“ผลั่ก”
ท่ามกลางสถานการณ์คับขัน โห้หลีเฉินเตะไปบนลำตัวของคุณป้า ร่างกายของคุณป้าลอยไปในอากาศทันที หลังจากที่ลอยออกไปและตกลงแล้ว ก็กระแทกกับพื้นอย่างแรง
เห็นได้ชัดว่าฝ่าเท้าของโห้หลีเฉินหนักแรงมาก จนทำให้วินาทีที่คุณป้าหล่นลงพื้นนั้นไม่สามารถลุกขึ้นมาไหม มุมปากก็มีเลือดสดๆ ไหลทะลักออกมา
“แม่…”
ฉู่ฉู่จ้องมองมารดาของตนเองอย่างตกตะลึง สัญชาตญาณอยากจะเข้าไปประคองเธอเอาไว้ แต่ว่าฝ่าเท้าราวกับถูกยึดให้ติดกับพื้นเช่นนั้น ไม่อาจขยับไปสักเพียงก้าวเดียว
อาการที่เป็นบ้าของท่านแม่เมื่อครู่ เธอจำภาพนั้นได้ติดตา
เย้นหว่านจงใจโจมตีเธอ เพื่อให้เธอตื่นจากภวังค์ และไม่ต้องยืนกรานกับคำว่าคุณป้าต้องตกเป็นทาสรับใช้ผู้ชายให้ที่อยู่เหนือกว่าอีกต่อไป และยอมปล่อยวางการมีอคติและความรู้สึกลำเอียงกับเย้นหว่าน
ทว่าเธอก็ยังดื้อด้านไม่ตื่นสักที จนถึงขั้นใกล้เคียงคนบ้า แถมยังอยากจะฆ่าเย้นหว่านต่อหน้าสาธารณชนอีก
ที่เธอตกมาอยู่ในสภาพนี้ ทั้งหมดมาจากการทำตนเองหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ
ตัวเธอเอง เป็นคนทำร้ายตนเอง
ฉู่ฉู่จ้องมองคุณป้าอยู่เช่นนั้น น้ำตาเอ่อล้นเบ้าตา และกำหมัดเอาไว้แน่น แต่ไม่ได้ขยับเขยื้อนเดิมมาทางด้านหน้าสักก้าว
เย้นหว่านนั่งอยู่บนเก้าอี้ และไม่ได้ขยับตำแหน่งแม้แต่น้อย
แม้ว่าเมื่อครู่นี้คุณป้าได้กระโจนเข้าหาตัว จนเกิดอาการตกใจไปบ้างก็ตาม แต่เธอย่อมรู้ดีว่า โห้หลีเฉินอยู่ข้างกาย เธอไม่มีวันที่จะได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน
ได้แต่มองคุณป้า เธอไม่มีความเมตตาอะไรอีกแล้ว
คุณป้าคนนี้ ไม่มียาแก้อีกแล้ว
สัญชาตญาณความเป็นทาสมันทะลุเข้ากระดูกไปแล้ว
เธอหันศีรษะกลับไปมองโห้หลีเฉิน และพูดเสียงทุ้มต่ำ “ปล่อยเธอไปเถอะ เธอคงไม่ทำร้ายฉันต่ออีกแล้วแหละ ตอนนี้ฉันพักอาศัยอยู่ที่นี่ ไม่สามารถให้เธอมารับตำแหน่งเป็นนายหญิงของครอบครัวนี้แล้ว เธอควรจะรับผลกรรม กับเรื่องบางอย่างที่ทำเพื่อตนเอง”
ตอนที่พูดออกไปนั้น เย้นหว่านก็มองฉู่ฉู่ที่ตาแดงฉานอยู่ตรงด้านหน้าประตูที่กำลังควบคุมอารมณ์อยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย และพูดต่ออีกว่า
“ฉันไม่มีความคิดที่จะเอาชีวิตคนเหมือนผักเหมือนปลา ฉันไว้ชีวิตเธอ คุณอยากจะจัดการอย่างไรก็ได้”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ฉู่ฉู่จ้องมองเย้นหว่านอย่างตกตะลึง
เธอไม่คิดว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเย้นหว่านยังคงไม่เอาเรื่อง แถมไว้ชีวิตคุณป้าอีก
ในประเทศเบียนหนาน อย่าได้พูดว่าคุณป้าทำเรื่องที่แสนเลวทรามต่ำช้าเช่นนี้เลย แถมเป็นเพียงความผิดพลาดแม้เพียงกระผีกก็ตามที หญิงสาวก็จะถูกฆ่าตายทันที เสียชีวิตทุกราย
โดยเฉพาะการที่คุณป้าได้ทำการลอบสังหารเย้นหว่านเมื่อครู่นี้ด้วย ขนาดถึงขั้นตายแล้วยังไม่สำนึกผิด ความผิดเช่นนี้ เท่ากับโทษที่เธอต้องตายไปสิบรอบกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่
กระทั่งเรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว เย้นหว่านยังไม่คิดจะเอาชีวิตของท่านแม่อีก
ฉู่ฉู่จ้องมองเย้นหว่านอย่างสะอึกสะอื้น พร้อมทั้งความรู้สึกซาบซึ้งเต็มเปี่ยมหัวใจ
เวนเดลล์เองก็จ้องมองเย้นหว่านอย่างประหลาดใจเล็กน้อย เพราะว่าเขาได้เตรียมใจในการเอาชีวิตของภรรยาตนเองมาชดใช้คืนแล้ว
ไม่คิดเลยว่า สุดท้ายแล้วคนที่มีบุญคุณนั้น ยังคงเป็นเย้นหว่าน
บทลงโทษมีการผ่อนปรน การที่เย้นหว่านจัดการเรื่องเช่นนี้ เพื่อให้เวนเดลล์มีความรู้สึกกับเธอที่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิม
เมื่อเอาความต่ำต้อยของผู้นำหญิงมาเปรียบเทียบแล้ว เย้นหว่านไม่เหมือนกับคนอื่นจริงๆ
คุณป้าเฉกเช่นนี้ จะไม่ให้ผู้ชายมองได้อย่างไร
การตัดสินใจของเย้นหว่านนั้นราวกับเป็นไปตามที่โห้หลีเฉินคาดการณ์เอาไว้ เขายื่นมือออกไปลูบคลำเส้นผมของเธอ พร้อมทั้งพูดเสียงดังฟังชัด
“วางใจได้เลย ผมจะไม่ให้เธอทรมานเกินไป แต่ว่าก็ไม่ได้ปล่อยให้เธอสุขสบายเกินไปเช่นเดียวกัน”
เขารู้ดีว่า เย้นหว่านไม่ฆ่าคุณป้าข้อแรกคือเธอไม่ชอบเอาชีวิตคนจริงๆ ข้อสองคือเพราะว่ารำลึกถึงบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนของเวนเดลล์ อีกทั้งความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับฉู่ฉู่อีก แม้ว่าคุณป้าจะทำเรื่องผิดไปแล้วก็ตาม เธอก็ไม่อยากให้พวกเขาต้องสูญเสียภรรยาหรือมารดาไป
จากนั้น หลีโห้เฉินออกคำสั่งทันที “เอาตัวคนไป”
เมื่อสิ้นเสียง บอดี้การ์ดที่ยืนประจำการเว้นระยะห่างอยู่เกือบครึ่งทาง เดินเข้ามาจากด้านนอก และมายืนอยู่ด้านหลังของเขา พร้อมทั้งพาตัวผู้หญิงที่อายุประมาณสามสิบกว่ามาอีกสองคน
ผู้หญิงทั้งสองคนเดินเข้ามาในโถงใหญ่ พร้อมทั้งพูดทักทายอย่างมีมารยาท
“คารวะนายหญิงเวนเดลล์ คุณโห้ คุณเย้น”
เย้นหว่านตกใจเล็กน้อย
เหล่าผู้หญิงทำความเคารพเวนเดลล์กับโห้หลีเฉินเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่กลับมาทักทายเธอด้วยท่าทีมีมารยาท นั่นเป็นเรื่องผิดปกติ
ผู้หญิงสองคนนี้ เพราะเป็นเธอมีสถานะกับองค์ชาย ถึงได้ปฏิบัติต่อเธอเฉกเช่นเดียวกันเหรอ?
หรือเพราะว่าโห้หลีเฉินเป็นคนหาคนมาเอง สัญชาตญาณของเย้นหว่านเอนไปทางเรื่องท้ายมากกว่า
เวนเดลล์จ้องมองโห้หลีเฉินด้วยความสงสัย และถามว่า
“โห้หลีเฉิน คุณไปเอาผู้หญิงสองคนนี้ มาทำอะไรกันแน่?”
สายตาอันคมกริบของโห้หลีเฉินกำลังกวาดตามองผู้หญิงทั้งสอง ราวกับเครื่องเอกซเรย์เช่นนั้น พร้อมทั้งมองออกไปถึงจิตวิญญาณของพวกเธอด้วย
เขาค่อยๆ อ้าปากพูด
“พวกเธอเป็นคนที่ต่อต้านกับความรุนแรงของครอบครัว”
ต่อต้านกับความรุนแรงของครอบครัว?
คำพูดที่สร้างความหวั่นไหวจนทำให้เวนเดลล์เกิดอาการตกใจทันที
นี่หมายความว่า การต่อต้านในครอบครัวที่ประเทศเบียนหนานถือว่าเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยมาก เพราะว่าด้วยความคิดผู้ชายที่อยู่เหนือกว่าผู้หญิง ผู้ชายมักจะมองผู้หญิงอย่างดูถูก ไม่ให้ความสำคัญสักนิด และยังมีนิสัยรุนแรงและเจตนาไม่ดี แถมยังตบตีด่าทอและทำร้ายภรรยาอยู่บ่อยครั้ง
ความรุนแรงในครอบครัว ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่การต่อต้านนั้น ไม่มีได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย
แม้กระทั่งการถูกฆ่า ผู้หญิงก็เต็มใจทั้งนั้น โดยเฉพาะเรื่องความรุนแรงในครอบครัวนั้น ผู้หญิงถูกทำร้ายได้ แต่ไม่สามารถสู้กลับได้
ส่วนพวกเธอ ผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงหน้านั้น ยังต่อต้านความรุนแรงในบ้านความของสามีตนเองอีกเหรอ?
หนึ่งในนั้นก้มโค้งตัวแสดงความเคารพ และพูดอย่างเคร่งขรึม
“ค่ะ พวกเราต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว ต่อต้านสามีของตนเอง”
คำพูดนี้ ยิ่งทำให้ผู้หญิงที่นอนกองอยู่กับพื้นนั้นเบิกตาโตด้วยความตกใจ เธอจ้องมองผู้หญิงสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
พวกเขากล้าต่อต้านสามีของตนเองเหรอ?
ทำไม ผู้หญิงไม่ใช่ว่าเกิดมาเพื่อทำทุกอย่างเพื่อสามี ตายเพื่อสามีเหรอ ก็แค่ความรุนแรงในครอบครัวเท่านั้นเอง พวกเธอถึงกับอดกลั้นไว้ไม่ได้เลยเหรอ?
นี่มันขัดต่อจริยธรรมโดยสิ้นเชิง!
ผู้หญิงพูดต่อ
“ตั้งแต่เด็กจนโต ท่านแม่และทุกคนรอบข้าง ต่างก็บอกกับพวกเราเสมอ ว่าต้องทำตามผู้ชายบอก ผู้ชายดั่งสวรรค์ ผู้ชายพูดว่าอะไรเราก็ต้องทำตาม อย่าได้หักหลัง”
พวกเราก็ทำเช่นนั้น ทว่าการที่ถูกทำร้ายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ถูกทรมาน มีชีวิตอยู่ยังไม่เท่าสัตว์เดรัจฉานเลย จนบางครั้งทำให้ฉันคิดว่า ทำไมผู้หญิงต้องมีชีวิตอยู่ต่อ ขนาดพื้นฐานที่ว่า สิทธิ์ในการฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไปยังไม่มีเลย
เดิมที นึกว่าชีวิตของคนเราเจ็บปวดทรมานขนาดนี้ ก็ใช้ชีวิตไป ทว่าช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เห็นองค์ชายปฏิบัติกับคุณเย้น ถึงได้รู้ว่าโลกภายนอกนั้น ผู้หญิงก็สามารถมีความสุขแบบนั้นได้ หรือว่าผู้หญิงไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อเป็นทาสรับใช้
พวกเรา ก็เลยเรียกร้องให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อไป พวกเราไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน พวกเราก็เป็นคนเท่าเทียมกัน ดังนั้นพวกเราเลยไปจากสามีของพวกเรา เพื่อเริ่มชีวิตใหม่ เพื่อชีวิตของตนเอง
ผู้หญิงพูดอย่างมั่นใจ อารมณ์หนักแน่นมาก
แววตาของพวกเธอทอประกาย ลุกโชนไปด้วยความหวังและกระตือรือร้นในการไปใช้ชีวิตใหม่
เพื่อหนีให้หลุดพ้นไปจากคำว่าสามีหรือถ้ำปีศาจของครอบครัว พวกเธอก็เหมือนกำลังหาชีวิตใหม่
คุณป้าที่นอนพาดอยู่กับพื้นตกใจสิ้นสติเมื่อได้ยินคำพูดนี้ และยังรู้สึกไม่กล้าจะเชื่อทั้งหมดแถมบ่นพึมพำอย่างรังเกียจ
“พวกแปลกประหลาด แปลกประหลาดสิ้นดี ….”
แปลกประหลาดทั้งคู่
“เราไม่ใช่แปลกประหลาด!”
ผู้หญิงอีกคนอ้าปากพูด “การต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว ผู้หญิงที่ต่อต้านสามีไม่ได้มีแค่พวกเราเท่านั้น ทุกมุมทั่วประเทศ อย่างน้อยก็มีพันกว่าคนแล้ว และยังมีอีกมากมาย ที่เตรียมจะต่อต้าน พวกเราจะไม่ถูกกดดันให้เป็นทาสในเรือนเบี้ยอีก พวกเราก็เป็นคนเช่นเดียวกัน”
ระยะเวลาไม่กี่วัน มีคนพันกว่าคนแล้วเหรอเนี่ย?
การเป็นผู้นำของคนเหล่านี้ จากนี้ก็คงมีคนหลายหมื่นปรากฏให้เห็นตามมา หรือหลายแสนคน …
จนทำให้ความคิดเช่นนี้ ราวกับเหมือนไวรัสระบาดไปทั้งประเทศเบียนหนานไปทั่ว จนทำให้ประเพณีเดิมๆของประเทศเบียนหนาน คงถูกกัดเซาะไปจนสะอาดไม่มีเหลือ