สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 100 ฉันขอเตือนนาย จากนี้ไปอยู่ให้ห่างจากฉันสักหน่อย!

ตอนที่ซูสือเยว่มาถึงสตูดิโอภาพยนตร์ นักแสดงที่ร่วมงานกันคนอื่นๆได้มาถึงกันหมดแล้ว

นี่เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะอยู่ที่กองถ่ายเรื่อง《ชั่วฟ้ากาลเวลา》

ดังนั้นแล้ว คิวถ่ายวันนี้ของเธอก็เลยเยอะมาก ตอนเย็นยังมีงานเลี้ยงปิดกล้องด้วย

เสียงเรียกเข้าดังขึ้นตอนแปดโมง ซูสือเยว่เริ่มเข้าสู่การถ่ายทำอย่างเป็นทางการ

การถ่ายทำราบรื่นอย่างมาก

ตอนบ่ายสามโมง ซูสือเยว่ได้ทำการถ่ายทำในส่วนทั้งหมดสำเร็จลงอย่างสมบูรณ์

“สือเยว่ ต่อจากนี้เธอสามารถเตรียมตัวให้พร้อม《ความทรงจำที่ขาดหาย》เรื่องนั้นอย่างสบายใจได้แล้ว!”

ภายในห้องแต่งหน้า ฟู๋เชียนเชียนนั่งอยู่ข้างๆซูสือเยว่ ช่วยเธอล้างเครื่องสำอางไปพลางพร้อมทั้งเอ่ยออกมาอย่างเต็มไปด้วยความคาดหวังออกมาพลาง “ถึงแม้ว่าเรื่อง《ชั่วฟ้ากาลเวลา》จะเป็นหนังเรื่องแรกที่เธอได้กลายมาเป็นนักแสดงเต็มตัวเป็นครั้งแรก แต่ถึงยังไงมันก็เป็นแค่หนังต้นทุนต่ำ เทียบกับ 《ความทรงจำที่ขาดหาย》ที่มีการลงทุนสูงประเภทนั้นไม่ได้เลยสักนิด!”

“ยิ่งไปกว่านั้น นักแสดงนำชายของ《ความทรงจำที่ขาดหาย》ก็เป็นจี้หนานเฟิงเสียด้วย!”

“จี้หนานเฟิงเคยถ่ายหนังห่วยๆที่ไหนกัน? หนังเรื่องนี้จะต้องเป็นหนังที่มีกำหนดรับรางวัลของปีหน้าแน่ๆ!”

“สือเยว่ เธอเตรียมตัวให้ดีๆ รอหลังจากที่หนังเรื่องนี้ได้ถ่ายทำออกมาแล้ว เธอจะสามารถทะยานขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดในวงการบันเทิงได้เลย!”

ซูสือเยว่ล้างเครื่องสำอางไปพลาง ฟังคำพูดที่ออกนอกเรื่องไปไกลพวกนี้ของฟู๋เชียนเชียนไปพลาง “เธอคิดมากไปแล้ว”

“ฉันขอแค่ฉันสามารถทำงานที่ฉันควรทำให้มันเสร็จสมบูรณ์ได้ก็พอ”

ยิ่งไปกว่านั้น 《ความทรงจำที่ขาดหาย》หนังเรื่องนี้ อันที่จริงแล้วแรกเริ่มตอนที่เธอเข้าแข่งขันเพื่อให้ได้เรื่องนี้มา เพียงแค่เพื่อเซี่ยงหวั่นฉิงเท่านั้นจริงๆ

เธอไม่ได้มีความทะเยอทะยานอะไรเลย ยิ่งไม่คิดที่จะได้รับรางวัลเลยด้วยซ้ำ ไม่อยากจะโผบินขึ้นไปอยู่ที่สูงๆ

ไม่ว่าจะอยู่สายงานไหน เธอก็เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าการเดินไปทีละก้าวๆ มันถึงจะน่าวางใจมากกว่า มันจะถูกทำให้แตกพ่ายไปได้ไม่ใช่ง่ายๆกว่าเดิม

“แต่ว่า…”

ฟู๋เชียนเชียนขมวดคิ้วออกมา ทันทีที่คำพูดสองคำนั้นได้หลุดออกไป ก็ได้หยุดไปในทันที

เธอมองไปทางประตูห้องแต่งหน้าไปอย่างตื่นตกใจ ไม่พูดอะไร

ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย หันไปมองตามสายตาของเธอไปทันที——

ทางประตูทางเข้าห้องแต่งหน้าเห็นเพียงเฉิงเซวียนที่อยู่ในชุดสูทรองเท้าหนังกำลังถือดอกกุหลาบสีฉูดฉาดช่อใหญ่ช่อหนึ่งอยู่ เดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ

ข้างๆเขายังตามมาด้วยนักข่าวที่แบกกล้องกันมาจำนวนมาก!

ฟู๋เชียนเชียนตกตะลึงไป “สือเยว่ นี่มันเรื่องอะไร…”

ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมา หันหน้าไปมองด้านหลังของตน

ห้องแต่งหน้ามีเพียงทางออกเดียว

ตอนนี้ตรงทางออกนั้น เฉิงเซวียนกำลังเดินเข้ามาหาเธอ

หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับลุกยืนขึ้น

เฉิงเซวียนก็ได้เดินมาอยู่ตรงหน้าเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“สือเยว่”

ชายหนุ่มมองเธอมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง

เสียง “ปัง” ดังขึ้น เฉิงเซวียนได้คุกเข่าข้างนึงออกมาอยู่ตรงหน้าของซูสือเยว่

ในมือของเขากำลังชูช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่นั้นขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความจริงจัง “สือเยว่ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยเถิดนะ”

ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมา “ยกโทษอะไรให้คุณ?”

เฉิงเซวียนคนนี้เล่นลูกไม้อะไรออกมาอีก?

เฉิงเซวียนเม้มริมฝีปากออกมาเล็กน้อย ก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าเธอ “ยกโทษให้กับเรื่องที่ผมเคยทำลงไป”

“ผมไม่ควรจะรังเกียจคุณเพียงเพราะสิ่งที่คุณได้พลาดพลั้งไปในอดีต แล้วไปคบกับเซี่ยงหวั่นฉิง”

“จวบจนตอนนี้ผมถึงได้รู้ว่าผมมันโง่มากแค่ไหน ผมปล่อยให้คนที่รักผมที่สุดในโลกหลุดมือไป”

พูดจบ เขาก็ได้เงยหน้าขึ้นมา มองใบหน้าซูสือเยว่ไปด้วยใบหน้าที่ดูจริงจัง “ผมรู้ว่าคุณยังมีความรู้สึกดีๆกับผมอยู่”

“เพราะถึงยังไงพวกเราก็คบกันมาห้าปีกว่า คุณเลิกกับผมไปเพราะว่าผมนอกใจไปคบกับเซี่ยงหวั่นฉิง”

“ตอนนี้ผมสำนึกผิดแล้ว ผมอยากย้อนกลับไป อยากจะตามจีบคุณใหม่อีกครั้ง”

“ผมไม่ขอให้ต้องมาคบกับผมตอนนี้ แต่หวังว่าคุณจะสามารถให้โอกาสผมได้จีบคุณ”

ซูสือเยว่มองเขาไป ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ มุมปากก็ได้แสยะออกมาอย่างเยือกเย็น “นายกำลังฝันอยู่เหรอ?”

ฟู๋เชียนเชียนที่อยู่ข้างๆก็ยิ่งเดือดขึ้นมา เธอเตะไปที่ร่างของเฉิงเซวียนอย่างแรงไปทีนึงทันที “นายมันนับว่าเป็นตัวอะไรกัน?”

“นายบอกว่านอกใจก็นอกใจ นายบอกว่าจะตามจีบใหม่ก็จะตามจีบใหม่ นายให้ความสำคัญกับตัวนายเองเกินไปแล้วมั้ย?”

“สือเยว่ได้มีชีวิตใหม่ของเธอแล้ว เธอเองก็มีความสุขของเธอ นายก็ไสหัวออกไปให้ไกลๆหน่อยเถอะ!”

พูดจบ ฟู๋เชียนเชียนได้ยกมือขึ้นมา ลากซูสือเยว่เตรียมที่จะเดินออกไป

“เดี๋ยวก่อน”

ซูสือเยว่ย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย ผันร่างมา มองใบหน้าของเฉิงเซวียนด้วยความเย็นชา “ฉันจำได้ว่าฉันพูดกับนายชัดเจนไปตั้งนานแล้วนะ”

“ตอนที่ถ่ายทำเมื่อหลายวันก่อน นายเองก็พยายามรักษาระยะห่างกับฉันอย่างระวังๆด้วย”

“รวมถึงเรื่องที่ดังครึกโครมที่เซี่ยงหวั่นฉิงฟ้องนายเมื่อไม่นานมานี้ นายเองก็ไม่เคยจะเอาอดีตของนายกับฉันมาสร้างกระแสด้วย”

“วันนี้สร้างเรื่องอย่างนี้ออกมาเสียเอิกเกริก…”

เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย “มีใครข่มขู่นายหรือเปล่า?”

สีหน้าของเฉิงเซวียนซีดเผือดออกมาทันที!

เขาก้มหน้าลงไปทันที พยายามปฏิเสธออกมาอย่างสุดชีวิต “ไม่มี ไม่มี”

“ผมก็แค่…ก็แค่คิดได้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน!”

ซูสือเยว่มองใบหน้าของเขา ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ ก็ได้ผันร่างเดินออกไป

เฉิงเซวียนยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิม มองเงาร่างเบื้องหลังของเธอกับฟู๋เชียนเชียนที่ได้เดินออกไป มุมปากก็ฝืนยิ้มเจื่อนๆออกมา

อันที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เมื่อก่อนหน้านี้เขาคิดมาโดยตลอดว่าในใจของซูสือเยว่มีเขาอยู่ เขาก็เลยมองเธอเป็นเหมือนของประดับที่จะสั่งให้ไปทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ

ในภายหลัง เขาเข้าใจชัดเจนแล้วว่าในใจของเธอ เขาไม่สถานะอะไรอยู่เลยแม้แต่น้อย

ถ้าไม่เพราะซูโม่…เขาไม่มีทางจะมาทำเรื่องที่จะสร้างความอัปยศให้กับตัวเองหรอก

“คุณเฉิง”

ในตอนที่เขามองเงาร่างเบื้องหลังของซูสือเยว่ที่เดินออกไปอย่างเหม่อลอยอยู่นั้น ในหูฟังบลูทูธที่เฉิงเซวียนสวมมาโดยตลอดได้มีเสียงเย็นชาของซูโม่ดังขึ้นมา “นายปล่อยให้ซูสือเยว่เดินออกไปอย่างนี้เลย?”

“จุดจบของคนที่ขัดใจฉันมันคืออะไร ต้องการให้ฉันบอกนายอีกรอบมั้ย?”

ร่างของเฉิงเซวียนนิ่งค้างไปอย่างจัง

วินาทีต่อมา เขาก็ได้โยนกุหลาบที่อยู่ในอ้อมแขนทิ้งไป แล้วสาวเท้าใหญ่ๆตามซูสือเยว่ไป “สือเยว่ เธอจะไปไม่ได้!”

ชายหนุ่มเดินหน้าเข้าไปอย่างรวดเร็ว ดึงแขนข้างหนึ่งของซูสือเยว่เอาไว้ “พวกเรารักกันมาห้าปีเลยนะ!”

“ความรู้สึกห้าปีเธอปล่อยมันไปง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ? ทำไมเธอถึงได้เลือดเย็นอย่างนี้!”

ซูสือเยว่รู้สึกว่ามันน่าตลกมาก

เธอเลือดเย็น?

เพราะว่าเธอได้คำนึงถึงความรู้สึกของเธอกับเขาเมื่อห้าปีก่อนแล้ว ก็เลยไม่ได้ทำให้มันเด็ดขาดอะไรนัก

เธอได้ให้โอกาสเขามากเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว

แล้วเขาล่ะ?

ถ้าไม่เพราะเซี่ยงหวั่นฉิงทรยศเขา เขาจะสำนึกผิดกลับมาอย่างรวดเร็วมั้ย?

หญิงสาวสลัดมือของเขาออกไปอย่างแรง “ก็ฉันมันเลือดเย็นนั่นแหละ!”

“เฉิงเซวียน ฉันขอเตือนนายเอาไว้ว่าต่อจากนี้ไปอยู่ให้ห่างฉันหน่อย!”

เฉิงเซวียนกัดฟัน ตั้งมั่นอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

ถึงยังไงนักข่าวในที่แห่งนี้ก็มีเยอะมาก วันนี้เขาจะตามเธอไปให้ถึงที่สุด!

ถึงตอนนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าซูสือเยว่จะปฏิเสธ การแสดงความคิดเห็นกันในอินเทอร์เน็ตมันคงจะไม่น้อยเลย อย่างนั้นแล้วเป้าหมายของซูโม่ก็นับได้ว่าได้บรรลุผลแล้ว!

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เขาก็ได้ยื่นมือออกไปคว้าแขนเสื้อเธอเอาไว้อีกครั้ง “สือเยว่!”

“ปล่อยเธอ”

ในตอนที่มือของเฉิงเซวียนได้คว้าไปที่ซูสือเยว่อีกครั้งนั้น เสียงที่เยือกเย็นเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้น

วินาทีต่อมา มือของเฉิงเซวียนก็ได้ถูกมือใหญ่ของชายหนุ่มดึงออกไปอย่างแรง

พละกำลังของชายหนุ่มนั้นแรงมาก เฉิงเซวียนถูกเขาเหวี่ยงออกไปอีกทางนึง จนเกือบจะทรงตัวไม่อยู่

ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ เขาถึงจะจับผนังที่อยู่ข้างๆเพื่อทรงตัวเอาไว้ “แกเป็นใครกันห้ะ?”

“ฉัน นายไม่รู้จักเลย?”

เฉิงเซวียนเงยหน้าขึ้นมา

ผู้ชายที่กำลังยืนปกป้องซูสือเยว่อยู่ข้างหน้าคนนี้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอย่างจี้หนานเฟิง!?

เฉิงเซวียนตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก

จี้หนานเฟิงดึงกระดาษชำระที่ผู้ช่วยส่งมาให้ เช็ดไปด้วยท่วงท่าที่สง่างาม ท่าทางที่ดูรังเกียจนั้นเหมือนกับเพิ่งจะจับคางคกมาก็ไม่ปาน

เฉิงเซวียนชะงักไปเล็กน้อย “จี้หนานเฟิง ทำไมคุณถึงได้…”

“ซูสือเยว่เป็นเพื่อนของฉัน”

จี้หนานเฟิงมีส่วนสูง188 ยืนอยู่ตรงหน้าเฉิงเซวียนที่สูง170 ดูสูงกว่าเขาไปหนึ่งช่วงตัวเต็มๆ

ชายหนุ่มมองต่ำลงไป มองเฉิงเซวียนไปด้วยความเหยียดหยาม “ฉันว่าฉันไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวแล้วหรอกมั้ง”

“ในวงการบันเทิงนี้ ฉันคือพระเจ้า”

“คิดจะมาก่อกวนซูสือเยว่ต่อ ลองถามฉันก่อนสิว่าจะให้นายได้อยู่ในวงการนี้ต่อไปหรือเปล่า”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset