“เป็นเรื่องจริง เรื่องจริง”
เย้นหว่านพูดตอบคำถามตัวเอง18รอบจนหูแทบจะชาหมดแล้ว
ที่โห้หลีเฉินไม่ได้ให้คนไปขวางรั้งฝู้เหวยข่ายเอาไว้ ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งก็คือปล่อยเสือเข้าป่าไปก่อน ให้เขาหนีกลับไปยังตระกูลฝู้
เขานึกว่าเขาจะได้เรียกกำลังเสริม แต่จริงๆแล้ว คนของโห้หลีเฉินคอยตามอยู่ข้างหลังของเขาตั้งนานแล้ว มุ่งไปที่ตระกูลฝู้
มีข้อมูลและฝู้เหวยข่ายที่ช่วยในการนำทาง การที่จะหาตระกูลฝู้จนเจอเป็นเรื่องที่แม่นยำและรวดเร็วมาก
โห้หลีเฉินก็มีเรื่องที่ต้องทำเหมือนกัน หลังจากที่กลับไปที่ตระกูลกู้แล้ว ก็เข้าในห้องหนังสือเริ่มจัดเตรียมคนทันที
จริงๆฝู้เหวยข่ายหนีไปแล้ว พวกเขาจะไม่มาก่อเรื่องที่ตระกูลกู้อีกแล้วแน่ๆ บ้านวิลล่าของตระกูลโห้หรือไม่ก็ตระกูลเย้นก็เหมาะที่จะอยู่ แต่กลับไม่มีใครเสนอว่าให้ย้ายไปเลยอย่างน่าแปลกใจ
ที่พวกโห้หลีเฉินคิดเอาไว้ก็คือให้เย้นโม่หลินกับกู้จื่อเฟยได้มีโอกาสอยู่ด้วยกัน กระชับความสัมพันธ์กันต่อ
ส่วนเย้นโม่หลิน ก็เหมือนกับไม่อยากจะไปเหมือนกัน
ส่วนกู้จื่อเฟย เป็นเจ้าบ้านก็ยิ่งไล่แขกออกจากบ้านไม่ได้ด้วย บวกเข้ากับ เธอมีความสุขอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ตั้งหน้าตั้งรอที่จะเห็นเย้นโม่หลินอยู่ตลอดเวลา
เธอรับประกันแล้วว่าทั้งหมดนี้มันไม่ใช่ความฝัน
โห้หลีเฉินกำลังยุ่งอยู่ เย้นโม่หลินกับป่ายฉีก็ไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เย้นหว่านกับกู้จื่อเฟยแค่สองคนที่กำลังกินอาหารด้วยกัน
กู้จื่อเฟยกินไปได้ไม่กี่คำ เธอเอาแต่พูด เอาแต่ถาม ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างปกปิดเอาไว้ไม่ได้อยู่ตลอดเวลา
รู้สึกล่องลอย เพ้อฝันไม่ใช่ความจริงตั้งแต่ต้นจนจบ
“เสี่ยวหว่าน ฉันเหมือนกำลังฝันอยู่เลย ทั้งหมดนี้มันไม่จริงใช่ไหม คนที่หยิ่งยโส ไม่สนใจไม่แยแสอะไรทั้งนั้นแบบเย้นโม่หลิน จะยอมมอบหัวใจยอมพลีกายถวายตัวให้กับฉันทั้งชีวิตเพียงเพราะนอนด้วยกันแค่คืนเดียวได้ยังไงกัน?”
เย้นหว่านชำเลืองตามองท่าทีที่มีความสุขแต่กลับกระวนกระวายไม่สงบนิ่งของกู้จื่อเฟย ก็ส่ายหัวอย่างหมดหนทาง
เธอคิดถึงตอนที่ตัวเองคบกับโห้หลีเฉิน ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีความมั่นใจ รู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่ออยู่แบบนี้เหมือนกัน
ถึงยังไงผู้ชายที่เคยปลาบปลื้มชื่นชม เป็นสิ่งที่อยู่ในใจที่ไม่สามารถแตะต้องได้
แต่ผ่านไปไม่นาน กลับกลายเป็นคนที่สามารถมาจูงแขนกุมมือกันได้แล้ว
เย้นหว่านเข้าใจความรู้สึกของกู้จื่อเฟยเป็นอย่างดี พูดยิ้มๆ
“แม้ว่าพี่ชายของฉันจะอนุรักษ์นิยมอย่างสุดโต่งขนาดไหน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะยอมพลีกายถวายตัวมอบหัวใจให้เพียงเพราะนอนด้วยกันแค่คืนเดียวหรอกนะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้จื่อเฟยชะงักลงทันที ความรู้สึกไม่แน่ใจที่อยู่ในใจเริ่มเพิ่มมากขึ้น รู้สึกตื่นตระหนก
จริงๆแล้วลึกๆในใจของเธอก็รู้สึกแบบนี้ แม้ว่าเย้นโม่หลินจะอนุรักษ์นิยม แต่ก็ไม่ควรจะทำถึงขั้นนี้
ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเจอมาก่อนหน้านี้ ล้วนแต่เป็นของปลอมอย่างนั้นเหรอ?
เป็นแค่ความเพ้อฝันอย่างที่คิดไว้อย่างนั้นเหรอ
เย้นหว่านเหลือบตามองท่าทางที่วิตกกังวลของกู้จื่อเฟย ยิ้มๆ ก่อนจะพูดขึ้นต่อ
“ถ้าเมื่อคืนเป็นผู้หญิงคนอื่น ฉันเชื่อว่าพี่ชายของฉันจะหาวิธีการต่างๆมากมายมาจัดการกับปัญหานี้ ก่อนอื่น เขาจะให้บอดี้การ์ดที่คุณสมบัติไม่เลวมาจัดการระบายความต้องการให้ ถึงยังไงข้างกายของเขา ก็มีผู้ชายที่คอยทำตามคำสั่งอยู่เยอะแยะมากมาย อย่างที่สอง ต่อให้สุดท้ายจะเป็นเขาเองที่ร่วมหลับนอน เขาก็มีวิธีการมากมายในการชดใช้ให้กับอีกฝั่ง เงิน อำนาจ เป็นตัวเลือกแรกของเขา เขาไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองเขาไปเกี่ยวข้อง ไม่จำเป็นต้องให้ตำแหน่งคุณนายตระกูลเย้นกับใคร ถึงยังไงที่พูดถึงหลักเหตุผลนี้ การจะช่วยระบายความต้องการ มันเป็นการยินยอมของทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างมีส่วนได้เสีย สุดท้าย เขากลับเลือกที่จะพลีกายถวายตัวมอบหัวใจของตัวเอง มีเพียงแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นก็คือ อีกฝั่งเป็นคุณนั่นเอง”
กู้จื่อเฟยอึ้งเหม่อลอยไป
เพราะว่าเป็นเธอ?
ทำไม?
พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ใจของเธอก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ แทบจะเด้งหลุดออกมาจากอก
เสียงของเธอแข็งทื่อ เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ”เขาไม่ชอบฉัน เกลียดฉันมาตลอด……”
“แต่สิ่งที่คนที่คอยดูอย่างข้างๆแบบพวกเราเห็น ก็คือเขาชอบคุณ”
เย้นหว่านยิ้ม น้ำเสียงมั่นใจ
กู้จื่อเฟยสีหน้าเหลือเชื่อ พูดเถียงกลับไปทันที”คุณมองผิดไปมากกว่า”
“คุณรู้ไหมว่าวันนั้นตอนที่กลับไปเมืองหนาน ทำไมพวกเรารีบไปก่อนงานเลี้ยง?”เย้นหว่านพูดถามขึ้น
กู้จื่อเฟยส่ายหัว ที่เธอคิดก็คือเพื่อที่จะดำเนินแผนการที่จะจัดการกับฝู้เหวยข่ายก่อน แต่ในเมื่อตอนนี้เย้นหว่านถามมาขนาดนี้แล้ว จะต้องไม่ใช่แค่สาเหตุนี้แน่นอน
เย้นหว่านพูดขึ้น”เพราะว่าพี่ชายของฉันได้ยินว่าคุณกะที่จะเอาตัวเองเข้าแลก เพื่อที่จะเป็นคู่ควงของฝู้เหวยข่ายยังไงล่ะ เขาก็เลยรีบให้ทุกคนยกเลิกเวลาพักผ่อนทั้งหมด ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนอย่างไม่หยุดไม่หย่อนเพื่อเดินทางมาถึงให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้คุณไปเป็นคู่ควงของฝู้เหวยข่ายแค่นั้น”
กู้จื่อเฟยเหม่อลอยด้วยความตกตะลึง เธอไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่ามันมีเหตุผลนี้แฝงอยู่เบื้องหลัง
พอคิดดูแล้ว ตอนนั้นจริงๆแล้วเธอเป็นคนที่สะดวกที่สุดแล้วในการขุดความลับของฝู้เหวยข่าย แต่เย้นโม่หลินกลับดึงดันที่จะเป็นคู่ควงของเธอให้ได้ ใช้วิธีการที่ได้รับความเสียหายเยอะที่สุดในการเผชิญหน้ากับฝู้เหวยข่าย
ทำให้เกิดสงครามธุรกิจในเมืองหนานในช่วงเวลานี้ ทำให้โห้ถิงต้องสั่นคลอนเกิดปัญหาอุปสรรคต่างๆมากมาย
แม้ว่าเรื่องพวกนี้จะอยู่ในการคาดการณ์ของพวกเขา แต่สงครามธุรกิจรอบนี้ ก็เกิดความสูญเสียอย่างหนักด้วยกันทั้งคู่
แถมทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เย้นโม่หลินทำเพื่อเธอก็ว่าได้
เขากำลังหึงหวง
เย้นหว่านมุมปากยิ้ม พูดขึ้นอย่างเบาๆ
“จริงๆแล้วคุณรู้จักนิสัยของพี่ชายของฉันไม่มากก็น้อย เรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่สนใจไม่แยแสอะไรทั้งนั้น ก่อนหน้านี้นอกจากคนในครอบครัวแล้ว ไม่มีใครคนไหนอยู่ในสายตาของเขาเลยสักคน แต่คุณเป็นข้อยกเว้น เขาสนใจในตัวคุณโดยไม่รู้ตัว อารมณ์ความรู้สึกถูกคุณชักจูงไปหมดแล้ว ทุกครั้งที่คุณลุงกู้จับคู่ให้คุณกับป่ายฉี เขาก็มักจะสีหน้าดำมืดอยู่ตลอด เป็นท่าทางของการหึงหวงชัดๆ”
มีเรื่องตั้งมากมายขนาดนี้ ถ้าจะบอกว่าเย้นโม่หลินไม่ชอบกู้จื่อเฟย เธอก็ไม่เชื่อแล้ว
ต่อให้เป็นกู้จื่อเฟย ก็หาคำพูดมาพูดหักล้างไม่ได้เหมือนกัน
พวกรายละเอียดยิบย่อยที่ถูกเธอละเลยไปในช่วงที่ผ่านมา ตอนนี้ดันถูกเย้นหว่านพูดโน้มน้าวได้อย่างง่ายดาย
ใจของเธอเต้นแรงอย่างไม่หยุดหย่อน ที่แท้ ที่แท้เย้นโม่หลินชอบเธออย่างนั้นเหรอ?
ระเบิดลูกใหญ่นี้ มันสะเทือนใจซะยิ่งกว่าที่เย้นโม่หลินบอกว่าจะรับผิดชอบเธอเสียอีก
เธอนึกว่าตอนนี้การที่เธอมีโอกาสที่จะได้อยู่ด้วยกันกับเขาแค่นั้น เธอนึกว่าการที่จะทำให้เขาชอบเธอได้ อาจจะเป็นหนทางที่ยังอีกยาวไกลด้วยซ้ำ
“แต่ว่า ทำไมเมื่อตะกี้ตอนฉันพูดว่าการแต่งงานมันต้องใช้ความรักซึ่งกันและกัน เขากลับบอกว่าไม่ได้รักฉัน”
มาถึงขั้นนี้แล้ว บอกตรงๆไปแล้วว่าจะคบกัน เย้นโม่หลินก็ควรจะสารภาพออกมาได้แล้ว
พอได้ยินแบบนั้น เย้นหว่านกลับยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
“พี่ชายของฉันน่ะ เขาไม่รู้จริงๆ”
กู้จื่อเฟยตกตะลึง สีหน้านิ่งชะงัก
เย้นหว่านพูดอธิบายขึ้นต่อ”เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนอยู่ในสายตามาก่อน แล้วก็ยิ่งไม่รู้ด้วยว่าความรักความชอบมันเป็นความรู้สึกยังไง เขาอาจจะชอบคุณมาตั้งนานแล้ว แต่เขาอาจจะไม่รู้ตัว”
หยุดไปสักพัก เย้นหว่านก็ยิ้มแย้มขึ้นมากกว่าเดิม”พูดให้ถูกก็คือ ตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้”
พฤติกรรม ท่าทีทั้งหมดที่มีต่อกู้จื่อเฟย ล้วนแต่เป็นสัญชาตญาณทั้งนั้น
กู้จื่อเฟยเหม่อไปแล้ว ผ่านไปสักพัก”อุ๊บ”ก็มีเสียงหลุดขำดังขึ้นมา
ใบหน้าร่าเริงสดใส
“โอ้ ที่แท้เสน่ห์ของฉันก็มากมายเหลือล้นนี่เอง!ถ้ารู้อย่างนี้ เมื่อตะกี้ฉันรับปากที่จะแต่งงานกับเขาให้เร็วๆไปแล้ว!”
เย้นหว่าน”……”
ผู้หญิง ต้องรักนวลสงวนตัวไม่ใช่เหรอ?