สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 904 เมื่อไหร่จะแต่งงาน

เมื่อเห็นว่าป่ายฉีจริงใจและมองโลกในแง่ดีเย้นโม่หลินคิดเกี่ยวกับมันก่อนที่จะพูดช้าๆ

“นายไม่ต้องทำอะไรแค่บอกฉันมาว่าทำไมกู้จื่อเฟยถึงบอกว่าชอบสภาพฉันหลังจากที่เมาเหล้า?”

ป่ายฉีทำหน้าเป็นปริศนา น้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ

“อะไรนะ?”

เย้นโม่หลินขมวดคิ้วและน้ำเสียงขรึม “ถ้าฉันทำตามที่เธอบอก ดื่มเหล้าเมาบ่อยๆ แล้วจะได้รักกับเธอเร็วขึ้นงั้นเหรอ?”

ป่ายฉี “…”

เขาตกตะลึงและพูดอะไรไม่ออก

อะไรวะเนี่ย จริงจังขนาดนี้ หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตั้งนาน ไม่ใช่เพราะเรื่องใหญ่โตอะไร แต่เป็นเพราะผู้หญิงคนเดียวอย่างกู้จื่อเฟยเนี่ยนะ?

แล้วยังจะมาสงสัยว่าทำไมกู้จื่อเฟยถึงได้ชอบเขาเวลาเมาอย่างนั้นเหรอ?

ป่ายฉีโมโหจนอยากจะทุ่มโต๊ะ แถมยังรู้สึกว่าจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนโดนยัดปากด้วยข้าวหมามีพิษ

“พี่ไม่เข้าใจ?”

เย้นโม่หลินหันไปมองป่ายฉีและค่อยๆ เย็นลง “ไม่ได้จริงๆ หลีกไป อย่ามาขวางหูขวางตา”

ป่ายฉี “…” จู่ๆ ก็โดนรังเกียจอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เขารู้สึกน้อยใจจนเกินจะบรรยาย

นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขามีความสามารถไม่พอ แต่มันเป็นปัญหาที่ไม่ปกติต่างหากล่ะ!

เย้นโม่หลินไม่สนใจป่ายฉีอีกแล้วหันหน้ากลับไปจ้องมองแก้วไวน์ต่อ

มัวแต่คิดว่าจะเมาดีไหมให้มันสาแก่ใจเธอ

ถึงแม้ว่าเข้าจะไม่ค่อยเข้าใจจริงๆ ว่าทำไมกู้จื่อเฟยถึงได้ชอบเวลาที่เขาเมา เห็นชัดๆ ว่าเขาดูโง่เง่าแถมเวลาเมายังไม่ค่อยจะมีสติด้วย

“ความรัก” แบบนี้กับสิ่งที่เขาเข้าใจนั้นมันต่างกันมากเลย

แต่นี่คือสิ่งที่กู้จื่อเฟยพูดออกมา เขาก็อยากจะลองสักหน่อย…

คิดดูแล้ว แววตาของเย้นโม่หลินก็ลึกล้ำและยกแก้วไวน์แตะริมฝีปากและดื่มมันจนหมด

จากนั้นก็เทแก้วที่สอง

ป่ายฉีเห็นแล้วเส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเย้นโม่หลินคิดจะทำอะไร

เพี้ยนจริงๆ

เขาจึงรีบเข้าไปแล้วแย่งขวดไวน์มาอย่างรวดเร็ว

สายตาที่เย็นเฉียบของเย้นโม่หลินแทงทะลุร่างของป่ายฉีทันที และในทันที อากาศเย็นๆ ก็พุ่งตรงไปตั้งแต่หัวจรดเท้า

เมื่อตระหนักถึงอันตราย ป่ายฉีจึงถอยหลังไปสองก้าวแทบจะตามสัญชาตญาณ

และรีบอธิบาย “พี่ใหญ่ พี่คงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ! ผมไม่ใช่จะไม่ให้พี่ดื่มเหล้า ตะ…แต่กู้จื่อเฟยไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เธอไม่ได้บอกให้พี่ดื่มเหล้า แต่เธอแค่อยากจะให้พี่ทำตัวเหมือนตอนเมาในเวลาที่ไม่ได้เมา ใช่ แบบนั้นแหละ

กู้จื่อเฟยอยากให้พี่แสดงออกซึ่งความใกล้ชิดเธอ ในเวลาที่พี่ไม่ได้เมา อันที่จริงเธอชอบที่พี่เป็นฝ่ายเข้าหาเธอ”

ป่ายฉียิ่งพูดยิ่งรู้สึกว่ามีเหตุผลและมั่นใจมากขึ้น

แน่นอนว่าเขาจะปล่อยให้เย้นโม่หลินเข้าใจผิดว่าจะต้องเมาถึงจะจีบสาวได้ ไม่อย่างนั้น นายน้อยของตระกูลเย้นคงจะต้องดื่มเหล้าจนเมาเหมือนหมาอยู่ในบ้านตระกูลหยู แล้วทำเรื่องเหมือนตอนบ้านตระกูลกู้ แบบนี้ตระกูลเย้นจะเหลือหน้าตาอะไร?

เมื่อได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของเย้นโม่หลินก็ดูแย่ยิ่งกว่าเดิม

ให้ทำเรื่องแบบตอนเมาในตอนที่ไม่เมา?

ทำตัวติดกับกู้จื่อเฟย ทั้งกอดทั้งหอม?

ชายร่างใหญ่ต้องทำตัวเป็นนกน้อยพิงไหล่ของเธอ?

เย้นโม่หลินรู้สึกว่าสู้ให้เขาดื่มให้เมาไปเลยดีกว่า

……

หยูฉู่สองอยู่ในคลังสมบัตินานกว่าหนึ่งวันก่อนที่เขาจะสามารถหาแผนผังของคลังสมบัติได้

คลังสมบัติมีขนาดใหญ่มากและมีแก้วแหวนเงินทองกองพะเนิน พูดได้ว่าเป็นกองสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้เลย

แต่ที่มีค่ายิ่งกว่าก็คือข้อมูลกองพะเนิน ชั้นวางหนังสือเพียงชั้นเดียววางอยู่ในห้องขนาดใหญ่มากกว่าสิบหลังและบนชั้นแรก หนังสือทุกเล่มมีรายละเอียดที่สำคัญมาก

เมื่อเทียบกับเงินทองแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้

หนังสือที่หยูฉู่สองสามารถมองเห็นได้ในตอนนี้ล้วนเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อตระกูลหยูในปัจจุบันและสามารถช่วยตระกูลหยูก้าวข้ามไปอีกขั้นได้

หากได้ดูข้อมูลพวกนี้ทั้งหมดและใช้งาน ตระกูลหยูคงจะเป็นผู้นำของโลกแน่

หยูฉู่สองรู้สึกตื่นเต้นเสียจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้

แต่กลับมีปัญหาหนึ่งก็คือ เพื่อปกป้องความปลอดภัยของหนังสือข้อมูลเหล่านี้ บรรพชนจึงซ่อมหนังสือสำคัญเหล่านั้นบนหิ้งและล็อกไว้ หากพวกมันถูกแย่งไป หนังสือทั้งหมดจะถูกทำลาย

และเมื่อมองดูคลังสมบัติทั้งหลัง หนังสืออย่างน้อยร้อยละแปดสิบถูกล็อก

เขาอยากจะเอาพวกมันออกไปค้นคว้าที่ด้านนอกก็กลายเป็นว่าทำไม่ได้

แม้แต่ตู้หนังสือประเภทพิเศษเขาก็ไม่มีหนทางที่จะเปิดมันต้องให้โห้หลีเฉินจัดการถึงจะเปิดได้

เนื้อหาด้านใน ไม่ต้องดูก็รู้ว่ามันสำคัญและมีค่ามากแค่ไหน

หยูฉู่สองดูอยู่ทั้งวัน อยู่กับข้อมูลที่มีค่ามากมายและหลังจากสงบลงด้วยความปีติยินดีเขาก็เริ่มจัดเตรียมสิ่งต่อไป

ข้อมูลเหล่านี้เอาออกไปไม่ได้ จึงทำได้เพียงให้คนอื่นเข้ามาดู

แต่เพื่อรักษาความลับไม่ให้รั่วไหลจะต้องเป็นคนที่มีอำนาจระดับสูงและมีความจงรักภักดีในตระกูลหยูเข้ามาดู ซึ่งก็ไม่สามารถจะให้คนเข้ามามากเกินไป

ข้อมูลก็ไม่ควรจะเปิดเผยมาก

ดังนั้นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดก็คือให้คนเข้ามาค้นหาข้อมูลเมื่อจำเป็น ซึ่งการทำแบบนี้ก็จะต้องเกิดการเข้าออกคลังเป็นประจำ

ในเรื่องของเวลาอาจจะต้องใช้เวลาหลายปี หรือหลายสิบปี

ถ้าหากเป็นแบบนี้โห้หลีเฉินก็จะกลายเป็นคนสำคัญและจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ถึงแม้ว่าเขาจะหายาทั้งสามอย่างได้ แต่จะให้ฟื้นร่างกายก็ยังต้องใช้เด็กอีกหนึ่งคน

ลูกของเย้นหว่าน

หากจะมีลูก ตอนนี้ก็ต้องแต่งงานกับเย้นหว่าน ตอนนี้เป็นวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุด อีกทั้งยังกลายเป็นญาติและสามารถเปลี่ยนให้ตระกูลหยูเป็นมิตรด้วยเหตุนี้ได้ด้วย

ไม่ว่าจะด้านไหนก็ไม่มีอันตรายและมีประโยชน์ต่อตระกูลหยู

หลังจากที่หยูฉู่สองคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ลงมือทำ หลังจากที่ออกมาจากคลังสมบัติ เขาได้ติดต่อเย้นเจิ้นจื๋ออย่างกระตือรือร้นเพื่อหารือเกี่ยวกับการแต่งงานของโห้หลีเฉินกับเย้นหว่าน

เขามีเหตุผลมากพอ “พวกเราสองครอบครัวก็แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันมาตลอด ตอนนี้ทั้งโห้หลีเฉินกับเย้นหว่านก็รักกันด้วยความจริงใจ ให้พวกเขาแต่งงานกันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

โห้หลีเฉินหายาทั้งสามอย่างได้เพียงพอแล้ว หลังจากแต่งงานกับเย้นหว่านก็รีบมีลูกกัน อาการป่วยของโห้หลีเฉินจะได้หาย ปัญหาสำคัญของลูกๆ จะได้รับการแก้ไข และครอบครัวทั้งสามก็จะสมบูรณ์ในอนาคต

ฉันรู้สึกว่าพวกเราใช้โอกาสเหมาะในตอนนี้ ให้เด็กๆ แต่งงานกัน พวกเขาแต่งงานมีลูกก็ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ใบหน้าของกงจืออวีมืดมนและมีสีหน้าไม่สู้ดีขณะแอบฟังเรื่องนี้

แต่สิ่งที่หยูฉู่สองพูดนั้นก็ไม่ผิด เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ให้เย้นหว่านแต่งงานกับโห้หลีเฉินเป็นเรื่องที่ควรต้องทำเพียงแต่เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น

ให้แต่งงานกันตอนนี้ เย้นหว่านมีลูกก็ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม

“เฮ้อ”

เธอถอนหายใจ มองเขาตาปริบๆ เย้นเจิ้นจื๋อพยักหน้ารอการตัดสินใจของเธอ

เย้นเจิ้นจื๋อถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดกับปลายสายด้วยรอยยิ้ม

“ได้ครับ เตรียมจัดงานแต่งงานให้เด็กๆ ได้เลย แต่ว่า ถึงแม้ว่าครอบครัวของเราทั้งคู่จะตกลงแล้ว การจะจัดงานในตอนไหนนั้น จะต้องถามความคิดเห็นของเด็กๆ ทั้งสองคนก่อน”

ถ้าหากเย้นหว่านไม่ได้อยากจะแต่งงานในทันที ก็สามารถจะยืดเวลาออกไปได้

หยูฉู่สองเหมือนจะถอนหายใจและยิ้มอย่างเต็มที่

“เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา พวกเขาสองคนรักกันอย่างนั้นจะต้องอยากแต่งงานไวๆ แน่”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset