกับกู้ซึงในตอนนี้ คนในครอบครัวจะเริ่มยอมรับได้ แต่ว่าสุดท้ายแล้วเธอก็ไม่สามารถแต่งงานกับกู้ซึงได้ไม่ใช่เหรอ?
ถึงแม้ว่าเธอจะยินยอม แต่ว่าศักดิ์ศรีของโห้หลีเฉินแล้วนั้นคงไม่ยอมให้ตัวเองใช้หน้าตาและตัวตนของคนอื่นตลอดชีวิตหรอก
แต่ว่าตอนที่เย้นหว่านถามโห้หลีเฉินว่าสุดท้ายแล้วจะเอายังไงนั้น เขากลับไม่พูดอะไร ให้เธอสบายใจก็พอ
ตั้งแต่ต้นตนถึงตอนนี้เย้นหว่านก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่
เพียงแค่ว่าถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เธอก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย กลัวว่าจะถูกจับได้
ช่วงนี้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเย้นหว่านกับกู้ซึงเจริญเติบโตขึ้น ไม่ใช่แค่คนในตระกูลเย้นจะให้ความสนใจเท่านั้น แต่ว่าหยูซือห้านก็แอบให้ความสนใจอยู่ในมุมมืดเช่นกัน
ทุกวัน เขาเกือบจะพังโต๊ะวันละสองตัว
โกรธจนเจ็บหัวใจ แต่ว่าหาทางออกไม่ได้ แต่แม้คิดว่าจะลักลอบฆ่ากู้ซึง แต่ว่าก็ยังหาโอกาสที่เหมาะสมไม่ได้
ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ต่อไป เย้นหว่านต้องแต่งงานกับกู้ซึง 100%!
“ฉันไม่ได้อยู่ดีๆ กู้ซึง แกก็อย่าคิดจะมีชีวิตที่ดีเลย! ”
หยูซือห้านพูดออกมาด้วยความโมโห แล้วก็ออกคำสั่งกับลูกน้องด้วยสายตาที่เยือกเย็น
สีหน้าของลูกน้องเขาดูประหลาดใจเล็กน้อย แล้วก็พูดอย่างกังวลว่า “คุณชายครับ แบบนี้มันเสี่ยงเกินไปรึเปล่าครับ? ”
“ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่ได้ลูกเสือหรอก”
สีหน้าของหยูซือห้านดุร้าย โหดเหี้ยม เคาะนิ้วจนเกิดเสียง
……
วันนี้ เย้นหว่านก็นั่งกินข้าวกับคนในครอบครัวเหมือนอย่างเคย
วันนี้อาหารที่เตรียมไว้คืออาหารทะเล มีกุ้งมังกรที่เย้นหว่านชอบด้วย
เธอรีบปอกเปลือกทันที
ถึงแม้ว่าเปลือกนี้จะถูกจัดการมาแล้ว แล้วก็ทำให้ปลอกง่าย แต่ว่าสุดท้ายก็ยังลำบาก แล้วก็แข็ง เย้นหว่านต้องปลอกอยู่นานกว่าจะปลอกได้
กินแบบตะกละเล็กน้อย
โห้หลีเฉินมองดูท่าทางหิวโหยของเธอแล้ว ริมฝีปากของเขาก็ยกขึ้นบางๆ
เขายื่นมือออกไป แล้วก็หยิบกุ้งมังกรที่อยู่ในมือของเย้นหว่านมา
เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินอย่างประหลาดใจ ทันใดนั้นก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
เธอรีบพูดว่า “อย่าเห็นว่าฉันกินเอร็ดอร่อยแล้วอยากกินนะ นายแพ้กุ้งมังกร! ”
กู้ซึงแพ้กุ้งมังกร นี่คือสิ่งที่ข้อมูลบอก เย้นหว่านกลัวว่าโห้หลีเฉินจะมีพิรุธ
โห้หลีเฉินไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ยัดทิชชูใส่มือของเย้นหว่าน
น้ำเสียงเหมือนออกคำสั่ง พูดว่า “เช็ดให้สะอาด”
เย้นหว่าน:“……”
เธออึ้งไปเล็กน้อย นี่เขาไม่สามารถกินกุ้งมังกรได้ ก็เลยไม่ให้เธอกินด้วยยังงั้นเหรอ?
มองไปที่กุ้งมังกรจานใหญ่จานนั้น เย้นหว่านทำปากมุ่ย แล้วก็เช็ดมือให้สะอาดอย่างไม่เต็มใจ
ไม่กินก็ไม่กิน เขากินไม่ได้ เธอก็ต้องงดอาหารเป็นเพื่อนเขา ยังไงเธอก็ไม่ใช่คนที่กินคนเดียวอะไรอยู่แล้ว
เย้นหว่านปลอบตัวเอง ตอนที่หยิบตะเกียบขึ้นมากำลังจะคีบอาหารอีกครั้ง ตอนนี้เอง กุ้งมังกรที่ปอกเปลือกแล้วก็ถูกวางลงในชามของเย้นหว่าน
เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินอย่างประหลาดใจ
แต่ว่ากลับเห็นเขาหยิบกุ้งมังกรมาอีกตัว แล้วก็ปอกเปลือกต่อด้วยสีหน้าที่เงียบสงบ เหมือนกับว่าทำเรื่องที่เป็นปกติอย่างมากอยู่
ไม่ต้องคิดเลย เขากำลังปอกเปลือกกุ้งให้เธออยู่
เย้นหว่านทั้งประหลาดใจและดีใจ ในใจรู้สึกมีความสุขมาก นี่โห้หลีเฉินกำลังปลอกเปลืองกุ้งให้เธออยู่!
“ขอบคุณนะ”
เธอมองหน้าเขาพร้อมกับยิ้มตาหยี หลังจากนั้นก็ชี้ไปที่จาน “ฉันอยากได้ตัวใหญ่ตัวนั้น”
โห้หลีเฉินชำเลืองมองที่ปากของเธอเล็กน้อย แล้วมุมปากก็มีรอยยิ้มที่รักและทะนุถนอม แล้วก็ยื่นมือออกไปหยิบกุ้งมังกรตัวโตตัวนั้น
คู่สามีภรรยากงจืออวีเห็นรัศมีของเย้นหว่านและกู้ซึง ถึงแม้ว่ากู้ซึงจะไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าการกระทำของเขานั้น มันแสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันและความอดทนของความรักและเอาใจใส่
เธอพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เธอรู้สึกชอบกับบรรยากาศที่อบอุ่นแบบนี้มาก
ถ้าเกิดว่าเสี่ยวหว่านกับกู้ซึงแต่งงานกันจริงๆ ครอบครัวนั่งกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุขแบบนี้ อนาคตต้องมีความสุขอย่างแน่นอน
กุ้งมังกรที่โห้หลีเฉินปอกเปลือกให้ เป็นการดูแลระดับพรีเมียม เย้นหว่านรู้สึกหอมหวานภายในใจ เธอกินเยอะมาก
แต่ไม่คิดเลยว่า หลังจากกินเสร็จแล้ว คืนนี้ จะกลับเกิดเรื่องขึ้น