จี๋ชื่อไม่มีทางเชื่อคำพูดของหลินชวนฮวาแน่ แต่อย่างไรแล้วพวกเขาก็เป็นพ่อแม่ของเฉินเถียนเถียน ยังไงก็ต้องปล่อยนางกลับไปแต่อย่างน้อยหลินชวนฮวาต้องถูกสั่งสอนซะบ้าง
“หลินชวนฮวาอย่าทำเหมือนทุกคนโง่ มีแค่เฉินผิงอันเท่านั้นที่เบาปัญญาและหลงเชื่อจนปล่อยให้เจ้าทำตามใจชอบ แต่คราวนี้หลานสาวของข้าถูกรังแก ข้าจะขอให้ท่านผู้เฒ่าช่วยตัดสิน ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีใครปราบแม่หม้ายใจร้ายเช่นเจ้าได้!”
เฉินผิงอันรู้สึกไม่พอใจที่จี๋ชื่อเอาแต่เรียกหลินชวนฮวาว่าแม่หม้าย มันคือถ้อยคำต้องห้ามที่เขาไม่ต้องการได้ยิน!
“พี่สะใภ้พูดเกินไปแล้ว ชวนฮวาเป็นเมียของข้าจะเรียกหานางว่าแม่หม้ายได้อย่างไร? และอีกอย่างเฉินเถียนเถียนก็เป็นลูกสาวของข้า พี่ไม่จำเป็นต้องยุ่งเรื่องนี้!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฉินเถียนเถียนก็แสยะยิ้มอ่อน ‘คิดจะเอาลูกสาวขายไปให้คนอื่นอีกแล้วล่ะสิ!’
แต่ไม่ว่าอย่างไร จี๋ชื่อก็เป็นแค่ป้าคงจะช่วยอะไรมากไม่ได้ และเฉินเถียนเถียนก็ไม่อยากทำให้คนที่ดีกับนางต้องเดือดร้อนจึงแกล้งถอยหลังไปด้วยความกลัว
“พ่อ…”
เฉินผิงอันโกรธมากที่ลูกสาวทำให้เขาต้องอับอายจึงคิดในใจว่าหากกลับไปจะจัดการลงโทษเฉินเถียนเถียนให้ถึงที่สุด!
เฉินเถียนเถียนรับรู้ได้ถึงความเกลียดชังจากแววตาคู่นั้น แม้ยังไม่ได้กลับบ้านแต่ก็รู้ดีว่าพ่อคิดวิธีจัดการตัวเองไว้แล้ว
เฉินเถียนเถียนตัวสั่นก่อนจะถอยหลังด้วยความกลัวพร้อมแสร้งบีบน้ำตาออก “พ่อ… ข้ากลัวแล้ว ข้าไม่กล้าทำให้พ่อขายหน้าแล้ว เหตุใดพ่อต้องมองข้าเช่นนั้นด้วย… นี่ข้าลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อ…”
เฉินผิงเหอคิดมาตลอดว่าตนเป็นพี่ใหญ่และจะไม่มีใครกล้าหยามหน้าเขาแต่เฉินผิงอันกลับหมิ่นเกียรติโดยการข่มขู่และดุด่าเฉินเถียนเถียนต่อหน้าเขางั้นหรือ!
“ผิงอัน! เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร! ไม่เกรงใจความเป็นพี่ใหญ่ของข้าเลยหรือ?! ต่อหน้าข้าเจ้ายังทำขนาดนี้ หากกลับไปเจ้าจะลงโทษนางขนาดไหน?!”
หลินชวนฮวากล่าวแทรกทันที “พี่เขยก็พูดเกินไป… ราวกับว่าจะให้ครอบครัวเราเลี้ยงดูและเชิดชูนาง ใครเขาเลี้ยงลูกสาวแบบนั้น? ข้าเลี้ยงมาอย่างดีและไม่เคยยอมให้ใครรังแกนาง ตั้งแต่โตมาเคยเห็นข้าใช้นางทำไร่ไถ่นาบ้างหรือไม่?”
จี๋ชื่อรู้สึกไม่พอใจยิ่งที่อีกฝ่ายพูดอย่างนี้ หลินชวนฮวาคิดว่าตนเองเป็นใคร? เป็นหม้ายได้ไม่ทันไรก็เข้ามาพัวพันจนได้แต่งงานกับเฉินผิงอัน ผู้หญิงไร้ยางอายเช่นนี้กล้าต่อปากต่อคำกับเฉินผิงเหอได้อย่างไร?! มันจะมากเกินไปแล้ว!
“ใช่ เฉินเถียนเถียนไม่เคยทำไร่ไถนา แต่มีสักครั้งไหมที่พวกเจ้าจะให้นางร่วมโต๊ะกินข้าว นางต้องรอให้พวกเจ้าอิ่มเพื่อรอกินของเหลือ ลูกสาวคนเดียวเลี้ยงให้ดีไม่ได้อย่างนั้นหรือ? หากไม่มีปัญญาก็ยกนางให้ข้าเสีย! หลินชวนฮวา… เจ้าคิดว่าตัวเองฉลาดอยู่คนเดียวหรือไร คิดว่าไม่มีใครมองออกงั้นหรือ?”
หลินชวนฮวารู้สึกไม่พอใจและกำลังอ้าปากจะเถียง แต่จี๋ซื้อก็แทรกขึ้นอีก “พอได้แล้ว! เจ้าไม่ต้องพูด ไม่ว่าอย่างไรข้าคงห้ามไม่ให้หลานกลับบ้านไม่ได้ เถียนเถียนกลับบ้านไปกับพ่อแม่เจ้าก่อนเถิด แต่หากนางรังแกเจ้าให้รีบมาหาข้าทันที ข้าไม่เชื่อหรอกว่าในหมู่บ้านนี้จะไม่มีใครเข้าข้างเจ้า!”
เฉินเถียนเถียนไม่อยากกลับ เพราะรู้ดีว่าจะต้องตกอยู่ในกำมือของแม่เลี้ยง แม้นางจะเป็นตำรวจแต่กฎหลายอย่างก็ไม่สามารถใช้ได้ที่นี่
แม้เฉินเถียนเถียนจะกลับไปอยู่บ้านก็จริงแต่อีกฝ่ายก็ไม่สามารถทำอะไรนางตามใจได้ เป็นเพราะตัวตนของหลินชวนฮวาก็ถูกจี๋ชื่อเปิดโปงแล้ว แน่นอนว่าทุกคนกำลังจับตาดูนางอยู่ หากยังมีพฤติกรรมเช่นนี้อีก เฉินเถียนเถียนก็สามารถนำเรื่องนี้ไปฟ้องร้องได้ทันที
หลังจากนั้นจี๋ชื่อจึงเดินเข้าไปหาเฉินเถียนเถียพร้อมกระซิบ “เจ้ากลับไปเถิด ไม่ต้องกลัวอะไร หากพวกเขายังละเลย และรังแกเช่นเดิมหรือส่งเจ้ากลับไปให้นายน้อยหลี่ก็จงบอกกล่าวกับข้า… ข้าจะช่วยเจ้าเอง!”
แม้จะเป็นการกระซิบแต่ทุกคนต่างได้ยินคำพูดเหล่านั้นชัดเจนเต็มสองหู
เฉินเถียนเถียนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรจึงตามพวกเขากลับบ้านไป
เพราะอยากเอาใจเฉินผิงอัน หลินชวนฮวาจึงพยายามหักห้ามใจและแสร้งพูดกับเฉินเถียนเถียนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เถียนเถียนคราวหน้าอย่าทำเช่นนี้อีก เจ้าโตเป็นสาวพอที่จะออกเรือนแล้วอีกทั้งนายน้อยหลี่ก็เป็นคนดี หากแต่งงานกับเขาคงช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวเราได้มาก เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าครอบครัวของเราลำบาก…”
เฉินเถียนเถียนรู้ดีว่าหากไม่เชื่อฟัง เฉินผิงอันอาจลงมือทำร้ายนางได้ ดังนั้นจึงพยายามทำตัวให้น่าสงสารแต่กลับยิ่งทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกรังเกียจ
“แม่… ข้ารู้ว่าครอบครัวของเราลำบาก แม้ข้าจะแต่งงานไป ไม่ว่าอย่างไรครอบครัวของข้าก็คือตระกูลเฉิน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนท่านทั้งสอง แต่หากให้ข้าแต่งงานกับนายน้อยหลี่ก็ควรต้องรักกันก่อนมิใช่หรือ?!”
หลินชวนฮวากล่าวตอบอย่างหงุดหงิด “เจ้าเป็นเพียงหญิงธรรมดา นายน้อยหลี่เป็นถึงลูกชายตระกูลใหญ่ เขาไม่มีทางชอบพอหรือคิดจะเอาเจ้ามาเป็นเมียเอก แต่เถียนเถียนฟังเถิด… ทั้งหมดที่แม่ทำก็เพื่อเจ้าทั้งนั้น เจ้าลองคิดดูสิ หากเจ้าแต่งงานกับเขา แม้จะเป็นได้เพียงนางสนมแต่ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายซึ่งหาไม่ได้จากบ้านหลังนี้”
เฉินเถียนเถียนง้างมืออย่างต้องการตบหน้าหลินชวนฮวาด้วยความโมโห ทุกคนที่เห็นเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนกเพราะไม่คิดว่าคนอ่อนแอเช่นนางจะกล้าทำเช่นนี้!
“แม่… อย่าคิดว่าข้าไม่รู้จักท่าน! ในโลกใบนี้คงมีเพียงพ่อเท่านั้นที่หลงเชื่อคนเช่นท่าน ข้าไม่ได้สนใจว่าจะแต่งงานแล้วได้เป็นเพียงสนมหรือมีชีวิตที่สุขสบายหรือไม่ แต่ท่านกล้าพูดได้อย่างไรว่าทั้งหมดนี้ทำเพื่อข้า?!”
“อยากให้ข้าป่าวประกาศหรือไม่ว่าเฉินเฉิงเยี่ยเข้าเรียนในโรงเรียนประจำตระกูลหลี่ได้เพราะใช้น้องสาวเป็นสินบน?!”
“แม่คงไม่รู้ว่าชื่อเสียงทางการศึกษานั้นสำคัญมาก ลองคิดดูว่าหากเรื่องนี้หลุดออกไป ยังจะมีที่ไหนรับพี่ชายเข้าเรียนอีกหรือไม่? อนาคตของเขาต้องพังทลาย!”
หลินชวนฮวาโกรธมาก แต่เนื่องจากเฉินผิงอันยังอยู่จึงไม่สามารถตอบโต้ได้ ทำได้เพียงบีบน้ำตาเพื่อเรียกร้องความสงสารเท่านั้น
“ผิงอัน… ดูนางทำกับข้าสิ นี่หรือลูกสาวที่แสนดีของเจ้า? ข้ายังไม่ทันได้พูดอะไรนางก็คิดทำร้ายข้า เช่นนี้แล้วข้าจะกล้าสั่งสอนนางได้อย่างไร?”
เมื่อเห็นดังนั้น เฉินผิงอันจึงรีบตะโกนสาปแช่งลูกสาวทันที “นังเด็กสารเลว! เจ้าไม่รู้หรือว่าการทำร้ายร่างกายบุพการีเป็นความผิดมหันต์ รีบขอโทษแม่เดี๋ยวนี้!”