“แต่ แต่……” โอหยางฝู่บ้าคลั่ง ไม่พอใจ “พระราชาเรียกพบท่าน คุณไม่มีเวลารู้ด้วยซ้ำว่าผมมาที่นี่ และไม่รู้ด้วยว่าผมจะทำร้ายเย้นหว่าน! เป็นไปได้ไงที่นายจะมาได้ทันเวลาแบบนี้?”
เขาคาดเอาไว้แล้วทุกอย่าง
รอจังหวะที่เซอร์ยุนซีเข้าวัง ในขณะที่ทุกอย่างวุ่นวาย เข้ามาจับเย้นหว่านเหนือความคาดเดาของคนอื่น มีอำนาจได้เปรียบกว่า
เซอร์ยุนซีไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ และยิ่งไม่ควรโผล่อยู่ที่นี่
มองดูสายตาที่ของมุ่งมั่นของโอหยางฝู่ เซอร์ยุนซีหวาดผวาในใจ มองไปทางโห้หลีเฉินด้วยสายตาสับสน
เขาจะเข้าวังไปพบพระราชาก็จริง อีกอย่างเป็นถึงการเรียกพบที่ส่วนตัว หารือเกี่ยวกับเรื่องชาติ
แต่ระหว่างทางไป จู่ๆฉู่ฉู่กลับวิ่งมาหยุดเขา
บอกเขาว่าโอหยางฝู่จะทำร้ายเย้นหว่าน ให้เขารีบพาองครักษ์มา
แผนในวันนี้ ไม่ใช่โอหยางฝู่คาดเดาผิด แต่เป็นโห้หลีเฉิน เข้าใจแผนการทุกอย่างของโอหยางฝู่!
จึงใช้วิธีแผนซ้อนแผน ล่อเขาเข้ากับดัก
โทษฐานลอบสังหารเชื้อพระวงศ์ จับเป็นโอหยางฝู่!
เมื่อมีโทษฐานนี้ โอหยางฝู่ก็เสียโอกาสไป ไม่ว่าจะในความสัมพันธ์หรือเหตุผล ก็ไม่ได้ใจคนอื่น แม้ว่าคนที่สนับสนุนเขาอยากจะช่วยเขา จะกบฏ ก็ไม่มีเหตุผล
ผลลัพธ์แบบนี้ ทำให้เซอร์ยุนซีตกใจและคาดไม่ถึงเหมือนกัน
เดิมทีเขาคิดว่าจะเป็นการทำรัฐประหารที่โหดเหี้ยม และเตรียมพร้อมกับการรบระยะยาวแล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่า เพิ่งจะเริ่มต้น ก็ถูกวิธีที่มีอานุภาพรุนแรงของโห้หลีเฉิน ปราบปรามโอหยางฝู่เอาไว้
รวดเร็วจนทำให้คนตาค้าง
กุศโลบายเช่นนี้ โห้หลีเฉินเป็นเพียงแค่คนธรรมดาจริงๆเหรอ?
ในขณะที่ชื่นชม เป็นครั้งแรกที่เซอร์ยุนซีเริ่มสงสัยในฐานะของโห้หลีเฉิน
“ท่านดยุก นายมีเลือดไหลเยอะมาก ฮือๆ นายเป็นไงบ้าง ยังไหวอยู่ไหม?”
ในระหว่างที่ครุ่นคิด เสียงกังวลของผู้หญิงที่เกือบจะร้องไห้ลอยมา
เห็นแค่ฉู่ฉู่วิ่งเข้ามาตรงหน้าเซอร์ยุนซี เอาผ้าเช็ดสีขาวออกมาอย่างลนลานและเช็ดเลือดที่ไหลออกหน้าจากหน้าอกเขา ตกใจจนใบหน้าซีดขาว
น้ำตานองหน้าและกังวล
เซอร์ยุนซีตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วรู้สึกอีกครั้งว่า แผลของเขาเจ็บอย่างรุนแรง
แม้ว่าโห้หลีเฉินแทงเขาจนบาดเจ็บเป็นเพียงแผ่นชั่วคราว แต่แผลนี่กลับเจ็บอย่างจริงๆจังๆ เจ็บจนทำให้คนรู้สึกสับสนในชีวิต
ร่างสูงใหญ่ของเขาเซเบาๆ ทรงตัวไม่อยู่
ฉู่ฉู่ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน ไม่ทันคิดเยอะ ก็กอดเอวของเซอร์ยุนซีโดยสัญชาตญาณ
ร้องไห้แล้วพูด “ท่านดยุกนายอย่าเป็นไรไปนะ นายห้ามตาย ห้ามตาย……”
เสียงร้องไห้ที่เศร้าโศก ทำให้เซอร์ยุนซีรู้สึก บาดแผลเขาสาหัสราวกับใกล้ตาย
แต่แผลของเขา ไม่ได้โดนจุดสำคัญ
แค่เจ็บจนทนไม่ไหวเท่านั้น
เซอร์ยุนซียืนได้เพราะการประคองของฉู่ฉู่ เงยหน้าขึ้นมองเย้นหว่านที่ไม่ไกล ยื่นมือให้เธออย่างอ่อนแรง
“เสี่ยวหว่าน แผลของผมเจ็บมาก รู้สึกใกล้ตายแล้ว คุณมาดูให้ผมหน่อย”
ตั้งแต่การต่อสู้ด้วยดาบจริงจนเซอร์ยุนซีถูกแทง เกิดขึ้นได้รวดเร็วมาก และจุดพลิกในนี้ ก็ทำให้ทำคนตกใจกันใหญ่
เย้นหว่านอึ้งปากค้างอยู่ข้างๆ ถูกเซอร์ยุนซีเรียกแบบนี้ ถึงดึงสติกลับมา
มองดูเลือดครึ่งตัวของเซอร์ยุนซี ท่าทีอ่อนแรงไม่รู้จะล้มไปเมื่อไหร่ ในใจของเธอก็บีบรัดขึ้นมา
เธอรู้ ช่วงนี้โห้หลีเฉินหึงแรง อดทนอยู่ทุกๆวันถึงไม่แทงเซอร์ยุนซีให้ตาย
โอกาสดีแบบวันนี้ เขาสามารถยิงธนูดอกเดียวได้เหยี่ยวสองตัว แทงเซอร์ยุนซีให้ตายไปเลย
แล้วมองตำแหน่งที่มีดปักอยู่ อยู่ที่หน้าอกพอดี——
ใจของเย้นหว่านรีบร้อนขึ้นมา ตะโกนอย่างกระวนกระวาย “รีบไปเรียกหมอ เรียกหมอ”
พลางพูด เธอก็เดินไปทางเซอร์ยุนซีอย่างระเกะระกะ
เพิ่งเดินได้ก้าวเดียว แขนของเธอก็ถูกคนจับไว้
เย้นหว่านหันหน้ากลับไปก็เห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของโห้หลีเฉิน เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เย้นหว่านจิตใจว้าวุ่น “เขาบาดเจ็บ ฉัน……”
“ผมก็บาดเจ็บเหมือนกัน” โห้หลีเฉินปริปากพูดอย่างแข็งทื่อ
เย้นหว่านเบิกตาโตกว้าง ใจของเธอวิตกกังวลจนตกไปถึงตาตุ่ม
เธอรีบถามอย่างกังวล “นายเป็นแผลที่ไหน? สาหัสไหม? รีบมาให้ฉันดู!”
โห้หลีเฉินให้ความร่วมมือมาก ยกมือขึ้นอย่างไม่รีบร้อน เผยนิ้วของเขาออกมา
“ตรงนี้”
เย้นหว่านกวาดสายตามองไป ก็เห็นบนนิ้วของโห้หลีเฉิน มีแผลเล็กๆเส้นหนึ่ง แผลถลอก มีเลือดซึมนิดๆ แต่ไม่ได้ไหลออกมา
มันเป็นการบาดเจ็บนิดเดียวที่ชนโดนมุมโต๊ะในปกติ
เซอร์ยุนซียื่นคอออกไป เห็น ‘แผล’ของโห้หลีเฉิน มุมปากกระตุกขึ้นทันที อดที่จะบ่นไม่ได้
“แผลนี้เล็กเกินไป สามารถเพิกเฉยไม่สนใจ ”
ถ้าเทียบแล้ว มีดที่แทงเข้าไปในหน้าอกเขา เลือดไหลครึ่งตัว อันนั้นถึงเรียกว่าบาดเจ็บ?!
ยังเป็นแผลสาหัสอีก!
แต่ โห้หลีเฉินตาเปล่งประกายจ้องมองเย้นหว่าน พูดอย่างจริงจัง
“ถ้าไม่รักษาเสี่ยงต่อการเป็นบาดทะยัก”
เซอร์ยุนซีแทบจะระเบิด
เสี่ยงที่ไหน? แผลเล็กขนาดนี้ โอกาสที่จะเป็นบาดทะยักมีเพียง0.0001เปอร์เซ็นต์เท่านั้นโอเคไหม?
“เสี่ยวหว่าน แผนของผมสิถึง……”สำคัญกว่า……
คำพูดของเซอร์ยุนซียังพูดไม่จบ จู่ๆก็เห็น หลังจากที่เย้นหว่านได้ยินคำว่าบาดทะยัก ก็รีบจับมือของโห้หลีเฉินอย่างเคร่งขรึม แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องโถง
ยังตะโกนว่า “รีบไปเรียกหมอมา ให้เขาเอาเข็มบาดทะยักมาด้วย”
เซอร์ยุนซี “……”
แล้วเขาล่ะ?
ยิ่งสาหัส ยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นบาดทะยักสิ? ช่วยสนใจเขาหน่อยได้ไหม?
ฉู่ฉู่มองดูท่าทางที่น้อยใจของเซอร์ยุนซี เอ็นดูและสงสารขึ้นมาอย่างพูดไม่ออก
เธอโพล่งออกมาแทบยังไม่ทันได้คิด “ท่านดยุก ยังมีฉัน ฉันดูแลนายได้”
ฉู่ฉู่กำลังประคองเขา ในขณะที่พูด เสียงใกล้ชิดมาก
จริงๆแล้วเซอร์ยุนซีไม่ค่อยมีประสบการณ์ใกล้ชิดกับผู้หญิงขนาดนี้มาก่อน ร่างที่สูงใหญ่แข็งทื่อไปทันที
เขามองดูหญิงสาวตัวเล็กอย่างอึดอัดที่กำลังถูกเขามองว่าเป็นไม้ค้ำแล้วใช้ ร่างเล็กนั้นกลับรวบรวมทุกเรี่ยวแรงเพื่อประคองเขา
“เอ่อ ขอบคุณนะ”
เซอร์ยุนซีพลางพูด ก็ยืดตัวขึ้นเล็กน้อย เก็บแรงที่พิงบนตัวของฉู่ฉู่ไปให้หมด
จริงๆแล้วแผลของเขาดูเหมือนจะสาหัส แต่ที่แท้ไม่ได้สาหัสขนาดนั้น แค่เจ็บเฉยๆ
แผลระดับนี้ เขาไม่ถึงขั้นเดินไม่ได้ เมื่อกี้ที่ตะโกนอย่างสำออย เป็นเพราะอยากให้เย้นหว่านเอ็นดูเขา
แต่กลับเอ็นดูไม่สำเร็จ ยังถูกแผลเล็กๆที่ไม่เห็นแม้แต่เลือดของโห้หลีเฉินหลอกไป
เซอร์ยุนซีโมโหมากๆ
จนเขารู้สึกแผลไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแล้ว เดินเข้าไปข้างในอย่างอึดอัดใจ
ไหนๆก็จะรักษาแผล ก็รักษาพร้อมกับโห้หลีเฉินด้วยกันและกัน
เดี๋ยวเย้นหว่านเห็นแผลที่น่าสยดสยองของเขา เต็มไปด้วยคราบเลือด คงจะเอ็นดูสงสารอยู่มั้ง?