บทที่652 วิญญาณผูกมัดกัน
เธอไม่คิดว่า แค่ไม่กี่ชั่วโมงที่ไม่ได้เจอกัน เมื่อเธอได้เห็นเขาอีกครั้ง เขาจะกลายเป็นแบบนี้
นอนจมอยู่ในน้ำ ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง
ดูไปแล้ว ไม่น่าจะรอด
ร่างกายของเย้นหว่านสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ หลังจากยืนโง่อยู่สักพัก เธอก็ได้สติ สองมือสั่นยื่นลงไปในน้ำ และพยายามดึงร่างโห้หลีเฉินขึ้นมา
เธอตะโกนเรียกด้วยเสียงสะอื้น “โห้หลีเฉิน โห้หลีเฉิน… ”
เธอยื่นมือลงไปในน้ำ จึงได้รู้ว่าอุณหภูมิของน้ำเย็นจนกัดไปถึงกระดูก
โห้หลีเฉินยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ในนั้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหน
ดวงตาของเย้นหว่านพร่ามัว เธอพุ่งผ่านน้ำเย็นเข้าไป และคว้าแขนของโห้หลีเฉินไว้
ในขณะที่เธอกำลังจะลากเขาขึ้นมา มือเย็นกลับผลักเธอออกห่าง
ก่อนที่โห้หลีเฉินจะลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำพร้อมกับเสียงน้ำ “ซ่า” มือที่เย็นเหมือนก้อนน้ำแข็งของเขาบีบคอของเย้นหว่านอย่างรวดเร็ว
เสียงของเขาแหบแห้ง แต่ก็ยังเย็นชาและดูน่ากลัว “ผมเคยบอกไว้แล้วว่าถ้าเข้ามาคุณตายแน่ … “
เย้นหว่านรู้สึกเจ็บที่คอมาก ราวกับว่า การหายใจของเธอถูกตัดขาดไปในวินาทีนั้นเลย
เธอรู้สึกได้ถึงไอสังหารของโห้หลีเฉินที่รุนแรงมากในขณะนี้
เธอพยายามอ้าปากด้วยความยากลำบาก และพยายามส่งเสียงพูดอย่างยากลำบากออกมาสองคำ“ ฉัน … เอง … ”
แรงบีบที่เพิ่มขึ้นบริเวณคอของเธอทำให้ตกใจ
โห้หลีเฉินพยายามขยับเปลือกตา และลืมตาที่พร่ามัวของเขามองไปที่เย้นหว่านด้วยความตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบมิได้
เขามองตรงไปที่เธอด้วยความตกใจ เหมือนไม่อยากจะเชื่อ
เขาขมวดคิ้ว“ เย้นหว่านเหรอ”
เสียงของเขาทั้งงุนงงและสงสัย
เวลาผ่านไปกว่าสองชั่วโมงแล้ว ฤทธิ์ของยากลับยิ่งแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายของเขาเริ่มทรมานมากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ในอาการพร้อมจะระเบิดได้ตลอดเวลา และยังมีอาการประสาทหลอนอยู่หลายครั้ง
เขาไม่มั่นใจจริงๆ ว่าคนตรงหน้า คือเย้นหว่านจริงๆหรือเปล่า
อาจเป็นไปได้ว่าเขารู้สึกทรมานจนถึงจุดสูงสุด จนเกิดภาพลวงตาเห็นเย้นโน่เป็นเย้นหว่านก็เป็นไปได้
เมื่อเห็นอาการต่อต้านและพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างหนักของโห้หลีเฉิน หัวใจของเย้นหว่านก็เหมือนจะถูกบีบรัดด้วยฝ่ามือใหญ่อย่างรุนแรง
มาจนถึงตอนนี้ เธอไม่ต้องคาดเดา ก็พอจะเดาเรื่องราวได้ซะส่วนใหญ่
เย้นโน่วางยาใส่โห้หลีเฉิน!
แล้วยังขังโห้หลีเฉินไว้ที่นี่ด้วย
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่โห้หลีเฉินกลับซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ โดยใช้น้ำเย็น กับการทำร้ายร่างกายตัวเอง เพื่อควบคุมสติตัวเองไว้
ดวงตาของเย้นหว่านพร่ามัวไปด้วยน้ำตา และเสียงสะอื้น
“ใช่ค่ะ ฉันเอง ขอโทษค่ะ ที่ฉันมาสาย ฉันน่าจะมาให้เร็วกว่านี้…”
ทำไมเธอไม่ตื่นเร็วกว่านี้ ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัวว่าโห้หลีเฉินหายไปเร็วกว่านี้
อาการเขาในตอนนี้ จะได้รับความทุกข์ทรมานมากแค่ไหนกัน
หลังจากลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ความรุ่มร้อนที่โห้หลีเฉินพยายามควบคุมอยู่ ก็แผดเผาเหมือนไฟลามทุ่งอีกครั้ง และมันกำลังทำลายสติที่เขาหลงเหลือทั้งหมดไป
มีแค่สวรรค์ที่รับรู้ ว่าเขาต้องลำบากแค่ไหนถึงจะควบคุมสติตัวเองไว้ได้
สายตาของเขาเบลอเล็กน้อย มองไปทางเย้นหว่านที่กำลังร้องไห้ ฟังเสียงสะอื้นของเธอ หัวใจของเขารู้สึกเจ็บไปด้วย
แล้วยังทำลายความวิตกกังวลในใจทิ้งไปทันที
เย้นหว่านจริงๆด้วย
มีเพียงเธอเท่านั้น ที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้
เส้นใยเส้นสุดท้ายในสมองของโห้หลีเฉินขาดลงทันที
ไฟในร่างกายของเขา เดือดปะทุขึ้นมาทันที
เขาคว้าตัวเธอไว้ แล้วดึงเธอมาตรงหน้าเขา ก่อนที่ริมฝีปากบางของเขาก็กดทับกับริมฝีปากเธออย่างแรง
มันเป็นจูบที่เร่าร้อนราวกับสามารถแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างลงไปได้
แขนของเขาโอบรอบร่างของเธอ แต่มันกลับเย็นราวกับก้อนน้ำแข็ง
เหมือนไฟกับน้ำแข็ง ร้อนกับเย็น ทำให้ร่างกายของเย้นหว่านตื่นตัวขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และความรู้สึกแปลก ๆ ก็จู่โจมเข้าสู่หัวใจและร่างกายของเย้นหว่านทันที
เธอพยายามที่จะต่อต้าน แต่ร่างกายของเธออ่อนแอและหมดแรง ทำให้เธอก็ยอมจำนนต่อเขาโดยสัญชาตญาณ
ในสมองของเธอ ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว ราวกับว่าลอยตัวอยู่บนปุยเมฆนุ่ม บนฟากฟ้า
ในประสาทสัมผัส รับรู้ได้ถึงการบุกรุกของผู้ชาย แต่เธอกลับเกิดความต้องการเพิ่มขึ้นมา
เธอตอบสนองเขากลับอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
ในเวลานี้สติสัมปชัญญะของเขาไม่มีเหลืออยู่แล้ว และในสายตาของเขามีเพียงร่างนุ่มในอ้อมแขนของเขาเท่านั้น
เขาทำตามสัญชาตญาณของร่างกาย จูบเธอ กอดเธอ
มือใหญ่ของเขาดูเหมือนจะลุกเป็นไฟ เขาฉีกเสื้อผ้าของเธอออกอย่างหมดความอดทน ฝ่ามือร้อนของเขาก็ลูบไล้ไปตามผิวเนียนของเธอ
เปลวไฟร้อนแรง จนเหมือนทั้งห้องน้ำจะเดือดเป็นไฟ
ร่างของหนุ่มสาวทั้งสองแนบชิดสนิทแนบแน่น ราวกับว่าพวกเขากำลังใช้ร่างกาย เพื่อหลอมรวมจิตวิญญาณของทั้งสองคนเข้าด้วยกัน
เป็นความรู้สึกที่ดีเกินคำบรรยาย
เมื่อเห็นเย้นหว่านเดินเข้าไปในห้องน้ำ ความหวังสุดท้ายของเย้นโน่ก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์แบบ ความหวังทั้งหมดของเธอหายไปทันที
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า มีแต่ความสิ้นหวังและความมืดมิดที่ไม่อาจกลับไปแก้ไขได้
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับมามีสติอีกครั้ง ก่อนจะมองไปในห้องน้ำด้วยความหวาดกลัว พอมองผ่านกระจกเข้าไป ก็พบว่ามีร่างสองร่างกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเร่าร้อน
จนแยกห่างจากกันไม่ได้
ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ต้องเดา ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอรู้สึกอิจฉา อยากจะเข้าไปขัดขวาง แต่เธอไม่มีความกล้ามากพอที่จะก้าวไปข้างหน้า
โห้หลีเฉินต้องฆ่าเธอแน่ๆ
หลังจากทั้งสองคนเสร็จธุระเย้นหว่านจะต้องจัดการกับเธออย่างแน่นอน
แต่หนึ่งในนั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร เธอก็ต่อกรด้วยไม่ได้จริงๆ
ตายแน่ๆ
จบสิ้นแล้วจริงๆ
เย้นโน่ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยใบหน้าซีดเซียว ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีก และเริ่มปิดหน้าร้องไห้อย่างสิ้นไร้หนทาง
บอดี้การ์ดทั้งสองเดินเข้ามา เห็นแค่เย้นโน่ที่กำลังยืนพิงประตูห้องน้ำร้องไห้อยู่ สีหน้าของทั้งสองคนไม่ค่อยน่าดูมากนัก แล้วยังดูเคร่งเครียดมาก
พวกเขาไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการเฝ้าประตูไว้ แต่พวกเขายังปล่อยให้สิ่งต่างๆพัฒนาไปในทิศทางที่เลวร้ายที่สุดอีกด้วย
“แย่แล้ว ตอนนี้จะทำอย่างไรดี”
พวกเขามองหน้ากัน และเห็นว่าใบหน้าอีกคนต่างก็เหยเก กลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากนี้มาก
บอดี้การ์ดคนหนึ่งลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกัดฟันพูดว่า “ฉันจะไปรายงานคุณผู้หญิงข้างใน … “
หลังจากหยุดนิ่งไปนาน ก็กัดฟันพูดออกมาอย่างยากลำบาก
“ก่อนอื่นเราพาคุณหนูเย้นโน่ไปนั่งก่อน คอยดูแลด้วย รอฉันกลับมา “
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะรีบเข้าไปเพื่อดูภาพที่ดุเดือดในห้องน้ำ
หลังจากพูดเสร็จ หนึ่งในบอดี้การ์ดก็รีบวิ่งออกไปข้างนอกทันที
บอดี้การ์ดอีกคนเดินมาหยุดตรงหน้าเย้นโน่แล้วยื่นมือเข้าไปช่วยประคองเธอขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “คุณหนูเย้นโน่นั่งที่โซฟาดีกว่าครับ ที่พื้นมันเย็น”
ที่พื้นเย็น จะเทียบกับความหนาวเย็นในใจของเธอได้อย่างไรกัน
เย้นโน่หมดเรี่ยวแรง ปล่อยให้บอดี้การ์ดพยุงตัวขึ้นมา แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยท่าทางหมดแรง
กลอนประตูห้องน้ำเสีย ทันทีที่เธอเดินออกไป ประตูก็เลื่อนปิดอย่างช้าๆ
ไม่ได้ล็อค แต่กลับสามารถแยกออกเป็นโลกสองใบเป็นโลกภายในและโลกภายนอก
ภายนอกนั้นเยือกเย็นสิ้นหวัง ส่วนภายในกลับเร่าร้อนไปด้วยเสน่หา
เย็นกับร้อน
ฟ้ากับดิน
หลังจากนั้นไม่นาน กงจืออวีก็เดินตามหลังบอดี้การ์ดมาอย่างรีบร้อน
ใบหน้าของเธอบึ้งตึงเอามากๆ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแผนของเธอจะผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงขนาดนี้
“เย้นโน่ เธอทำงานประสาอะไรของเธอ”
ทันทีที่เดินผ่านประตูเข้ามา กงจืออก็ต่อว่าเย้นโน่อย่างโกรธเกรี้ยวทันที
ในขณะเดียวกัน เธอยังเห็นว่าภายในห้องไม่ได้เละเทะอย่างที่เธอจินตนาการไว้ ยกเว้นกลอนประตูห้องน้ำที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม
เย้นโน่ที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความสิ้นหวัง ตกใจกลัวจนต้องรีบลุกขึ้นยืน