ตอนที่ 137 หญิงชราผู้หยิ่งผยอง
หยุนเคอถือตะกร้าใบเล็กไว้ในมือ และดูเหมือนว่าหยุนเถียนเถียนยังคงขายดอกไม้จากเศษผ้าเช่นเดิม เพราะในตระกร้าของนางยังเต็มไปด้วยเศษผ้า!
ดังนั้นทุกคนจึงคิดในใจว่านี่คือดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่หญิงผู้นี้ทําขึ้นเพื่อนําไปขาย และพวกเขาไม่ได้คาดเดาถึงสิ่งอื่น
หลี่เสี่ยวเหอนั่งรออยู่บนเกวียนมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่แม้จะเห็นหยุนเถียนเถียนก็ทําได้เพียงพยักหน้าและยิ้มให้เล็กน้อยโดยไม่ได้พูดอะไร
“นี่ไม่ใช่หลี่เสี่ยวเหอที่ข้าเคยรู้จัก” แต่เมื่อหยุนเถียนเถียนมองไปยังด้านข้างของหลี่เสียวเหอก็พบว่าแม่สามีจอมเจ้าเล่ห์ก็อยู่ที่นี่ด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่หลี่เสี่ยวเหอจะมีท่าทีเช่นนี้
อันที่จริงนางหลัวตั้งใจจะมาเพื่อจับตาดูหยุนเถียนเถียนต่างหาก!
หยุนเถียนเถียนก็เป็นแม่ค้าขายดอกไม้ แต่ในเวลาเพียงไม่กี่วันนางสามารถทําเงินได้จํานวนมาก ขณะที่ลูกสะใภ้ของหญิงชราบอกเสมอว่าดอกไม้ของนางขายไม่ได้ราคาเลย! ดังนั้นนางหลัวจึงจงใจมาเพื่อดูว่าลูกสะใภ้ซ่อนเงินไว้หรือไม่!
แม้หลี่เสี่ยวเหอจะเงียบและไม่ยอมปริปากพูดอะไร แต่นางหลัวกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น!
เมื่อนางเห็นหยุนเถียนเถียน หญิงชรายิ้มกว้างออกมาจนแสดงให้เห็นรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าซึ่งดูเหมือนดอกเบญจมาศ
“เถียนเถียน ดูหญิงผู้นี้สิ เจ้าอุตส่าห์มาหาถึงที่บ้าน แต่กลับไม่รินชาให้ดื่มแม้สักถ้วย! ไม่ควรอย่างยิ่ง!”
เมื่อวานที่หญิงชราเห็นหยุนเถียนเถียนก็แสดงกิริยาไม่พอใจ แต่วันนี้กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว
หยุนเทียนเถียนไม่ต้องการเผชิญหน้าหรือสนทนากับหญิงชราเผชิญมากนัก จึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง “เมื่อวานข้ายุ่งกับการต้องรีบกลับบ้านไปทําอาหารจึงไม่ได้อยู่ทักทายท่านไว้คราวหน้าข้าจะมารบกวนท่านป้าอีกครั้ง”
“หญิงผู้นี้ไม่มีอะไรทํานอกจากการปล้นหรือขโมยสินะ!”
หญิงชราทักทายหยุนเถียนเถียนเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องมีจุดประสงค์แอบแฝงแน่
“เถียนเถียน! ดูสิ ลูกสะใภ้ของข้าสามารถเรียนแบบดอกไม้ของเจ้าได้แล้วและยังขายได้ราคาดีอีกด้วย! แต่อันที่จริงคําพูดเหล่านี้ก็เป็นเรื่องโกหกที่ใช้หลอกลวงเจ้าเท่านั้น และพวกข้าไม่เคยขายได้ราคาเลย ไหนขอข้าดูหน่อย ว่า เจ้ามีวิธีการเช่นไร”
หญิงชราพูดพลางเอื้อมมือไปเปิดผ้าในตะกร้าอย่างไร้ยางอาย!
หากตะกร้าใบนั้นอยู่ในมือของเถียนเถียน หญิงชราอาจเปิดดูได้สําเร็จและหากอีกฝ่ายเห็นเนื้อรมควันอยู่ด้านในคงจะต้องเกิดเรื่องราวใหญ่โตไม่น้อย!
หยุนเคอเป็นชายที่มีไหวพริบดีมาโดยตลอดแม้จะอยู่ในที่ที่มีผู้คนพลุ่งพล่านก็ตาม เช่นนี้เขาจะถูกหญิงชราช่วงชิงจังหวะได้เช่นไร?! หยุนเคอกระชากตะกร้ากลับอย่างรุนแรงจนทําให้หญิงชราเกือบหกล้ม โชคดีที่หลี่เสี่ยวเหอว่องไวจึงคว้าแขนของนางหลัวไว้ได้ทัน!
เช่นนี้หญิงชราจึงโกรธจัด นับตั้งแต่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มาไม่เคยมีใครทําให้นางต้องขายหน้า
“โอ้ เหตุใดเจ้าถึงตระหนี้นัก?! มองดูดี ๆ แล้วก็เป็นเพียงเนื้อสกปรกชิ้นเดียวเท่านั้น!”
หยุนเทียนเถียนขมวดคิ้วและพูดอย่างฉุนเฉียว “ท่านป้าจะมาตําหนิข้าได้อย่างไร? ไม่เห็นหรือว่าตะกร้าไม่ได้อยู่ในมือข้า? หรือเป็นเพราะข้ายังเด็กจึงคิดจะดุด่าอย่างไรก็ได้?!”
หลี่เสี่ยวเหอขอร้องนางหลัวทันที “ท่านแม่! อย่าทําเช่นนี้เลย!”
นางหลัวหันมาและหยิกหลีเสียวเหออย่างรุนแรง แต่นางกลับอดทนและไม่ยอมร้องออกมาแม้จะรู้สึกเจ็บมากก็ตาม
“เจ้ากล้าสั่งข้าผู้เป็นแม่อย่างนั้นหรือ?! ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าไร้ค่าเช่นนี้! ไม่สามารถให้กําเนิดลูกชายได้ทั้งยังไม่ปกป้องแม่ผัวที่กําลังถูกรังแก แต่กลับช่วยเหลือผู้อื่น!”
หยุนเถียนเถียนเข้าใจธรรมชาติของความสัมพันธ์ระหว่างแม่ผัวและลูกสะใภ้ของยุคนี้ได้ดี แต่เมื่อมองดูหลี่เสี่ยวเหอผู้น่าสงสารแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความขุ่นเคืองต่อความอยุติธรรมนี้
“ท่านป้านั่นแหละที่ผิด! ข้ารักและเคารพพี่เสี่ยวเหอเสมอ ยินดีจะสอนวิชาการประดิษฐ์ดอกไม้ให้นางอย่างเต็มใจ นี่ก็เป็นการตัดสินใจของข้าว่าจะอนุญาติให้ใครเห็นผลงานนี้หรือไม่! และทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของข้า… แต่ท่านกลับโกรธเกรี้ยวและทําร้ายพี่เสี่ยวเหอ!”
“นอกจากนี้ ท่านควรรู้จักพอเสียก่อน! ข้าสอนนางไปแล้วสองขั้นตอนและรอให้นางฝึกฝนจนคล่องจึงจะสอนขั้นตอนต่อไป! แต่หากป้าหลัวยังคงไร้เหตุผลและไม่รู้จักพอเช่นนี้ ต่อให้ข้าและพี่เสี่ยวเหอจะเก่งขึ้นมากเพียงใดก็ไม่ต้องการให้ใครเข้ามาสร้างปัญหาให้ชีวิตข้าทั้งสองอยู่ดี!”
โชคดีที่หยุนเถียนเถียนนําผ้าฝ้ายและดอกไม้มาคลุมเนื้อตากแห้งไว้ก่อนหน้านี้ ไม่เช่นนั้นนางหลัวอาจเห็นมันได้ทั้งหมด!
อย่างไรก็ตาม แม้สิ่งเหล่านี้จะดูไม่สมเหตุสมผล แต่หยุนเคอก็เลือกที่จะปกป้องหยุนเถียนเถียน
นางหลัวตะคอกทันที “จริงอยู่ที่ทุกคนต่างได้เรียนรู้บางอย่างจากเจ้า เจ้าเป็นเหมือนครูของพวกเราทุกคน! แต่แล้วอย่างไรเล่า? คิดว่ามีใครอยู่ได้โดยปราศจากเจ้าอย่างนั้นหรือ? หยิ่งผยองเหมือนแม่ไม่มีผิด… นังแพศยา!”
เมื่อได้ยินประโยคนั้น หยุนเถียนเถียนเผยสีหน้าไม่พอใจออก “ป้าหลัวคิดว่าเป็นผู้อาวุโสแล้วจะพูดอะไรก็ได้งั้นหรือ? เพราะไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องเคารพและเชื่อฟังอย่างนั้นหรือ?! แต่ท่านคงลืมไปว่าการเป็นผู้อาวุโสที่น่าเคารพจะต้องวางตัวดีเหมือนท่านผู้เฒ่า! ข้าบอกว่าแม่ของข้าไม่ใช่หญิงแพศยา หรือหากจะเป็นเช่นนั้นนางก็ตายไปหลายปีแล้ว และคนที่ตายไปแล้วก็นับว่าเป็นบรรพบุรุษ! แต่ป้ายังมีอายุเพียงไม่กี่สิบปี ไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้บ้างเลยหรือไร?”
อย่างไรก็ตาม การถูกเด็กอายุเพียงสิบสี่ปีสั่งสอนก็ทําให้นางหลัวรู้สึกอับอายและทนไม่ได้
“นังเด็กสกปรกไร้การศึกษา เจ้ากล้าสั่งสอนผู้อาวุโสเช่นข้าได้อย่างไร ข้าจะให้บทเรียนเจ้าที่กล้าก้าวร้าวอย่างสาสม!”
หยุนเคอกล่าอย่างเย็นชา “ป้าหลัวก็ควรหยุดเสีย! หญิงผู้นี้ไม่ได้ไร้ค่าหรือตัวคนเดียว ข้า… หยุนเคอยังคงมีชีวิตอยู่! นางยังมีคู่หมันหรือสามีคอยสังสอน! แล้วท่านเล่า? อายุก็มากแล้วแต่กลับจองเวรกับคนตายอย่างไม่จบสิ้น เพราะเหตุใดกัน?”
หยุนเคอแสดงใบหน้าเคร่งขรึมและแววตาแห่งความโกรธเกรี้ยวออกมา หญิงชราสันสะท้านด้วยความหวาดกลัวทันทีเมื่อถูกสายตาเย็นชาจับจ้อง
“ผู้หญิงชั้นต่ำเช่นเจ้าก็เหมาะสมแล้วกับชายป่าเถื่อน! เสี่ยวเหอ เจ้าต้องรู้จักรักษาความโชคดีนี้ไว้! ลูกชายของข้ามาจากตระกูลสูงส่ง ไม่ใช่คนปาที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเช่น
หยุนเถียนเถียนรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคําพูดเหล่านี้ จึงเอื้อมมือไปผลักแขนของหญิงชราที่กําลังถูกลูกสะใภ้พยุงอยู่ทันที
แต่เนื่องจากมีมือของหลี่เสี่ยวเหอพยุงอยู่ หยุนเถียนเถียนจึงไม่กล้าผลักแรงมากนัก แต่ทันทีที่หญิงชราปล่อยมือออกจากลูกสะใภ้ หยุนเถียนเถียนจึงได้โอกาสจัดการนางทันที!
หญิงชราตกจากเกวียนวัวด้วยความงุนงง โชคดีที่เป็นถนนบริเวณเชิงเขาจึงทําให้เกวียนเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ ส่งผลให้นางไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก!
ลุงเฉินผู้ขับเกวียนตื่นตระหนกและหยุดเกวียนวัวอย่างรวดเร็ว
“พี่สะใภ้เป็นอะไรหรือเปล่า? เกวียนของข้าไม่ได้ชนท่านใช่ไหม?”
แม้ลุงเฉินจะเป็นเพียงคนขับเกวียนวัว แต่ก็เป็นที่นับถือของชาวบ้านหลายคน! ดังนั้นนางหลัวจึงไม่กล้ารุกรานหรือต่อว่าเขา
ลุงเฉินพยุงหญิงชราขึ้นมาอย่างนุ่มนวล ขณะที่นางหลัวชี้ไปยังหยุนเถียนเถียนพลางพูดด้วยความโมโห “อีขี้ครอก เจ้าเป็นคนทําใช่หรือไม่?! เจ้าทําเช่นนี้เพราะไม่พอใจข้า! นังเด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน!”