“โครม”หนึ่งเสียง ชิวเจ๋อก็ล้มไปกองกับพื้น ก่อนจะกระอักเลือดออกมาจากปาก
การชกครั้งนี้ เขาแทบจะต้านทานพละกำลังไม่ได้เลย ราวกับมีเหล็กหนักทุบใส่ตัวเขาก็ไม่ปาน
แม่ง มันเป็นหมัดของคนจริงหรือว่ะ?
ชิวเจ๋อถูกชกจนหัวใจหวาดหวั่น รีบลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล”คุณเย้น คุณฟังผมอธิบายนะครับ ผมกับจื่อเฟยรักกันจริง จึงได้……”
“ปัง”
เจอลูกถีบบนตัวอีกครั้ง ชิวเจ๋อกลิ้งไปหลายตลบ
เขาปวดราวกับกระดูกและข้อหัก ล้มจนรู้สึกเวียนหัวและตาลาย
ยังไม่ทันตอบสนองกลับมา เย้นโม่หลินที่มีความเย็นยะเยือกปกคลุมทั่วเรือนร่างก็เดินเข้าหา พลางแตะใส่ตัวชิวเจ๋อหลายๆครั้ง
อย่างไร้ความเมตตา
“อ๊าก!อ๊าก!ช่วยด้วย เจ็บมาก ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
ชิวเจ๋อถูกซ้อมจนกรีดร้องอย่างอนาถ ไม่อาจคำนึกถึงภาพลักษณ์ได้แล้ว
เขาเจ็บปวดทั่วตัวจนชักกระตุก ยังต้องทนรับการจู่โจมที่ไม่จบไม่สิ้นต่อ ทำให้เขารู้สึกว่าจะโดนซ้อมให้ตายคาที่ ไม่รู้ว่ากระดูกภายในขาดไม่กี่ชิ้นแล้ว
ทว่าไม่ว่าเขาจะร้องอย่างไรก็ไม่มีคนมาช่วยเขาสักคน
กู้จื่อเฟยจัดเสื้อของตัวเองให้มิดอีกครั้ง ยืนมองชิวเจ๋อโดนกระทืบอย่างตื่นตระหนกด้านข้าง
เห็นคนที่รังแกเธอเมื่อกี้ ตอนนี้ได้รับบทลงโทษแล้ว ได้รับผลของกรรมแล้ว
ทว่าเธอไม่ดีใจเลยสักนิด
เธอมองเย้นโม่หลินด้วยดวงตาเปล่งประกาย ไอสังหารแผ่ซ่านบนตัวเขา คล้ายกับราชสีห์ที่โมโหจนเสียสติไม่มีผิดเพี้ยน
ดวงตาฉาบฉายสีแดง ชวนให้คนรู้สึกกลัวยิ่งนัก
เขาโกรธแล้วจริงๆ เป็นความโกรธที่กู้จื่อเฟยไม่เคยเห็นมาก่อน
เขาโกรธที่ชิวเจ๋อกล้าแตะต้องเธอ หรือโกรธที่เห็นภาพเธอกับชิวเจ๋อนัวเนียอยู่ด้วยกัน
“อย่าตีผมอีกเลย อย่าตีเลย ผมขอร้อง ปล่อยผมไปเถอะ……จื่อเฟย คุณรีบช่วยผมเร็ว……”
ในปากชิวเจ๋อเต็มไปด้วยเลือดสด ร้องวิงวอนด้วยเสียงสั่นเทา
เห็นขอร้องเย้นโม่หลินไม่เป็นผล จึงหันหน้าหากู้จื่อเฟยในความวุ่นวาย กล่าวเสียงอเนจอนาถอย่างน่าสงสาร”จื่อเฟยช่วยผมด้วยสิ คุณไม่ใช่บอกว่าผมเป็นไอดอลของคุณหรอกเหรอ คุณชอบผมนี่ คุณคงทนมองผมถูกตีตายไม่ได้หรอกมั้ง ……”
ไอสังหารบนใบหน้าเย้นโม่หลินเพิ่มมากจากเดิม เมื่อถีบลงไปก็เกิดเสียง”โครม”ดังขึ้นอย่างชัดเจน
ชิวเจ๋อไม่รู้ว่ากระดูกส่วนไหนหักอีกแล้ว
เขาร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด
กู้จื่อเฟยขมวดคิ้วแน่นเป็นปม มองเขาอย่างรังเกียจ
ถึงตอนนี้แล้ว เขายังพูดอย่างนี้อีก หวังจะให้เย้นโม่หลินเข้าใจผิดให้ได้เลยใช่ไหม
ก่อนหน้านี้เธอแสดงให้รู้ว่า ชอบเขา ถือเขาเป็นไอดอลจริงๆ ซึ่งเย้นโม่หลินก็เห็นกับตา เธอจึงไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี
กู้จื่อเฟยระงับความแค้นเคือง จ้องชิวเจ๋อ พลางด่ารุนแรงว่า
“เศษสวะอย่างคุณมันสมควรตาย!”
ชิวเจ๋อครวญครางอย่างน่าเวทนา”จื่อเฟย คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะ ไม่ต้องกลัวบารมีของเย้นโม่หลินจนไม่ยอมรับความรู้สึกของพวกเราสิ คุณรักผมแท้ๆ วันหลังคุณก็ไม่อาจอยู่กับเย้นโม่หลินอย่างจริงใจหรอก
หากคุณไม่ภักดีต่อหัวใจตัวเองก็เป็นการทำร้ายคุณเย้นอย่างนี้ คุณอย่าขี้ขลาดสิ ผมจะปกป้องคุณเอง”
ชิวเจ๋อใช้ปากเน่าๆเปลี่ยนจากดำเป็นแดง
ท่าทางน่าเวทนาสักเต็มประดาของเขา ยังรักลึกซึ้งอย่างเศร้าสร้อย เทคนิคการแสดงนั้นเหนือชั้นกว่าดาราเสียอีก เขาไม่เปลี่ยนอาชีพเป็นนักแสดงก็เสียดายพรสวรรค์จริงๆ
กู้จื่อเฟยเดือดดาลจนตัวสั่นไปทั้งตัว แทบอยากฉีกปากเขาให้เละไปเลย
เธอชี้เขา พลางด่าทออย่างเคืองใจ”คุณหุบปาก แม่ง คุณอย่าพูดซี้ซั้วนะ!”
ตอนนนี้บอกว่าชอบชิวเจ๋อ เธอก็รู้สึกคลื่นไส้แล้ว
เมื่อก่อนเห่อซูเปอร์สตาร์ผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยม เลยไม่รู้ธาตุแท้ ถึงได้เลื่อมใสเศษสวะพรรค์นี้อย่างไม่ลืมหูลืมตา
จากนั้น เย้นโม่หลินใช้สุดแรงถีบตัวชิวเจ๋อ ร่างกายชิวเจ๋อกระเด็นลอยไปไกลหลายเมตร ก่อนจะแทกกับผนังอย่างจัง
เขาตัวสั่นเทิ้มทันทีทันใด เลือดสดไหลทะลักจากปาก โดยไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง
เห็นได้ชัดว่าเย้นโม่หลินก็ไม่คิดจะถีบต่อแล้ว
ทว่าโทสะยังคงแผ่กระจายอยู่ทั่วร่างกายของเขา ไม่ได้บรรเทาลงเลยสักนิด
กู้จื่อเฟยรีบเดินเข้าไปด้านหน้าทันที”พี่เย้นค่ะ……”
เย้นโม่หลินเม้มปากแน่น ไม่ได้พูดอะไร หันหน้าเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง
ตั้งแต่ต้นยันจบ ไม่มองกู้จื่อเฟยแม้แต่แวบเดียว
ขาของเขาเรียวยาว ก้าวเท้าเร็ว แค่พริบตาก็เดินออกจากห้องแล้ว
กู้จื่อเฟยมองแผ่นหลังเย็นชาของเขา พลางรู้สึกหัวใจโล่งเปล่า ว้าวุ่นใจยิ่งนัก
เย้นโม่หลินเข้าใจผิดแล้วจริงๆ!
ยังถือสาด้วย
เธอปล่อยให้เขาคิดฟุ้งซ่านไม่ได้
“พี่เย้นค่ะ คุณต้องเชื่อฉันนะ ฉันโดนชิวเจ๋อรังแก……”
กู้จื่อเฟยรีบไล่ออกไป
ทว่าเธอเพิ่งเดินมาถึงประตู ด้านนอกกลับมีคนกลุ่มหนึ่งมาขวางทางเธอ
โดยมีเจียงเป้ยนีเป็นแกนนำ สายตาราวกับเลเซอร์ที่ฉายความรังเกียจใส่บนตัวกู้จื่อเฟย
เธอชี้หน้าด่าทอกู้จื่อเฟย
“กู้จื่อเฟย คาดไม่ถึงว่าแกจะเป็นคนแบบนี้ กล้าสวมเขาให้พี่เย้นเหรอ มาทำเรื่องต่ำทรามกับชิวเจ๋อลับหลังเขาอย่างนี้”
รูปการณ์แบบนี้ ท่าทีเช่นนี้ เอาโทษสวมเขายัดเยียดให้กู้จื่อเฟยโดยปริยาย
ด้านหลังเจียงเป้ยนีมีคนตามมาหลายคน ต่างพากันจ้องกู้จื่อเฟยอย่างโกรธขึ้ง
ก่นด่าเป็นน้ำไหลไฟดับด้วยความรังเกียจ
กู้จื่อเฟยมองผ่านกลุ่มคนอย่างกระวนกระวาย ได้แต่มองแผ่นหลังเย้นโม่หลินไกล หากชักช้า เธอก็จะจามเขาไม่ทันท่วงที
กู้จื่อเฟยร้อนรนใจ”ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณเห็น อย่าพูดมั่วๆ รีบหลีกไป ฉันยังมีธุระสำคัญ”
ระหว่างที่พูด กู้จื่อเฟยเตรียมจะไปผลักเจียงเป้ยนี
เจียงเป้ยนีกลับทำเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ กรีดร้องว่า”กู้จื่อเฟย คุณยังคิดจะตีคนอื่นด้วยเหรอ?”
กู้จื่อเฟย”……”เพลิงโกรธลุกไหม้แรงขึ้นอย่างระงับไม่อยู่
แม่ง เธอยังไม่ถูกตัวเจียงเป้ยนี แล้วจะตีหล่อนได้อย่างไร?
เจียงเป้ยนีกลับทำหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรมทันที ใบหน้าอันงดงามอ่อนแอราวกับดอกสาลี่โดนหยดฝนกะทันหันเสียอย่างนั้น
“กู้จื่อเฟย คุณตีฉันก็ไม่เป็นอะไร แต่คุณสวมเขาให้พี่เย้นไม่ได้ เขาเป็นคนมีเกียรติและสูงส่ง เรื่องขายหน้าเช่นนี้ คุณจะให้เขาทนได้?
เขายังเป็นนายน้อยของตระกูลเย้นของพวกเราอีกด้วย คือหน้าตาของตระกูลเย้น คุณทำอย่างนี้ก็เท่ากับสร้างความอัปยศอดสูให้แก่ตระกูลเย้นนะ”
โอ้พระเจ้า โดนต่ออีกหนึ่งกระทง
กู้จื่อเฟยทั้งกลัดกลุ้มและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน”ฉันบอกว่าฉันไม่ใช่!”
“ผมกับจื่อเฟย คิกคิก เรารักกันจริง พวกคุณอย่าทำให้เธอลำบากใจ คิกๆๆ……”
เวลานี้คนใกล้ตายอย่างชิวเจ๋อที่นอนอยู่บนพื้น ส่งเสียงอ่อนแอมา
กู้จื่อเฟยเอียงหน้าด้วยความตื่นตระหนก เห็นผู้ชายที่เกือบเหลือเพียงลมหายใจ ตัวเองจะตายมิตายแหล่อยู่แล้ว แม่งเอ้ย ยังคิดจะใส่ร้ายป้ายสีเธออีก
เขาเกลียดชังเธอถึงขั้นไหนกัน?
กู้จื่อเฟยโมโหเป็นฟืนเป็นไฟจนจะระเบิดแล้ว เธอขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอยากจะเข้าไปแทงเสริมจริงๆ ทำให้ชิวเจ๋ออำลาโลกไปตลอดกาล
“ทุกคนได้ยินแล้วใช่ไหม?กู้จื่อเฟยกับชิวเจ๋อก็คือสุนัขเพศผู้กับเพศเมียที่คบชู้สู่ชาย!ไร้ยางอายมาก ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้น คิดจะถือกระโปรงหนี ไม่ยอมรับเหรอ?”
“คุณทิ้งชิวเจ๋อได้ แต่พวกเราไม่อนุญาตให้ผู้หญิงสกปรกโสโครกอย่างคุณ มาทำให้หัวหน้าน้อยแห่งตระกูลเย้นของพวกเรามัวหมองเด็ดขาด!”
เจียงเป้ยนีเกิดความกล้าหาญทันที ไหลไปตามน้ำ เริ่มด่าทอชุดใหญ่อย่างดุดัน
นิ้วมือนั่นเกือบชี้โดนจมูกของกู้จื่อเฟยแล้วเชียว