เย่เชียนจิ่วคลี่ยิ้มจางๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของซูโม่ แล้วก็มองซูสือเยว่อีกครั้งหนึ่ง “เธอมาที่นี่ดึงขนาดนี้……มีนัดเหรอ? ”
ซูสือเยว่พยักหน้า “อืม มีนัดกินข้าวกับกองถ่ายน่ะ”
“นัดกินข้าวกับกองถ่ายเหรอ”
เย่เชียนจิ่วมองซูสือเยว่ แล้วก็ยิ้มอย่างมีนัย “ถ้ายังงั้นเธอดูแลตัวเองให้ดีนะ ถ้าเกิดว่าโดนมอมแล้วเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้น จะไม่ดีเอานะ”
ความเย้ยหยันและความเกลียดชังในคำพูดของเธอ ซูสือเยว่นั้นได้ยินอย่างชัดเจน
หญิงสาวคลี่ยิ้มออกมา “คุณเย่วางใจเถอะค่ะ ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานในกองถ่าย”
“แล้วอีกอย่างฉันก็อยู่ที่สตูดิโอภาพยนตร์มานานหลายปีขนาดนี้ ไม่เคยได้ยินว่ามีคนเกิดเรื่องขึ้นระหว่างนัดกินข้าวกับคนในกองถ่ายเลย คุณเย่น่าจะดูหนังมากเกินไปหน่อย ถึงได้มีความคิดแบบนี้ได้”
“แต่ว่า หนังที่คุณดูเนี่ย ก็เป็นจินตนาการของผู้เขียนและผู้กำกับด้วย”
“การเป็นคนเนี่ย อย่ามีชีวิตอยู่ในจินตนาการเลยน่าจะดีกว่านะคะ คุณว่าไหม? คุณคู่หมั้น”
พอพูดจบ เธอก็ก้าวเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างเย็นชา
มองดูแผ่นหลังของผู้หญิงที่เข้าโรงแรมไป ซูโม่ก็ถลึงตาใส่เธออย่างชั่วร้าย แล้วก็หันหน้ามามองเย่เชียนจิ่วอย่างเอาใจใส่ “คุณเย่ อย่าลดตัวลงไปรู้จักกับผู้หญิงประเภทนี้เลยค่ะ”
เย่เชียนจิ่วมองซูสือเยว่จากไป ดวงตาของเธอก็หรี่ลงอย่างรุนแรง
คุณคู่หมั้น?
อย่ามีชีวิตอยู่ในจินตนาการ?
วันนี้ฉินโม่หานก็พึ่งจะส่งคนมาบอกข่าวเธอ ว่าให้เธอยับยั้งชั่งใจอย่ามีชีวิตอยู่ในจินตนาการ แล้วคืนนี้ซูสือเยว่ก็พูดเหมือนกันอีกงั้นเหรอ?
ผู้หญิงคนนี้ จงใจใช่ไหม?
เธอกำลังประกาศสงครามกับเธออยู่ใช่ไหม!
“คุณเย่?”
พอเห็นว่าเย่เชียนจิ่วยืนนิ่งไม่ขยับ ซูโม่ก็เม้มปาก และพูดอย่างระมัดระวัง “คือว่า……พวกเราควรเข้าไปได้แล้วค่ะ”
“ซูโม่”
เย่เชียนจิ่วหรี่ตา แล้วก็หันหน้าไปมองซูโม่ “เธอคิดว่าที่ซูสือเยว่พูดเมื่อกี้นี้ ถูกต้องไหม? ”
ซูโม่มองหน้าเธออย่างงุนงง
มีรอยยิ้มที่เยือกเย็นปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของหญิงสาว “เธอเองก็คิดว่า งานกินเลี้ยงของกองถ่าย จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหมือนกันรึเปล่า? ”
ซูโม่มึนงง ผ่านไปนานถึงได้ตระหนักได้ “ฉันเข้าใจแล้ว!”
“ฉันจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
พอพูดจบ ซูโม่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเดินไปคุยตรงมุมลับสายตา
เย่เชียนจิ่วรวบผ้าคลุมไหล่มาคลุมไหล่ของตัวเองอย่างแผ่วเบา แล้วก็เดินเข้าไปในโรงแรมอย่างสง่างาม
บางที การฆ่าคนก็ไม่ได้จำเป็นต้องใช้มีดของตนเอง
……
ตอนที่ซูสือเยว่มาถึงห้องอาหารนั้น คนอื่นก็มากันครบแล้ว
ลั่วเยียนกำลังนั่งดื่มอยู่ท่ามกลางคนอื่น
“มา วันนี้ฉันอารมณ์ดี ทุกคนดื่มเร็ว!”
ท่ามกลางผู้คน ลั่วเยียนยิ้มกว้างและถือแก้วเหล้าอยู่ “ใช่สิ ฉันเป็นซุปตาร์นะ ทุกคนห้ามถ่ายรูปตอนฉันดื่มและเผยแพร่ออกไป เข้าใจไหม!”
“ถ้าเกิดว่าพรุ่งนี้รูปที่ฉันเมาขึ้นอันดับการค้นหายอดนิยม ฉันจะตรวจสอบทีละคนเลย!”
พอพูดจบ เธอก็คลี่ยิ้มออกมาอีกครั้ง “เร็ว ดื่ม!”
พอซูสือเยว่เข้าประตูมา ก็เห็นลั่วเยียนกำลังมอมตัวเองอย่างเมามัน
หญิงสาวค่อยๆ ขมวดคิ้วเข้าหากัน แล้วก็เดินเข้าไปแย่งแก้วเหล้าในมือของลั่วเยียนมา “คุณดื่มไปเยอะแค่ไหนแล้ว? ”
“ไม่เยอะเลย!”
ลั่วเยียนยิ้มจนตาหยีพร้อมกับยื่นนิ้วไปตรงหน้าของซูสือเยว่ “สามขวดเท่านั้นเอง!”
สามขวด……
ซูสือเยว่มองดูดีกรีเหล้าตรงขวดเปล่าด้านหน้าลั่วเยียน “ไม่ต้องดื่มแล้ว”
หัวหน้าผู้กำกับเดินเข้ามา “สือเยว่ อย่าทำให้หมดสนุกแบบนี้เลย”
“ลั่วเยียนบอกแล้ว ว่าหลังจากปิดกล้องนี้เธอจะไปพักผ่อนพักหนึ่ง ก็เลยดีใจจนดื่มเยอะหน่อย”
“ทำไมต้องไปห้ามเธอด้วยล่ะ? ”
ซูสือเยว่มองผู้กำกับคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา “คุณคิดว่าเธอดีใจจริงๆ เหรอ? ”
พอเธอเข้าประตูมา ก็เห็นว่าลั่วเยียนกำลังฝืนยิ้มอยู่
ถึงแม้ว่าบนใบหน้าของเธอจะเป็นรอยยิ้ม แต่ว่าซูสือเยว่ก็เห็นความโศกเศร้าและความขมขื่นในแววตาของเธออย่างชัดเจน
แต่ว่าฝีมือในการแสดงของลั่วเยียนนั้นดีเกินไป หัวหน้าผู้กำกับพยักหน้า “แน่นอนสิ เธอดีใจมากๆ เลยต่างหาก”
พอพูดจบ เขาก็มองคนข้างๆ เขาด้วยสายตาที่แปลกประหลาด “พวกนายคิดว่าลั่วเยียนไม่มีความสุขเหรอ? ”
“มีความสุขสิ!”
“ใช่!”
ลั่วเยียนผลักซูสือเยว่ออก “อย่ามาห้ามฉัน!”
“ให้ฉันดื่ม!”
พอพูดจบ เธอก็หยิบขวดเหล้าขึ้นมา แล้วก็เทลงไปในปากทันที
ซูสือเยว่มองดูท่าทางของเธอ แล้วก็รู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
ที่จริงแล้วเธอกับลั่วเยียนก็ไม่ได้ถือว่าสนิทสนมกันเท่าไหร่นัก เหตุผลเดียวที่ได้มาคละเคล้ากันก็คือตอนแรกฉินหนานเซิงให้ลั่วเยียนช่วยดูแลเธอ
ที่จริงแล้วพวกเธอไม่ได้นับว่าเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ ดังนั้นซูสือเยว่ก็เลยไม่รู้ว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับลั่วเยียนกันแน่
แต่ว่ายังไงลั่วเยียนก็เป็นนักแสดงที่เธอชื่นชมมากที่สุด เห็นเธอเป็นแบบนี้ เธอเองก็พลอยรู้สึกทุกข์ไปด้วย
พอคิดได้แบบนี้ หญิงสาวก็แย่งขวดเหล้าในมือของลั่วเยียนมา แล้วก็ส่งข้อความหาฉินหนานเซิง
ความสัมพันธ์ของลั่วเยียนกับฉินหนานเซิงดีขนาดนั้น เธอไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลั่วเยียน แต่ว่าฉินหนานเซิงต้องรู้อย่างแน่นอน!
“หนานเซิง ลั่วเยียนกำลังดื่มเพื่อดับทุกข์อยู่ นายรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น? ”
พอส่งข้อความไป ไม่นานก็ได้รับข้อความตอบกลับจากฉินหนานเซิง
“ไม่รู้ ไม่เกี่ยวอะไรกับผมด้วย”
“แต่ว่าเธอเป็นเพื่อนนายไม่ใช่เหรอ? เธอไม่สนิทกับฉัน ฉันไม่สามารถข้ามเส้นไปยุ่งกับเรื่องของเธอได้ ก็เลยมาถามนาย”
“ไม่สนิทกับเธอก็ไม่ต้องไปสนใจเธอหรอกครับ ปล่อยให้เธอจัดการตัวเองไป!”
ข้อความที่ผู้ชายคนนี้ส่งมา ทำให้ซูสือเยว่ขมวดคิ้วอย่างรุนแรง
เธอรู้สึกอย่างเลือนรางว่าที่ลั่วเยียนอารมณ์ไม่ดีนั้น ต้องเกี่ยวข้องกับฉินหนานเซิงอย่างแน่นอน
เธอยังไม่ทันจะได้ส่งข้อความตอบกลับฉินหนานเซิง ทางฝั่งนี้ลั่วเยียนก็เปิดเหล้าขวดใหม่ให้ตัวเองแล้ว
ซูสือเยว่ไม่มีเวลาไปสนใจฉินหนานเซิง ได้แต่เข้าไปแย่งเหล้ามาจากลั่วเยียน “คุณไม่ต้องดื่มแล้ว!”
“ฉันจะดื่ม!”
ลั่วเยียนทำปากมุ่ย “เธอเป็นใครกัน ถึงต้องมายุ่งกับฉัน!”
พอพูดจบ เธอก็หันหน้าไปมองหัวหน้าผู้กำกับ “ผู้หญิงคนนี้น่ารำคาญจริงๆ!”
“ให้เธอออกไปเลย!”
หัวหน้าผู้กำกับรู้สึกทุกข์ใจเล็กน้อย ยังไงฐานะของซูสือเยว่นั้นก็ไม่ธรรมดาเลย
แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถทำให้ลั่วเยียนขุ่นเคืองได้
“ไล่เธอออกไปสิ!”
ลั่วเยียนนั่งพิงเก้าอี้และเริ่มเล่นลูกไม้ “ถ้าเกิดว่าเธอไม่ไป ฉันจะไปเอง!”
“ถ้าเกิดว่าฉันไปแล้ว ต่อไปใครหน้าไหนก็อย่าคิดจะมาให้ฉันถ่ายหนังให้อีก!”
หัวหน้าผู้กำกับเม้มปาก ไม่มีทางเลือกแล้ว
เขาไม่สามารถเสียโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงใหญ่อย่างลั่วเยียนได้เพียงเพราะคนใหม่อย่างซูสือเยว่
“สือเยว่”
หัวหน้าผู้กำกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลั่วเยียนเป็นอะไร……ทั้งๆ ที่ตอนบ่าย เธอเป็นคนบอกให้จัดงานเลี้ยงปิดกล้องพร้อมกับเธอ แต่ว่า……”
“หรือว่า เธอกลับไปก่อนดีไหม”
ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมองลั่วเยียน
แล้วลั่วเยียนก็เงยหน้าขึ้นมาพอดี สายตาของผู้หญิงทั้งสองคนก็มาบรรจบกัน
ลั่วเยียนยกมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ย “ฉันไม่อยากจะเห็นใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับตระกูลฉิน ไสหัวออกไป!”
หัวหน้าผู้กำกับดูอึดอัดใจ “สือเยว่ คือ……”
“ฉันไปก็ได้”
ซูสือเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็มองหน้าหัวหน้าผู้กำกับอย่างจริงจัง “ดูแลเธอให้ดีนะคะ”
“ดีกรีเหล้านั้นมันสูงมาก ดื่มเยอะเกินไปมันไม่ดีต่อร่างกาย”
หัวหน้าผู้กำกับรีบพยักหน้าทันที “ได้เลย!”
หญิงสาวถอนหายใจยาว แล้วก็ลุกขึ้นเตรียมจะออกไป
ตอนที่ออกมานั้น ก็เห็นซูโม่กำลังยืนอยู่มุมสุดทางเดิน และกำลังพูดอะไรบางอย่างกับผู้ชายสองสามคน
มันอยู่ห่างจากเธอค่อนข้างพอสมควรเธอก็เลยไม่ได้ยิน และก็ไม่สนใจด้วย
หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เดินเข้าไปในลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล่าง
“จำไว้นะ ในห้องของกองถ่ายนั้น”
สุดทางเดินนั้น ซูโม่ยัดเงินใส่มือผู้ชายสองคน “ผู้หญิงคนนั้นคือนางเอก สาวที่สุดในห้องนั้น จำได้แล้วใช่ไหม?”
ผู้ชายสองคนนั้นพยักหน้า “วางใจได้เลยครับ!”
พอพูดจบ พวกเขาก็หันหน้ามาแล้วก็เดินตรงไปที่ห้องนั้น
ซูโม่ยืนอยู่ที่เดิม มองดูแผ่นหลังของผู้ชายสองคนนั้นอย่างเย็นชา
ในกองถ่ายนั้นมีคนอยู่มากมาย มันง่ายมากที่จะปะปนเข้าไปในงานเลี้ยงด้วย
ซูสือเยว่ ในเมื่อเธอไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด ถ้ายังงั้นวันนี้ฉันจะให้เธอได้ลิ้มลอง ว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดในครั้งนี้รสชาติจะเป็นยังไง!