สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 815 พี่ชายฉันร้อนใจอะไรอยู่

เย้นโม่หลินชะงักไปเล็กน้อย

จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ถ้าเขาไปก็จะต้องเจอกับกู้จื่อเฟย

คนที่เดิมทีคิดว่าชาตินี้จะไม่เจอกันอีกต่อไปแล้ว…..

ในใจเกิดความรู้สึกที่แปลกประหลาดขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ แยกไม่ถูกว่าเป็นความกังวลหรือร้อนรุ่ม

ลำคอของเขาตีบตัน ก่อนเอ่ยอย่างแข็งทื่อ

“เรื่องมันเกี่ยวพันถึงชั่วสุขชั่วชีวิตของเสี่ยวหว่าน ฉันก็ต้องมาจัดการด้วยตัวเองอยู่แล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฝั่งปลายของสายก็เงียบไป

ในสายโทรศัพท์ตกอยู่ในความเงียบสงัดอย่างแปลกประหลาด

เย้นหว่านมองพี่ชายของตัวเอง นึกถึงความสัมพันธ์ที่มีบุญและไร้วาสนาระหว่างเขากับกู้จื่อเฟย ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้กู้จื่อเฟยเจ็บปวดเสียใจแค่ไหน เธอก็ได้เห็นมากับตาแล้ว สุดท้ายกู้จื่อเฟยตัดใจยอมแพ้อย่างยากลำบากเท่าไหร่ เธอเองก็รู้

ตอนนี้กู้จื่อเฟยกลับเมืองหนานแล้ว แยกจากไม่พบเจอกับเย้นโม่หลิน เวลาสามเดือนอาจจะเพิ่งเดินออกจากความโศกเศร้าของการอกหักมาได้นิดหน่อย

ตอนนี้ถ้าเย้นโม่หลินจะไปอีก เกรงว่ากู้จื่อเฟยคงไม่รู้ควรจะเผชิญหน้ากับเขายังไง

ไม่อยากให้กู้จื่อเฟยเจอเย้นโม่หลินแล้วรู้สึกแย่อีก เย้นหว่านลังเลเล็กน้อยก่อนพูดขึ้น

“พี่ ในเมื่อคนคนนั้นอยู่ที่เมืองหนาน และก็เป็นเขตอิทธิพลของโห้หลีเฉิน พวกเราคุ้นเคยกับที่ทางที่นั่น งั้นฉันไปกับโห้หลีเฉินก็พอแล้ว”

“ไม่ได้”

เย้นโม่หลินแน่วแน่ “ที่เบียนหนานก็เพราะฉันไม่อยู่เธอถึงได้ไม่ได้รับความเป็นธรรมและการบาดเจ็บพวกนั้น ครั้งนี้ยังไงฉันก็ไม่ให้เธอไปเสี่ยงอยู่ลำพังหรอก”

เย้นหว่านพูดไม่ออกขึ้นมาทันที พูดมาแบบนี้เธอก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง

ในขณะที่เธอกำลังสับสน เย้นโม่หลินก็ตัดสินใจไปแล้ว

“ก็ตามที่ตกลงกันแบบนี้แหละ กู้จื่อเฟย คืนพรุ่งนี้พวกเราจะไปหาเธอที่นั่น”

ขมับของเย้นหว่านเต้นตุบๆ เธอไม่คิดมาก่อนว่าจะยังเกิดสถานการณ์ฉุกละหุกแบบนี้ขึ้นได้

หลังจากปลายสายเงียบไปสามวินาที ถึงส่งเสียงอันแสนแผ่วเบาของกู้จื่อเฟยออกมา

“ถ้าเป็นคืนพรุ่งนี้ ฉันคงจะไม่สามารถไปรับพวกคุณที่สนามบินได้ คืนพรุ่งนี้เป็นงานวันเกิดของคุณพ่อฉัน ฉันตกลงจะเป็นคู่ควงให้คนคนนั้นแล้ว”

รังสีรอบตัวของเย้นโม่หลินพลันเยือกแข็งในทันที

แววตาของเขาจ้องเขม็งไปที่โทรศัพท์ เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม “เธอยังไปตกลงอะไรกับเขาอีกไหม?”

กู้จื่อเฟยลังเลเล็กน้อยก่อนพูดเสียงเบา

“เสร็จจากงานเลี้ยง ก็ไปเดินเล่นกับเขา”

หยุดไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดเสริมขึ้น “หลังจากพวกคุณมาแล้ว ไม่ต้องมาที่บ้านของฉันก่อนก็ได้ รอข่าวจากฉันก็พอ เดิมทีแล้วพรุ่งนี้ฉันวางแผนว่าจะรวบรวมข้อมูลจากเขาสักหน่อย….”

“ไม่จำเป็น”

เย้นโม่หลินเอ่ยอย่างเย็นชา “ก่อนเราจะไป เธออย่าทำอะไรทั้งนั้น”

“แต่ว่า……”

“ฉันจะไปถึงก่อนงานเลี้ยง”

เย้นโม่หลินเอ่ยค้านอย่างไม่ยินยอม พูดจบก็ยื่นมือไปตัดสายทันที

เย้นหว่านถือโทรศัพท์มือถืออยู่ มองพี่ชายของตัวเองที่โกรธควันออกหูด้วยสีหน้างงงวย

ทำไมเขาถึงโมโหขนาดนั้น?

โกรธอะไรกัน?

ยังไม่ทันรอให้เธอเข้าใจ ก็พบว่าเย้นโม่หลินออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดที่กำลังกินข้าวอยู่อย่างหน้าดำคร่ำเครียด

“สามนาที เก็บกวาดขึ้นรถให้เรียบร้อย ออกเดินทาง”

กลุ่มบอดี้การ์ดตะลึงงัน แล้วมองไปที่อาหารที่เพิ่งจะเริ่มกินของตัวเอง แล้วเก็บไปด้วยใบหน้าหมดหวัง

เพราะเรื่องที่อยู่ในใจตกไป เมื่อขึ้นรถ เย้นหว่านก็กลับเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา

ด้วยเมื่อครู่เธอเป็นคนพูดว่าไม่กินเอง จึงเกรงใจที่จะพูดออกมา

ขณะกำลังคิดจะนอนไปด้วยความหิวสักงีบ ในตอนนั้นเอง เค้กชิ้นเล็กกลับยื่นมาตรงหน้าเธอ

ใบหน้าของโห้หลีเฉินแต้มรอยยิ้มอบอุ่น “เพิ่งทำออกมา กินเถอะ”

แม้ว่าจะกำลังเร่งรีบ แต่รถคันนี้แทบติดตั้งอุปกรณ์สำหรับดำเนินชีวิตไว้ครบถ้วน เตรียมส่วนผสมเอาไว้ทั้งหมด การทำเค้กสักก้อนเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก

เย้นหว่านมองเค้กก้อนเล็กตรงหน้า ก่อนรับมาทันทีอย่างดีอกดีใจ

“ที่รัก นายดีจริงๆ เลย”

ท้องที่ว่างเปล่าไม่ต้องทนหินต่อไปแล้ว

โห้หลีเฉินเลิกคิ้วมองเธอ พูดพลางยิ้ม

“ครั้งหน้าเอาแต่ใจไม่กินข้าวอีก ฉันจะไม่สนใจเธอแล้วนะ”

“นายไม่สนใจฉันไม่ลงแน่นอน”

หัวของเย้นหว่านถูไถในอ้อมแขนของโห้หลีเฉิน เธอรีบเปิดกล่องของเค้กชิ้นน้อยออก แล้วหยิบส้อมขึ้นมากินด้วยความพอใจ

รสชาติหอมหวานพลันละลายในปากและเติมเต็มกระเพาะของเธอทันที

เพราะรู้ที่อยู่ของหยิงหลิงแล้ว จึงเปลี่ยนเส้นทางโดยตรง ไม่กลับไปที่ตระกูลเย้นแล้ว เพียงแค่โทรไปรายงานความปลอดภัยกับพ่อแม่ตระกูลเย้นเท่านั้น

ระหว่างทาง แทบจะไม่เคยได้พักผ่อน คนขับรถล้วนต้องผลัดเวียนกันขับ

ในที่สุดในตอนสายของวันถัดมา ก็มาถึงเมืองหนานแล้ว

ลงจากเครื่องบินส่วนตัวมาแล้ว เย้นหว่านก็มองเห็นบ้านหลังใหญ่ที่คุ้นเคยของตระกูลโห้อยู่ไกลๆ

และยังมีท่านอาวุโสผมสีเงินที่ยืนต้อนรับพวกเธออยู่ไม่ไกลออกไป

รอยยับย่นเต็มใบหน้าของเธอเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย บนใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มที่คุ้นเคย ดูท่าทางอ่อนโยนมาก

ทันใดนั้นเบ้าตาของเย้นหว่านก็เริ่มแดงขึ้นมา

ตั้งแต่เธอจากไป เธอก็ไม่เคยกลับมาที่เมืองหนานอีกเลย และยังไม่เคยได้พบกับคุณย่าโห้อีกเลย

“คุณย่า”

เย้นหว่านเดินเข้าไปหาเธออย่างสะอึกสะอื้น

จูเหลียนอีงเองก็เดินมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาเต็มไปด้วยความเมตตาและอ่อนโยน เธออ้าแขนกอดเย้นหว่านเอาไว้

น้ำเสียงนุ่มนวลอย่างมาก “เสี่ยวหว่านเอ๊ย ในที่สุดหนูก็กลับมา ย่าคิดถึงแทบแย่แล้ว”

“คุณย่า หนูก็คิดถึงย่ามากเลย”

น้ำตาของเย้นหว่านร่วงลงมาอย่างห้ามไม่อยู่

ความรู้สึกผูกพันทำให้ในใจเธออบอุ่นขึ้นมา

ตอนแรก เธอแทบจะหนีไปจากเมืองหนาน ก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องกลับมา ตอนนี้ได้มาเหยียบอีกครั้ง ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างมากมายทำให้เธอแสดงสีหน้าประทับใจออกมา

ที่นี่ ยังมีคนที่เธอชอบและห่วงใย

แผ่นดินผืนนี้ เป็นที่ที่ทำให้เธอเติบโตและคุ้นเคยที่สุด

ความรู้สึกที่กลับมา ราวกับแม้แต่อากาศก็ไหลผ่านไปอย่างใกล้ชิด

“เด็กดี กลับมาแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนย่าเยอะๆ หน่อยนะ ย่าเตรียมของที่หนูชอบกินเอาไว้เยอะแยะเลย”

จูเหลียนอีงมองเย้นหว่านอย่างพึงพอใจ ก็ยิ่งชอบใจมากยิ่งขึ้น

แม้เธอจะดีกับเย้นหว่าน และยังชอบเธอด้วยใจจริง แต่ตอนแรกที่ต้องการให้โห้หลีเฉินแต่งเย้นหว่านเป็นภรรยา แท้จริงก็เพื่อจะใช้ประโยชน์จากเย้นหว่านจากฐานะอันร่ำรวยของตระกูลเย้น

ตอนนี้เย้นหว่านรู้ทุกอย่างแล้ว แต่ก็ไม่มีความคิดที่จะตำหนิเธอเลยแม้แต่น้อย ช่างเป็นเด็กที่มีจิตใจกว้างขวางจริงๆ

เป็นเด็กดีคนหนึ่ง

เย้นหว่านนั้นอยากจะรำลึกความหลังกับคุณย่าโห้มาก และอยู่เป็นเพื่อนท่านให้เต็มที่ แต่ตอนนี้เธอยังมีเรื่องด้วยต้องทำ ไม่มีเวลามากนัก

เย้นหว่านพูดอย่างลำบากใจ

“คุณย่าคะ พวกเราต้องรีบไปที่บ้านของกู้จื่อเฟยทันทีเพื่อทำธุระนิดหน่อย เวลามีไม่มากแล้วล่ะค่ะ พอเสร็จเรื่องยุ่งแล้วค่อยกลับมาหาย่าอีกครั้งนะคะ?”

“ต้องรีบเหรอ?”

ใบหน้าของจูเหลียนอีงแสดงความเสียดาย แต่ก็เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาในทันที “งั้นก็รีบไปจัดการธุระเถอะ ย่าไม่เป็นไร จะรอพวกหนูอยู่ที่บ้านนะ”

เมื่อเห็นหญิงชราเข้าใจและมีเหตุผล ในใจของเย้นหว่านก็อบอุ่นขึ้นมาอีกครั้ง

โห้หลีเฉินที่ยืนอยู่ข้างเย้นหว่านเอ่ยขึ้น “คุณย่า งั้นพวกเราไปก่อนนะครับ”

“ได้สิ ได้สิ” จูเหลียนอีงมองไปยังโห้หลีเฉินด้วยความรัก แล้วพยักหน้า “รถเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ”

มองเห็นไม่ไกลออกไป มีรถหรูมาจอดอยู่หลายคัน

ไม่นานจากนั้นเย้นโม่หลินก็ลงมา พยักหน้าให้กับจูเหลียนอีงอย่างสุภาพ แล้วจึงเดินไปที่รถอย่างไม่ชักช้า

ตอนนี้ก็สี่โมงกว่าแล้ว รีบไปถึงที่บ้านกู้จื่อเฟยเกรงว่าจะถึงห้าโมงเข้าไปแล้ว

งานเลี้ยงก็ใกล้จะเริ่มแล้ว

ในระหว่างนั้น ยังไม่แน่ว่าลูกเศรษฐีนั่นจะวิ่งไปหากู้จื่อเฟยอีกรึเปล่า

คิดแล้วฝีเท้าของเย้นโม่หลินก็ยิ่งเร็วขึ้นอีก และยังเร่งรัดกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใจร้อน “ชักช้า รีบๆ หน่อย”

ทันใดนั้น เย้นหว่านก็ตกอยู่แถวท้ายสุด “…..”

เธอเงยขึ้นมาโห้หลีเฉิน เอ่ยอย่างงุนงง “ทำไมพี่ชายฉันถึงรีบร้อนขนาดนั้น?”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset