บทที่493 ทำไมแปลกแบบนั้น
เธอจะไม่คว้าเวลาแบบนี้มาทำเรื่องแบบนั้นกับเขา!
โห้หลีเฉินพูดเสียงต่ำพลางยิ้ม “เนื้อหอมนุ่มนวลอยู่ในอ้อมแขน ฉันจะออกไปได้ยังไง?”
เย้าแหย่เธออีกครั้ง
เธอต่างหากที่ไม่อยากให้เขาไป
เย้นหว่านฝังศีรษะไว้ในอ้อมแขนเขา กอดเขาไว้ ไม่พูดอะไร
โห้หลีเฉินมองศีรษะเล็กๆในอ้อมแขน ความปรารถนาในร่างกายร้องอื้ออึงอย่างเดือดพร่าน แผดเผาจนเขาเจ็บปวด แต่ในจิตใจ กลับเติมเต็ม พึงพอใจอย่างหาใดเปรียบ
กอดเธอไว้แบบนี้ มันทรมาน แต่ก็แน่วแน่
เย้นหว่านวันนี้ทั้งเหนื่อยทั้งพบความประหลาดใจ ตอนนี้ได้นอนอยู่ในอ้อมแขนของโห้หลีเฉินอย่างสงบใจ ไม่ช้า ก็งัวเงียหลับไป
ระหว่างที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่น ก็ได้ยินเสียงของเย้นโม่หลินมาลางๆ
“พวกเธอย้ายโซฟาทำไม?”
เสี่ยวฮวนตอบด้วยความเคารพ “คุณชายกู้ต้องการค่ะ เขาบอกว่าชอบสไตล์ใหม่นี้ ให้เปลี่ยนกับอันที่อยู่ในห้องเขา”
โซฟาใหม่?
เย้นหว่านได้ฟัง มีความตื่นตัว ก็ลืมตาขึ้นทันที
โซฟาใหม่มาแล้ว ที่สำคัญคือ เย้นโม่หลินก็มาแล้ว!
เย้นโม่หลินใส่ใจเรื่องของเธอมากที่สุด พูดคุยกันก็เยอะ หลายครั้งที่ความลับว่ากู้ซึงก็คือโห้หลีเฉินเกือบถูกเขารู้เข้า
อีกอย่าง ถ้าเย้นโม่หลินเห็นโห้หลีเฉินนอนอยู่บนเตียงของเธอ ไม่แน่ว่าอาจจะโมโหจนต่อยคน……
“โห้หลีเฉิน นาย นายรีบลุกขึ้นมา พี่ชายฉันมาแล้ว”
เย้นหว่านรีบลุกขึ้นนั่ง ดึงชายหนุ่มที่ยังคงนอนอยู่บนเตียงอย่างสบาย
ดึกมากแล้ว ตอนนี้กำลังนอนสบาย เธอเองก็ไม่อยากกวนเขา แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่ถูกต้อง นอนต่อไม่ได้แล้วจริงๆ
โห้หลีเฉินลืมตาขึ้น ดวงตาราวกับดวงดาวที่สดใส แวววาวจับตา
มุมปากย้อมด้วยรอยยิ้มเบาๆ “ฉันออกไปตอนนี้ จะยิ่งทำให้พี่ชายเธอคิดมาก”
พอได้ยินเสียง ก็รีบร้อนออกมาจากห้อง ยังไปเสนอหน้าตรงๆ ดูเป็นภาพที่มีลับลมคมในไม่ใช่หรอ
เย้นหว่านชะงักเล็กน้อย แล้วตามด้วยขมวดคิ้วแน่น
“งั้นทำยังไงดี? พี่ชายฉันไปเห็นว่าในห้องนายไม่มีคน จะต้องตามหานายแน่ แล้วจะมาหาถึงในห้องฉันด้วย”
ในเวลานั้น จะยังไม่ถูกจับได้อีกหรอ
โห้หลีเฉินลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางผ่าเผย จัดแจงชุดนอนของเขา แล้วถึงเดินช้าๆไปนั่งที่โซฟา
“ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นอะไรหรอก”
มองดูท่าทางใจเย็นของโห้หลีเฉิน เย้นหว่านไม่รู้เลยว่าจะไม่เป็นอะไรได้ยังไง แต่ก็เชื่อเขาไปโดยไม่รู้ตัว ใจที่เต้นไม่สงบ ค่อยๆสงบลงมาเล็กน้อย
ในเวลานี้ ประตูมีเสียงเคาะประตูเบาๆดังขึ้นมา
“คุณหนู โซฟาของคุณชายกู้ส่งมาถึงแล้ว เปลี่ยนให้ตามที่เขาต้องการเรียบร้อยแล้วค่ะ”
เย้นหว่านชะงัก
เธอไม่เคยสั่งเสี่ยวฮวน ตามปกติเสี่ยวฮวนไม่ต้องมารายงานเธอ แต่ว่าตอนนี้มาพูดกับเธอเป็นพิเศษ……สายตาของเย้นหว่านมองไปที่โห้หลีเฉิน
ต้องเป็นเขาจัดแจงไว้แน่
เธอพูดตอบ “ฉันรู้แล้ว”
“กู้ซึงอยู่ในห้องเสี่ยวหว่าน?”
เสียงสงสัยของเย้นโม่หลินดังขึ้นอีกครั้ง
เสี่ยวฮวนพูดตอบ “ใช่ค่ะ คุณชายกู้บอกว่าย้ายโซฟาเสียงดัง ฝุ่นเยอะ เขาจะไปรอที่ห้องของคุณหนู ทำเสร็จแล้วให้เรียกเขา”
เย้นหว่านตะลึง นับถือโห้หลีเฉินจริงๆ เกรงว่าจะคำนวณไว้แต่แรกแล้วว่าเย้นโม่หลินจะมาถามเรื่องโซฟา ดังนั้นแม้แต่ข้ออ้างก็คิดไว้หมดแล้ว
เมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าเย้นโม่หลินรู้ถึงการมีอยู่ของโซฟาในภายหลัง ก็อธิบายได้ง่ายขึ้น
“ก๊อกก๊อกก๊อก”
ถัดจากนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เย้นหว่านรู้ว่าเป็นเย้นโม่หลิน กระโดดลงมาจากเตียงทันที จัดแจงชุดนอนให้เรียบร้อย แล้วถึงสวมรองเท้าแตะไปเปิดประตู
นอกประตู คือใบหน้าอันหล่อเหลานั้นของเย้นโม่หลิน
ดวงตาของเขาคมกริบ ตกลงบนร่างของเย้นหว่านราวกับแสงx แล้วผ่านตัวเธอไป สแกนภายในห้อง แล้วตกลงที่ตัวของโห้หลีเฉิน
ในมือของโห้หลีเฉินถือน้ำผลไม้แก้วหนึ่ง ยกแก้วให้เย้นโม่หลินด้วยท่าทางผ่าเผย
“คุณชายเย้น มาดื่มสักแก้ว?”
ดื่มน้ำผลไม้? เขาไม่สนใจงานอดิเรกแบบนี้
แต่เย้นโม่หลินก้าวขายาว เดินไปถึงอีกฝั่งของโซฟา นั่งลง
เขามองโห้หลีเฉินด้วยแววตาตรวจสอบ “คุณชายกู้ทำไมถึงอยากเปลี่ยนโซฟา? จู่ๆก็ไม่ชอบโซฟาอันเก่าแล้วหรือ?”
มาเป็นแขกในบ้านคนอื่น ความรู้ตัวเองว่าเป็นแขก โดยปกติจะไม่ออกตัวเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ของคนอื่น
“ไม่ใช่หรอก”
โห้หลีเฉินส่ายหน้า มองเย้นหว่านด้วยสายตาเบาบาง พูดอย่างมีความหมายเชิงลึก “เย้นหว่านชอบ”
เย้นหว่านสะดุ้ง กระทั่งโซฟาเป็นแบบไหนเธอยังไม่เคยเห็น ทำไมไปชอบแล้ว?
โห้หลีเฉินเห็นได้ชัดว่าเอาเธอมาเป็นโล่กำบัง
ใบหน้าเธอรักษารอยยิ้มน้อยๆ ยอมรับเป็นนัยๆ ไม่พูดจา
เย้นโม่หลินหรี่ตาลง จู่ๆการแสดงออกก็เปลี่ยนเป็นแปลกไป
เขาใช้สายตาที่ซับซ้อนสังเกตเย้นหว่านครั้งแล้วครั้งเล่า สักพักหนึ่ง ถึงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
เขาลุกขึ้นยืน เดินออกไปทางด้านนอกอย่างว่องไว
การแสดงออกบนใบหน้าทนที่จะมองไม่ได้อย่างมาก
เย้นหว่านผงะ จู่ๆเป็นอะไร? ทำไมการแสดงออกแปลกประหลาดแบบนั้น? เธอทำอะไรลงไปหรอ?
เย้นโม่หลินเดินไปถึงประตู ดูเหมือนจะอารมณ์เสียจริงๆ หยุดลงอีกครั้ง พูดประโยคนึงด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“เสี่ยวหว่าน ถึงอย่างไรกู้ซึงก็เป็นผู้ชาย ถ้าเธอไม่มีธุระอะไรก็ไปห้องเขาน้อยๆหน่อย”
เย้นหว่าน “……”
เธอใบหน้าปิดบังความจริง ไม่เข้าใจสถานการณ์ ไม่รู้เลยว่าจู่ๆเกิดเรื่องอะไรขึ้น
แค่เปลี่ยนโซฟาอันนึงเท่านั้น ทำไมจู่ๆเย้นโม่หลินแปลกๆไป ราวกับว่าเธอทำเรื่องที่บ้าคลั่งมาก?
รอเสียงฝีเท้าของเย้นโม่หลินเดินไปไกลแล้ว เย้นหว่านถึงหันไปมองชายหนุ่มที่ดื่มน้ำผลไม้อย่างสบายใจ
“โซฟานั้นของนาย มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
โห้หลีเฉินไม่ตอบแต่ยิ้ม “เธอไปดูก็จะรู้เอง”
เย้นหว่านรู้สึกทันที ว่าโซฟานี้มีลูกเล่น
เธอหันหน้าเดินออกไปทางด้านนอก
พอเดินไปถึงประตูของกู้ซึง ก็ได้พบกับเสี่ยวฮวนที่เดินออกมาจากด้านใน เสี่ยวฮวนเห็นเธอ ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“คุณหนู วางใจเถอะค่ะ ดิฉันได้ให้คนติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ชิ้นส่วนเล็กๆ ไม่ตกหล่นเลยแม้แต่อันเดียว”
เย้นหว่านเลิกคิ้ว ทำไมการแสดงออกของเสี่ยวฮวนถึงแปลกแบบนี้?
เธอไม่พูดประโยคต่อไป เดินเข้าห้องไปทันที
ภายในห้อง ตำแหน่งเดิมนั้นที่วางโซฟา โซฟาตัวเก่าถูกย้ายออกไปแล้ว เปลี่ยนเป็นโซฟายาวที่มีขนาดใหญ่ มีการยกสูงต่ำ ลายเส้นเรียบง่าย มีความคล้ายกับเตียงขนาดเล็ก
นี่มันเหมาะที่โห้หลีเฉินจะใช้นอนตอนกลางคืน อย่างน้อยก็ไม่เล็กเหมือนโซฟาเดี่ยว
มีอะไรผิดปกติล่ะ?
เย้นหว่านสงสัย เดินเข้าไป มองไปรอบๆโซฟา ก็ไม่เห็นมีอะไรที่ไม่เหมือน
เห็นๆอยู่ว่านี่เป็นโซฟาธรรมดา ทำไมสายตาที่เย้นโม่หลินกับเสี่ยวฮวนมองเธอถึงได้แปลกแบบนั้น
เย้นหว่านมีหมอกเต็มหัว ไม่เข้าใจเลยสักนิด
“เธอลองนอนดู”
เสียงเบาบางของโห้หลีเฉินดังมาจากที่ประตู
ในตอนนี้ เขายืนอยู่ที่ประตูห้อง ถือโอกาสยืนพิงขอบประตู จ้องมองเธอด้วยสายตาลึกล้ำ แววตาแผดเผา
ลอง?
เย้นหว่านไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ถอดรองเท้าอย่างเชื่อฟัง นอนลงบนโซฟาตามที่บอก