สามีข้า…คือพรานป่า ตอนที่ 133 หัวใจที่งดงาม
หัวหน้าหมู่บ้านยิ้มกว้างพร้อมกล่าวถาม “พี่สาวของเจ้าอยู่ที่ไหน?”
เฉินเฉินมองไปรอบๆ พลางชี้ไปที่ห้องเล็กๆห้องหนึ่ง แล้วจึงกล่าวตอบ “นางอยู่ในนั้น!”
เฉินเฉินวางพู่กันในมือลงก่อนจะเดินไปและตะโกนด้วยเสียงต่ํา “พี่สาว! ท่านหัวหน้าหมู่บ้านมาพบ!”
ผ่านไปครู่หนึ่งหยุนเถียนเถียนเปิดประตูออก และจากช่องว่างในประตู หัวหน้าหมู่บ้านสามารถมองเห็นเศษผ้าจํานวนมากที่กองอยู่บนเตียง อีกทั้งยังมีดอกไม้ประดับบนหัวเตียงมากมาย
หัวหน้าหมู่บ้านยิ้มอย่างสงบ “เถียนเถียน ข้ามีอะไรอยากจะถามเจ้าหน่อย”
หยุนเถียนเถียนเดินออกจากห้อง เทน้ําชาลงในถ้วยบนโต๊ะรับแขกก่อนจะยื่นให้หัวหน้าหมู่บ้านอย่างมีมารยาท
” ท่านมีสิ่งใดสงสัยหรือ?”
หัวหน้าหมู่บ้านมองไปที่เฉินเฉินอย่างเสศนัยพลันถามว่า “หลงเยว่คือใครกัน? เหตุใดเขาจึงตามปกป้องเจ้าไปทุกที่?!”
หยุนเถียนเถียนไม่เข้าใจว่าหัวหน้าหมู่บ้านพูดถึงอะไร? และเหตุใดเค้าจึงคิดว่านางรู้จักกับหลงเยว่?
“เขาเป็นเพียงอันธพาลข้างถนนไม่ใช่หรือ? เกิดอะไรขึ้น?”
หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกว่าหลังจากเขามีชีวิตอยู่มา หลายปีและพบเจอผู้คนมามาก ความว่างเปล่าบนใบหน้าของหยุนเถียนเถียนที่แสดงออกในตอนนี้ ทําให้เขารู้สึกว่า นางไม่รู้จักหลงเยว่จริงๆ
“หากเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า เหตุใดจึงมอบเงินสองร้อยตําลึงให้ข้าเพื่อนํามามอบให้เจ้า?” หัวหน้าหมู่บ้านพูดพลางหยิบเงินออกมา
หยุนเถียนเถียนได้เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งไม่เข้าใจเรื่องราว
“หลงเยว่มอบความยุติธรรมให้กับข้า ทั้งยังมอบเงินให้ นี่มันอะไรกัน?
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน แท้จริงแล้วเขาเป็นใครหรือ?”
หัวหน้าหมู่บ้านถอนหายใจยาวก่อนจะกล่าวตอบ “ข้าเป็นเพียงหัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านเล็กๆ แน่นอนว่าข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ แต่สิ่งที่ข้ารู้สึกได้ก็คือ ข้าคิดว่าเขารู้จักแม่ของเจ้า!”
หยุนเถียนเถียนหยุดคิดไตร่ตรองอยู่สักครู่หนึ่งก็ตระหนัก ได้ว่ามันค่อนข้างจะมีความเป็นไปได้
“เขาบอกว่าข้าหน้าเหมือนหยุนจิงเอ๋อ… เหมือนแม่ของข้า ราวกับแกะ!”
หยุนจิงเอ๋อเป็นสนมพลัดถิ่นมาจากเมืองหลวง หากชายผู้นี้รู้จัก แสดงว่าเขาก็เป็นคนมีอํานาจไม่น้อย!”
“สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือหลงเยว่เป็นเพียงอันธพาลใน เมืองเล็กๆแห่งนี้! เป็นไปได้อย่างไรที่จะรู้จักสนมแห่งกรุงปักกิ่ง? อีกทั้งเขายังมีท่าที่สุภาพอ่อนน้อมซึ่งดูไม่ได้มุ่งร้ายอะไรกับข้าเลย!
“เอาล่ะ! ข้าก็สงสัยเช่นกัน ใครจะสนใจหญิงธรรมดาเช่นข้า? แต่เอาเป็นว่าข้าจะขอรับเงินนี้ไว้เพราะไม่ว่าอย่างไรข้าก็จําเป็นต้องใช้มัน ท่านยังมีธุระอย่างอื่นอีกหรือไม่?”
หัวหน้าหมู่บ้านลุกขึ้นยืนและกําลังจะจากไป แต่จู่ๆพลันนึกอะไรบางอย่างออก จึงนั่งลงอีกครั้ง
“เจ้ารู้จักตัวตนที่แท้จริงของหยุนเคอหรือไม่?”
“หยุนเคองั้นหรือ?”
แน่นอนว่าตัวตนของเขานั้นไม่ธรรมดา แต่หยุนเถียนเถียนไม่คิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะรู้เรื่องนี้ด้วย
“ไม่รู้สิ เขาเป็นพรานป่าไร้ญาติไม่ใช่หรือ?”
หัวหน้าหมู่บ้านถอนหายใจอย่างแรง “สาวน้อย พรานป่าผู้นั้นต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ไม่เช่นนั้นท่านหลงเยว่ คงไม่ถามถึงเขาอย่างเจาะจง! และตอนนี้จากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เจ้าต้องแต่งงานกับเขาด้วย เพราะท่านผู้เฒ่าไม่มีทางยอมปล่อยเรื่องนี้ไป เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
หยุนเถียนเถียนพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ เพราะหากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านอื่นก็คงจัดการแบบเดียวกัน เช่นนั้นแล้ว ไม่จําเป็นต้องโทษใคร!
“ตัวตนที่แท้จริงของเขาและเจ้านั้นไม่ธรรมดา เช่นนี้จึงเหมาะสมกันยิ่ง! เพียงแต่เจ้าเป็นหญิง จงระวังตัวให้ดี อย่าให้เขาทําร้ายเจ้าได้!”
หยุนเถียนเถียนยิ้มอย่างขอบคุณในห่วงใยของหัวหน้าหมู่ บ้านที่มีต่อนาง
“ข้าขอบคุณท่านที่เป็นห่วง ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย แต่ข้าอยากขอให้ท่านมอบเงินบางส่วนที่ยึดมาได้จากหลินชวนฮวาคืนให้กับเฉินผิงอันสักหน่อย ไม่ว่าอย่างไรข้าก็เคยเรียกเขาว่าพ่อ ดังนั้นคงไม่ดีนักหากจะปล่อยให้เขาต้องไร้บ้านและอาศัยอยู่ข้างถนน!”
หัวหน้าหมู่บ้านรู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคําพูดนั้น ก่อนจะมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาลุ่มลึก
“สาวน้อย เจ้าช่างเป็นคนดีเสียจริง! ส่วนเด็กคนนี้”
“ไม่ต้องห่วงเฉินเฉิน เขาถูกขายให้ข้าแล้ว แสดงว่าเขาเป็นครอบครัวของข้า แม้เขาจะยังใช้นามสกุลเฉินแต่ก็ถือเป็นน้องของข้าอยู่ดี ข้าตั้งใจจะส่งเสียให้เขาได้เรียนหนังสือ และมอบสิ่งที่เขาขาดไปเมื่อตอนอยู่กับหลินชวนฮวา”
หัวหน้าหมู่บ้านยิ้มกว้าง เพราะอย่างไรแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะขอให้เฉินเฉินกลับไปหาเฉินผิงอันอยู่แล้ว
เด็กน้อยผู้นี้ถูกทําร้ายมามากในตอนที่อยู่กับเฉินผิงอัน! หัวหน้าหมู่บ้านรู้ดีว่าหากจะขอให้เด็กน้อยกลับไปอยู่กับพ่อคงไม่สมเหตุสมผลนัก!
หัวหน้าหมู่บ้านมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า และนึกถึงความงามอันน่าทึ่งของหยุนจิงเอ๋อเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
ตอนนี้ลูกสาวของนางก็โตมากแล้ว ความงดงามเริ่มเบ่งบานสะพรั่งแพรวพราว!
เนื่องจากหยุนเถียนเถียนขอให้เขามอบเงินที่ถูกเจ้าหน้าที่ราชการยึดไปให้เฉินผิงอัน ทําให้หัวหน้าหมู่บ้านรับรู้ได้ว่าหญิงผู้นี้ยังมีความเมตตาและความเป็นมนุษย์อยู่เต็มหัว ใจ แม้ว่านางจะถูกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมแต่ก็ยังรู้สึกเห็นใจอีกฝ่าย
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้านไม่ต้องกังวลว่าข้าจะคิดมาก เหตุการณ์ที่ข้าถูกบังคับให้แต่งงานกับหยุนเคอไม่ใช่ความผิดของท่าน แต่เป็นเพราะแผนการอันชั่วร้ายของหลินชวนฮวาที่ยอมขายแม้กระทั่งลูกชายเพื่อให้ได้เงิน เพราะข้ารักและสงสารเด็กน้อยจึงอยากช่วยเขา ไม่เป็นไร ข้าไม่เคยเสียใจต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ข้าขึ้นไปช่วยเหลือเฉินเฉินบนภูเขา”
หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าก่อนจะคิดในใจ “ช่างพูดจาได้ดียิ่งนัก แล้วข้าควรจะตอบกลับอย่างไรดี?
“เอาล่ะ! แม้หยุนเคอจะดูโหดร้าย แต่ก็ดูแลเจ้าเป็นอย่างดี เท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้ว!”
หลังจากกล่าวจบ หัวหน้าหมู่บ้านก็หันหลังแล้วเดินจากไป หยุนเถียนเถียนเงยหน้ามองฟ้าและพบว่าเย็นมากแล้ว
นางเดินเข้าไปในครัวและพบว่าเนื้อตากแห้งของหยุนเคอ ที่ปรุงไว้นั้นส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว
ดูเหมือนว่ามันจะได้ที่แล้ว!
หยุนเคอเองเป็นคนฉลาด เมื่อได้กลิ่นหอมฉุย เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าต้องขายได้ราคาดีแน่ เช่นนี้เขาจึงจัดการทําเนื้อหมักใส่หม้อใบใหญ่เอาไว้เพื่อรอวันที่จะเอาออกไปขาย
เพราะบ้านของหยุนเคอไม่มีแปลงผัก แต่ยังดีที่ในครัวยังมีไข่อยู่สองสามฟอง
หยุนเถียนเถียนหยิบไข่เหล่านี้และเดินออกไป
“แน่นอนว่าเราไม่สามารถกินเฉพาะเนื้อสัตว์หรือไข่ได้ทุกวัน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกินผักด้วย!”
“แม้ที่นี่จะไม่มีผัก แต่หลี่เสี่ยวเหออาจจะมี!”
ในเวลาเย็นๆอย่างนี้หลี่เสี่ยวเหอนั่งอยู่ในลาน นางกําลังทําปิ่นปักผมดอกไม้
หลังจากได้รู้ว่ามันขายได้ นางจึงตัดสินใจทําเพิ่มอีก
อีกทั้งยังสามารถมาหาหยุนเถียนเถียนเพื่อเรียนรู้วิธีการเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาด้วย
เนื่องจากหลี่เสี่ยวเหอไม่สามารถให้กําเนิดลูกชายได้จึงไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัวของสามี แต่เมื่อแม่ของสามี ได้ยินว่าการประดิษฐ์ดอกไม้สามารถทําเงินได้มากมาย แววตาของหญิงชราก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที
วันนี้นางไม่ได้รับอนุญาตให้ไปที่ไหนเลยนอกจากทำปิ่นปักผมดอกไม้อยู่ในสวน และมันเป็นสิ่งที่นางไม่ถนัดจึงทําให้รู้สึกว่าค่อนข้างยาก!
หยุนเถียนเถียนเดินเข้ามาพลางมองไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยดอกไม้ จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
แม้จะพยายามมากเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้น งานฝีมือนั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน คงจะมีเพียงผู้ที่มีความสามารถเท่านั้นจึงจะลอกเลียนแบบได้ผ่านการชําเลืองมอง
“พี่เสี่ยวเหอ ยังทํางานอยู่อีกหรือ?! ข้าว่าท่านทํางานหนักเกินไปแล้ว”
หลี่เสี่ยวเหอเงยหน้าขึ้นและพบว่าหยุนเถียนเถียนยืนอยู่ตรงหน้า
“เถียนเถียน มาทําอะไร? นั่งลงก่อนสิ ข้าจะชงชาให้”