“เป็นไปได้ สู้พวกเราลองดูเดี๋ยวก็รู้แล้ว”
กู้จื่อเฟยสายตาสั่นเป็นประกาย”ลองยังไง?”
เรื่องแบบนี้ มันลองได้ด้วยเหรอ?
เย้นหว่านคิดๆ มุมปากยกขึ้นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จูงกู้จื่อเฟยเข้ามากระซิบที่ข้างๆหู
กู้จื่อเฟยฟังจบ แก้มก็เริ่มแดงเล็กน้อย ใบหน้าดูเขินอายไม่น้อย
“แบบนี้มันน่าละอายใจเกินไปไหม?”
เย้นหว่านขยิบตาพร้อมกับผลักไหล่ของกู้จื่อเฟย”หรือคุณไม่อยาก?”
กู้จื่อเฟยหันตัววิ่งออกไปข้างนอกด้วยความเขินอาย
แน่นอนว่าเธออยากอยู่แล้ว!
เย้นหว่านมองท่าทางเหมือนกับสาวน้อยของกู้จื่อเฟย อารมณ์ดีสุดๆ เพื่อนที่สนิทที่สุดของตัวเอง พี่ชายที่รักที่สุดของตัวเอง
คนสองคนที่ดีขนาดนี้มาคบกัน จะต้องมีความสุขได้แน่ๆ
ดีจริงๆ
เธอยิ้ม ตามกู้จื่อเฟยออกไป
ผ่านไปสิบนาที เย้นหว่านกับกู้จื่อเฟยเดินมาอยู่ในสวนแล้ว
เย้นโม่หลินที่กำลังดื่มชามองพวกเธอเดินเข้ามา แววตาขยับเล็กน้อย สายตาหันมองไปหยุดที่กู้จื่อเฟยอย่างไม่ได้ตั้งใจอยู่ประมาณหนึ่งวินาที
เย้นหว่านยิ้มเดินตรงเข้าไป”พี่ ไม่ทำงานแล้วเหรอ?”
“อื้อ”เย้นโม่หลินพยักหน้า”แค่รอฝู้เหวยข่ายกลับถึงตระกูลเท่านั้น”
เย้นหว่านพูดยิ้มๆ
“พวกเราก็เดินเล่นที่นี่พอดีเลยเหมือนกัน รู้สึกกระหายน้ำนิดหน่อย จะขอจิบชาของพี่สักแก้วได้ไหม?”
เย้นโม่หลินพูดอย่างรักและเอ็นดู”เธออยากดื่ม พี่ก็ต้องให้ดื่มอยู่แล้ว มา มานั่งสิ”
เย้นหว่านจูงกู้จื่อเฟยไปที่นั่งที่โต๊ะ แถมยังจงใจจัดแจงให้กู้จื่อเฟยนั่งตรงที่นั่งใกล้ๆเย้นโม่หลินอีกด้วย
เย้นโม่หลินหยิบกาน้ำชาขึ้นมา รินให้กับเย้นหว่านและกู้จื่อเฟย
ก่อนจะพูดขึ้นอย่างสง่างาม”นี่เป็นชาเฟิงฉา ขมนิดหน่อย ถ้าดื่มไม่ชินล่ะก็ เดี๋ยวผมจะให้คนไปเปลี่ยนให้”
“ฉันดื่มได้ ฉันก็ชอบดื่มชาที่รสขมนิดๆเหมือนกัน”
กู้จื่อเฟยหยิบแก้วชาขึ้นมา จิบไปหนึ่งจิบ
เข้าปากไปแล้วขมมาก แต่หลังจากผ่านไปสักพัก ก็ส่งกลิ่นหอมไปทั่วปาก เป็นชาชั้นดี
เย้นโม่หลินมองกู้จื่อเฟยดื่มชา ในแววตาก็มีประกายเล็กน้อย เป็นหนึ่งในชาที่เขาชอบดื่มมากๆ เธอก็ชอบเหมือนกัน
ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้เขาอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก
เย้นหว่านมองชาตรงหน้า กลับลังเลอยู่ไม่น้อย เธอไม่ชอบดื่มชารสขม ชอบแต่ลูกอมหวานๆ
เย้นหว่านไม่ได้หยิบแก้วชา หันมองไปรอบๆ จงใจพูดขึ้นอย่างประหลาดใจ
“ว้าว ดอกไม้พวกนี้บานสวยจริงๆ”
พอได้ยินแบบนี้ กู้จื่อเฟยก็รู้ว่าเย้นหว่านจะแสดงละครตามสคริปต์แล้ว รู้สึกกดดันอย่างช่วยไม่ได้
แววตาที่สั่นไม่นิ่งหันออกจากเย้นโม่หลิน เธอก็มองไปรอบๆเช่นเดียวกัน
พยักหน้าตอบรับ”อื้อ สวยมากๆ ตอนนี้เป็นฤดูที่ดอกไม้กำลังบานพอดี ด้านหน้ามีดอกกุหลาบด้วยนะ”
“ดอกกุหลาบก็มีเหมือนกันเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณพาฉันไปดูสักหน่อยสิ ฉันชอบดอกกุหลาบที่สุดเลย มันแสดงถึงความรักอันงดงาม”
เย้นหว่านหรี่ตามองกู้จื่อเฟยพร้อมกับพูดขึ้น”จื่อเฟย คุณชอบดูซีรี่ส์เกาหลีมากที่สุดเลยไม่ใช่เหรอ? ฉันจำได้ว่าคุณเคยบอก ว่าคุณชอบ คุณชอบที่สุดคือฉากหนึ่งในเรื่องตอนที่พระเอกสารภาพกับนางเอก หอบเอาดอกกุหลาบ99ดอกมา แล้วท่ามกลางดอกไม้ก็ยังมีแหวนวางไว้อยู่หนึ่งวงด้วย”
กู้จื่อเฟยแก้มแดง สายตาหันไปมองเย้นโม่หลินอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะดึงสายตากลับมาอย่างลนลาน
เธอพูดขึ้น”อื้อ นั่นเป็นฉากที่ฉันชอบที่สุดในซีรี่ส์เกาหลี โรแมนติกมากๆ”
“ฮ่า ถ้าเกิดมีคนหอบดอกกุหลาบ99ดอกมาขอคุณแต่งงาน คุณจะตอบรับทันทีเลยใช่ไหม?”
กู้จื่อเฟยแววตาสั่นเป็นประกาย พยักหน้าเบาๆ
“อื้อ”
ขณะกำลังครุ่นคิด เธอแอบหันมองเย้นโม่หลิน เห็นเขากำลังถือกาน้ำชา รินชาอย่างสง่างาม
ท่าทางสง่างามดูแพง สีหน้านิ่งเฉยไม่สนใจ
ท่าทางแบบนั้น ราวกับไม่มีความตื่นเต้นดีใจใดๆทั้งสิ้น แล้วก็ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูดกับเย้นหว่านเลยด้วยเหมือนกัน
แล้วก็ยิ่งดูไม่มีทีท่าเหมือนจะไปซื้อดอกกุหลาบเลยด้วย
ใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของกู้จื่อเฟยยิ่งกระวนกระวายมากขึ้น ไม่มั่นใจจริงๆ ว่าแบบนี้จะสามารถทดสอบจิตใจและท่าทีของเย้นโม่หลินที่มีต่อเธอได้ไหม?
อย่างน้อย ตอนนี้ก็ไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
เย้นหว่านพอเห็นท่าทางที่ไม่สะทกสะท้านของพี่ชายตัวเอง ก็นวดขมับอย่างปวดหัว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคิดอะไรกันแน่
อุตส่าห์ช่วยใบ้ช่วยเตือนจนมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาจะไปเตรียมดอกกุหลาบมาขอแต่งงานไหม?
เย้นหว่านก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เธอกลับไม่ท้อถอย หยิบแก้วชาขึ้นมาจิบไปหนึ่งคำ ก่อนจะพ่นออกมาทันที
“ถุ้ยๆๆ ขมมาก”
เธอวางแก้วชาไปไว้ไกลๆ ก่อนจะพูดกับเย้นโม่หลิน”พี่ ฉันไม่อยากดื่มอันนี้ เปลี่ยนชาเถอะ”
ท่าทางที่กำลังรินชาเฟิงฉาของเย้นโม่หลินก็หยุดลง แต่ไม่มีท่าทีหมดความอดทนเลยสักนิด
หยิบมือถือขึ้นมาพูดสั่งในสาย”เปลี่ยนเป็นชาที่หวานดื่มง่ายๆหน่อย”
น้องสาวอยากดื่มอะไร ทำให้ได้แน่นอนอยู่แล้ว
ไม่นาน ก็มีลูกน้องเอาใบชาแล้วก็อุปกรณ์ดื่มชามาให้ใหม่
เย้นโม่หลินก็กำลังจะชงชาอีกครั้ง จู่ๆกู้จื่อเฟยกลับยื่นมือเข้ามา คว้ากาน้ำชาเอาไว้
“ให้ฉันลองหน่อยสิ ฉันสนใจเรื่องการชงชามาตลอด แต่ไม่มีโอกาสได้ลองเลย”
เย้นโม่หลินก็ดึงมือที่กำลังจะจับกาน้ำชากลับมาทันที
พูดตอบรับอย่างยินดี”ได้สิ”
กู้จื่อเฟยหยิบกาน้ำชาขึ้นมา จากนั้นก็รินน้ำอุ่นลงไปในแก้ว ล้างชา ต้มชา
ทุกการกระทำ เห็นได้ชัดว่าเธอทำได้อย่างไม่คล่องมือ แถมยังถามเป็นระยะๆว่าทำถูกไหม
เย้นโม่หลินตอบกลับไปอย่างใจเย็น
เหมือนกับเห็นท่าทางที่ไม่คล่องมือของเธอแล้วไม่ไว้วางใจ สายตาจับจ้องการกระทำของเธออย่างไม่กะพริบตา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นกับเธอ
จากนั้น ก็เป็นอย่างที่เขาคาดเอาไว้
ตอนที่กู้จื่อเฟยรินชาอีกครั้ง มือลื่น ตาเห็นน้ำชาที่ไหลออกมากำลังจะโดนมือของเธอ
“ระวัง!”
เย้นโม่หลินหูไวตาไว คว้ามือของกู้จื่อเฟยที่กำลังจับชาอยู่ จูงมือของเธอถอยออกมาข้างๆ
ชาเทรดลงบนถาดรอง
กู้จื่อเฟยอึ้งตะลึง มองมือของทั้งสองคนที่กำลังประสานกันอย่างเหม่อลอย
ฝ่ามือของเขาอุ่นมาก ใหญ่ราวกับเหมือนมีไฟกำลังแผดเผาอยู่
เย้นโม่หลินขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากที่มองอย่างละเอียดแล้วว่าอีกมือหนึ่งของกู้จื่อเฟยไม่ได้รับบาดเจ็บ ก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
จากนั้นหยิบกาน้ำชามาจากมือของกู้จื่อเฟย”เดี๋ยวผมรินเอง”
น้ำเสียงน่าเกรงขาม อย่างไม่ต้องสงสัย
กู้จื่อเฟยนั่งเหม่อลอย มองท่าทางของเย้นโม่หลิน สายตาสั่นกระส่ายไม่หยุด หัวใจเต้นแรงราวกับกวางกำลังกระโดดโลดเต้น
“แฮ่มๆ”
เย้นหว่านชำเลืองตามองกู้จื่อเฟยที่กำลังเคลิบเคลิ้ม ไอกระแอมเตือนสติเธอ
อย่าลืมเรื่องที่ต้องทำล่ะ
กู้จื่อเฟยจึงดึงสติกลับมา มองเย้นหว่านด้วยความอึดอัด พยักหน้าเบาๆ
แม้ว่าจะมีภาพที่สวยงามอยู่ตรงหน้า แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ลืมเป้าหมายในตอนนี้
ท่าทางรินน้ำชาของเย้นโม่หลินชำนาญมาก เหมือนกับเขาทำแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ดูสง่างามและดูดี
เขารินน้ำชาสองแก้วใหม่อีกครั้ง วางแก้วชาลงตรงหน้าของกู้จื่อเฟยและเย้นหว่าน
“ขอบคุณ”
กู้จื่อเฟยมองแก้วชาที่ร้อนกรุ่นตรงหน้า ตั้งมั่นในใจ ยื่นมือออกไปหยิบขึ้นมา แต่มือกลับสั่นเล็กน้อย น้ำชาก็เลยล้นออกมาจากข้างในแก้ว หยดลงบนนิ้วมือของเธอ
“โอ้ย เจ็บ”
กู้จื่อเฟยร้องออกมาด้วยความเจ็บ