สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 188 ความขุ่นเคืองของหัวหน้าหมู่บ้าน
ตอนที่ 188 ความขุ่นเคืองของหัวหน้าหมู่บ้าน
“ไม่อยากรู้ความจริงเรื่องที่แม่ของเจ้าถูกกล่าวหาว่ากระทําการอันน่าละอายหรือ? เรื่องพ่อที่แท้จริงของเจ้าด้วย! ไม่อยากหาคําตอบหรือ?
หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สนมเอกของเจ้าหลวงอย่างนั้นหรือ? ถ้าเช่นนั้นเกิดอะไรขึ้นกับท่านแม่? เหตุใดนางจึงตัดสินใจหนีจากชีวิตอันสุขสบายในวังเพื่อมาแต่งงานกับชายชนบทผู้ยากจน? ทั้งยังให้กําเนิดข้าที่นี่ด้วย? เหตุใดนางจึงเลื อกที่จะจากมา?”
อย่างไรก็ตาม หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสนมเอกของเจ้าหลวงนั้นย่อมไม่ใช่คนโง่เขลาที่จะทิ้งชีวิตอันสุขสบายเช่นนั้นมาได้แน่นอนว่าต้องมีเหตุผลอะไรเป็นแน่! แต่ตอนนี้หยุนเถียนเถียนเป็นเพียงเด็กสาวชนบทธรรมดา จะเข้าไปข้องเกี่ยวหรือหาคําตอบเรื่องนี้ได้อย่างไร?
“ข้าทําแน่หากมีโอกาส! หากรู้ความจริงแล้วข้าจะปาวประกาศแก่ทุกคนเพื่อล้างมลทินให้ท่านแม่ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!”
หยุนเคอยิ้ม “หญิงที่มีความสามารถและเพรียบพร้อมเช่นนางไม่มีทางไร้คู่ครอง! แม้จักรพรรดิองค์ปัจจุบันซึ่งเป็นอดีตกษัตริย์ยังหลงใหลแม่ของเจ้า! ยิ่งไปกว่านั้น จักรพรรดินีองค์ปัจจุบันยังเป็นพี่สาวของแม่เจ้าด้วย!”
“ข้าคงไม่สามารถบอกหรือให้คําตอบเจ้าไปมากกว่านี้ได้ เพราะตอนนั้นข้ายังเด็กมากและถูกตัดขาดจากครอบครัว! ในตอนที่แม่ของเจ้าหายตัวไปข้ามีอายุเพียงหกขวบเท่านั้น!”
หยุนเถียนเถียนรวบรวมความกล้าพร้อมถามอย่างใคร่รู้ “แล้วตัวตนที่แท้จริงของพี่คือผู้ใด? หากเคยได้ยินข่าวคราวของท่านแม่แสดงว่าพี่หยุนก็ต้องเป็นคนร่ํารวยและมีอํานาจในเมืองหลวงเช่นกัน!”
หยุนเคอยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าเป็นเพียงลูกชายคนโตผู้ไร้ยางอาย!ข้าเจ็บปวดเกินกว่าจะพูดถึงเรื่องนี้!”
เดิมที่หยุนเคอเพียงต้องการปลอบโยนหยุนเถียนเถียนจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้นางฟัง แต่กลับไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าประโยคคําถามสั้น ๆ ของหญิงสาวจะทําให้เขาจมดิ่งในความเจ็บปวดได้!
ด้วยเหตุนี้หยุนเคอจึงเอาแต่ซ่อนตัวในห้องนอนและไม่ออกมารับประทานอาหารเลย
หยุนเถียนเถียนนั่งคอยบนโต๊ะกินข้าวด้วยความงุนงง “เหตุใดหยุนเคอจึงต้องเจ็บปวดถึงเพียงนั้น? เรื่องทั้งหมดเป็นเช่นไรกัน แน่?!”
ขณะเดียวกันบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายและข่าวลือเรื่องลูกสาวของเขาก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นเรื่องเล่าปากต่อปากที่ถูกเติมแต่งอย่างไม่รู้จบ!
“เฉินไฉ่อีลุ่มหลงและคลั่งไคล้นายน้อยหลีเป็นอย่างมากโดยไม่คํานึงถึงหน้าตาของครอบครัวเลย นางยั่วยวนเขาสารพัด ช่างน่าสมเพศเสียจริง!”
เดิมที่เพราะเฉินไฉอีเป็นลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้านจึงทําให้ไม่มีใครกล้านินทา ทว่าพฤติกรรมของนางกลับแย่ลงทุกวันจนหนีไม่พ้นสิ่งเหล่านี้!
ยิ่งไปกว่านั้น หัวหน้าหมู่บ้านยังมีอํานาจในที่ดินจํานวนหลายไร่ในหมู่บ้านจึงทําให้ไม่มีใครกล้ารุกรานครอบครัวของเขา
ทว่าเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
หัวหน้าหมู่บ้านบังเอิญได้ยินชาวบ้านจับกลุ่มนินทาลูกสาวของตนอย่างหมิ่นเกียรติ จึงวิ่งออกไปหาคนกลุ่มนั้นด้วยความโกรธทันที!แม้พวกเขาจะไม่ต้องการมีปัญหากับหัวหน้าหมู่บ้านและพยายามหลบเลี่ยง แต่คํากล่าวหาของพวกเขาก็ยังทําให้หัวห น้าหมู่บ้านขุ่นเคือง!
เมื่อเห็นดังนั้น หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านจึงตะโกนต่อว่าเขาและลูกสาวถึงเรื่องที่นางก่อในบ้านของหยุนเถียนเถียน! หัวหน้าหมู่บ้านเถียงไม่ออกพร้อมหน้าซีดก่อนจะเดินกลับบ้านไปด้วยความผิดหวัง
แม้เถียนเถียนจะไม่ได้บอกอะไร แต่ชาวบ้านทุกคนก็รับรู้เรื่องหมดที่เกิดขึ้นจากการอาละวาดของภรรยาหัวหน้าหมู่บ้าน
เมื่อมาถึงบ้าน หัวหน้าหมู่บ้านก็พบว่าภรรยาของเขากําลังนั่งทําอาหารอยู่ในครัวด้วยสีหน้าบูดบึง!
เมื่อเห็นสามีเดินทางมาถึงบ้น ภรรยาของเขาจึงกล่าวทักทายทันที ” สามีของข้า ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว!”
หัวหน้าหมู่บ้านถามภรรยาของตนด้วยความโกรธเกรี้ยวโดยไม่สนใจลูกชายและลูกสะใภ้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เลย “นังผู้หญิงไร้ยางอาย! รู้หรือไม่ว่าเจ้าทําให้ชื่อเสียงของของไฉ่อีต้องเหม็นเน่าเพียงใด?! รู้หรือไม่ว่าเจ้าทําให้ชาวบ้านเหยียดหยามข้าอย่างไม่ไว้หน้า?”
แววตาของภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านไร้ซึ่งความรู้สึกผิด นางลุกขึ้นเถียงสามีของตนด้วยเสียงแข็ง “คนผิดคือนางหยุนไม่ใช่หรือ?!นางไล่ขับไล่ลูก ๆ ของเราออกจากโรงงาน ทั้งยังเอาเรื่องของไฉ่อีไปป่าวประกาศอีกด้วย!”
หัวหน้าหมู่บ้านทุบโต๊ะด้วยความโมโหจนแก้วไวน์ตกพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ !
“เจ้ายังกล้าใส่ร้ายผู้อื่นอีกหรือ?! หากเจ้าไม่ยั่วยวนนางเรื่องทั้งหมดคงเงียบไปแล้ว! ข้าพยายามทุกอย่างเพื่อจบเรื่องแม้ต้องก้มหัวอ้อนวอนนางก็ตาม แต่เจ้ากลับสร้างเรื่องไม่รู้จบสิ้น!อยู่เงียบ ๆ ไม่ได้หรืออย่างไร?!”
ลูกสะใภ้ของพวกเขาแทรกขึ้นอย่างแผ่วเบาด้วยความหวาดกลัวทันที “ข้าและท่านแม่ไม่ได้ยั่วยุนางเลย เราเพียงไปสอบถามถึงเหตุผลที่ไล่เราออกเท่านั้น”
“เราไม่ได้ทํางานให้นางโดยไร้สิ่งตอบแทน เราทํางานแลกกับเงินของนาง! ทั้งยังได้รับผลประโยชน์มากมายจากกิจการของนางหากลูกน้องทําการหมิ่นเกียรติเจ้านายก็สมควรแล้วที่ถูกไล่ออก!”
แท้จริงแล้วหัวหน้าหมู่บ้านก็รู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน เฉินไฉ่อถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กจนไม่รู้ว่าสิ่งใดเหมาะสมหรือควรทํา ยิ่งไปกว่านั้นการก้มหัวขอโทษของเขากลับไร้ความหมาย เพราะในท้ายที่สุดแล้วทุกคนก็รับรู้เรื่องราวของลูกสาว อีกทั้งลูกชายและลูกสะใภ้ยังถูกไล่ออกอีกด้วย!
หัวหน้าหมู่บ้านจึงพูดด้วยความโมโหอีกครั้ง “ข้าทําทุกอย่างเพื่อปิดปากหยุนเถียนเถียนไว้ นางจะได้ไม่นําเรื่องนี้ไปบอกใครแต่เจ้ากลับยั้วโทสะนางจนทุกอย่างแย่ไปหมด! การที่เรื่องนี้แพร่ออกไปนั้นไม่เป็นผลดีเลยสักนิด! ไฉ่อี! เจ้าต้องรีบแต่งงานโดยเร็วที่ สุด! หากเรื่องนี้กระจายออกไปในวงกว้างเจ้าไม่มีทางได้แต่ง งานเป็นแน่!”
หลังจากพูดจบภรรยาของเขาก็แทรกขึ้นทันที!
“จริงอยู่ที่ครอบครัวเราได้รับผลประโยชน์มาหมายจากนาง ข้าไม่ปฏิเสธ! แต่นางทําตัวเป็นเจ้านายมากเกินไป แม้เจ้าจะทําทุกอย่างเพื่อนางแต่ก็ไร้ความหมาย! ท้ายที่สุดแล้วนางก็ขับไล่เราอย่างไรเยื่อใย! เอาล่ะ จากนี้ไปเจ้าจะทําอย่างไร?”
“ทําอย่างไรงั้นหรือ?! ข้าเคยเตือนเจ้าไปหลายคราแล้วว่านางไม่ใช่คนธรรมดา อย่าทําให้นางอุ่นเคืองเด็ดขาด! แต่เจ้ากลับดื้อรั้นและยั่วยุนาง! แม้เจ้าจะไม่พอใจก็ควรระบายเพียงในบ้าน ไม่ใช่เอาไปปาวประกาศจนทั่วเช่นนี้”
เฉินเต่ออันตกตะลึงเพราะโดยปกติแล้วพ่อของเขาเป็นคนยุติธรรมและโกรธช้า แต่วันนี้กลับโมโหร้ายจนน่าประหลาดใจ!
“เพราะน้องสาวของข้าทําผิดมหันต์จึงเป็นเหตุให้หยุนเถียนเถียนขับไล่ครอบครัวเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ทุกอย่างล้วน ชัดเจนอยู่แล้วเหตุใดพวกเขาจึงยังทะเลาะกันไม่รู้จบ