สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 186 ความแค้น
ตอนที่ 186 ความแค้น
“ไฉ่อีทําให้หยุนเถียนเถียนชี้หน้าด่าข้าว่าไม่รู้จักสั่งสอนลูกสาวให้ดี! ข้าถูกพวกเขาหมิ่นเกียรติทั้งยังต้องก้มหัวขอโทษ! ดูเอาเถิด! ลูกสาวเจ้าทําระยําไว้เพียงใด!”
เฉินไฉ่อีตอบกลับอย่างฉุนเฉียว “ทุกสิ่งที่ข้าพูดล้วนเป็นเรื่องจริง! ท่านพ่อยอมก้มหัวขอโทษพวกเขาก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวต่างหาก ทั้งยังผลักความผิดทั้งหมดมาให้ข้า! เป็นพ่อเช่นใดกัน?!”
หัวหน้าหมู่บ้านโกรธจนตัวสั่น!
ทันใดนั้น ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านแทรกขึ้นทันที “ พ่อแม่เจ้าไม่เคยสั่งสอนหรืออย่างไร?! เหตุใดจึงกล้ากล่าวหาหยุนเถียนเถียน และแม่ของนางอย่างไรเหตุผลเช่นนั้น?! สมควรแล้วที่เจ้าจะโดนนางตบหน้า! เฉินไฉ่อี… หากยังอยากเป็นลูกสาวตระกูลเฉินก็ต้องเชื่อฟังข้าและแต่งงานกับลูกชายของจางชิวไฉ่!”
“แต่งงานกับลูกชายของจางชิวไฉ่เหรอ?! ไม่! ข้าจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากนายน้อยหลี่! ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อเขาเท่านั้น!”
เมื่อพูดจบเฉินไม่กี่วิ่งเข้าไปในห้องและลงกลอนทันที นางรู้ดีว่าพ่อแม่จะต้องบังคับและไม่ยอมปล่อยนางไปเป็นแน่!
ทันใดนั้น… เฉินเต่ออันก็พาภรรยากลับมาถึงบ้าน
“พ่อ เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดนางหยุนจึงขับไล่ข้าทั้งสอง? ไฉ่อีทําสิ่งใดให้นางต้องเคืองใจหรือ?!”
หัวหน้าหมู่บ้านส่ายหัวเพราะเขาไม่ต้องการเล่าพฤติกรรมของลูกสาวให้ลูกชายฟัง
“ในเมื่อถูกขับไล่แล้วก็อย่ากลับไปอีก! น้องสาวเจ้าสร้างเรื่องเลวร้ายต่อนางไว้มาก”
ขณะที่หัวหน้าหมู่บ้านกําลังจะเดินกลับห้องนอนไป ภรรยาของเฉินเต็ออันก็แทรกขึ้นทันที “เราช่วยนางสร้างและดูแลโรงงานมาจนถึงทุกวันนี้ เหตุใดจึงขับไล่เราอย่างไร้เหตุผล? ท่านพ่อ…. ท่านเป็นหัวหน้าหมู่บ้านไม่ใช่หรือ? หน้าที่ของท่านคือต้องสะสางเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน!”
หัวหน้าหมู่บ้านหันมองลูกสะใภ้ หญิงผู้นี้ใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดมาโดยตลอด เหตุใดจึงถามเช่นนี้ออกมาได้?”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ตอบ “นางหยุนไม่ได้ไร้เหตุผลหรอก ลูกสะใภ้ ข้ารู้ว่าเจ้าสูญเสียสิ่งดีไปอย่างน่าเสียดาย แต่แม้จะไม่มีโรงงาน ครอบครัวเราก็อยู่กันได้!”
เฉินเพื่ออันแทรกขึ้นทันที “ไฉ่อีทําสิ่งใดให้นางต้องเคืองโกรธ?! เมื่อตอนที่เถียนเถียนขับไล่ข้าทั้งสอง นางสั่งให้พวกข้ากลับมาถามน้องสาว ข้ารู้มาว่านายน้อยหลี่เดินทางมาที่นี่ ไฉ่อีตามรังควานเขาอีกแล้วใช่หรือไม่? แม่! เหตุใดจึงไม่สั่งสอนหรือควบคุมดูแลลูกสาวของท่านให้ดี ไม่รู้หรือว่านางทําผิดวิถีสตรีไปมากเพียงใด?!”
ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านตอบพร้อมน้ําตาไหล “ข้าเห็นไฉ่อีหยิบผ้า และเข็มปักออกไปและเข้าใจว่านางคงจะไปปักผ้ายังบ้านสหายจึงไม่ได้สนใจ นางก็โตมากแล้วจะให้ข้าคอยมานั่งจับตามองไปตลอดคงไม่ได้ ยังไงซะครอบครัวของเราหาเงินได้มากมาย ไม่จําเป็นต้องพึ่งพานังเด็กคนนั้น พวกเจ้าเป็นอะไรกันไปหมด? เหตุใดจึงเชื่อฟังนางหยุนและกล่าวโทษน้องสาวของตนอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้?!”
เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านได้ยินคําพูดของภรรยาก็รู้สึกไม่พอใจจึงรีบเดินออกมาจากห้องนอนทันที “หุบปากเสีย! ลูกสาวเราเป็นเช่นนี้ ก็เพราะเจ้าสั่งสอนนางมาให้หยิ่งผยอง ไร้การไตร่ตรอง และเอาแต่กล่าวโทษผู้อื่น! หยุนจิงเอ๋อมีเมตตาต่อเจ้ามากจนถึงขั้นมาช่วยทําคลอด หากไม่มีนางก็ไม่มีไฉ่อีในวันนี้! นางเด็กนั่นคงตายไปนานแล้ว แต่ลูกสาวของเจ้ากลับกล่าวหาและหมิ่นเกียรตินาง เช่นนี้แล้วยังจะบอกว่าไฉ่อีไม่ผิดอีกหรือ?! นอกจากนี้เจ้าไม่รู้หรือว่าแม่นางหยุนนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด?! แม้กระทั่งท่านหลงเยว่ยังยอมต่อนาง และออกปากสั่งให้ท่านนายอําเภอดูแลปกป้องจนถึงที่สุด เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ลองไตร่ตรองเถิดว่าลูกสาวของเจ้าสมควรทําเช่นนี้หรือไม่?!”
หัวหน้าหมู่บ้านตะคอกอย่างโกรธเคืองภรรยายิ่ง
ขณะเดียวกันภรรยาของเขาก็ฉุนเฉียวเช่นกัน ยิ่งถูกตําหนิก็ยิ่งทําให้นางรู้สึกขุนเคืองไม่น้อย
แม้นางจะพยักหน้าแสดงอาการเห็นด้วย ทว่ากลับพร่ําบ่นในใจ “ครอบครัวข้าต้องเป็นเช่นนี้ก็เพราะนางหยุนผู้เดียว!
เฉินไฉ่อีที่แอบฟังอยู่ในห้องก็นึกในใจเช่นกัน พ่อทํามากเกินไปแล้ว! หากนางหยุนยิ่งใหญ่จริงดังที่ท่านพูด นางจะทนยอมให้หลินชวนฮวาทารุณมานานหลายปีเพื่อสิ่งใดกัน?! เป็นไปได้ว่านางอาจใช้มารยาหญิงหลอกล่อทั้งหลงเยวและนายอําเภอ!?
เฉินไฉ่อีถูกขังไว้ในห้องอย่างแน่นหนา ขณะที่ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านยังคงดื้อรั้นแม้จะถูกสามีสั่งห้ามก็ตามนางและลูกสะใภ้ออกไป เพื่อเจรจากับหยุนเถียนเถียนทันที!
เมื่อไปถึงนางก็พบว่านายน้อยหลี่ยังคงอยู่ที่บ้านของหยุนเถียนเถียน
หากนายน้อยหลี่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าคนทั้งหมู่บ้านก็จะรู้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลหลี่ยังเคยบาดหมางกับหยุนจิงเอ๋ออีกด้วย!
เนื่องจากนายน้อยหลี่รับรู้เรื่องที่เฉินเดืออันและภรรยาถูกไล่ออกแล้ว ดังนั้นจึงทําให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อเห็นภรรยาหัวหน้าหมู่บ้าน
ทุกคนในหมู่บ้านต่างได้รับผลประโยชน์จากโรงงานของหยุนเถียนเถียนโดยเฉพาะครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม แม้นายน้อยหลี่จะทราบเรื่องแต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แม้กระทั่งหัวหน้าหมู่บ้านที่มีอํานาจตัดสินใจยังยอมต่อหยุนเถียนเถียน ดังนั้นเขาจึงถอนหายใจด้วยความอึดอัดพร้อมถามไถ่ “นายหญิงหัวหน้าหมู่บ้าน ข้าได้ยินมาว่าครอบครัวของท่านถูกไล่ออกจากโรงงานอย่างนั้นหรือ?”
ขณะที่ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านกําลังจะตอบ ลูกสะใภ้ของนางก็แทรกขึ้นทันที “ใช่แล้ว! ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ครอบครัวเราร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่หยุนเถียนเถียนมาโดยตลอดตั้งแต่โรงงานถูกก่อตั้ง ทว่านางกลับขับไล่เราอย่างไร้เยื่อใยและไร้เหตุผล!”