บทที่ 4 ต้องเข้าห้องหอวันนี้แล้วหรอ
เช้าวันต่อมา ซูสือเยว่ถูกผู้ดูแลบ้านเรียกให้เธอตื่น
ใบหน้าของผู้ดูแลบ้านที่ดูใจดีคนนี้ เมื่อวานเธอได้เจอกับเขามาแล้ว
ในขณะนี้ ผู้ดูแลบ้านได้ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ โดยถือชุดพิธีการของผู้หญิงเอาไว้ “คุณครับ ทำไมคุณถึงมานอนที่นี่ล่ะคะ?”
“รีบลุกขึ้นไปทำธุระส่วนตัวเร็วค่ะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่สำนักงานกิจการพลเรือนกำลังจะมาถึงแล้ว!”
ซูสือเยว่เกาคิ้วของเธอที่เจ็บนิดๆ เมื่อคืนนี้เธอไม่ได้หลับเต็มอิ่ม ตอนนี้สมองของเธอเลยรู้สึกสะลึมสะลือ
เธอขมวดคิ้ว เธอมองผู้ดูแลบ้านด้วยความสับสน “เจ้าหน้าที่สำนักงานกิจการพลเรือนหรอคะ?”
“ใช่ครับ!”
ผู้ดูแลบ้านมองเธอด้วยรอยยิ้ม “ยินดีด้วครับ ที่คุณผ่านการทดสอบ คุณผู้ชายกำลังเตรียมตัวที่จะจดทะเบียนสมรสกับคุณแล้ว ตั้งแต่นี้ต่อไป คุณคือคุณผู้หญิงของที่นี่แล้วนะครับ”
ผ่านไปสักพักซูสือเยว่ก็ตาตื่นทันที
เรื่องนี้มันมาอย่างกะทันหันมากๆ
เธอมองผู้ดูแลบ้านด้วยความตะลึง “คุณแน่ใจหรอคะ ว่าคุณผู้ชายเขายินดีจะแต่งงานกับฉัน?”
เมื่อคืน เพียงเธอเห็นหน้าเขา เธอก็ตกใจกลัวจนวิ่งเตลิดแบบนั้น!
เขาจะยินดีแต่งงานกับเธอจริงหรอ?
“ถูกแล้วครับ คุณไม่ต้องตกใจนะมาดาม คุณชายเขาคิดมาดีแล้วครับเรื่องที่จะแต่งงานกับคุณ”
ซูสือเยว่ : “……….”
แต่เธอกลับไม่คิดว่าเขาคิดไตร่ตรองมาดีแล้วเลยนะ
ทั้งสองคนเพิ่งจะเจอกันเมื่อคืนนี้เป็นครั้งแรก เขาก็ตัดสินใจจะแต่งงานกับเธอแล้ว นี่มันจะไวเกินไปรึเปล่า!
แต่ไม่ว่าจะยังไง ท่านชายฉินก็ยินดีที่จะแต่งงานกับเธอแล้ว ก็ถือว่าเป็นข่าวดี
ประการที่หนึ่ง ตระกูลซูก็จะมีคอนเนคชันแล้ว
ประการที่สอง ถึงแม้ว่าหน้าตาของท่านชายฉินจะน่ากลัว แต่ก็ถือว่าเธอมีบ้านแล้วสักที
เพราะตั้งแต่ที่ซูโม่กลับมาอยู่ในตระกูลซู ที่นั่นก็ไม่นับว่าเป็นบ้านของเธออีกเลย
เมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดนั้นเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ สำนักงานกิจการพลเรือนก็มาถึงพอดี
เข้าหน้าที่สองคนให้ซูสือเยว่ยืนถ่ายรูปสองใบในห้องรักแขก ก่อนจะให้เธอเซ็นในยินยอมแต่งงาน ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนตามคำแนะนำของผู้ดูแลบ้าน
ผ่านไปไม่นาน คนสามคนเดินลงมาจากชั้นบน พร้อมกับส่งทะเบียนสมรสสีแดงให้กับซูสือเยว่ “ยินดีด้วยค่ะ ตอนนี้คุณเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลฉินแล้วนะคะ”
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนี้กุมมือของซูสือเยว่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉา “ยินดีด้วยนะคะ คุณผู้หญิง ที่คุณได้สามีที่หล่อมากๆ”
ใบหน้าของซูสือเยว่งุนงงเล็กน้อย
สามีที่หล่อมากๆอย่างนั้นหรอ……?
เธอเปิดทะเบียนสมรสตามจิตใต้สำนึก
ฝ่ายหญิง : ซูสือเยว่
ฝ่ายชาย : ฉินโม่หาน
จริงๆแล้วมันควรจะเป็นรูปถ่ายคู่กัน แต่กลับมีเพียงรูปของซูสือเยว่คนเดียวเท่านั้น
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก ท่านชายฉินคนนี้ก็ยังมีจิตใจที่ปรานีอยู่ ที่ไม่ใส่รูปของตัวเองลงไปในทะเบียนสมรสด้วย
ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ซูสือเยว่คิดว่า ชาตินี้ทั้งชาติเธอคงจะไม่กล้าจับทะเบียนสมรสนี่อีกแน่ๆ
“คุณผู้หญิงครับ คุณเตรียมตัวด้วยนะครับ”
ผู้ดูแลบ้านยกยิ้ม “คืนนี้คุณจะต้องห้องหอกับคุณผู้ชาย คุณต้องเตรียมตัวต้อนรับคุณผู้ชาย”
“ผมจะจัดการให้ทุกคนออกไป แล้วก็ให้เหลือแค่คุณกับคุณผู้ชายฉินทั้งสองท่านนะครับ”
ซูสือเยว่ : “……”
เมื่อกี้นี้เธอเพิ่งจะตื่นเต้นดีใจอยู่เลย ตอนนี้ความตื่นเต้นดีใจนั้นลดลงมาในชั่วพริบตาทันที
เมื่อคืนตอนที่มือที่เหนอะหนะของผู้ชายคนนั้นที่สัมผัสกับแขนของเธอ เธอยังรู้สึกขยะแขยงอยู่ในใจอยู่เลย……
ใบหน้าของเธอขาวซีด “ต้องเข้าห้องหอคืนนี้เลยหรอคะ?”
นี่มันกะทันหันเกินไปแล้วนะ เธอยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย และเธอก็ยังไม่ชินกับใบหน้านั้นของเขาด้วย……..
ผู้ดูแลบ้านพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ครับ ต้องเข้าคืนนี้”
แต่งงานกันแล้วนี่ ถ้าไม่ให้ภรรยาเห็นหน้าสามีเจอกันในคืนนี้จะได้ไง?
เขาใช้ความพยายามอย่างหนักเลยนะ กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้คุณผู้ชายไม่ต้องใส่หน้ากากมาเจอกับคุณผู้หญิงน่ะ!
ซูสือเยว่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าไปหลบอยู่ในห้อง ก่อนจะส่งข้อความให้เพื่อนของเธอ ฟู๋เชียนเชียน ว่า “แนะนำหนังสยองขวัญให้ฉันสักสองสามเรื่องสิ ขอบคุณนะ!”
ฟู๋เชียนเชียน : “ปกติไม่เคยเห็นเธอจะขออะไรแบบนี้เลยนะ”
และแล้วภาพยนตร์สยองขวัญทั้งสมัยเก่าและใหม่ก็ถูกส่งเข้ามาในอีเมล์ของซูสือเยว่ทันที
ซูสือเยว่ขดตัวอยู่ในผ้าห่ม พร้อมกับดูหนังสยองขวัญทั้งวัน ดูจนเธอเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำอยู่หลายครั้งเลยทีเดียว
ตกเย็นเมื่อฟ้าเริ่มมืด เธอก็รู้สึกว่าเธอนั้นได้ผ่านการทดสอบจากเรื่องสยองขวัญที่ดูไปอย่างโชกโชนได้แล้ว
แม้หากท่านชายฉินมาอยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้ เธอก็ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว!
ดังนั้นเธอจึงลงไปดื่มน้ำ และนั่งดูโทรทัศน์ชั้นล่าง เพื่อจะดูข่าวเพื่อปรับสภาพจิตใจและอารมณ์ของตัวเอง
เธอดูหนังสยองขวัญมาทั้งวันแล้ว เลยทำให้สภาพจิตใจของเธอไม่ค่อยสู้ดีนัก
“พาดหัวข่าว เมื่อสักครู่นี้มีรูปหลุดของเฉิงเซวียนและเซี่ยงหวั่นฉิงเข้าๆออกๆโรงแรมด้วยกัน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางต้นสังกัดของทั้ฃสองฝ่าย และได้ยืนยันออกมาแล้วว่าทั้งสองคนคบกันอยู่ และอีกไม่นานกำลังจะมีงานวิวาห์”
เมื่อซูสือเยว่เห็นภาพของทั้งสองคนในจอโทรทัศน์ เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
เธอจึงใช้รีโมทเปลี่ยนช่องทันที
“เฉิงเซวียนและเซี่ยงหวั่นฉิง เป็นนักแสดงที่ได้รับความนิยมทั้งหน้ากล้องและหลังกล้องของปี วันนี้พวกเขาได้ประกาศเดทกันแล้ว ทั้ฃสองนั้นประสบความสำเร็จทั้งด้านการงานและความรัก……..”
เปลี่ยนช่องอีกครั้ง
ก็ยังเป็นสองคนนี้อยู่
ท้านที่สุดซูสือเยว่จึงปิดโทรทัศน์ก่อนจะโยนรีโมททิ้ง แล้วก็นอนลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า แล้วหลับตาลง
เฉิงเซวียนและเซี่ยงหวั่นฉิง
คนหนึ่งคือแฟนของเธอที่รักกันมานานกว่าหกปี
ส่วนอีกคนคือเพื่อนสนิทของเธอที่รู้จักกันมานานกว่าแปดปี
เมื่อห้าวันก่อน ซูสือเยว่ไปกองถ่ายเพื่อที่จะทำการเซอร์ไพรส์ เฉิงเซวียน
แต่ผลลัพธ์ในตอนที่เธอใช้กุญแจไขห้องพักของ เฉิงเซวียนเข้าไป เธอก็ได้ยินเสียงหายใจที่หอบของทั้งสองดังขึ้น
“เซวียนคะ เมื่อไหร่คุณจะเลิกกับซูสือเยว่สักที ฉันรอไม่ไหวแล้วนะคะ”
“เร็วๆนี้แหละ จะรีบไปทำไม?”
“ก็เพราะว่าซูสือเยว่สวยมากๆไงคะ ฉันกลัวคุณเปลี่ยนใจ”
“เด็กดี ฉันจะเปลี่ยนใจได้ยังไง? เมื่อห้าปีก่อนหล่อนเคยมีลูกให้คนอื่นนี่ ผู้หญิงสกปรกแบบนั้น ฉันจะแต่งงานกับหล่อนได้ยังไง?”
ทุกคำพูดของเฉิงเซวียนและเซี่ยงหวั่นฉิงนั้นราวหับเป็นหนามที่ทิ่งแทงหัวใจของซูสือเยว่อย่างโหดเหี้ยม
เมื่อห้าปีก่อน สภาพของหน้าที่การงานของเฉิงเซวียนนั้นตกต่ำมาก
ซูสือเยว่นั้นหาหลักฐานมาลบล้าง เฉิงเซวียนให้สะอาด และหาเงินมาเพื่อต่อสู้กับความยากลำบากของ เฉิงเซวียน
และตอนนั้นซูโม่กลับมาที่ตระกูลซูพอดี เพราะซูจิ่นเฉิงและภรรยาของเขาก็ไม่ได้สนใจเธอ เธอจึงไม่เปิดปากขอเงินจากพวกเขา แล้วก็ไปยืมเงินเซี่ยงหวั่นฉิงแทน
แล้วเซี่ยงหวั่นฉิงก็แนะนำวิธีการหาเงินมาให้เธอ : การอุ้มบุญ
แต่ระหว่างนั้นไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เพราะอีกฝ่ายที่เคยบอกว่าจะใช้การผสมเทียมก็เปลี่ยนใจ
เธอจึงต้องกินยาตกไข่ แล้วก็อยู่ในห้องมืดคนเดียว
ในความมืดมีชายคนหนึ่งที่กระทำกับเธอทั้งวันทั้งคืน
ต่อมา……
เธอก็ได้เงิน เธอก็ช่วยลบล้างทุกอย่างให้ เฉิงเซวียนและเขาก็ได้ดิบได้ดีในที่สุด
ห้าปีแล้ว ที่ เฉิงเซวียนเป็นนักแสดงระดับต้นๆของวงการ แต่เขากลับหักหลังเธอ แล้วก็แอบคบกับเซี่ยงหวั่นฉิง แล้วก็บอกว่าเธอเป็นคนน่าขยะแขยง
เขารังเกียจที่เธอเคยมีลูกให้คนอื่น
แต่สิ่งที่เธอทำทั้งหมดนี้มันเพื่อใครกันล่ะ?
เธอนอนอยู่บนโซฟา น้ำตาของซูสือเยว่นั้นราวกับสายฝนที่ไหลรินลงมา
เธอรัก เฉิงเซวียนมาหกปีแล้ว
จะมีผู้หญิงสักกี่คนกันนะที่สามารถเสียสละ และเสียใจได้มากขนาดนี้?
เธอร้องไห้ไปสองชั่วโมงเต็มๆ
สุดท้ายเธอก็มองดูนาฬิกาก่อนจะพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว
เขาคงไม่มาแล้วล่ะมั้ง?
ซูสือเยว่สูดจมูกเบาๆ พร้อมกับสายตาที่สองเข้าไปที่ตู้ไวน์ในห้องนั่งเล่น
ในตู้ไวน์นั้น มีไวน์ที่เธอไม่รู้จักแตกแต่งกันออกไป
เธอเป็นคนที่ดื่มไม่เป็น แต่ตอนนี้เธอกลับอยากจะดื่มมันมาก
การเมาครั้งหนึ่ง มันช่วยลดความทุกข์ได้เป็นพันเท่า
สมองของเธอลุกเป็นไฟ ก่อนเธอจะหยิบแก้วไวน์มาแล้วก็เปิดออก แล้วก็ดื่มมัน
ของเหลวรสขมไหลลงสู่ลำคอของเธอ เธอดื่มไปด้วยร้องไห้ไปด้วย
“เฉิงเซวียน คุณมันคนเจ้าเล่ห์!”
“ฉันขอให้คุณไม่ได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยม! ขอให้ความดังของคุณดับไวๆ! ดับจนมอด!”
“หน้าตาดีแล้วมันมีประโยชน์อะไร! ในเมื่อความคิดของคุณมันต่ำตมมากขนาดนี้! คุณมันน่าเกลียดว่าท่านชายฉินด้วยซ้ำ!”
ผู้ชายที่กำลังหยิบกุญแจเตรียมที่จะไขอยู่ข้างนอก เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็หยุดชะงักทันที