สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 183 ยุ่งทุกเรื่อง
ตอน 183 ยุ่งทุกเรื่อง
“เถียนเถียน อยู่หรือไม่?”
หยุนเคอจ้องมองเฉินไฉอีด้วยแววตาขุ่นเคือง ซึ่งทำให้นางรู้สึกกลัวเป็นอย่างมากจนถอยหลังไป
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
“ข้า… ข้ามาหาเถียนเถียน!”
หยุนเถียนเถียนเดินออกมาพร้อมถ้วยชาในมือ
“หยุนเคอ… เกิดอะไรขึ้น? ผู้ใดมา?”
เฉินไฉ่อีฉวยโอกาสพูดขึ้นทันที “เถียนเถียน ข้าเอง! ข้ามาที่นี่ เพื่อเจรจากับเจ้า!”
เมื่อได้ยินดังนั้น หยุนเถียนเถียนรู้ทันทีว่านางต้องมีแผนร้าย
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
เฉินไฉ่อีรวบรวมความกล้าก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่ามีแขกที่บ้านของเจ้า และแน่นอนว่าหยุนเคอคงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่พูดคุยและปรนนิบัติเขา ข้าเกรงว่าเจ้าจะเบื่อจึงมาหา”
นายน้อยหลี่แสยะยิ้มทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาว แม้หยุนเถียนเถียนไม่รู้ว่านางมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ใด แต่เนื่องจากตอนนี้นายน้อยหล่ำอยู่ในบ้าน จึงทำให้ไม่สามารถเสียมารยาทและโจมตีเฉินไฉ่อีต่อหน้าเขาได้
“นั่งลงสิ ข้าจะไปเอาชามาให้!”
หากเฉินไฉ่อีตั้งใจมาหาหยุนเถียนเถียนจริงอย่างที่นางพูดก็คงรีบเข้าบ้านไปเสียแล้ว ทว่าตอนนี้กลับยังคงยืนจ้องมองนายน้อยหลี่อย่างไม่ละสายตา
หยุนเคอยืนมองกิริยาของหญิงสาวด้วยแววตาขุ่นเคือง ก่อนจะหันมาพูดกับหลี่ซื่อฮวา “นายน้อยหลี่ช่างสง่าเสียจริง แม้จะมีชื่อเสียงไม่ดี แต่ก็ยังมีหญิงมากมายหลั่งไหลเข้ามาหา”
หลี่ซื่อฮวาส่ายหน้าก่อนจะตอบกลับ “ข้ายังด้อยกว่าพี่หยุนมาก! ข้าเองไม่รู้วิธีรับมือหรือปฏิเสธหญิงสาวเหล่านั้น แต่พี่หยุนกลับจัดการได้เป็นอย่างดี!”
หยุนเคอสำลักทันที “แม้แต่นายน้อยหลี่ ข้าก็เอาชนะเขาไม่ได้อย่างนั้นหรือ? ไร้เดียงสาเสียจริง!”
แม้เฉินไฉ่อีจะกำลังนั่งปักผ้าอยู่ ทว่าสายตาของนางกลับจ้องมองไปยังนายน้อยหลี่อย่างไม่ลดละ
“เอาล่ะ เชิญทุกท่านดื่มชาก่อนเถิด!” หยุนเถียนเถียนกล่าวพร้อมวางถ้วยชาลง
ภายในถ้วยเต็มไปด้วยยอดใบชาสีเขียวสบายตา ยิ่งไปกว่านั้นยังส่งกลิ่นหอมเสียจนดึงดูดใจหลี่ซื่อฮวา
นายน้อยหลี่ตกตะลึงต่อสิ่งที่เห็นก่อนจะถามขึ้น “เจ้าได้ชาชั้นดีเช่นนี้มาจากที่ใด?”
หยุนเถียนเถียนยิ้มพร้อมตอบว่า “เก็บมาจากบนภูเขาและนำมาต้มตามสูตรของข้า หากนายน้อยหลี่ชอบ ข้าจะขายให้ในราคาถูกสักสองสามตำลึง!”
หลี่ซื่อฮวาคิดถึงพ่อผู้ชื่นชอบชาเป็นชีวิตจิตใจจึงตอบตกลงทันที แม้เขาจะไม่จำเป็นต้องประจบประแจงนายหัวหลี่เพื่อให้ได้มาซึ่งมรดก ทว่าการมีของติดมือไปฝากผู้เป็นพ่อก็คงทำให้เป็นที่พอใจไม่น้อย
ดวงตาของหยุนเคอเบิกกว้างทันที เขาจำไม่ได้ว่าหยุนเถียนเถียนขึ้นภูเขาไปเก็บชาเมื่อไหร่ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางมีสูตรต้มชาเฉพาะตัว!
“นางมีเรื่องปิดบังข้าอยู่อย่างนั้นหรือ?
เฉินไฉ่อีเบ้ปากพร้อมคิดในใจ เศษใบชาราคาถูก ไม่ได้ส่งกลิ่นหอมอะไรถึงเพียงนั้น ทั้งยังมีรสชม ชาชนบทสกปรกเช่นนี้จะเทียบชาฝรั่งในท้องตลาดได้อย่างไร? เหตุใดนายน้อยหลี่จึงชื่นชมนัก??
“เถียนเถียน ปล่อยให้ชายหนุ่มพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวเถิด ส่วนเจ้า… ไปสนทนาตามประสาหญิงกับข้าดีหรือไม่?”
หยุนเถียนเถียนยืนนิ่งพร้อมเมินเฉยต่อคำพูดของเฉินใฉ่อี ก่อนจะคิดในใจ “มุ่งร้ายต่อข้าสารพัด แต่กลับบอกว่าอยากสนทนากับข้าอย่างนั้นหรือ? หึ! ข้ารู้ดีว่าเจ้ามีแผนร้ายอยู่ในใจ แม้จะไม่กลัวแต่ก็ไม่อยากข้องเกี่ยว!?”
“นายน้อยหลี่ คู่แข่งของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? เนื้อตากแห้งของเขายังขายดีอยู่หรือไม่?”
“แม้ลักษณะจะเป็นเช่นเดียวกับสินค้าของเรา แต่กลิ่นและรสชาติยังต่างออกไปมาก ดังนั้นพวกเขาจึงขายไม่ได้เลย ต้องขอชื่นชมว่าเนื้อตากแห้งของพวกเจ้าทำเงินให้ข้าได้มากจริง ๆ! ยิ่งไปกว่านั้น คุณภาพของเนื้อยังดีมาก ไม่แห้งจนเกินไปและเลิศรส ทั้งยังมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์โชยมาแต่ไกล ไม่เสียแรงที่ข้ามาหาและร่วมเป็นคู่ค้ากับพวกเจ้า! หลี่เฟิงจ่ายเงินลงทุนไปมากแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ข้าคาดว่าเขาคงจะมาหาพวกเจ้าในเร็วๆ นี้! ฮ่าฮ่า! เมื่อรู้ว่าสองพี่น้องนั่นทำตัวน่าสมเพชก็ทำให้ข้ารู้สึกดีไม่น้อย นี่นับเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ข้าอยากรู้นักว่าพวกเขาจะรักษาสัม พันธ์ไปได้นานแค่ไหน?!”
หยุนเถียนเถียนยกถ้วยชาขึ้นจิบ อันที่จริงทั้งกลิ่นและรสชาติของชานี้เทียบไม่ได้เลยกับยุคปัจจุบัน!”
“ยอดเยี่ยม! คนที่ทำเรื่องเดือดร้อนในหมู่บ้านจะได้รับโทษในไม่ช้า! คราก่อนที่ข้าปล่อยนางไปอาจทำให้นางตายใจได้! ไม่รู้ว่าวิธีการของนายจางจะบรรลุผลอย่างไร?”
หลี่ซื่อฮวายิ้ม “นายจางเป็นบุคคลที่หลี่เฟิงไว้ใจมากที่สุด อยากขอบคุณเขาเหลือเกินที่ช่วยเหลือครอบครัวข้า เขาปฏิบัติต่อข้าอย่างดีเสมอมา!”
“เช่นนั้นแล้วเรามาดื่มชาฉลองชัยชนะกันเถิด!”
หยุนเถียนเถียนชักชวยให้ดื่มให้กับชัยชนะ ขณะที่เฉินไฉ่อีมองนางด้วยแววตาเคืองโกรธ
“เถียนเถียน เจ้ายังสาวควรใส่ใจกับภาพลักษณ์ของตนให้มาก! ปล่อยให้ชายคุยกันเถิด… มาปักผ้ากับข้าจะดีกว่า!”
หยุนเถียนเถียนไม่พอใจต่อคำพูดนั้นเป็นอยากมาก “เจ้ามาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญทั้งยังมาชี้หน้าสั่งข้า! ข้าจะสนทนากับใครแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า?!?”
“นางเฉิน! ข้าไม่คิดว่าหญิงจะต้องอยู่บ้านปักผ้าเท่านั้น หยุนเคอเป็นคู่หมั้นของข้าแต่เขากลับไม่ว่าอะไร เหตุใดเจ้าจึงกล้าสอนข้า?! หากไม่ชอบใจก็เชิญกลับบ้านเจ้าไปเสีย!”
เฉินไฉ่อีตกตะลึงต่อคำพูดของหยุนเถียนเถียน และแสร้งทำหน้าเสียพร้อมน้ำตาซึม
“ข้าทำเช่นนี้เพื่อการดีต่อตัวเจ้าเอง เหตุใดจึงพูดเช่นนั้นออกมาเล่า? หากไม่เห็นแก่ตนเองก็เห็นแก่ชื่อเสียงของหมู่บ้านเราเถิด อย่าทำเรื่องน่าละอายอีกเลย!”
หยุนเถียนเถียนลุกขึ้นตบโต๊ะอย่างรุนแรงทันที่จนทำให้ทุกคนตกตะลึง
“เห็นแก่คนในหมู่บ้านอย่างนั้นเหรอ? เจ้าต่างหากที่ไม่ควรพูดเช่นนี้ ไม่รู้หรือว่าพ่อของเจ้าได้รับผลประโยชน์มากมายจากธุรกิจของข้า? ยังกล้ามาบอกว่าข้าทำเรื่องน่าละอายอย่างนั้นหรือ? ลองไปถามพ่อเจ้าดูเถิด ข้าก็อยากรู้เช่นกันว่าเขาจะพูดเหมือนเจ้าหรือไม่!”
เฉินไฉอีหน้าซีดก่อนจะหันมองหลี่ซื่อฮวาและพบว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเขาได้หายไปแล้ว
“นางหยุน นี่เป็นเรื่องระหว่างข้าและเจ้า! ข้าไม่สนว่าใครจะได้ผลประโยชน์”