สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ตอนที่ 940 ยั่วยุคุณ ไม่แยกแยะเวลากับสถานที่

หลังจากแน่ใจว่าไม่มีปัญหา หัวหน้าบอดี้การ์ดก็โบกมือพลางเอ่ย

“ได้แล้ว ปล่อยให้ผ่าน”

ผู้ชายวัยกลางคนเอ่ยพลางยิ้มแฉ่ง “นายท่านทุกท่าน ลำบากแล้ว ลำบากแล้ว”

จากนั้น พวกเขาทั้งหมดก็ขึ้นรถ ขับรถบรรทุกคันใหญ่ไปยังด้านนอกอย่างช้าๆ

บอดี้การ์ดหนึ่งในนั้นมองดูขบวนรถจากไปด้วยใบหน้าอึมครึม พูดพร่ำอย่างไม่สบายใจ

“โรคจิตเยอะเสียจริง ถ้าไม่ใช่วันนี้สถานการณ์พิเศษ ก่อเรื่องไม่ได้ ฉันจะจับเจ้าโง่สองคนนั่นของรถคันที่สามลงมาอัดสักรอบ”

“เอาล่ะ เอาล่ะ อดทนไปก่อน พวกเขายังต้องกลับมาอีก พวกเรามีโอกาสได้พบกัน เจอครั้งหนึ่งก็อัดหนึ่งที ”

“อย่าให้มีโอกาสเจออีกจะดีกว่า รอพวกเขากลับมาแล้วเรายังจับพวกโห้หลีเฉินไม่ได้ ที่ต้องตายก็คือพวกเราแล้ว”

พวกบอดี้การ์ดถอนหายใจ มองไปทิศที่ออกเมืองก็รู้สึกหดหู่ใจ

วันที่สองแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเย้นโม่หลินใช้วิธีอะไรปะปนออกนอกเมือง ไม่ว่าวิธีอะไรก็ตาม พวกเขาจะต้องจับพวกเขาให้ได้เท่านั้น

หลังจากขบวนรถบรรทุกขนส่งวัวขับตามทางด่วนมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว ก็ขับตามทางแยกต่อไป

ไม่ไกลเท่าไหร่ ก็หยุดลงที่ข้างทางแห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคน

ประตูข้างคนขับของหัวรถเปิดออกก่อน หนุ่มน้อยที่ดูอายุไม่ถึงยี่สิบปีกระโดดลงจากรถอย่างคล่องแคล่ว

หลังจากนั้นเขาก็เดินไปด้านหลังทันที

ในขณะเดียวกัน ประตูรถคันที่สามก็เปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงและชายหนุ่มร่างผอมเล็กที่อยู่ด้านในก็เดินออกมา

พวกเขาต่างมองตากัน หนุ่มน้อยก็เริ่มหัวเราะอย่างหยอกล้อ

“กู้จื่อเฟย เธอก็นอนหลับจริงได้ลงนะ เกือบจะทำให้บอดี้การ์ดคนนั้นโกรธจนบ้าเลย”

ชายหนุ่มร่างผอมเล็กหัวเราะแห้ง มองชายร่างสูงข้างกายเปี่ยมด้วยความเลื่อมใส

เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานฉ่ำ “นี่เป็นวิธีการที่พี่เย้นของฉันคิด ฉันแสดงได้ยิ่งโดดเด่น ความสนใจของพวกเขาก็จะรวมอยู่ที่ความขี้เกียจของฉันจนโกรธขึ้นมา กลับคิดว่าพวกเราไม่กล้าเล่นใหญ่ขนาดนี้ ก็จะไม่สงสัยสถานะของพวกเราเสียด้วยซ้ำ”

เป็นอย่างที่คิดไว้ บอดี้การ์ดคนนั้นแม้จะโกรธจนกระทืบเท้า แต่นอกจากความโกรธแล้ว แทบจะไม่มีกะจิตกะใจคิดเรื่องอย่างอื่น

คนอื่นก็ไม่สงสัยคิดว่าอาจจะเป็นพวกกู้จื่อเฟยปลอมตัวเลยสักนิด

กลัวก็แต่ว่า แม้ว่าจะนั่งแกร่วอีกสิบวัน พวกเขาก็คงคิดไม่ถึงว่าพวกเย้นโม่หลินก็คือคนขับรถบรรทุก

“จิ๊ๆ”

ป่ายฉีมองเย้นโม่หลินอย่างสบายอกสบายใจ “แผนการก็ดีอยู่หรอก ฉันเห็นใครบางคน ตอนนั้นพอเห็นจอมขี้เกียจถูกด่าทอ ก็เกือบจะอัดคนอย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้วเชียว”

แม้ว่าป่ายฉีอยู่ด้านหน้า แต่ว่าเข้าใจเย้นโม่หลินเป็นอย่างดี มองเห็นแววตาของเขาเปลี่ยนไป ก็รู้ว่าเย้นโม่หลินคิดจะทำอะไร

ตอนที่บอดี้การ์ดจับตัวกู้จื่อเฟยพร้อมด่าทอ ท่าทางของเย้นโม่หลินนั้น ต้องการลงมือสั่งสอนพวกเขาให้เป็นผู้เป็นคนทุกนาทีเลยจริงๆ

ป่ายฉีที่ดูอยู่ตอนนั้นอกสั่นขวัญหายเป็นพักๆ

สีหน้าเย้นโม่หลินเคร่งขรึม มองดูการปลอมตัวเป็นชายหนุ่มร่างผอมเล็กนั่นของกู้จื่อเฟยพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“วันนี้ฉันไม่ได้คิดให้รอบคอบ จากนี้จะไม่เกิดขึ้นแล้ว”

ที่เดิมทีคิดไว้คือกู้จื่อเฟยเป็นผู้หญิง หากใช้สถานะของผู้หญิงมาติดตามขับรถ จะต้องเกิดความสงสัยที่ไม่จำเป็นบ้างอย่างแน่นอน ทว่าเธอปลอมตัวเป็นผู้ชาย อย่างไรก็ตามลักษณะรูปร่างงดงามเล็กเพรียวเกินไป ก็ยิ่งถูกสงสัยได้ง่าย

ดังนั้นจึงสร้างภาพลักษณ์ที่อ่อนแอและขี้เกียจให้เขาไปเลย คนอื่นจะได้เข้าใจตามจิตใต้สำนึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่ละม้ายคล้ายผู้หญิงที่เอาแต่กินกับนอนแทน ด้วยรูปร่างของเธอก็จะรู้สึกว่าเป็นเช่นนั้นแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย

เพียงแต่ เขานึกไม่ถึงว่าบอดี้การ์ดคนนั้นจะใช้กำลังกับกู้จื่อเฟย ทั้งด่ากราด ทำให้กู้จื่อเฟยไม่ได้รับความเป็นธรรมแบบนี้

ดวงตาประกายวาววับของกู้จื่อเฟยจ้องมองเย้นโม่หลิน ชั่วพริบตาใบหน้าเล็กเข้าไปใกล้ด้านหน้าของเขา

เอ่ยถามอย่างแผ่วเบา “พี่รักฉันล่ะสิ?”

เย้นโม่หลินแข็งทื่อทันที คำถามนี้ ถามขนาดนี้ต้องตอบอย่างไรดีล่ะ?

ใบหูของเขาแดงระเรื่อขึ้นอีกครั้งอย่างลับๆ

กู้จื่อเฟยเหลือบเห็นสายตาหลบเลี่ยงของเย้นโม่หลิน จิตใจจึงยิ่งเริงร่า ใบหน้าเล็กเขยิบเข้าใกล้อีกเล็กน้อย

เงยหน้าขึ้น ไอร้อนจากคำพูดปะทะไปที่ใบหน้าของเขา

“พี่เย้น พี่รักฉันมากใช่ไหม? ถ้ารักละก็ ต้องพูดออกมาดังๆ นะ ”

เย้นโม่หลินมองกู้จื่อเฟยอย่างเลื่อนลอย สีหน้าอึดอัดใจ

รักแล้วต้ องพูดออกมาเสียงดังเหรอ? แบบนี้จะดีจริงเหรอ เอะอะโวยวายแบบนั้น

ผู้ชายตัวใหญ่โตอย่างเขาจะพูดออกมาได้อย่างไร

แต่ว่าสบกับดวงตาประกายวาววับที่เฝ้ารอของกู้จื่อเฟยเข้า เขาไม่อยากให้ความรู้สึกผิดหวังของเธออยู่เหนือกว่า

เขาบรรจงพูดออกมาจากริมฝีปากทีละคำทีละประโยค “อืม ฉันรักมากเลย”

กู้จื่อเฟยตัวแข็งทื่อทันที เบิกดวงตากลมมองเย้นโม่หลินอย่างอึ้งๆ

เธอเพียงแค่หยอกเขาเล่นตามปกติ คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดทีจริง

ยังพูดจาเลี่ยนๆ แบบนี้ บอกว่ารักเธอมาก

ในหัวใจของกู้จื่อเฟยเหมือนมีกระต่ายกว่าสิบตัวทันที กำลังกระโดดไปกระโดดมาอย่างเริงร่า เธอเขย่งปลายเท้าขึ้น “จุ๊บ” จูบที่ใบหน้าของเย้นโม่หลินทีหนึ่ง

“นี่คือรางวัล ฮิๆๆ”

เย้นโม่หลินจ้องมองสาวน้อยเบื้องหน้าที่เหมือนหญิงเกี้ยวพาราสี เม้มริมฝีปากแน่น กกหูก็ยิ่งแดงระเรื่อ

ป่ายฉีก่ายหน้าผาก ทนมองภาพเบื้องหน้าไม่ได้ ยอมรับไม่ได้

โธ่เอ๊ย นี่เรียกว่าความรักทำให้โลกกลายเป็นสีชมพูสินะ?

แต่งหน้าปลอมตัวกลายเป็นอย่างนี้แล้ว คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มร่างใหญ่ผิวคล้ำหน้าตาดุและดูอัปลักษณ์ อีกคนหนึ่งเป็นผู้ชายร่างเล็กผอมกะหร่องและยังน่าเกลียดอีกด้วย ด้วยสารรูปหน้าสองคนแบบนี้ พวกเขาสองคนยังสามารถสบตาด้วยความรู้สึกลึกซึ้งกันได้

ยังสามารถจูบกันดัง “จุ๊บ” ได้

ทำไมถึงได้รสนิยมแปลกขนาดนี้ล่ะ?

อยากจะอาเจียน

“รีบไปเร็ว ฉันจะต้องรีบกลับตระกูลเย้น แบ่งแยกความสัมพันธ์กับพวกเธอสองคนให้ชัดเจน ”

ป่ายฉีเอ่ยอย่างเบื่อหน่าย แล้วเดินไปในป่าเล็กที่ข้างถนนก่อน

แม้ว่าบอดี้การ์ดตระกูลหยูไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองชั่วครู่ ไม่รู้ว่าพวกเขาอาศัยรถบรรทุกขบวนนี้ออกมา แต่ตระกูลหยูขาดคนที่มองความคิดคนอื่นขาดและสามารถสับเปลี่ยนสังเกตการณ์ไปไม่ได้ หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยังค้นหาพวกเขาไม่พบที่เมืองเฟย ก็จะเปลี่ยนเป้าหมายค้นหาเมืองส่วนนอกและพาหนะที่น่าสงสัย

ถึงตอนนั้นพวกเราติดตามขบวนรถนี้ต่อไปคงไม่ปลอดภัยแล้ว

ตอนนี้เดินตามลำพังเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว

ผู้ชายวัยกลางคนก็ยืนอยู่ด้านข้างพลางเอ่ยอย่างนอบน้อม “นายท่านทุกท่านเดินทางดีๆ เส้นทางในภูเขาซับซ้อน พวกคุณต้องระวังหน่อย”

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณคุณมาก”

กู้จื่อเฟยเอ่ยขอบคุณเจ้าของรถบรรทุกอย่างสุภาพ

ครั้งนี้เขาช่วยเหลือไว้มาก ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงหลบหนีออกจากเมืองเฟยอย่างสบายขนาดนี้ไม่ได้

โห้หลีเฉินเอ่ยอย่างเย็นชา “ทำตามที่ฉันบอกไปคุ้มครองคนนั้น อย่าออกมาเคลื่อนไหวสักระยะหนึ่ง”

“ขอบคุณนายท่านที่เป็นห่วง พวกเรารู้ว่าต้องทำอย่างไร ”

เจ้าของรถบรรทุกพยักหน้าแล้วโค้งตัวลงด้วยท่าทีที่ดีมาก

กู้จื่อเฟยกลับสงสัยนิดหน่อย จากการสังเกตของเธอ ขบวนรถนี้ต่างไม่รู้สถานะที่แท้จริงของเย้นโม่หลิน แต่ก่อนก็ไม่เคยพบเจอเย้นโม่หลินมาก่อน

ต่างเป็นคนของเมืองเฟย ชื่อเสียงของตระกูลหยูก็ยิ่งเป็นที่เลื่องลือมาก แทบจะเป็นคนของตระกูลหยูแล้ว

ทว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาถึงกับทรยศตระกูลหยู มาช่วยเย้นโม่หลินที่ไม่รู้จักงั้นเหรอ?

กู้จื่อเฟยเป็นช่างพูดช่างคุย ไม่ชอบมีเรื่องค้างคาใจ เดินเข้ามาในป่า จึงเอ่ยถามเย้นโม่หลิน

“พี่เย้น ทำไมเถ้าแก่คนนั้นถึงเชื่อฟังพี่ขนาดนั้นล่ะ? พี่ใช้วิธีการอะไรกับเขา ยาเสน่ห์หรือว่ากลยุทธ์หนุ่มหล่อ? “

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน

“คุณผู้หญิง ผมจะไม่แต่งงานกับคุณ” นี้คือประโยคแรกที่เขาพูดกับเธอ เธอรู้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นยังไง แกล้งทำเป็นคู่หมั้นของเขาอย่างเชื่อฟัง แต่ในหนึ่งวัน เธอโดนเขาจับขึ้นเตียงและลูบไล้ เธอตกใจ “คุณโห้ คุณเคยบอกแล้วว่า เราเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางสัญญา” “ผมยกเลิกแล้ว” เขาได้รู้แล้วว่า เธอเป็นผู้หญิงที่เขาตามหามานาน เขาจะปล่อยมือไปได้ยังไง? “เพื่อเป็นการชดเชย ผมเป็นของคุณแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset