สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 679 กางเต็นท์

บทที่679 กางเต็นท์

ที่นี่คือโลกของหิมะสีขาวสุดลูกหูลูกตา นอกจากสีขาวแล้ว ก็แทบจะไม่มีสีอื่นใดอยู่เลย

บนท้องฟ้ามีหิมะตกหนักเหมือนขนเป็ดที่ร่วงลงมาอย่างแน่นขนัด มาพร้อมกับความหนาวเหน็บที่เย็นไปถึงกระดูกสันหลัง

ถึงเย้นหว่านจะสวมชุดกันความเย็นแบบพิเศษไว้แล้ว ก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นอยู่เล็กน้อย

ที่นี่ หนาวยิ่งกว่าที่ที่เธอเคยลงรถจากครั้งไหน ๆ ก่อนหน้านี้ สภาพแวดล้อมนั้นยิ่งเลวร้าย

เย้นหว่านใช้สองแขนกอดตัวเองไว้อย่างช่วยไม่ได้ ในตอนนั้นเอง เธอก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง มองไปที่โห้หลีเฉินอย่างกระวนกระวาย

“ที่นี่หนาวเกินไปแล้ว นายใส่เสื้อบุนวมไม่ได้ ฉันจะเอาชุดกันความเย็นให้….”

เธอพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง โห้หลีเฉินก็ยกแขนขวาโอบไหล่ของเธอไว้ แล้วกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน

เขาถอนหายใจพูด “มันหนาวจริง ๆ พวกเราก็อย่าแยกจากกัน กอดให้ความอบอุ่นกันตลอดเลยเถอะ”

ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มบังลมให้เธอไปมาก ถัดจากที่ที่พักพิงมีความหนาวที่ไม่ต่างกับน้ำแข็งหิมะอยู่

ท่ามกลางความหนาวเหน็บ คนสองคนพึ่งพากันและพวกเขาก็อบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยจริง ๆ

ทว่า….

เย้นหว่านมองไปที่ใบหน้ามุ่งมั่นของชายหนุ่มด้วยแววตาสั่นไหว ข้อเสนอที่จะให้เปลี่ยนเสื้อผ้า ท้ายที่สุดก็ยังไม่ได้พูดต่อออกไป

ถึงยังไงพูดไปแล้ว ดูท่าเขาก็คงไม่เห็นด้วย

คิดไปแล้วก็ยังกังวลเหมือนเดิม ท่ามกลางอากาศที่หนาวจัดอย่างนี้ ร่างกายของเธอคงทนต่อความหนาวไม่ไหว

เย้นหว่านได้แต่เอื้อมมือไปโอบรอบเอวของโห้หลีเฉินจากข้างหลังเอาไว้ ทำให้ทั้งสองสามารถกอดชิดกันได้มากขึ้นอีกนิดเท่าที่จะทำได้

พวกเขายิ่งเหมือนฝาแฝดตัวเชื่อมติดกันเข้าไปอีก

โห้หลีเฉินรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของเย้นหว่าน ก็ก้มหน้ามองท่าทางไม่สบายใจของเธอ แววตาหม่นหมอง

ตัวเขาเองก็เข้าใจความหมายของเธอ

เพียงแต่อากาศและสภาพแวดล้อมแบบนี้ เขาทนได้ แต่เธอไม่ได้

“ที่นี่หิมะตกหนักเกินไป เราต้องหาที่หลบสักที่”

ขณะพูด สายตาคมกริบของโห้หลีเฉินก็กวาดมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว มองหาทิศทางที่เหมาะสม

เย้นหว่านก็มองไปรอบ ๆ เช่นเดียวกัน แต่ในสมองกลับคิดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

หิมะถล่มบวกกับตกหิมะที่ตกอยู่ตลอด หิมะของที่นี่ทับถมกันเป็นชั้น ๆ ไปแล้ว

รถคันอื่น ๆ ที่ตกลงมานั้น ก็ไม่รู้ว่าร่วงลงมาถึงตรงไหน และฝังอยู่ในหิมะกองไหนกัน

คิดจะไปหาชุดกันความเย็นที่รถคันอื่นเห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว

นอกจากนี้ คนอื่น ๆ ล่ะ?

มีคนอื่นที่ตกลงมาด้วยรึเปล่า?

เย้นหว่านรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก

โห้หลีเฉินก้มลงมอง ก็เห็นท่าทางเป็นห่วงกังวลของเย้นหว่าน ก็เข้าใจความคิดในใจทั้งหมดของเธอทันที

“เย้นหว่าน ช่วยฉันกดปุ่มLบนนาฬิกาข้อมือหน่อย”

โห้หลีเฉินเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน

เย้นหว่านได้สติกลับมา เธอรีบถอดถุงมือออกข้างหนึ่ง แล้วกดลงบนนาฬิกาข้อมือ

เห็นเพียงบนหน้าจอเล็กจิ๋วของนาฬิกาข้อมือนั้น ปรากฏจุดสีแดงเล็ก ๆ หลายจุดขึ้นในทันที โดยสีสดสว่างเป็นพิเศษ

เย้นหว่านสงสัย “นี่คืออะไรเหรอ?”

โห้หลีเฉินอธิบาย “นี่คือข้อมูลสัญญาณชีวิตของพวกพี่ชายของเธอ สว่างเป็นสีแดง แสดงว่าพวกเขาไม่เจอพบอันตรายใด ๆ ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่สบายดี”

นี่ก็เป็นการเตรียมการก่อนออกเดินทางของพวกเขาด้วยเช่นกัน เพื่อติดตามสัญญาณชีพของทุกคน

ในเวลาที่ต้องเผชิญกับอันตรายที่รุนแรงแบบนี้ จะสามารถดูได้ว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ต้องการความช่วยเหลือมั้ย

เมื่อได้ยินว่าเย้นโม่หลินไม่เป็นอะไร หัวใจที่ห้อยต่องแต่งของเย้นหว่านถึงได้กลับมาอยู่ที่เดิม

สีหน้าของเธอเองก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยเช่นกัน “งั้นถ้าพวกเขาไม่เป็นอะไร ก็น่าจะลงมาช่วยพวกเราได้น่ะสิ?”

พวกเธอก็แค่รออยู่ตรงนี้ เมื่อพวกเขามาถึงก็จะได้รับการช่วยเหลือแล้ว

โห้หลีเฉนเม้มริมฝีปากบาง ส่ายหัวอย่างช้า ๆ

เขาเดินไปข้างหน้าช้า ๆ เสียงทุ้มเอ่ยตอบ

“พวกเขาน่าจะหาพวกเราไม่เจอ”

เย้นหว่านประหลาดใจ “ทำไมล่ะ?”

“ที่นี่นั้นไม่รู้ว่าจะเป็นเหตุผลทางภูมิศาสตร์ หรือสัญญาณรบกวน ข้อมูลตำแหน่งถึงได้รวนไปหมด”

โห้หลีเฉินสำรวจหิมะผืนนี้ด้วยแววตาซับซ้อนอย่างยิ่ง

เขาเองก็ไม่รู้แน่ชัด ว่าตั้งแต่ภูเขาถล่มจนถึงตอนนี้ พวกเขาร่วงลงมาไกลแค่ไหน และอยู่ที่ไหน

บางทีอาจจะไกลมาก ๆ ท่ามกลางหุบเขาแห่งความสิ้นหวัง

หรือบางที ที่นี่อาจจะใกล้ประเทศเบียนหนานแล้ว แม้แต่ท่ามกลางหิมะก็ติดตั้งสัญญาณรบกวนเอาไว้แล้ว

หากเป็นอย่างแรก ครั้งนี้เขาและเย้นหว่านคงต้องเผชิญความสิ้นหวังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หากเป็นอย่างหลัง บางทีอาจยังมีดอกไม้บานสะพรั่งท่ามกลางความสิ้นหวังก็ได้

เย้นหว่านที่ไม่ได้คิดมากถึงขนาดโห้หลีเฉิน ก็ขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล

“งั้นถ้าพวกเขาไม่มีทางหาพวกเราเจอ แล้วเราจะไปจากที่นี่ได้ยังไง?”

หิมะสุดลูกหูลูกตา รอบทิศไร้ถนนหนทาง พวกเขาก็ไม่มีรถ มีเพียงขาสองคู่เท่านั้น

กระทั่งโห้หลีเฉินยังได้รับบาดเจ็บ

ฝ่ามือของโห้หลีเฉินตบไหล่ของเย้นหว่าน น้ำเสียงทุ้มอันมีเวทมนตร์แห่งการปลอบโยนมากมาย

“ฉันพาเธอออกไปจากที่นี่ได้”

ขอแค่เขาบอกว่าได้ ก็ต้องได้แน่นอน

เย้นหว่านไม่ไปยังโห้หลีเฉิน ความกระสับกระส่ายในใจก็ค่อย ๆ สงบลง

ทั้งสองคนเดินไปท่ามกลางหิมะก้าวลึกบ้างตื้นบ้าง ความเร็วไม่มาก เดินอยู่นานมาก เวลาที่เย้นหว่านมองกลับไปที่ตำแหน่งรถของพวกเขาเป็นครั้งคราว ก็แปลกใจที่พบว่า ปากทางที่เธอเปิดไว้นั้น ตอนนี้ถูกหิมะอันกว้างใหญ่ท่วมจมหายไปอีกครั้ง

หากไม่มีตำแหน่งให้ค้นหา ภายใต้หิมะหนาขนาดนี้ จะไปหาคนเจอได้ยังไงกัน?

ครั้งนี้ เธอและโห้หลีเฉินคงรอการช่วยเหลือของพวกเย้นโม่หลินไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงพึ่งตัวเองเดินออกไปเท่านั้น

แต่เธอเชื่อว่า ขอแค่มีโห้หลีเฉินอยู่ ก็จะต้องไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

เพียงแต่อยู่ในหิมะกระหน่ำนานเกินไป ถึงจะสวมชุดกันความเย็นแบบพิเศษ เย้นหว่านก็ยังรู้สึกว่ามือเท้าของเธอแทบจะกลายเป็นน้ำแข็ง

หนาว เป็นความหนาวเหน็บที่แทรกเข้าไปถึงกระดูก

เธอถึงกับแข็งไปเล็กน้อย แม้แต่แรงจะพูดก็ไม่มี

“ที่นี่เป็นภูเขาที่อยู่ใต้ลม พวกเราไปพักกันข้างหน้า”

น้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังของโห้หลีเฉิน มันฟังดูเหมือนเสียงสวรรค์ในหูของเย้นหว่าน

ในที่สุดก็พักได้แล้ว

เมื่อเธอมองไปด้านหน้า ก็กลับสับสนเล็กน้อย

ด้านหน้านั้น เป็นพื้นที่ราบขนาดใหญ่ ไม่มีภูเขา ไม่มีต้นไม้ เพียงแต่มีภูเขาหิมะขนาดใหญ่อยู่ข้าง ๆ ปิดกั้นทิศทางที่หิมะพัดลงมา ทำให้หิมะที่ปลิวว่อนอยู่ที่นี่นั้นน้อยลงไปมาก

แต่เธอนึกว่าโห้หลีเฉินจะพาเธอไปหาถ้ำภูเขาสักแห่งพักผ่อนเสียอีก

จากนั้น การกระทำของโห้หลีเฉินก็ช่วยคลายข้อสงสัยในใจของเธอ

ในกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่เขาถืออยู่มีเต็นท์ที่สำรองไว้อยู่ เต็นท์แบบนี้กันความเย็นและให้ความอบอุ่น สามารถทำให้รอดพ้นในคืนที่หนาวเหน็บไปได้

สบายกว่าถ้ำภูเขาอะไรนั่นเยอะ

เพียงแต่เย้นหว่านรู้สึกตะลึงเล็กน้อย ในกระเป๋าเป้ของโห้หลีเฉิน จะมีแม้แต่เต็นท์อยู่ด้วย เขาเตรียมการมาครบครันแค่ไหนกันแน่นะ?

เป้ใบนี้ หรือว่าบนรถเองเขาก็เอาติดตัวเอาไว้ด้วยงั้นเหรอ ที่แท้เมื่อถึงยามวิกฤต มันก็ช่วยชีวิตได้จริง ๆ

ก่อนหน้านี้ เย้นหว่านไม่เคยลงมือกางเต็นท์มาก่อน ด้วยพวกบอดี้การ์ดจัดการทั้งหมดให้เรียบร้อยแล้ว

แต่ตอนนี้โห้หลีเฉินได้รับบาดเจ็บมือข้างหนึ่งใช้การไม่สะดวก ทั้งยังมีแค่พวกเขาสองคน เธอจะต้องทำมันด้วยตัวเอง

เมื่อลมหนาวพัดมา ถึงจะใส่ถุงมือทำอยู่ ก็ยังหนาวจนพาให้ตัวสั่น

อยู่ด้วยความทุกข์ทรมานโดยแท้

ใบหน้าของเย้นหว่านเยือกแข็งริมฝีปากขาวซีด ทั้งร่างแข็งทื่อไปหมด ในที่สุดก็กางเต็นท์ขึ้นมากับโห้หลีเฉินได้อย่างลากลำบาก

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset