สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 935 อาหารหมาล้นออกมานิดหน่อย

“รีบพูดมา!” หัวหน้าบอดี้การ์ดเอ่ยถามอย่างเร่งร้อน หงุดหงิดงุ่นง่านอย่างมาก

พวกเขาจับได้ว่าเย้นโม่หลินเข้ามาในคลินิกแล้ว ก็ไล่ตามเข้ามาอย่างเร็วที่สุด คิดวางแผนไว้ว่าจะจับเต่าในไห

ถ้าหากเป็นแบบนี้แล้วยังจับไม่ได้ พวกเขาคงต้องถูกผู้นำตระกูลจัดการทิ้งอย่างแน่นอน

บอดี้การ์ดตอบกลับ “พวกเราเพิ่งพบรอยเลือดที่ชั้นบน ผมสงสัยว่า พวกเขาจะกระโดดหนีจากดาดฟ้าโรงพยาบาลไปที่ดาดฟ้าตึกอื่นแล้ว”

“อะไรนะ? เวรเอ๊ย!”

หัวหน้าบอดี้การ์ดเตะม้านั่งที่อยู่ข้างๆ ทีหนึ่ง เขาโกรธจนหน้าดำหน้าเขียว

เปิดช่องจากความประมาท เขาคาดไม่ถึงเลยว่าสามคนที่บาดเจ็บสาหัสจะยังกล้ากระโดดข้ามตึก จนเปิดช่องว่างให้เย้นโม่หลินหนีไปได้

“พวกเขาบาดเจ็บสาหัส แล้วยังพากู้จื่อเฟยไปด้วย ลำพังสองขามันหนีไปได้ไม่ไกล รีบตามไป!”

เมื่อหัวหน้าบอดี้การ์ดออกคำสั่ง พวกบอดี้การ์ดก็วิ่งไปที่ชั้นบนทันที

เย้นโม่หลินและป่ายฉีนั้นก็หนีไปทางดาดฟ้าจริงๆ ด้วยระยะห่างที่ห่างไปสองเมตรกว่า เขาอุ้มกู้จื่อเฟยเอาไว้แล้วกระโดดไปยังดาดฟ้าอีกด้านหนึ่ง

กระโดดครั้งนี้ ทำให้บาดแผลบนร่างกายของเย้นโม่หลินฉีกเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมอีก เลือดสดๆ หลั่งไหลออกมา

ป่ายฉีนั้นถือยาถุงใหญ่ เขาวิ่งไปพร้อมกับจัดยาไปด้วย

เย้นโม่หลินยืนอยู่บนที่สูง ไม่นานก็กำหนดเส้นทางหลบหนีได้อย่างรวดเร็วแล้วพาป่ายฉีอ้อมลงไปยังตรอกลับตาคนที่อยู่ด้านล่าง

เมื่อไปถึงตรอก ป่ายฉีที่หายใจหอบเหนื่อยก็รีบยื่นยาในมือไปอย่างรวดเร็ว

“พี่ใหญ่ ป้อนยานี้ให้เธอกิน”

เย้นโม่หลินไม่ลังเล เขาหยิบยามาแล้วค่อยๆ ป้อนเข้าไปในปากของกู้จื่อเฟยอย่างระมัดระวัง

แต่ไม่มีน้ำ กู้จื่อเฟยจึงกลืนลงไปไม่ได้

เธอขมวดคิ้ว พึมพำอย่างเจ็บปวด “ขม ขม….”

ขณะที่พูดก็พยายามคายยาออกมา

ป่ายฉีรีบตะโกนขึ้นมา “คายไม่ได้นะ จัดยานี้ครั้งหนึ่งต้องใช้เวลาไม่น้อยเลยนะ”

ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาขาดแคลนมากที่สุดก็คือเวลา

กู้จื่อเฟยที่อาการกึ่งโคม่านั้นก็ไม่ได้ยินเสียงของป่ายฉีเลย เธอใช้สัญชาตญาณและจะคายยาออกมา

เย้นโม่หลินแววตาเคร่งขรึม ทันใดนั้นเขาก็ก้มลง ริมฝีปากบางประกบปิดปากเล็กของเธอเอาไว้

“อื้อ…..”

กู้จื่อเฟยส่งเสียงอู้อี้

เย้นโม่หลินดันลิ้นแล้วเบียดแทรกเข้าไปอย่างแข็งกร้าว

กู้จื่อเฟยคิดจะต่อต้าน แต่กลับถูกชายหนุ่มกดเอาไว้ และปล่อยให้เขาบุกรุกเข้ามาให้อาณาเขตของเธอช่วงชิงอย่างหยาบคาย

ป่ายฉีที่ดูอยู่นั้น “…..”

อืม ปลดล็อกท่าป้อนยาแบบใหม่อันสุดยอดและทรงพลัง

แต่หมาโสดโดดเดี่ยวอย่างเขาดูไปแล้วจะใช้อะไรได้? มันจะมีประโยชน์อะไร?

เย้นโม่หลินบังคับกรอกยาให้กู้จื่อเฟย แล้วจึงอุ้มเธอที่สะลึมสะลือเดินต่อไปข้างหน้า

ทุกก้าวที่เขาเดินไป ใต้เท้าก็จะนองไปด้วยเลือดสีเข้ม

ป่ายฉีตามอยู่ข้างหลัง มีถุงห้อยอยู่ที่คอ ในมือก็กำลังจัดเตรียมยาสารพัดยุ่งเป็นพัลวัน

ยาพวกนี้เป็นล้วนเป็นยาสามัญทั่วไป มันสามารถรักษาโรคได้ แต่ก็ไม่ถึงขั้นประสิทธิผลของยาของเขา

แต่ยาบางตัว เมื่อผ่านการบดเป็นพิเศษและจัดอัตราส่วนแล้ว ก็กลับสามารถสร้างปาฏิหาริย์ในมือของป่ายฉีได้

ป่ายฉีบดยาเป็นผงอีกถุง แล้วพูดกับเย้นโม่หลิน

“พี่ใหญ่ เอานี่ทาบนปากแผล มันห้ามเลือดได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน”

ต่อให้พวกเขาจะหาเส้นทางเดินได้ดี แต่คราบเลือดตลอดทางนี้ก็จะทำให้คนที่อยู่ข้างหลังไล่ตามมาได้

จะสลัดทิ้งก็ทำไม่ได้

และความจริงเขากับเย้นโม่หลินนั้นทรุดโทรมจนแทบไม่ไหวแล้ว การวิ่งหนีในตอนนี้คงไม่พ้นเป็นการต่อสู้เฮือกสุดท้าย ถ้าหากยังสลัดไม่หลุดต่อไปแบบนี้ ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องสิ้นชีพแน่

ฝีเท้าของเย้นโม่หลินหยุดลงแล้วรับผงยามา “นายล่ะ?”

“ผมจะจัดใหม่ ไม่นานหรอก”

ป่ายฉีไม่ได้ชักช้า เขาเริ่มทำยาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

เขาเป็นหมอ เขารู้ดีที่สุด

เย้นโม่หลินเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาวางกู้จื่อเฟยนั่งลงที่แปลงดอกไม้ข้างๆ แล้วกำลังจะเอายามาจัดการบาดแผลของตัวเอง

ในตอนนั้นเอง กู้จื่อเฟยกลับฟุบลงมาในอ้อมแขนของเขา เธอปรือดวงตาคู่โตจ้องมองตรงมาที่เขา

“อือ อยากกอด….”

มือของเย้นโม่หลินแข็งค้าง เกือบจะปล่อยผงยาทิ้งไปแล้ว

ป่ายฉีที่กำลังจัดยาอยู่นั้นมีสีหน้าอย่างทนดูไม่ได้

สีหน้าของกู้จื่อเฟยยังคงซีดขาวอย่างรุนแรง แต่หลังจากที่กินยาเข้าไป อาการก็ดีขึ้นเล็กน้อยจนสามารถพูดพึมพำได้แล้ว

แต่สติสัมปชัญญะนั้นกลับดูเหมือนจะยังตื่นไม่เต็มที่

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความน้อยใจและดูเหมือนจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ “ฉันเจ็บ อยากกอด…..”

น้ำเสียงที่ทั้งน้อยใจและออดอ้อนนั้น ทำให้เย้นโม่หลินแทบจะไม่สามารถต้านทานได้

ใจสั่นรัวเหมือนกับถูกไฟฟ้าช็อตอย่างนั้น

ทั้งยังปวดใจ

เขาแทบจะเอื้อมมือไปกอดเธอไว้ทันที แล้วเอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อไม่เป็นตัวของตัวเอง “ได้สิ ฉันกอดเธอ อีกเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ”

กู้จื่อเฟยจึงพึงพอใจขึ้นเล็กน้อย แต่ร่างกายกลับยกขึ้นอย่างมีเรี่ยวแรง

เย้นโม่หลินกลัวว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะมากเกินไปจนทำให้ตัวเองรู้สึกแย่มากขึ้น เขารีบพยุงหลังเธอและเดินตามเธอไป

เขาถามเสียงทุ้ม “เป็นอะไรไป?”

กู้จื่อเฟยจ้องมองริมฝีปากของเย้นโม่หลินด้วยแววตาวูบไหว เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเบาและนุ่มนวล “อยากจูบ”

ทันใดนั้นเย้นโม่หลินราวกับถูกฟ้าผ่า แข็งทื่อไปทั้งตัว

ใบหน้าที่เดิมทีซีดเซียวกลับปรากฏสีแดงอมชมพูระเรื่อ

ป่ายฉีมุมปากกระตุก แทบอยากจะจัดยานอนหลับให้กู้จื่อเฟยเดี๋ยวนั้นเลย

อะไรจะฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้ อาการหนักจนสติฟั่นเฟือนแล้ว ไม่นึกว่าจะยังจ้องเย้นโม่หลินตาเป็นมัน

โหดร้ายกับหมาโสดกันขนาดนี้ เกินไปแล้ว

เขาอยากจะหนีไปคนเดียวซะเลยได้ไหมนะ?

เย้นโม่หลินไม่ได้ประคองร่างของกู้จื่อเฟยต่อ กู้จื่อเฟยที่ร่างกายยังอ่อนแรงก็พยุงร่างของเธอไม่ไหว

เธอพยายามทรงตัว เอ่ยอย่างแง่งอน “อยากจูบ…”

หน้าของเย้นโม่หลินแดงเถือกไปตนถึงใบหูทันที

เขามองหญิงสาวร่างเล็กที่ร้องขอจูบในอ้อมแขน แล้วพูดอย่างเก้ๆ กังๆ

“อีกเดี๋ยวค่อยจูบนะ”

กู้จื่อเฟยกะพริบตา เหมือนกับไม่พอใจนัก เธอน้อยใจเล็กน้อยแต่ก็ยังพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ

“เร็วๆ หน่อย” เธอเร่งเขาเสียงอ่อน

หัวใจของเย้นโม่หลินเหมือนกับถูกไฟช็อต ทั้งร่างร้อนรุ่มขึ้นมา สิ่งที่กอดอยู่นั้นก็ยิ่งราวกับมันหวานร้อนฉ่าลวกมือ

คำว่า ‘เร็วๆ หน่อย’ นั่น มันพาให้คิดฟุ้งซ่านไปอย่างควบคุมไม่ได้เลยจริงๆ

กู้จื่อเฟยนี่เป็นปีศาจน้อยจอมยั่วยวนชัดๆ เลย ในสถานการณ์แบบนี้ยังเย้าแหย่เขาได้หน้าตาเฉย

เย้นโม่หลินไม่กล้าชักช้า กลัวว่าอีกสามวินาทีปีศาจตนนี้จะอยากจูบขั้นมาอีก เขารีบร้อนเอาผงยาทาห้ามเลือดบนบาดแผลของตัวเองแบบลวกๆ

……

ในที่สุดกู้จื่อเฟยก็ฟื้นคืนสติ

เธอลืมตาขึ้น สิ่งที่เข้าสูสายตานั้นคือความมืดมิดที่มองไม่เห็นอะไรเลย และยังมีกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในอากาศ

ในสมองของเธอ ทันใดนั้นก็ปรากฏภาพการต่อสู้นองเลือดที่ตระกูลหยูขึ้นทีละฉาก

ยังมีเย้นโม่หลินที่บาดแจ็บสาหัสพาเธอหนีอย่างยากลำบากด้วย

“พี่เย้น พี่เย้น….”

กู้จื่อเฟยลุกขึ้นนั่งกะทันหัน ใจเต้นระส่ำจนเหมือนจะลอยออกมาด้วยความตื่นตระหนก เธอหวาดกลัวเหลือเกิน อยากรู้ว่าสถานการณ์ของเย้นโม่หลินในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

เขายังอยู่ดีใช่ไหม หรือจะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า

“ตื่นแล้วเหรอ? ฉันอยู่นี่ไง?”

น้ำเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ของชายหนุ่มดังขึ้นข้างกายเธอ

เสียงที่คุ้นเคย ทำให้หัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งของกู้จื่อเฟยสงบลงทันใด

เธอรีบหันไปมองข้างๆ ก็เห็นชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่ข้างเธอท่ามกลางความมืดสลัว

เธอเอ่ยถามอย่างรีบร้อน “พี่เย้น พี่โอเคไหม? แผลของพี่เป็นยังไงบ้าง?”

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset