บทที่656 คุณกำลังยั่วยวนผมอยู่ใช่ไหม
เย้นหว่านตกใจ ร่างกายของเธอเกร็งค้าง
เธอกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองโห้หลีเฉินด้วยความตื่นตระหนก “คุณจะทำอะไร”
อ่างอาบน้ำใหญ่ขนาดนี้ นั่งห่างกันก็ได้นี่นา
โห้หลีเฉินโอบแขนของเขาไว้รอบเอวเธอ ริมฝีปากบางของเขาหายใจเข้าออกใกล้ใบหูของเธอ แต่ละคำคลุมเครือและแหบต่ำ
“ ผมอาบน้ำให้คุณนะ”
สมองของเย้นหว่านเกือบระเบิดออกมา
ก่อนจะรีบค้าน“ ไม่ต้องค่ะ ฉันอาบเองได้ค่ะ”
เธอพูดพร้อมกับดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนของโห้หลีเฉิน ล้อเล่นหรือไง ถ้าปล่อยให้เขาอาบน้ำให้ เธอยังมีชีวิตรอดออกจากอ่างอาบน้ำได้หรือไง
เกรงว่าจะไม่เหลือแม้แต่กระดูก
เย้นหว่านรู้สึกหวาดกลัวกับการกระทำของสัตว์ร้ายโห้หลีเฉินเมื่อคืนแล้ว
แต่อยู่ในอ้อมแขนของโห้หลีเฉิน เธอจะมีโอกาสวิ่งหนีไปที่ไหนได้
แขนของโห้หลีเฉินโอบรอบเอวของเย้นหว่าน แล้วเธอดึงเธอไปกอดแน่น ยิ่งเธอดิ้นมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งกอดแน่นมากขึ้น
ในการต่อสู้และแรงเสียดทาน น้องชายของโห้หลีเฉินก็ตื่นตัวขึ้นมา
การหายใจของโห้หลีเฉินเริ่มแรงขึ้น เขาพูดด้วยเสียงแหบต่ำ
“ เย้นหว่าน คุณกำลังยั่วยวนผมอยู่ใช่ไหม”
ที่ไหนกัน
เย้นหว่านโมโหจนอยากจะเถียงกลับ แต่กลับรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างกำลังดันเธออยู่ด้านล่าง
มันร้อนผ่าวมาก
เธอกลัวจนไม่กล้าขยับ ร่างกายของเธอก็เกร็งนิ่ง
เธอพูดเสียงเบา “คุณ คุณปล่อยฉัน ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
แขนของโห้หลีเฉินโอบรอบเอวของเย้นหว่าน นิ้วของเขาขยับไปมารอบเอวของเธอ
ริมฝีปากบางกดแนบใบหูของเธอ แต่ละคำนุ่มนวลที่พูดเซ็กซี่มาก
“เด็กดี ให้ผมอาบน้ำให้คุณนะ”
อาบน้ำ?
คุณต้องการแค่อาบน้ำให้จริงๆเหรอ
เย้นหว่านนวดขมับเบาๆ ให้ตายเธอก็ไม่เชื่อ
แต่แล้ว เธอก็เห็นว่าโห้หลีเฉิน หยิบใยขัดผิวขึ้นมาแล้วถูไปที่ร่างกายเธอเบา ๆ
ด้วยท่าทางที่จริงจัง เหมือนกำลังจะช่วยเธออาบน้ำอยู่จริงๆ
เย้นหว่านนั่งตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับตัวเลย
เธออยากจะถามเขามาก ว่าเขาทำแบบนี้ไม่ทรมานบ้างหรือไง
ถ้าควบคุมไม่ได้ล่ะ
แต่ว่า เธอรู้สึกไม่สบายตัวจริงๆ รู้สึกอึดอัดไปหมด
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนอาบน้ำให้เธอ แล้วยังเป็นผู้ชายของเธออีกด้วย
ใยขัดผิวถูกถูไถไปตามร่างกายทุกส่วนของเธอ อาการจั๊กจี้และชาราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่าง
เย้นหว่านหวาดหวั่นเหมือนอยู่ในสงคราม
“ผ่อนคลายหน่อยสิครับ”
เสียงทุ้มของโห้หลีเฉินดังขึ้นข้างหูของเธอ
จากนั้นเย้นหว่านก็รู้สึกว่า ใต้น้ำ นิ้วของโห้หลีเฉินแตะลงบนแขนของเธอ แล้วนวดไปตามแขนของเธอด้วยความแรงที่พอดี
เย้นหว่านนิ่งไปสักพัก ก่อนจะหันหน้าไปมองเขาอย่างตกตะลึง
“นี่คุณ……”
“ ผมนวดให้ครับ”
เมื่อมองออกว่าเย้นหว่านกำลังคิดอะไรอยู่ โห้หลีเฉินจึงตอบเธอตามตรง
เขาตั้งใจนวดด้วยความตั้งใจ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มและไพเราะ “นวดให้สบายตัว คุณจะได้ไม่รู้สึกเจ็บมากในภายหลัง”
เย้นหว่านอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของเธอสั่นไหวอย่างหนัก
ที่แท้จุดประสงค์ของการอาบน้ำให้เธอ คือการนวดเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของร่างกายเธอ หลังจากใช้งานหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา
เพราะกลัวเย้นหว่านจะรู้สึกเจ็บนั่นเอง
การดูแลเอาใจใส่แบบนี้ ทำให้เย้นหว่านรู้สึกซาบซึ้งใจและมีความสุขมาก
ในที่สุดการอาบน้ำกันสองต่อสอง ในบรรยากาศที่หวานและคลุมเครือ กับความอดทนและความทรมานอันแสนหวานก็เสร็จสิ้นลง
แม้ว่ามันจะช่วยบรรเทาได้มาก หลังจากผ่านการอาบน้ำและนวด แต่เมื่อคืนนี้มันหนักหนามากเกินไปจริงๆ ขาของเธออ่อนแรงจนเดินแทบไม่ไหว เย้นหว่านยังมีอาการสั่นเล็กน้อย ตอนที่ลุกขึ้นเดิน
โห้หลีเฉินทำการช่วยเหลือให้ความสะดวกกับเธออยู่ข้างกายตลอดเวลา
เขาพาเธอออกจากห้องน้ำ และช่วยเธอใส่เสื้อผ้า
แก้มของเย้นหว่านแดงก่ำอยู่ตลอดเวลา ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกัน เย้นหว่านมองผู้ชายที่กำลังยุ่งอยู่กับการดูแลเอาใจใส่เธอ แล้วรู้สึกจนใจ
“ คุณทำแบบนี้ จะทำให้ฉันเสียนิสัย จนไม่สามารถดูแลตัวเองได้อีก”
“ ถ้าอย่างนั้นก็ยกให้เป็นหน้าที่ของผม คุณมีหน้าที่แค่มีความสุขเท่านั้นก็พอ”
โห้หลีเฉินพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ ก่อนจะเอาเสื้อโค้ทตัวเล็กใส่ให้เย้นหว่าน แล้วติดกระดุมให้เรียบร้อย
ท่าทางของเขาจริงจังมาก ราวกับว่าเขากำลังทำงานที่ยิ่งใหญ่มีราคาหลายแสนล้าน
เย้นหว่านมองไปที่เขา แล้วอดที่จะยกยิ้มไม่ได้
ในสมองนึกถึงประโยคหนึ่งขึ้นมา ความสามารถในการดูแลเอาใจใส่ของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงขั้นสูงสุด คือดูแลจนผู้หญิงทำอะไรเองไม่เป็น
แบบนี้ เธอก็จะไม่มีทางหนีไปจากคุณได้อย่างแน่นอน
หลังจากที่ทั้งสองคนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว โห้หลีเฉินก็อุ้มเย้นหว่านขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเดินออกจากห้องไป
ที่นี่คือบ้านพักของกงจืออวี ถือเป็นบ้านรับรองแขกด้วยเช่นกัน แม้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาจะเกิดเรื่องบ้าระห่ำที่นี่ แต่ก็ต้องออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
พอเปิดประตูแล้วเดินออกไปข้างนอก มุมปากของเย้นหว่านก็ลดลง
สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่เมื่อคืนนี้เป็นเหมือนหินก้อนใหญ่กดทับในหัวใจของเธอ
ถ้าเธอไม่ตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วพบว่าโห้หลีเฉินหายตัวไป จนเธอต้องรีบมาตามหาที่นี่ ไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินจะเกิดสถานการณ์เลวร้ายมากแค่ไหน
เพราะการวางแผนทั้งหมดของกงจืออวีทำให้โห้หลีเฉินต้องทนทุกข์ทรมาน และทำให้เย้นหว่านเกือบสูญเสียโห้หลีเฉินไป
มันเสี่ยงมากจริงๆ
ถ้าจะบอกว่าเธอไม่โกรธกงจืออวี คงจะเป็นเรื่องโกหก
เย้นหว่านเริ่มนึกเสียใจที่พาโห้หลีเฉินกลับมาที่ตระกูลเย้น และทำให้เขาต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
ดูเหมือนว่าโห้หลีเฉินจะมองออกว่าเย้นหว่านกำลังคิดอะไร เขาจึงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“อย่าคิดมากครับ จำไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน เราจะเอาชนะมันไปได้ได้อย่างแน่นอน และเราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต”
สักพัก โห้หลีเฉินก็มองไปตรงทางเดินด้วยสายตาที่ซับซ้อน “ที่แม่ของคุณทำทุกสิ่ง ก็เพราะรักคุณ”
เพราะรักมาก ถึงได้หวาดระแวงไปซะทุกอย่าง
เย้นหว่านเม้มริมฝีปาก แล้วพูดเสียงต่ำ
“แต่ความรัก มันไม่ใช่เหตุผล”
เพราะความรักที่มีต่อเธอ กลับทำลายชีวิตของโห้หลีเฉิน และทำลายความสุขระหว่างพวกเธอ นั่นเรียกว่าความรัก หรือความเห็นแก่ตัวกันแน่
เย้นหว่านไม่รู้ และไม่เข้าใจ
เธอยื่นมือไปโอบคอของ โห้หลีเฉิน แล้วมองเขาด้วยสายตาหนักแน่น
“เรื่องตามหาสมุนไพร ถ้าจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย เราก็ออกเดินทาง ไม่มีใครห้ามฉันได้หรอก”
สิ่งที่กงจืออวีทำสร้างความมุ่งมั่นที่จะไปพร้อมกับโห้หลีเฉินให้เธอมากขึ้น
ดวงตาของโห้หลีเฉินหรี่ลง เขาเริ่มลังเลใจ
ถ้าไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของเย้นหว่านได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาจะไม่พาเธอไปเจอเรื่องอันตรายด้วยแน่นอน
แต่พอมองไปที่ดวงตาเล็ก ๆ ที่มั่นคงของเย้นหว่าน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ทนที่จะปฏิเสธเธอไม่ได้จริงๆ
เขาเม้มริมฝีปากแล้วเอ่ยพูด “ขอเวลาผมหน่อย ผมจะเตรียมพร้อมทุกอย่างเอง”
ที่เขามาที่นี่เอง ก็เพื่อที่จะไม่ให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิต ในการเดินทางครั้งนี้
“อืม”
เย้นหว่านพยักหน้ารับ ด้วยความไว้วางใจที่เธอมีต่อโห้หลีเฉิน
ในขณะที่พูด โห้หลีเฉินก็เดินไปตามทางเดิน ก่อนจะพาเย้นหว่านเดินลงบัได ลงบันได แล้วมาหยุดยืนหน้าประตูห้องรับแขก
เย้นหว่านเริ่มตกใจ เพราะในขณะนี้มีหลายคนนั่งรวมอยู่ในห้องรับแขก
กู้ซึง กู้จื่อเฟย เย้นโม่หลิน ป่ายฉี รวมทั้ง กงจืออวีและเย้นเจิ้นจื๋อ พวกเขาทั้งหมดอยู่ในพร้อมกันในห้อง
ท่าทางของทุกคนต่างก็ขมวดคิ้วและกังวลใจมาก
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดกำลังรอพวกเธออยู่