วันที่อยู่ในคลังสมบัติก็มีแล้ว
ระยะเวลาห่างจากตอนนี้หนึ่งเดือนกว่าแล้วจริงๆ
ดังนั้น นับตั้งแต่วันนั้นในท้องของเธอก็เริ่มมีเด็กน้อยคนนี้แล้วหรือ?
“แต่ แต่ว่า…..” เย้นหว่านรู้สึกได้ว่าไม่ถูกต้อง “ตอนนั้นคุณไม่ได้กินลูกหวงต่าน จะเป็นไปได้อย่างไรคะ”
หากว่ากันตามเหตุผล น่าจะเป็นหลังจากที่โห้หลีเฉินกินหวงต่านเข้าไปแล้ว พิษก็ถูกควบคุม ถึงจะมีโอกาสที่จะให้กำเนิดได้
เย้นหว่านสีหน้าซีดเผือดทันที “หรือว่าเด็กคนนี้จะบกพร่อง ร่างกายอ่อนแอ หรือจะตายในครรภ์?”
ระหว่างทางที่ไปประเทศเบียนหนาน เย้นหว่านแอบกินยาคุมกำเนิด จึงหวาดกลัวว่าจะตั้งครรภ์ที่ทารกตายในครรภ์โดยไม่ทันได้ระวัง เป็นเด็กบริสุทธิ์ที่คลอดไม่ได้ และตายอย่างน่าเวทนาคนหนึ่ง
วันนั้นสถานการณ์ค่อนข้างพิเศษ โห้หลีเฉินคล้ายกับว่าถูกวางยาอย่างไรอย่างนั้น ทำเรื่องเหลวไหลกับเธอครั้งหนึ่งในคลังสมบัติ
หลังจากจบเรื่องก็ไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางใดๆ
โห้หลีเฉินรีบอธิบายว่า
“วางใจได้ เด็กยังสบายดีอยู่ จะไม่มีเรื่องอะไร ผมหาคุณหมอที่ดีที่สุดจากแผนกสูตินารีเวชมาตรวจร่างกายให้คุณแล้ว เด็กสบายดีมาก ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ”
“จริงหรือคะ”
เย้นหว่านยังคงมองโห้หลีเฉินด้วยแววตาไหววูบ จิตใจว่างเปล่าอย่างไม่กล้าเชื่ออยู่บ้าง
“เป็นความจริง ผมสาบาน”
โห้หลีเฉินเอ่ย “อาจจะมีสาเหตุมาจากบ่อน้ำพุร้อน มันทำปฏิกิริยาต่อต้านกับหวงต่าน น่าจะให้ผลพร้อมกับดอกหวงต่านส่วนหนึ่ง ผมแช่อยู่ในนั้นสามวัน โดยพื้นฐานแล้วสามารถควบคุมพิษในร่างกายผมได้แล้ว”
ดังนั้นก็หมายความว่า ตอนนั้นเธอก็ตั้งครรภ์แล้ว
และยังเป็นเด็กที่แข็งแรงคนหนึ่ง
เหตุผลนี้ทำให้เย้นหว่านเชื่อได้บ้างแล้วไม่มากก็น้อย เธอคว้ามือโห้หลีเฉินเอาไว้แน่น เอ่ยด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความจริงจัง
“ถ้าอย่างนั้นคุณรับประกันไหมว่าไม่ได้ปิดบังเรื่องอะไรกับฉัน สิ่งที่พูดกับฉันล้วนเป็นความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์”
เห็นท่าทางระมัดระวังของเย้นหว่านแล้ว โห้หลีเฉินก็เอ็นดูและสงสารอย่างพูดไม่ออก
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเขา ทำไมเธอถึงยังไม่ทันจะได้ดีใจเรื่องที่ตั้งครรภ์ ก็ต้องกระสับกระส่ายอกสั่นขวัญแขวนแล้ว
“สิ่งที่ผมพูดล้วนเป็นความจริง ไม่มีเรื่องอะไรปิดบังกับคุณ ลูกของพวกเราแข็งแรงมาก”
คำสุดท้ายนั้นเหมือนกับการยืนยันความสุข แต่ละคำล้วนกระทบลงที่หัวใจของเย้นหว่าน กลายเป็นน้ำตาลหอมหวาน
เธอแสบจมูกขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าอยากจะหัวเราะหรือร้องไห้
มือเรียวสั่นเล็กน้อยขณะที่ลูบไปบนหน้าท้องตัวเอง เรียบแบนเหมือนกับในตอนแรก ทำให้เธอไม่กล้าที่จะเชื่อว่าด้านในนั้นมีเด็กน้อยอยู่คนหนึ่ง
แต่เธอกลับรู้สึกได้ถึงการคงอยู่ของเด็กน้อยผ่านผิวหนัง
หัวใจเย้นหว่านอ่อนยวบทันที
เด็กคนนี้เป็นของล้ำค่าที่สวรรค์ประทานมาให้
ให้ชีวิตของเธอมีคนสำคัญเพิ่มมากขึ้นอีกคนหนึ่ง มีสีสันงดงามเพิ่มมากขึ้น และทำให้อาการป่วยของโห้หลีเฉินดีขึ้น เป็นกระสายยาที่จะช่วยให้โห้หลีเฉินรอดชีวิตได้จริง
รอถึงวันที่เด็กถือกำเนิดออกมา โห้หลีเฉินก็จะกลับมาสุขภาพแข็งแรงดังเดิม และไม่ต้องหวาดกลัวช่วงเวลาสามปีที่ถูกจำกัดเอาไว้อีก
พวกเขาสามคนก็จะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและมีความสุข
“โห้หลีเฉิน ฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่ความจริง เหมือนกับกำลังฝันอยู่”
โห้หลีเฉินกอดเธอ จับมือของเธอเอาไว้แน่นกลางฝ่ามือ
เขาเอ่ยเสียงเข้ม “เย้นหว่าน พวกเราจัดงานแต่งงานตามกำหนดระยะเวลาเดิมเถอะ”
งานแต่งงาน
หัวใจเย้นหว่านสั่นไหว
เดิมเธอกับโห้หลีเฉินปรึกษาหารือและตกลงทุกอย่างกันเรียบร้อยแล้วว่าต้องจัดเตรียมงานแต่งงานแล้ว งานแต่งถูกกำหนดไว้ที่วันที่ 11 พฤศจิกายน
แต่ใครจะคาดเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกะทันหัน หยูฉู่สองแตกหักกับตระกูลเย้น ไม่ตายไม่เลิกรา
ก่อนหน้านี้การจัดเตรียมทุกสิ่ง เรื่องการแต่งงาน ก็กลายเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า พังทลายลงแล้ว
เย้นหว่านนึกว่างานแต่งงานของพวกเขา เกรงว่าจะไม่สามารถเป็นไปได้ในระยะเวลาอันสั้น
แต่ว่าตอนนี้……
เธอเงยหน้าขึ้น มองไปทางโห้หลีเฉินด้วยแววตาระยิบระยับ แฝงไปด้วยความกระสับกระส่ายและการรอคอยที่ไร้ซึ่งหนทางในการปฏิเสธ
“จัดงานแต่งงาน น่าจะมีคนจำนวนมากไม่เห็นด้วยนะ?”
“งานแต่งงานของพวกเราไม่ต้องฟังความคิดเห็นของคนอื่น”
โห้หลีเฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเผด็จการ และแน่วแน่
ทำให้หัวใจเย้นหว่านที่ล่องลอยอยู่หาสถานที่ที่ปลอดภัยได้
เธอมองตรงไปที่โห้หลีเฉิน แววตาไหวระริก และพยักหน้าทันที
“ค่ะ ฉันจะแต่งให้กับคุณตามกำหนดเวลาเดิม”
เธอรู้ว่าการจัดงานแต่งงานในตอนนี้จะมีเรื่องวุ่นวายมากมายและไม่สะดวก จนถึงขั้นก่อให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นได้
หยูฉู่สองจ้องจะทำร้าย ตระกูลหยูมีภัยอันตรายรอบด้าน
แต่เย้นหว่านลูบหน้าท้องของตัวเอง ในใจก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้ว
ไม่ว่าจะเพื่อตัวเธอเอง หรือเพื่อเด็กคนนี้ เธอกับโห้หลีเฉินล้วนต้องจัดงานแต่งงาน แต่งให้กับเขาอย่างถูกหลักทำนองคลองธรรม
กลายเป็นคุณนายโห้ของเขา
แม้ว่าภายหน้าจะมีคลื่นลมมากแค่ไหน มีอุปสรรคยิ่งใหญ่เท่าไร เธอก็จะเดินเคียงไหล่ไปพร้อมกับโห้หลีเฉิน โดยไม่แยกจากกัน
ลูก เรื่องงานแต่งงาน หวานชื่นจนเต็มไปด้วยฟองสบู่แห่งความสุข แม้ว่าข้างนอกจะมีเรื่องวุ่นวายมากเพียงใด ล้วนไม่ส่งผลกระทบต่อความสุขของพวกเขาในตอนนี้
พวกเขาอยู่ด้วยกันในห้องอีกครู่หนึ่ง โห้หลีเฉินถึงได้พาเย้นหว่านออกมาจากห้อง
เธอนอนนานเกินไปแล้ว จำเป็นต้องออกกำลังกายเคลื่อนไหวให้เหมาะสม
เมื่อออกมาจากห้อง เย้นหว่านก็มองเสี่ยวย่าที่คุกเข่าอยู่บนระเบียงทางเดินและคุณหมอวัยกลางคนที่ยืนอยู่อีกด้านด้วยความประหลาดใจ
เย้นหว่านมองอย่างสงสัย “นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือคะ”
โห้หลีเฉินอธิบายสาเหตุคร่าวๆ
เย้นหว่านถึงได้เข้าใจว่า หลังจากเธอหมดสติไปก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เธอมองเสี่ยวย่าด้วยท่าทางลึกซึ้ง โดยไม่พูดอะไร
โห้หลีเฉินจูงมือเย้นหว่านเดินไปถึงด้านหน้าทั้งสองคน หน้าผากของเสี่ยวย่ายิ่งแนบติดกับพื้น ร่างกายเกร็งเขม็ง
หมอหญิงก็เคร่งเครียดมากเช่นกัน สีหน้าซีดเผือด ยืนตัวตรงด้วยท่าทางเคารพนบนอบ
เธออยู่ในตระกูลหยู จึงเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้
โห้หลีเฉินกับหยูฉู่สองกำลังแข่งขันต่อสู้กันอยู่
ส่วนเรื่องใหญ่อย่างการที่เย้นหว่านตั้งครรภ์แบบนี้ จะต้องเกิดความสะเทือนไม่น้อยอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าโห้หลีเฉินอาจจะอยากปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ โดยไม่ให้หยูฉู่สองรู้
แต่เธอเป็นคนของหยูฉู่สอง เมื่อเธอไปจากที่นี่ นั่นก็หมายความว่าหยูฉู่สองจะได้รับรู้แล้ว
ถ้าหากว่าโห้หลีเฉินต้องการปิดบัง มีเพียงวิธีการเดียวก็คือ ไม่ให้เธอไปจากที่นี่หรือไม่ก็ปิดปาก
ยิ่งรู้ดีในความสัมพันธ์ที่มีอำนาจเหล่านี้แล้ว หมอหญิงก็ยิ่งอกสั่นขวัญแขวน เม็ดเหงื่อเย็นๆไหลจากหน้าผากร่วงหล่นลงไป
เธอเอ่ยขึ้นอย่างตื่นตระหนก
“นาย นายน้อย ขอให้คุณเชื่อว่าฉันเป็นหมอที่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์คนหนึ่ง ขอเพียงแค่คนไข้ต้องการปิดเป็นความลับ ฉันจะไม่เอ่ยกับคนนอกแม้แต่ครึ่งคำ ฉันรับประกันค่ะ”
สายตาคมกริบ เย็นชาของโห้หลีเฉินมองไปทางหมอหญิง ราวกับมีดเย็นเยียบเล่มหนึ่งที่ทิ่มแทงลงบนผิวหนังของผู้คน
หมอหญิงยิ่งหวาดกลัวมากกว่าเดิม ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจนเกือบจะล้มลงกับพื้นเพราะยืนไม่อยู่
ทันใดนั้น กลิ่นอายเย็นยะเยือกที่กล้ำกรายมากดทับกลับเลือนหายไปอย่างกะทันหัน
ชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้ายกริมฝีปากแย้มรอยยิ้มงดงามสะเทือนเลือนลั่นออกมา
โห้หลีเฉินเอ่ยอย่างคนอารมณ์ดีว่า
“เย้นหว่านตั้งครรภ์ลูกของผม เป็นเรื่องน่ายินดี ต้องแจ้งให้ทุกคนทราบแล้วมาเฉลิมฉลองด้วยกันถึงจะถูก
ตอนนี้ผมต้องไปเดินเล่นเป็นเพื่อนเย้นหว่าน ไม่มีเวลา คุณช่วยไปบอกคุณปู่ผมที ว่าสะใภ้หลานปู่ตั้งครรภ์แล้ว
ใช่แล้ว ถือโอกาสบอกเขาด้วยว่า งานแต่งงานยังจัดตามกำหนดเวลาเดิม”