เรื่องราวใหญ่โตในหมู่บ้านอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อชื่อเสียงของทุกคน
หากหญิงสาวผู้หนึ่งเป็นผู้ก่อปัญหา เป็นไปได้มากว่าหญิงสาวคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านจะได้รับผลกระทบด้วย!
วันต่อมา ผู้เฒ่าใหญ่ส่งคนจากหมู่บ้านไปยังบ้านของตระกูลหลี่ เพื่อเยี่ยมเยียนหัวหน้าครอบครัว นายท่านแห่งตระกูลหลี่จึงโยนเรื่องทั้งหมดให้หลี่ซื่อฮวาจัดการ
ลูกชายของเขาเป็นผู้ก่อปัญหา ดังนั้นเขาต้องจัดการแก้ไขมัน
ตรงกันข้ามแม่เลี้ยงของหลี่ซื่อฮวายังคงแสร้งทำเป็นใจดีและร้องไห้เพื่อขอให้สามีช่วยเขา
หลี่ซื่อฮวายกยิ้มจางเพราะรับรู้ได้ถึงความเสแร้งของนาง
ในตอนบ่ายของวันเดียวกัน รถม้าขนาดใหญ่แล่นเข้ามาในหมู่บ้านเทพธิดา
ปกติแล้วผู้เฒ่าในตระกูลไม่กล้าแตะต้องพวกเขาเพราะครอบครัวนี้เป็นตระกูลผู้สูงศักดิ์ ในคืนนั้นเพราะชื่อเสียงของตระกูลนายน้อยหลี่จึงย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน
แม้ว่านายน้อยหลี่จะมีชื่อเสียงไม่ดีนัก แต่ก็มีผิวพรรณที่ดี หน้าตาหล่อเหลาและมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เขาไม่ปรากฎตัวให้ผู้ใดพบเห็นนานแล้วทว่าเมื่อได้เห็นรูปลักษณ์อันงดงามนั้น หญิงสาวมากมายจึงพยายามส่งสายตาอย่างเสน่หา
หลี่ซื่อฮวาแสร้งยิ้มให้กับทุกคนอย่างเป็นมิตร แต่แท้จริงแล้วในชีวิตนี้เขาพบเจอผู้หญิงเช่นนี้มานับไม่ถ้วน!
แต่ความจริงแล้วเขารู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้พบกับหญิงสาวที่สามารถจัดการกับสาวใช้ของตนจนอยู่หมัดและหลบหนีออกมาจากบ้านของเขาได้… ในตอนนี้เฉินเถียนเถียนน่าสนใจยิ่งกว่าผู้ใด!
วันนี้เขามาที่นี่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของนาง…
แขกผู้มีเกียรติทุกคนในหมู่บ้าน รวมถึงเฉินเฉิงเยี่ยผู้รู้หนังสือเพียงคนเดียวในหมู่บ้านเทพธิดาก็จะมารวมตัวกันที่นี่!
แม้ตัวเขาเองไม่ต้องการออกไปพบเจอ แต่หลินชวนฮว๋ากลับผลักดันให้เขาต้องยอมจำนน
นายน้อยหลี่เย่อหยิ่งและปฏิบัติต่อเขาราวกับสุนัข อีกทั้งยังชอบลากเขาไปทุบตีในที่ลับตา เฉินเฉิงเยี่ยไม่ต้องการพบเจอกับความอัปยศเช่นนั้นอีกแล้ว
หลินชวนฮว๋าปลอบใจลูกชายอย่างอดทน “ที่เจ้าบอกว่าเป็นความอัปยศอดสูนั้นหมายความว่าอย่างไร? รวมถึงแม่ด้วยหรือ? ลูกจะผูกมัดตัวเองให้ขี้ขลาดเช่นเดียวกับคนในชนบทนี้ได้อย่างไร? หากวันหนึ่งลูกกลายเป็นเจ้าคนนายคน วันนั้นจะไม่มีใครต่อต้านเจ้าได้… แม้นายน้อยหลี่ก็ต้องยอมก้มหัวให้เจ้า!”
ในที่สุดเฉินเฉิงเยี่ยก็คล้อยตาม สิ่งที่แม่พูดนั้นมีเหตุผลแน่นอนว่าเขาเชื่อฟัง ที่สำคัญเขาต้องทำให้นังเด็กขี้ครอกนั่นให้ได้!
หลินชวนฮว๋ารู้นิสัยของลูกชายดี ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะวางใจมากนัก นางแอบตามเขามาที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอย่างเงียบเชียบ
เนื่องจากนายน้อยหลี่ต้องมาพักที่นี่ในคืนนี้และบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านมีลูกสาวเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงพยายามทำทุกทางเพื่อป้องกันไม่ให้นายน้อยหลี่เห็นลูกสาวของตน โดยสั่งให้นางอยู่แต่ในห้องของบ้านหลังหนึ่ง ส่วนนายน้อยหลี่อยู่อีกหลัง!ฃ
ทางเชื่อมของบ้านและสถานที่อื่น ๆ ได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวดเพราะกลัวว่านายน้อยหลี่จะเห็นลูกสาวของเขา
หลี่ซื่อฮวาแสยะยิ้มจางแต่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นมากนัก แต่กลับเป็นเสี่ยวซื่อที่แสดงอาการขุ่นเคือง!
“ดูท่าทางของพวกมันสิ! นายน้อยขอรับ ครอบครัวของท่านสูงส่งยิ่ง เพียงเอื้อมมือออกไป ก็ย่อมมีผู้หญิงเข้ามาติดพัน นางเป็นเพียงหญิงธรรมดาในชนบทแต่ครอบครัวกลับปฏิบัติราวกับเป็นเจ้าหญิง!”
หลี่ซื่อฮวายิ้มมุมปาก “เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าข้ามีชื่อเสียงในเรื่องความโลภ โหดร้ายและตัณหา แล้วใครเล่าจะยินดีส่งลูกสาวมาให้ข้า? หัวหน้าหมู่บ้านก็ย่อมรักและหวงแหนลูกสาวของตนเช่นกัน!”
เสี่ยวซื่อรู้สึกเบื่อหน่ายกับท่าทีของอีกฝ่ายจึงเบ้ปากก่อนจะตอบกลับ “นายน้อย… ท่านนี่น่าผิดหวังเสียจริง ผู้คนดูถูกท่านมากมาย เหตุใดจึงยังยิ้มและหัวเราะได้อยู่?”
“ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ยังเป็นนายน้อยของเจ้า พูดแบบนี้ได้อย่างไร? ดีแล้วที่คนดูถูกข้า! ข้าไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงพวกนั้น หากข้าไม่มีเงิน เจ้าคิดว่าพวกนางจะเข้าหาข้าไหม? ช่างเป็นเรื่องไร้สาระเสียจริง!”
ขณะกำลังพูดคุยมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ผู้ใดกัน? อีกทั้งยังมาหาข้าในเวลาเช่นนี้อีกด้วย?
เสี่ยวซื่อเดินไปเปิดประตูและเมื่อเห็นคนที่อยู่หลังประตู ใบหน้าของเขาฉายแววความตื่นตระหนก
“นี่เจ้าอีกแล้ว มาทำอะไรที่นี่?”
ชายผู้นั้นคือเฉินเฉิงเยี่ย แน่นอนว่าเขามีจุดประสงค์บางอย่าง แต่เพราะเขาเป็นเพียงผู้น้อยจึงทำได้เพียงแสร้งยิ้มอ่อนโยนออก
“ได้โปรดบอกนายน้อยหลี่ว่าเฉินเฉิงเยี่ยขอพบ!”
เสี่ยวซื่อเบ้ปากด้วยความรังเกียจ “เจ้ามีอะไร! เหตุใดจึงอยากเข้าพบนายน้อยของข้า?”
เมื่อหลี่ซื่อฮวาได้ยินเสียงของเฉินเฉิงเยี่ยก็รับรู้ได้ทันทีว่าผู้ที่มาหาคือทาสรองมือรองตีนของเขา ขณะที่หลี่ซื่อฮวากำลังคิดว่าหมู่บ้านนี้ช่างน่าเบื่อเสีย ไม่มีอะไรสนุก ๆ ให้ทำ ทันใดนั้นความสนุกก็ส่งตรงมาหาเขาถึงหน้าบ้าน!
“เสี่ยวซื่อ… แขกก็คือแขก เจ้านี่มันเป็นคนอย่างไรกัน? ให้เขาเข้ามา!”
แน่นอนว่า เสี่ยวซื่อรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ที่นายน้อยจะตำหนิเขาเพราะชายคนนี้ ดังนั้นเขาจึงตระหนักได้ว่านายน้อยของเขากำลังวางแผนจะทำอะไรเป็นแน่
แม้จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เขาก็ยอมให้เฉินเฉิงเยี่ยเข้ามา
เฉินเฉิงเย่เดินเข้ามาด้วยไปหน้าเรียบเฉย แต่เมื่อเห็นใบหน้าเหยียดหยามของหลี่ซื่อฮวาทำให้เขาแทบอยากจะหันหลังกลับไปแต่น่าเสียดายที่เขาขี้ขลาดเกินกว่าจะทำเช่นนั้น
เขายังคงหวังว่านายน้อยหลี่จะให้โอกาสเขา
เคยมีขุนนางผู้หนึ่งกล่าวเสี่ยงทายไว้ว่า… เฉินเฉิงเยี่ยจะได้เป็นใหญ่ในอนาคตและอาจเป็นใหญ่มากกว่าเหล่าขุนนางด้วย
หลี่ซื่อฮวาหัวเราะเยาะพร้อมกล่าวถาม “นายน้อยเฉิน… มาหาข้าด้วยเหตุอันใด?”
เฉินเฉิงเยี่ยเห็นว่าหลี่ซื่อฮวาพูดคุยกับเขาด้วยถ้อยคำสุภาพจึงรู้สึกผ่อนคลายทันที
อย่างไรก็ตามเสี่ยวซื่อรู้จักนายของตนดี เขาเหลืองมองเฉินเฉิงเยี่ยที่ถูกหยอกล้อราวกับคนโง่ จึงอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยันเขาในใจ
“นายน้อยหลี่คงจะต้องยุ่งยากยิ่ง… เพราะนังเด็กเหลือขอที่ข้าส่งให้ท่านสามารถจัดการกับสาวใช้ของท่านและหลบหนีไปได้!”
หลี่ซื่อฮวามองเขาด้วยรอยยิ้ม “ก็แค่หญิงคนเดียว ข้าไม่ใส่ใจหรอก ทำไมหรือ… นายน้อยเฉินคิดทำสิ่งใดเล่า?”
เฉินเฉิงเยี่ยหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี “นังเด็กเหลือขอนั่นไม่ได้อยู่ในสายตาของท่านเลยสินะ เช่นนี้นางจึงสมควรถูกถ่วงน้ำ! ตอนนี้ถือเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยม… เพียงท่านกล่าวออกคำเดียวว่านางหลับนอนกับท่านแล้ว นังเด็กนั่นจะไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากอีกเลย!”
หลี่ซื่อฮวายังคงแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา แต่ไม่มีใครสามารถรู้ถึงความคิดของเขาได้เลย!
“โอ้? อย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว เพียงนายน้อยเอ่ยออกมาเท่านั้น เรื่องนี้จะไม่ส่งผลใดต่อท่านอย่างแน่นอน แต่เด็กนั่นจะถูกทำลายจนสิ้น เพียงบอกว่านางร่วมหลับนอนกับท่านจริง ๆ เด็กขี้ครอกผู้นั้นก็จะไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้อีกต่อไป!”
เสี่ยวซื่อไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีคนหน้าด้านขนาดนี้ในโลก บุรุษที่เอาแต่คอยคิดหาวิธีที่จะใส่ร้ายผู้หญิง คนเช่นนี้ช่างไร้คุณธรรม แล้วจะเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร!?
แววตาของนายน้อยหลี่ทอประกายวูบไหวอย่งไม่อาจคาดเดาได้
“เป็นความคิดที่ดี!”