ตอนที่ 123 ลูกชายฆาตกร
ผู้พิพากษามองหลงเยวด้วยความประหลาดใจ “เราไม่รู้ด้วยซ้ําว่าสิ่งที่นางกล่าวออกนั้นเป็นจริงหรือไม่ ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่านางจะไม่โกหก?”
หลงเยวยิ้มอย่างเย็นชา “ท่านไม่เชื่ออย่างนั้นหรือ? หญิงผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา การวิเคราะห์ของนางนั้นสมเหตุสมผลมาก! ยิ่งไปกว่านั้นหลินชวนฮวาก็ไม่ใช่คนดีอะไร นางเกลียดชัง ทารุณ และทุบตีหญิงผู้นี้อย่างรุนแรง เช่นนั้นแล้ว… การเผาบ้านจึงไม่ใช่เรื่องแปลก!”
ผู้พิพากษาหรี่ตาลง “ผู้ร้ายมีสองคน เป็นชายนักโทษที่หลบซ่อนมานานถึงสามปีและอีกคนเป็นหญิง! ท่านเคยเจอทั้งสองคนแล้ว พอจะช่วยข้าตามตัวพวกเขากลับมาได้หรือไม่? หากท่านต้องการเก็บผู้หญิงไว้ข้าก็ไม่ขัดขืน แต่ต้องส่งตัวผู้ชายกลับเข้าคุก!”
หลงเยวส่ายหัวทันที “ไม่ได้! แม้หลินชวนฮวาจะค่อนข้างน่าสนใจ แต่หากจับตัวได้ข้าจะส่งทั้งสองให้โดยไม่บิดพริ้ว ข้าจับคนได้เก่งกว่าเจ้าหน้าที่เช่นท่านเสียอีก อย่างไรก็ ตาม… ข้าขอพบหญิงสาวผู้ร้องเรียนก่อน ข้าต้องการให้นางรู้ว่าใครเป็นคนช่วยนาง!”
ผู้พิพากษามือสั่น “นางเป็นเพียงหญิงธรรมดา เหตุใดจึงอยากพบนางเล่า?”
หลงเยว่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ท่านรู้หรือไม่ ข้าเคยไปเที่ยวในเมืองหลวงเมื่อหลายปีก่อน ใบหน้าของหญิงสาวผู้นี้นั้น…”
“ใช่ นางงดงามมาก แต่เกี่ยวอะไรกับเมืองหลวงเล่า?”
หลงเยวยิ้มโดยไม่ได้พูดอะไร ผู้พิพากษาวางถ้วยชาลงอย่างไม่เต็มใจ “เอาล่ะ หากท่านจับพวกเขาได้ ข้าจะยอมให้พบนาง แต่หากท่านได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ ท่านหลงเยว่ ได้โปรดอย่าลืมข้า!”
ขณะที่ผู้พิพากษาเดินกลับมา แววตาที่เขาใช้มองหยุนเถียนเถียนพลันเปลี่ยนไป แม้นางจะรับรู้แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่
“ระหว่างนี้ข้าจะให้เจ้าอาศัยอยู่เรือนรับรองของสํานักราชการก่อน ข้าจะจับกุมพวกเขาและปิดคดีภายในสองวัน! และเพื่อรักษาชื่อเสียงของหญิงสาวเช่นเจ้า จงไปพาพยานมาจากหมู่บ้านเพื่อรับฟังการพิจารณาคดี!”
หยุนเถียนเถียนไม่สนใจว่าผู้พิพากษาจะมีเรื่องอะไรแอบแฝงอยู่ในแววตานั้น เพราะการที่เขารับเรื่องและทําคดีให้นางก็นับว่าช่วยได้มากแล้ว!
หยุนเถียนเถียนเพียงต้องการให้ทุกคนเห็นธาตุแท้ของหลินชวนฮวา เผื่อว่าหากเฉินเฉินมีอนาคตที่สดใสและประสบความสําเร็จนางจะได้ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรอีก
“ข้าขอบคุณท่านผู้พิพากษายิ่งนัก!”
เดิมที่ชื่อวางแผนที่จะยืนหยัดและเป็นพยานต่อหน้าผู้พิพากษาเพื่อหยุนเถียนเถียน แต่ใครจะคิดว่าเมื่อเห็นความโอ่อ่าของสํานักราชการแห่งนี้ ก็ทําให้นางรู้สึกประหม่าจนพูดไม่ออก ซึ่งต่างกับหยุนเถียนเถียนที่พูดจาและอธิบายทุกอย่างได้อย่างชัดเจน!
หัวหน้าหมู่บ้านมองหยุนเถียนเถียนด้วยความภาคภูมิใจที่นางเติบโตมาอย่างแข็งแกร่ง! แน่นอนว่านางต้องได้รับการถ่ายทอดมาจากหยุนจิงเอ๋อผู้เป็นแม่ซึ่งแกร่งกล้าและสง่างาม
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกว่าหญิงชรานั้นมองการณ์ไกล หยุนเถียนเถียนเป็นคนมีเหตุผลและใจเย็น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ถือเป็นเรื่องยากต่อการควบคุมและโน้มน้าวใจนาง
“นานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาแยกครอบครัวกัน? หญิงผู้นี้ซื้อน้องชายด้วยเงินทั้งหมดที่มี! และตอนนี้ผู้คนมากมายในหมู่บ้านก็ต่างโปรดปรานนาง
แน่นอนว่าไม่มีใครรับรู้ถึงความยากลําบากในอดีตของหยุนเถียนเถียน และไม่มีใครรู้ว่านางเสียความบริสุทธิ์ไปได้อย่างไร แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้มากนัก ส่วนใหญ่แล้ว พวกเขาพูดถึงความใจร้ายของหลินชวนฮวา และความมีเมตตาของหยุนเถียนเถียนซะมากกว่า
แม้ว่าเมื่อก่อนนางจะถูกคนในหมู่บ้านนินทา แต่เมื่อได้รับรู้ความจริง ทุกคนต่างเปลี่ยนฝ่ายและเข้าข้างนางทันที
ตามกฏแล้วหัวหน้าหมู่บ้านไม่สามารถอยู่ในสํานักราชการได้ ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจและกลับไปยังหมู่บ้านอย่างเงียบเชียบ เนื่องจากตอนนี้หยุนเถียนเถียนได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก บริเวณทางเข้าหมู่บ้านจึงห้อมล้อมไปด้วยผู้คนมากมายที่มารอฟังและถามไถ่ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หัวหน้าหมู่บ้านตอบได้เพียงให้ทุกคนกลับไปรอฟังผลที่บ้านด้วยความสบายใจ
หลงเยว่จัดการสิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็วและแม่นยํา
หลินชวนฮวาและเย่วชิวไฉหนีมายังอีกเมืองเพื่อค้นหาเฉินเฉิงเยี่ย พวกเขาตั้งใจจะพาลูกชายหนีไปให้ไกลที่สุด!
ในปีแรก เฉินเฉิงเยี่ยถูกเพื่อนล้อและกลั่นแกล้งเพราะมีพ่อเป็นฆาตกร!
แต่ขณะที่เขากําลังเรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียน ทันใดนั้น แม่และพ่อที่เคยเป็นฆาตกรก็ปรากฏตัว
เฉินเฉิงเยี่ยรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินพ่อขอให้หนีไปด้วยกัน ชายหนุ่มหมดความอดทนพร้อมพูดประชดประชัน “ตามเจ้าไปงั้นหรือ? หากตามเจ้าไปจะมีประโยชน์อะไร? ชื่อเสียงของข้าก็คงจะพังทลายและได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกชายของฆาตกรแทน… แต่ไม่นานทุกคนก็จะลืมไปและกลับมาพูดถึงข้าเช่นนี้ซ้ําๆอีกครั้ง!”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เย่วชิวไฉเข้าไปพัวพันกับพวกสามลัทธิเก้าอาชีพและเขาก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษแห่งปีอีกต่อไป
เมื่อได้ยินดังนั้น เย่วชิวไฉก็งางหมัดอย่างต้องการสั่งสอนลูกชายทันที แต่หลินชวนฮวากลับคว้าแขนเขาไว้แน่น!
“เฉิงเยี่ย… แม้เจ้าจะไม่ตามไป แต่เจ้าก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างปกติสุข! ชาวบ้านต่างรู้กันดีว่าข้าคือพ่อของเจ้า เช่นนั้นแล้วเจ้าคงจะกลับไปที่นั่นเพื่อขอเงินเฉินผิงอันไม่ได้!”
“เมื่อเดินทางไปถึงเจียงหนานแล้ว จะไม่มีใครจดจําอดีตของเจ้าได้และเราจะเริ่มต้นใหม่ที่นั่น! เฉิงเยี่ย ข้าเคยบอกเจ้ามานานแล้วว่าเฉินผิงอันเป็นเพียงเครื่องมือที่สามารถทําให้เจ้าได้เรียนหนังสือ เขาไม่ได้มีบุญคุณและไม่ใช่พ่อของเจ้า!”
เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินเฉิงเยี่ยโต้กลับด้วยความเกรี้ยวกราด “ข้ารู้ ข้าไม่เคยคิดว่าเฉินผิงอันเป็นพ่อของข้า! แต่ข้าก็ ไม่อยากเป็นลูกของฆาตกรเช่นกัน! แม่… รอข้าก่อนไม่ได้ หรือ? รอให้ข้าประสบความสําเร็จก่อนได้หรือไม่?”
เย่วชิวไฉชกหน้าลูกชายอย่างแรงก่อนจะสาปแช่ง “ไอ้ลูกนอกคอก! คิดว่ากําลังพูดกับใครอยู่หรือ?! เจ้าอยู่กับเฉินผิงอันมาหลายปีจนลืมไปแล้วหรือว่าพ่อแท้ๆเป็นใคร?!”
ตอนนี้เกิดการทะเลาะวิวาทรุนแรงขึ้น ณ ทางเข้าโรงเรียน ไม่นานก็มีผู้คนมากมายต่างห้อมล้อมเข้ามารับชม เฉินเฉิงเยี่ยรู้สึกอายและทําตัวไม่ถูกจึงก้มศีรษะพร้อมเดินออกไปด้านนอกจนมาถึงตรอกเล็กๆแห่งหนึ่ง
หลงเยวที่กําลังซุ่มอยู่เดินตามไปอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะกระจายข่าวบอกเหล่าลูกน้องเพื่อเตรียมจับกุม
“เย่าชิวไฉ… หากเจ้าเป็นพ่อของข้าจริงๆ ก็จงอย่าทําลายอนาคตข้า! ข้าได้ร่ําเรียนอย่างดีและมีท่านขุนนางคอยรับรอง ยิ่งไปกว่านั้นขากําลังจะลงสอบจิ๋วไฉ!”
หลินชวนฮวากระซิบลูกชายด้วยความกังวล “มันสายเกินไปแล้วลูกเอ๋ย.. ก่อนที่แม่และพ่อจะออกจากหมู่บ้านเทพธิดามา เราได้เผาบ้านของเฉินผิงอันและหยุนเถียนเถียน โดยหวังจะคร่าชีวิตของพวกมันด้วย! แต่หากทั้งสองรอดมาได้และเราไม่รีบหนีไปก็อาจถูกจับในข้อหาก่ออาชญากรรมร้ายแรง เป็นเหตุให้ต้องตัดสินประหารชีวิต!”
เฉินเฉิงเยี่ยเดินเซถอยหลังไปทันที “พวกเขาทําเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร? ข้าเคยทําอะไรไม่ดีต่อพ่อแม่หรือ.เหตุใดพวกเขาจึงดึงข้าเข้าไปเกี่ยว?”
แม้ปกติแล้วเฉินเฉิงเยี่ยจะไม่ชอบเฉินผิงอัน แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงเขาไม่น้อย หากเฉินเฉิงเยี่ยประสบความสําเร็จในอนาคต เขาก็ต้องทําให้เฉินผิงอันมีหน้าตาทางสังคมที่ดี ขึ้น! เฉินเฉิงเยี่ยรู้ดีว่าน้องชายของตนได้เข้าเรียน แต่กว่าจะประสบความสําเร็จได้ก็ต้องใช้เวลานาน แล้วตอนนี้เขาเองก็ยังไม่สามารถบรรลุผลสําเร็จใดได้…แต่สองคนนี้กลับกําลังสร้างเรื่องทําลายชีวิตเขา!