ตอนที่ 71 เสียเงิน
หลินชวนฮวาผงะไปครู่หนึ่ง ไม่คาดคิดว่าหน้ากากอันอ่อนโยนของนางจะถูกจี๋ชื่อผู้นี้กระชากออกมา!
“ว่าอย่างไร? เวลานี้ไม่เหมาะสมหรือ?”
หลินหยาเริ่มร้อนใจ พวกเขาเอาแต่จัดการเรื่องในตระกูลของตนเองแต่กลับไม่คิดสนใจนาง
หลินหยาเดินเข้าไปอีกสองก้าว ก่อนจะพูดเสียงดัง “จะจัดการปัญหาภายในตระกูลอย่างไรก็เป็นเรื่องของพวกเจ้า! แต่หลินชวนฮวา ข้าหาใช่คนไร้เหตุผล! ลูกชายเพียงคนเดียวของข้าที่ฝากเจ้าดูแล เมื่อคืนเขาวิ่งกลับบ้านเพียงลําพัง ด้วยความหวาดกลัว แถมยังไข้สูงจนตัวร้อนราวกับไฟ ท่านหมอยังบอกอีกว่าอาการของเขานั้นจะแย่ยิ่งกว่าเดิม!”
“หลินชวนฮวา ทุกครั้งที่เจ้ากลับไปบ้านเดิมของมารดา ข้าซึ่งเป็นพี่สะใภ้ไม่เคยปฏิบัติไม่ดีต่อเจ้าเลยสักครั้ง ตอนนี้ลูกชายของข้าถูกทําร้ายด้วยน้ำมือของเจ้า ไม่คิดจะอธิบายให้ข้าฟังหน่อยหรือ?”
หลินชวนฮวาลอบกลอกตาในใจ ทุกครั้งที่นางกลับไป ไม่ใช่ว่านางหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังไปให้หรอกหรือ? หลินหยาเองก็ชอบของเหล่านั้น ดังนั้นจึงปฏิบัติต่อนางอย่างดี ทั้งหมดก็ถูกต้องแล้ว!
“เมื่อคืนนี้ฉื่อโถวพักผ่อนอยู่ในบ้านอย่างดี ข้าไม่รู้ว่าเขาวิ่งออกไปตั้งเมื่อไหร่! ตอนกลางคืนข้าก็ต้องหลับนอนเช่นกัน!”
หลินหยามองหลินชวนฮวาด้วยสายตาเกลียดชัง “หลินชวนฮวา เจ้าเห็นว่าข้าเป็นคนโง่หรือ? สื่อโถวเป็นคนอย่างไร? ตราบใดที่เจ้าปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา เขาก็ไม่มีทางออกไปได้! อีกอย่างหากเขานอนหลับอย่างดีอยู่ในบ้านเขาจะหวาดกลัวขนาดนี้ได้อย่างไร เจ้าคงทําอะไรดี ๆ กับเขาเป็นแน่!”
หลินชวนฮวาคิดผิดจริง ๆ ตอนนั้นที่ฉื่อโถวบุกเข้าไป นางเองก็ตกใจมาก จะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจ้าเด็กโง่นั่นในโรงเก็บไม้?
“เถียนเถียน จนถึงตอนนี้แล้ว เจ้ายังไม่พูดอะไรอีกหรือ? ฉื่อโถวหวาดกลัวขนาดนั้นได้อย่างไร?
หลินชวนฮวาไม่ต้องการแบกหม้อดํานี้ จึงรีบโยนความผิดไปให้เฉินเถียนเถียน หารู้ไม่ว่าการกระทําดังกล่าวนั้นเข้าทางเฉินเถียนเถียนพอดี!
“ท่านแม่กล่าววาจาประหลาดนัก? แม้ว่าฉื่อโถวจะเป็นคนโง่ แต่เขาก็คือคนนอก! เมื่อคืนนี้เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเหตุใดต้องมาหาข้าหรือ?”
หลินชวนฮวากล่าวเยาะเย้ย “เมื่อคืนฉื่อโถวนอนหลับอยู่ในโรงเก็บไม้ของเจ้า หากเจ้าไม่รู้แล้วใครจะรู้?”
เฉินเถียนเถียนแทบอยากจะปรบมือให้หลินชวนฮวา แต่ก็ต้องแสร้งทําตาแดงบีบน้ำตาอีกครั้งเพื่อให้สมบทบาทในฉากนี้!
“ท่านแม่ ท่านหมายความว่าอย่างไร? ห้องของพี่ใหญ่ก็ยังว่างอยู่ เหตุใดฉื่อโถวถึงต้องมาเบียดเบียนโรงเก็บไม้ของข้าด้วยเล่า? ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่เฉินเฉินตัวน้อยยังต้องหลีกทางให้เขา แล้วเขาจะเข้ามาอยู่ในโรงเก็บไม้ได้อย่างไร? ดูเหมือนว่าท่านพ่อและท่านแม่คงอยากฆ่าข้าให้ตายจริงๆ!
“ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์แต่กลับถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งรังแก! ท่านแม่ของข้า เหตุใดถึงจากข้าไปเร็วนัก ทิ้งให้ข้าต้องถูกรังแกอยู่ที่นี่! เหตุใดไม่พาข้าไปด้วย?”
“เฉินเถียนเถียน หุบปากของเจ้าซะ!”
หากเป็นหลินชวนฮวาที่ถูกทําให้อับอายจนโกรธแล้วพูดคํานี้ออกมาก็คงไม่แปลกนัก แต่กลับกลายเป็นว่าเฉินผิงอันเองที่ตะคอกออกมาเสียงดัง! แววตาของชาวบ้านจ้องมองคู่สามีภรรยาราวกับเป็นอาจมเหม็นเน่า เหตุใดถึงใจดําได้เพียงนี้?
“เมื่อคืนนี้เป็นแผนการของข้าเอง! ผู้หญิงที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่อย่างเจ้าจะสามารถทำอะไรได้อีกนอกจากแต่งงานกับคนโง่? หากเจ้าไม่แต่งแล้วจะให้ข้าทําอย่างไร? ข้าเพียงแค่ส่งเขาไปที่ห้องนอนของเจ้า! แล้วอย่างไรล่ะ? เจ้ายังอยากจะแก้ตัวอะไรอีกหรือ?”
เฉินเถียนเถียนร้องไห้หนักกว่าเดิม “ท่านพ่อ! ข้ายังเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่านอยู่หรือไม่? ผู้เฒ่าในตระกูลคงเห็นมานานแล้วว่าท่านไม่ใช่พ่อที่ดีนัก จึงให้ข้าตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเอง! แต่ตอนนี้ท่านกลับไม่เคารพแม้กระทั่งคําพูดของผู้เฒ่า!”
“วันหนึ่งที่ข้าได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง คนที่เชื่อมั่นในตัวข้าย่อมแต่งงานกับข้าอย่างแน่นอน! ท่านพ่อช่างใจร้ายกับลูกสาวของตัวเองไม่กลัวเวรกรรมบ้างหรือ? ไม่กลัวว่าวิญญาณท่านแม่ของข้าจะขึ้นจากหลุมมาแก้แค้นท่านหรือ?”
ตอนนี้ภาพลักษณ์ของเฉินผิงอันย่ำแย่มาก เขาส่งคนโง่เข้าห้องนอนลูกสาวของตัวเอง! เรื่องอื้อฉาวนี้ร้ายแรงยิ่งนัก!
บางคนในหมู่บ้านที่มาไม่ทันเห็นเหตุการณ์รีบวิ่งไปเชิญตัวผู้เฒ่าเหล่านั้นมาอีกครั้ง! แม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็ตรงมาที่นี้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด!
หลินหยายืนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดอย่างชัดเจน จึงเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น!
สันนิษฐานได้ว่านางเด็กบ้านไม่ต้องการแต่งงานกับลูกโง่ของนาง ดังนั้นหลินชวนฮวาจึงเกิดความคิดที่จะพาลูกชายของนางเข้าไปในห้องของลูกสาว แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดลูกชายถึงตกใจและวิ่งขวัญกระเจิงกลับบ้าน และดูเหมือนเด็กสาวนี่จะไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย!
“หลินชวนฮวา เรื่องในตระกูลเจ้าก็จัดการเอาเองเถอะ! ตอนนี้ลูกชายของข้าต้องไปหาหมอเพราะมีไข้สูง และเขายังโง่กว่าเดิมอีก! หากเจ้าไม่จ่ายค่าชดเชยมาให้ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปแน่ เอาเงินมาให้ข้าสามสิบตําลึงแล้วข้าจะกลับเดี๋ยวนี้ ต่อจากนี้ไปผู้หญิงสารเลวเช่นเจ้าไม่นับว่าเป็นคนตระกูลหลิน!”
จู่ ๆ เฉินเถียนเถียนก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะมองขึ้นไปบนฟ้า “ดูเหมือนว่าท่านแม่ของข้าจะทนมองสิ่งเลวร้ายที่พวกท่านทําไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนางจะปกป้องข้าด้วยการทําให้เจ้าโง่คนนี้หวาดกลัวได้อย่างไร? ฮ่าฮ่า! เฉินผิงอันไม่ต้องกังวลหรอกเวรกรรมกําลังจะตามสนองเจ้าแล้ว!”
จู่ ๆ เฉินผิงอันก็รู้สึกเย็นยะเยือกที่แผ่นหลังราวกับว่ามีบางอย่างกําลังจ้องมองเขาอยู่! ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกกลัวจนเกินกว่าจะกล่าวอะไรออกมา!
หลินชวนฮวาพูดด้วยเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น “พี่สะใภ้ท่านกําลังบีบบังคับให้ข้าตายหรือ? ข้าจะหาเงินมาจากที่ไหน? ข้าจะให้ลูกสาวของข้าแต่งงานกับหลานชายโดยเร็วที่สุด! ท่านกําลังเข้าใจเจตนาดีของข้าผิดไป ท่านทําแบบนี้กับข้าไม่ ได้!”
หลินหยากัดฟันพูดอย่างโหดเหี้ยม “ข้าทําได้ หลินชวนฮวาหากเจ้ายังพอมีจิตสํานึกอยู่บ้างก็ควรจะไปที่บ้านของข้าตั้งแต่เมื่อคืน! ลูกชายของข้าวิ่งหายออกไปทั้งคืน แต่เจ้ายังนอนหลับอยู่ที่บ้านได้!”
หลินชวนฮวาอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เฉินผิงอันถลึงตาใส่นาง!
“ทั้งบ้านมีเงินอยู่เท่าไหร่? ไปเอาออกมา! ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปถือว่าข้าซื้อขาดเจ้าจากคนในตระกูลแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างต่อกันอีก ดูสิว่าที่ผ่านมาเจ้าให้เงินช่วยเหลือตระกูลแม่ของเจ้าไปตั้งเท่าไหร่ มาตอนนี้พวกเขากลับหันหลังให้เจ้าแบบนี้!”
เฉินผิงอันพูดอย่างมั่นใจ เพราะเขารู้ดีว่าในครอบครัวมีเงินเหลืออีกเท่าไหร่ และแน่นอนว่าหลินชวนฮวาไม่กล้าเข้าไปเอาเงินเช่นกัน!
เนื่องจากยังต้องใช้เงินสําหรับส่งให้เฉินเฉิงเยี่ยเล่าเรียน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลี้ยงดูบัณฑิตในชนบท ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเข้าสอบในปีหน้าจําเป็นต้องหาคนมาค้ำประกัน ต้องจ่ายเงินให้พวกเขาคนละห้าตำลึง หากมีสี่หรือห้าคนอาจจะต้องจ่ายถึงสามสิบตําลึง!
แน่นอนว่าหลินชวนฮวาไม่ยินยอม “แต่นั่นเป็นเงินสําหรับไปสอบของเฉิงเยี่ย! เราทําเช่นนั้นไม่ได้”
เฉินผิงอันได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ให้พวกมันไปซะ! ช่วงเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ก็ประหยัดเงินขึ้นอีกหน่อย!”