เฉินเถียนเถียนกำลังหมกมุ่นกับความเจ็บปวดจนไม่ได้สนใจอะไร แต่จู่ ๆ ก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ!
ทำไมชายเครายาวที่อยู่ด้านหน้าจึงพยายามคลำร่างกายของนางทุกที่?
นางพยายามผลักเขาออกไป แต่น่าเสียดายที่ไม่มีแรงมากพอจึงไม่สามารถทำให้หยุนเคอขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย!
“ไอ้บ้า เจ้าจะทำอะไร?”
เฉินเถียนเถียนถามด้วยน้ำเสียงสะอื้น ในตอนนี้แม้จะเป็นหยุนเคอหรือหมีป่าก็ไม่สามารถทำให้นางสงบสติอารมณ์ได้!
เขาจะทำอะไรกันแน่? ดูเหมือนว่าการที่เขาทำกับนางเช่นนี้คงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้วกระมัง!
หยุนเคอกล่าวถามอย่างไม่อดกลั้น “เจ็บตรงไหนหรือไม่?”
เฉินเถียนเถียนจึงตระหนักได้ทันทีว่าชายผู้นี้กลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงตรวจสอบตัวร่างกายของนางว่ามีบาดแผลหรือกระดูกแตกหักหรือไม่… และการกระทำเหล่านี้นางล้วนแต่เข้าใจผิดไปเอง!
“ข้าไม่เจ็บ แม้ว่าข้าจะเจ็บจริง ๆ เจ้าก็ทำแบบนี้กับข้าไม่ได้!”
หยุนเคอตระหนักได้ว่าดูเหมือนเขากำลังลวนลามเฉินเถียนเถียนจริง ๆ ด้วย! ยิ่งตอนนี้มือใหญ่ ๆ ของเขายังอยู่บนเอวบางนั้น…
เขาจึงรีบดึงมือออกด้วยความตกใจแล้วพูดว่า “ข้าต้องรับผิดชอบไหม?”
หืม!
เฉินเถียนเถียนเต็มไปด้วยความงุงงง! หยุนเคอแตะเนื้อต้องตัวนางหลายครั้ง แต่กลับถามนางว่าต้องรับผิดชอบไหมได้อย่างไรกัน?
หากเป็นคนพื้นเมืองของหมู่บ้านเทพธิดาแห่งนี้จริง ๆ โดยปกติแล้ว เขาจะต้องรับผิดชอบ! และดูเหมือนหยุนเคอเองก็คิดถึงเรื่องนี้ด้วย แต่สีหน้าของเฉินเถียนเถียนเต็มไปด้วยอาการต่อต้านและเนื่องจากหนวดเคราอันรุงรังปิดบังใบหน้าของหยุนเคอ จึงทำให้เฉินเถียนเถียนมองไม่เห็นสีหน้าของเขา!
จากนั้นปฏิกิริยาของเฉินเถียนเถียนก็ทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย
“รับผิดชอบอะไรกัน? งั้นวันนี้ข้าขอส่วนแบ่งเป็นอุ้งเท้าหมีได้หรือไม่?”
หืม? แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นล่ะ? ปกติแล้ว หากนางถูกแตะต้องจากชายอื่นก็นับว่าเสียบริสุทธิ์และต้องแต่งงานไม่ใช่หรือ?
หยุนเคอไม่เข้าใจว่าเด็กสาวตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่!
ตกลง! อุ้งเท้าหมีก็อุ้งเท้าหมี!
หยุนเคอนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เฉินเถียนเถียนเคยเจอและรู้สึกว่าไม่อยากมีปัญหากับเด็กสาวคนนี้ ดังนั้นเขาจึงยอมรับข้อเสนออย่างง่ายดาย
คราวนี้มันเป็นหมีตัวใหญ่และมีกลิ่นเลือดคลุ้งทั่ว คงไม่ใช่เรื่องดีนักหากสัตว์อื่นได้กลิ่นและตามมา!
อย่างไรก็ตาม หมีตัวนี้หนักมากกว่าร้อยกิโลกรัม หยุนเคอคิดว่าเขาคงไม่มีความสามารถในการลากมันไปได้
เมื่อเห็นว่าหยุนเคอค่อนข้างลำบากใจ เฉินเถียนเถียนจึงคิดถึงบางสิ่งได้อย่างรวดเร็ว!
หยุนเคอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับหมีป่าตัวนี้ ในขณะที่เขากำลังไตร่ตรองอย่างหนัก เฉินเถียนเถียนเองก็คิดหนักเช่นกัน หากนางใช้มิติของเถาเป่า ความลับก็จะถูกเปิดเผย!
เมื่อเห็นชายผู้นี้ลังเล ราวกับว่าเขาไม่รู้จะจัดการกับหมีป่าตัวนี้อย่างไรดี เฉินเถียนเถียนจึงเสนอวิธีแก้ปัญหาให้!
“อย่างไรก็ตามหมีตัวนี้ทั้งอ้วนและหนัก งั้นลองลากไปที่ถ้ำของเจ้าก่อนสิ แล้วค่อยหาวิธีแบ่งกันที่นั่น! ข้าต้องการเพียงอุ้งเท้าและหนังหมี ส่วนอื่นข้าไม่ต้องการ!”
หลังจากที่เฉินเถียนเถียนพูดจบ นางก็มองหาเถาวัลย์จากต้นไม้ทุกชนิดเพื่อมาพันตัวหมี! จากนั้นหยุนเคอจึงรวบเถาวัลย์ไว้บนบ่าและลากหมีป่าลงมาด้วยสุดกำลัง แม้เฉินเถียนเถียนจะอ่อนแอแต่นางก็คอยช่วยดันหลังให้ การลากหมีในครั้งนี้ทำให้รู้สึกราวกับว่าพวกเขาทั้งสองกำลังดันภูเขาขนาดใหญ่!
เนื่องจากหยุนเคอยังไม่ได้หั่นแบ่งหมีป่า จึงทำให้เฉินเถียนเถียนรู้สึกแปลกเล็กน้อยและถามว่า “แล้วจะทำอย่างไรต่อ? จะทำความสะอาดมันอย่างไร?”
หยวนเคอตอบ “หมีป่าทั้งตัวได้ราคาดีกว่า! ข้าจะขายหมีทั้งตัวและนำเงินที่ได้มาแบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง… ตกลงไหม?”
เฉินเถียนเถียนพยักหน้ารับดูคล้ายจะเข้าใจ…
“หากไม่เชื่อก็เข้าเมืองกับข้าสิ!”
เข้าเมือง?
สองคำนี้สร้างความตื่นเต้นให้เฉินเถียนเถียนเป็นอย่างมาก นางอยู่ที่นี่มานานมากแล้วแต่ยังไม่เคยเห็นเมืองในยุคโบราณเลย
“แต่ข้าสัญญากับเฉินเฉินว่า… พรุ่งนี้ข้าจะสอนหนังสือเขา!”
หยุนเคอเบิกตากว้างไม่ใช่เพราะเฉินเถียนเถียนปฏิเสธเขา แต่เป็นเพราะตะลึงกับสิ่งที่นางพูดออกมาเมื่อครู่นี้
“เจ้ารู้หนังสือจริง ๆ ด้วย!”
จากคำพูดนี้ของหยุนเคอทำให้เฉินเถียนเถียนตกตะลึงทันที นางจำได้ว่านางบอกกับเขาเมื่อไม่กี่วันก่อนว่านางไม่รู้หนังสือ!
“ข้าก็แค่พออ่านได้! หยุนเคอ… ข้ามีเรื่องต้องทำในตอนเช้า ค่อยไปตอนบ่ายได้ไหม?”
หยุนเคอมองสำรวจเฉินเถียนเถียนด้วยความตั้งใจก่อนจะตอบว่า “ย่อมได้ ถ้าเช่นนั้นข้าจะรอไปพร้อมเจ้าตอนบ่าย แต่หมีป่าตัวนี้ใหญ่เกินไป เราจะขนมันเข้าเมืองอย่างไรดี?”
เฉินเถียนเถียนที่เพิ่งเผลอพูดความลับของตนเองออกไป ตอนนี้จึงเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น
“เราจะไม่จ้างเกวียนเพื่อขนมันไปงั้นหรือ?”
หยวนเคอตอบ “เจ้ากับข้าจะเข้าเมืองด้วยกันโดยเกวียนวัวอย่างนั้นหรือ? หากมีใครมาเห็นเข้าคงจะไม่ดีนัก!”
ทันใดนั้นเฉินเถียนเถียนก็จำเรื่องราวระหว่างนางกับหยวนเคอได้ ระหว่างทางนางพูดอะไรไปมากมาย ชี้นกชี้ไม้ดูสิ่งต่าง ๆ แม้จะถูกดึงดูดโดยสิ่งอื่นก็ตาม แต่หากทำเช่นนั้นอีก นางก็กลัวว่า…
ดูเหมือนว่าสิ่งเดียวที่จะใช้ได้คือเถาเป่า! เพียงแต่ว่าหยุนเคอก็ยู่ตรงนี้… จะหลบเลี่ยงเขาได้อย่างไร?
เฉินเถียนเถียนขมวดคิ้วและครุ่นคิดอย่างตั้งใจ หยุนเคอไม่รีบร้อนและยืนรออยู่ด้านข้าง บรรยากาศทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบงัน
ในที่สุดหยุนเคอก็ทนไม่ไหวจึงกล่าวออก “ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถขนหมีตัวนี้เข้าเมืองได้เพราะข้าเคยเห็นมันมาก่อน เจ้าโยนสิ่งต่าง ๆ เข้าไปในอากาศแล้วก็สามารถหยิบยกมันออกมาได้!”
เฉินเถียนเถียนหันมองหยุนเคอด้วยความตกตะลึง!
ความลับยิ่งใหญ่ของนางถูกเปิดเผยแล้ว… ควรทำอย่างไรดี?
ฆาตกรรมเขางั้นเหรอ? แต่เมื่อดู ๆ แล้วหยุนเคอก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร!
หยุนเคอมองไปยังเฉินเถียนเถียนที่กำลังครุ่นคิดอย่างระมัดระวัง เด็กสาวเบิกตากว้างจ้องมองเขาอย่างจริงจัง! แต่หยุนเคอเพียงแค่รู้สึกขบขันกับใบหน้าเช่นนั้น
“เจ้ากลัวที่จะทำหรือ? ข้ารู้ว่าเจ้ามีความลับและข้าก็ไม่ได้อยากจะรู้อะไรไปมากกว่านี้! อย่างไรก็ตามในหมู่บ้านนี้ เราทั้งสองไม่ได้เป็นจุดสนใจเท่าไหร่ ดังนั้น…”
เฉินเถียนเถียนคิดได้ว่าหากหยุนเคอต้องการทำลายนางหรือทำให้เสียชื่อเสียง เขาจะทำอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ความลับเหล่านี้เพื่อข่มขู่ด้วย! ดังนั้นนางจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก…
“ตกลง ข้าจะช่วยเจ้าเคลื่อนย้ายหมีป่า! แต่หยุนเคอ… ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าเจ้าไปในเมืองบ่อยหรือไม่?! หากเจ้าต้องการจะขายหมีป่าตัวนี้ เจ้าจะทำอย่างไร? จะเอาไปขายที่ไหน?”
หยุนเคอยิ้ม “แน่นอนว่าข้าต้องมีทาง! ถ้าต้องการหาเงินเพื่อสร้างบ้าน จึงออกล่าหาสัตว์ป่าไปขายในเมืองบ่อย ๆ!”
เฉินเถียนเถียนพยักหน้ารับ จากนั้นนางจึงโบกเรียกหาเสี่ยวเถาและหมีป่าตัวใหญ่ก็หายไปทันที!
“พรุ่งนี้ตอนบ่ายให้เจ้าไปรอข้าในเมือง แล้วข้าจะตามไปทีหลัง!”
หลังจากเฉินเทียนเถียนพูดจบ ก็เดินลงจากภูเขาไป ส่วนหยุนเคอทอดสายตามองร่างผอมบางของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ผู้นี้อยู่เป็นเวลานาน…
ขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน เฉินเถียนเถียนพร่ำบนกับตนเองด้วยความขุ่นเคืองใจ นางทำอะไรลงไป… เรื่องนี้มันไม่ควรถูกเปิดเผยต่อหน้าใครทั้งสิ้น แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ครานี้ทำให้เฉินเถียนเถียนรู้สึกสับสนเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่ความคุมไม่ได้เช่นนี้เป็นครั้งแรก!