ภายในห้องเด็กในคฤหาสน์ตระกูลฉินนั้น บรรยากาศมันตึงเครียดเป็นพิเศษ
ซิงเฉินวางน้ำขวดหนึ่งไว้ข้างๆ ซิงหยุนอย่างระมัดระวัง “พี่ ไม่ต้องเครียดนะ อีกฝ่ายอาจจะเป็นคนที่อายุเยอะมากแล้ว เพราะว่ามีประสบการณ์ พี่จะเอาชนะไม่ได้ก็เป็นเรื่องที่ปกติจะตาย”
“ยังไงพวกเราก็พึ่งจะอายุแค่ห้าขวบ ศักยภาพของเราต้องไร้ขีดจำกัดอยู่แล้ว!”
คำพูดของเด็กน้อย ทำให้ซิงหยุนขมวดคิ้วอย่างรุนแรง “ใครบอกว่าฉันแพ้? ”
เขาจ้องไปที่ภาพบนหน้าจอในคอมพ์ และรอยยิ้มที่เย็นชาก็ผุดขึ้นมาที่ริมฝีปากของเขา
เมื่อกี้เขาก็แค่ทดสอบเบาะแสของอีกฝ่ายเท่านั้นเอง
แต่ว่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฝ่ายตรงข้ามนั้นมีฝีมือจริงๆ แข็งแกร่งว่าคู่ต่อสู้ที่ซิงหยุนเคยเจอมามาก
แต่ว่ามันก็แค่นี้เอง
จะแข่งกับเขา……ยังห่างชั้นกันอีกมาก!
ซิงหยุนทำเสียงเยาะเย้ยในลำคอ แล้วก็พิมพ์โค้ดที่ใหม่ล่าสุดลงไปในคอมพ์ของเขา
“ตึ๊ด——!ตึ๊ด——!”
ในวิลล่าหยุนสุ่ยของจี้หนานเฟิงนั้น คอมพ์ของซิงกวงกะพริบอย่างช่วยไม่ได้
เธอมองคอมพ์ด้วยความช็อก ทำไมถึงได้……
ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงน้อยแห่งโลกแฮ็กเกอร์อย่างเธอ แพ้แล้วยังงั้นเหรอ?!
เธอรีบวางมือบนแป้นพิมพ์อีกครั้งและเริ่มพิมพ์โค้ด
แต่ว่ามันก็ไม่ช่วย
คอมพ์เธอไม่สามารถควบคุมได้แล้ว
แม้แต่ คอมพ์ของเธอก็เริ่มโยกย้ายอุปกรณ์บันทึกเสียงและกล้องโดยพลการ!
ซิงกวงร้องในใจว่าแย่แล้ว อีกฝ่ายอยากจะรู้ข้อมูลของเธอ!
เมื่อถึงเวลาเส้นยาแดงผ่าแปด เธอก็หยิบหน้ากากด้านข้างมาใส่ไว้ แล้วก็ใส่เครื่องเปลี่ยนเสียง
และแล้ว บนคอมพ์ของซิงหยุนนั้น ก็ปรากฏภาพ “เด็กผู้ชาย” ที่สวมใส่หน้ากาก และเสียงแหบ
ตอนนี้เอง เด็กผู้ชายคนนั้นสวมหน้ากากที่ขี้เหร่
หน้ากากนั้นขี้เหร่ขนาดไหนกัน มันพอๆ กับที่ตอนแรกซิงเฉินใช้ขู่ซูสือเยว่
“นายคือใคร? ”
เด็กผู้ชายที่สวมหน้ากากถามด้วยเสียงที่แหบแห้ง
ซิงหยุนนึกว่าตัวเองมองผิดไป
อีกฝ่ายนั้น……คือเด็กผู้ชายสวมหน้ากาก ที่อายุไม่ต่างจากตัวเองเท่าไหร่ยังงั้นเหรอ?
แม้ว่าเขาจะใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงเพื่อทำให้เสียงของเขาแปลกไป แต่ว่ามือและร่างกายเล็กๆ ของเขานั้น กำลังทรยศเขาอยู่!
ซิงหยุนช็อกจนพูดอะไรไม่ออก
บนโลกใบนี้ ที่แท้นอกจากเขาแล้ว ก็ยังมีเด็กคนอื่นที่สามารถเป็นเลิศด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้อีกเหรอ
“ฉันคือพ่อของนาย!”
ด้านนี้ ซิงเฉินก็ใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงของตัวเองเหมือนกัน แล้วก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันจะเตือนอะไรไว้ให้นะ อย่าปล่อยข่าวปลุกปั่นคนอื่นอีก!”
“อย่าคิดว่านายจะสามารถทำอะไรก็ได้ด้วยเทคนิคการแฮ็กเพียงแค่เล็กน้อย!”
“รู้ไหมว่าอะไรที่แปลว่าเหนือเขายังมีเขา เหนือคนยังมีคน? พวกเราก็คือภูเขาที่อยู่เหนือนาย และก็เป็นคนที่เธออยู่เหนือนายด้วย!”
ซิงกวงที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งนั้นมองไม่เห็นหน้าตาของอีกฝ่าย แต่พอได้ยินเสียง……น่าจะเป็นคนมีอายุ
เธอทำเสียงเย็นชาในลำคอ “รังแกเด็กถือว่าเป็นความสามารถอะไรกัน? ”
“ฉันพึ่งจะอายุห้าขวบเท่านั้น ก็สามารถแข่งขันได้เสมอกันแล้ว นายมีอะไรให้น่าภูมิใจกัน!”
“แล้วอีกอย่าง ฉันก็จะสนับสนุนให้ซูสือเยว่ได้คบกับจี้หนานเฟิง ต่อให้นายมาควบคุมบัญชีผู้ใหญ่ของฉัน ล่วงล้ำคอมพ์ของฉัน ก็ไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวกับหัวใจที่คาดหวังให้พวกเขาคบกันได้หรอก!”
“ชายแก่เลิกล้มความตั้งใจไปเถอะ! ยังไงซูสือเยว่ก็ต้องไปภรรยาในอนาคตของจี้หนานเฟิง ไม่ยอมรับการโต้แย้ง!”
พอพูดจบ เธอก็ถอดปลั๊กคอมพ์ด้วยความโมโห
ในคฤหาสน์ตระกูลฉินนั้น ซิงเฉินก็มองหน้าซิงหยุนด้วยความมึนงง “พี่ เขาอวดดีจังเลย!”
“ไม่เป็นไรหรอก”
ซิงหยุนหรี่ตา “ฉันได้ล็อกที่อยู่IPของเขาไว้แล้ว อีกไม่นานก็คงสืบหาที่อยู่ที่แท้จริงของเขาได้”
“ฉันยังสามารถตรวจสอบบัญชีของเขาบนอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ถ้าเกิดว่ายังกล้าทำเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณแบบนี้อีก พวกเราก็มีวิธีจัดการกับเขาได้”
ซิงเฉินตบหน้าผากของตัวเอง “ใช่!”
“ยังไงอายุของเขาก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ พอถึงเวลานั้นผมจะใส่ชุดก่อนหน้านี้ไปขู่ให้เขากลัว!”
ตั้งแต่ตอนที่ซูสือเยว่แต่งงานเข้าบ้านมานั้น เสื้อผ้าที่เขาชอบเอาไว้ทำให้คนอื่นกลัวก็ถูกทิ้งว่างไว้ไม่ได้ใช้งาน เขาก็กังวลอยู่ว่าจะไม่มีโอกาสได้ใส่อีก!
ซิงหยุนมองเขานิ่งๆ “บ้า”
ซิงเฉิน:“???”
“พี่!”
“ตอนแรกพี่เป็นคนเลือกชุดนั้นให้ผมเองนะ!”
“หน้ากากพี่ก็เป็นคนเลือกให้ผม! ชุดพี่ก็เป็นคนเลือกให้!”
“บทพูดพี่ก็เป็นคนแต่งให้! พวกเราสมคบคิดอยู่ด้วยกัน แล้วทำไมพี่ต้องมาบอกว่าผมบ้าด้วย!”
ซิงหยุนกลอกตา
“สมคบคิดยังงั้นเหรอ?”
วินาทีต่อมา เด็กน้อยก็เอาหนังสือพจนานุกรมเล่มหนาๆ ยัดเข้าไปใส่แขนของซิงเฉิน “ภายในอาทิตย์เดียวต้องอ่านให้จบ”
ซิงเฉินสีหน้าขมขื่น “ทำไม? ”
“เพราะว่านายมันคนไม่มีความรู้”
ซิงเฉินทำปากมุ่ย แล้วก็พูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ “ผมพึ่งจะห้าขวบ!”
“เด็กห้าขวบยังไม่มีความรู้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว!”
ซิงหยุนกลอกตาใส่เขา ไม่ได้สนใจอะไรเขาอีก แล้วก็กลับไปนอนบนเตียงน้อยๆ แล้วก็มองเพดานอย่างใจลอย
แล้วภาพของเด็กเหลือในคอมพ์คนนั้นก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาอย่างแปลกประหลาด
ในที่สุดก็เจอคู่ต่อสู้แล้ว
เขาคลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย แฮ็กเกอร์เด็กที่เขาได้เจอในวันนี้ คือคนที่สองที่เขาสนใจนอกจากซูสือเยว่ในช่วงนี้
เด็กน้อยคนนั้นไม่ยอมรับเขา ถ้ายังงั้นเขาก็จะใช้กำลังในการบดขยี้ จนกว่าเขาจะเลื่อมใส และเรียกเขาว่าอาจารย์ถึงจะหยุด!
“ฮือออๆๆๆๆ ——!!!”
ในวิลล่าหยุนสุ่ยนั้น ซิงกวงนั่งอยู่บนโซฟา แล้วก็ร้องไห้อย่างทุกข์ใจ
จี้หนานเฟิงลูบหัวน้อยๆ ของเธอด้วยความปวดหัว “ปีศาจน้อย เป็นอะไรไป? ”
“หนูแพ้!”
“หนูไม่มีความสุข!”
“คุณอาจี้ ครูแฮ็กเกอร์ที่อาหามาให้หนูนั้นไม่เก่งเลยแม้แต่นิดเดียว!”
“พวกเขาบอกว่าหนูมีพรสวรรค์ แต่ว่าวันนี้หนูถูกคนอื่นแฮ็กคอมพ์ซะได้!”
“พวกเขาเกือบจะเห็นหน้าหนูแล้วด้วย!”
เด็กน้อยร้องไห้จนเหมือนดอกสาลี่ต้องหยาดฝน “หนูเจ็บใจมาก!”
“หนูไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์!”
จี้หนานเฟิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้ายังงั้น คุณอาจี้หาแฮ็กเกอร์คนอื่นมาเป็นครูให้หนูดีไหม? ”
“แต่ว่าครั้งที่แล้วที่อาหามาก็ถือว่าเป็นสุดยอดแล้ว!”
ยิ่งเธอพูดก็ยิ่งเจ็บใจ “วันนี้หนูล้มเหลวจริงๆ ทำอะไรก็ถูกควบคุมทุกอย่าง!”
“ทำไมแฮ็กเกอร์ของป้าซูถึงได้เก่งกาจขนาดนั้น ฮือๆๆๆ ——”
จี้หนานเฟิงขมวดคิ้ว “หนูบอกว่า คนที่ทำให้หนูพ่ายแพ้ในวันนี้ ก็คือคนของซูสือเยว่งั้นเหรอ? ”
“ใช่!”
ซิงกวงสะอึกสะอื้นพร้อมกับพยักหน้า “ก็คือคนที่ลบข่าวให้เธอเมื่อตอนกลางวัน”
แสงที่ซับซ้อนส่องประกายในแววตาของจี้หนานเฟิง หลังจากนั้นเขาก็คลี่ยิ้ม “ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวอีกสองสามวันคุณอาจี้จะหาอาจารย์ที่เก่งกว่านี้มาให้”
“จริงเหรอคะ?”
ซิงกวงเช็ดน้ำตา และพลางถามอย่างสะอึกสะอื้น
……
วันที่สอง ซูสือเยว่นั่งอ่านบทอยู่ที่บ้าน เตรียมตัวสำหรับการถ่ายทำเรื่อง《ความทรงจำที่ขาดหาย》ในอาทิตย์หน้า
ในตอนเย็นนั้น หัวหน้าผู้กำกับของกองถ่ายเรื่อง《ชั่วฟ้ากาลเวลา》ก็โทรหาเธอ บอกว่าจะจัดงานเลี้ยงปิดกล้องที่เมื่อวานไม่ได้จัดให้เธออีกครั้งหนึ่ง
แล้ววันนี้ก็เป็นวันปิดกล้องของลั่วเยียนพอดี ให้พวกเธอทั้งสองคนได้รวมตัวกัน
ซูสือเยว่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
ตอนเย็น หลังจากที่เธอทำอาหารให้ซิงเฉินกับซิงหยุนเรียบร้อยแล้ว ก็เก็บกวาดและเตรียมออกไปด้านนอก
งานเลี้ยงปิดกล้องจัดขึ้นที่โรงแรมชุนหม่าน
ซูสือเยว่มาถึงหน้าประตูโรงแรมชุนหม่าน พอลงจากรถ ก็ได้เจอกับซูโม่กับผู้หญิงอีกสองสามคนที่พึ่งจะลงจากรถเตรียมจะเข้าไปในโรงแรมเหมือนกัน
ในบรรดาผู้หญิงที่มากับซูโม่นั้น ซูสือเยว่นั้นเห็นร่างของเย่เชียนจิ่วอย่างชัดเจน
พวกเธอรู้จักกันได้ยังไง?
ตอนที่ซูสือเยว่มองเย่เชียนจิ่วนั้น เย่เชียนจิ่วเองก็สังเกตเห็นเธอพอดี
หญิงสาวคนนั้นคลี่ยิ้มจางๆ แล้วก็ยกมือขึ้นพร้อมกับทักทายซูสือเยว่อย่างกระตือรือร้น “ไม่เจอกันนานเลยนะ”
พอเย่เชียนจิ่วพูดขึ้น ก็สามารถดึงดูดความสนใจของซูโม่ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาได้ทันที
เธอหันมาแล้วก็เห็นซูสือเยว่ ใบหน้าของเธอก็เย็นชาขึ้นมาทันที “คุณเย่ ไม่ต้องสนใจเธอหรอกค่ะ เธอไม่ได้เรื่องอะไรหรอก!”