สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – ตอนที่ 107 หนานเซิงไม่มีทางปล่อยให้เธอเป็นอะไร

“คงจะแค่หน้าเหมือนกันมั้งคะ”

ซูสือเยว่ก็ไม่ได้เอาคำพูดของผู้ชายคนนั้นมาใส่ใจ ตอนนี้ในหัวของเธอสนใจแต่เรื่องความปลอดภัยของลั่วเยียนเท่านั้น

“พวกเราออกไปตามหาก่อนนะครับ”

พอเห็นว่าซูสือเยว่ไม่ได้อยากจะคุยเรื่องนี้ต่อ ชายคนนั้นก็หันกลับไปอย่างมีไหวพริบ แล้วก็พาผู้ชายอีกสองคนตามไป

“พี่เจิง ที่พี่พูดเมื่อกี้พี่คิดว่าคุณผู้หญิงคนนั้นเหมือนใครเหรอ? ”

พอสามคนนั้นออกมาจากวิลล่าหยุนสุ่ย ก็มีคนถามออกมาด้วยความสงสัย

ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าพี่เจิงก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “ฉันเคยเป็นบอดี้การ์ดของครอบครัวใหญ่ในยุโรปมาพักหนึ่ง”

“ท่านเมื่อกี้นี้ เหมือนกับคุณนายตระกูลนั้นมาก”

“แต่น่าเสียดาย……”

“เสียดายอะไร?”

“ไม่มีอะไรหรอก รีบไปตามหาคนกันเถอะ”

……

หลังจากพวกบอดี้การ์ดไปแล้ว ซิงกวงก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอรู้ว่าตอนนี้ซูสือเยว่ต้องไม่มีอารมณ์จะดูการ์ตูนกับเล่านิทานให้เธอฟังแล้วอย่างแน่นอน

เธอหาวนอน แล้วก็แสร้งทำเป็นเหนื่อยล้าและบิดขี้เกียจ “แม่คะ ใกล้ถึงเวลาแล้ว หนูจะไปนอนแล้วนะ”

“หนูว่าอารมณ์แม่น่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ต้องเล่านิทานให้หนูฟังแล้วก็ได้ค่ะ รีบไปตามหาเพื่อนแม่เถอะ”

พอพูดจบนั้น เธอก็กระโดดลงจากโซฟา ยิ้มตาหยีแล้วก็กุมมือซูสือเยว่ “เจิ้งเจิงเก่งมากเลยนะคะ ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็สามารถบอกที่อยู่ของน้าลั่วเยียน ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกค่ะ”

“คืนนี้หนูมีความสุขมากเลย แม่รีบไปตามหาเธอเถอะค่ะ”

ซูสือเยว่เม้มปาก เธอดูออกว่าซิงกวงกำลังฝืนยิ้มอยู่

แต่ว่าตอนนี้……เธอไม่สามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเล่านิทานกล่อมเธอนอนได้หรอก

“ขอโทษนะ……”

หญิงสาวยกมือขึ้นหยิกแก้วอ้วนๆ ของซิงกวง “น้าซูติดหนี้หนูแล้วนะ ครั้งหน้าถ้าเกิดว่ามีเวลาจะมาเป็นแม่ของหนูให้ใหม่ ดีไหม?”

“ดีค่ะ!”

เด็กน้อยยิ้มจนตาหยีและพยักหน้า “นี่น้าพูดเองนะ ไม่งั้นซิงกวงจงใจจะจัดวันเกิดอีกครั้งนะ”

มองท่าทางที่รู้เรื่องรู้ราวของเธอแล้ว ซูสือเยว่ก็รู้สึกปวดใจ

เธอนึกถึงซิงหยุนกับซิงเฉิน

เด็กน้อยทั้งสองคนของบ้านเธอนั้น ก็รู้เรื่องรู้ราวดีเหมือนกัน

เด็กสมัยนี้รู้เรื่องรู้ราวจนน่าปวดใจ

เธอย่อตัวลง แล้วก็จูบหน้าผากของซิงกวงเบาๆ “ถ้ายังงั้นน้าซูไปก่อนนะ”

“หนูอยู่บ้านคนเดียวไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม? ”

“ไม่มีปัญหาค่ะ!”

ซิงกวงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “คุณอาจี้งานยุ่งมาก ไม่ได้กลับบ้านหลายวันบ่อย หนูชินแล้วค่ะ!”

“ฝันดีนะคะ!”

พอพูดจบ เด็กน้อยก็หันหลังไป แล้วก็วิ่งขึ้นไปชั้นบน

ในมุมที่ซูสือเยว่มองไม่เห็นนั้น น้ำใสๆ ก็หยดออกมาจากหางตาของเธอ

สุดท้ายเธอก็ไม่มีโอกาสได้มีแม่ดีๆ แบบนี้

แม้ว่าเธอจะแกล้งทำเป็นจัดงานวันเกิด ก็ยังเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด

ซูสือเยว่ยืนอยู่ที่เดิม มองดูแผ่นหลังของซิงกวง และความทุกข์ก็เกิดขึ้นในหัวใจของเธอ

“ซิงกวง”

เธอเม้มปาก แล้วก็เรียกเธอไว้

เด็กน้อยคนนั้นหยุดเดิน “น้าซูยังมีเรื่องอะไรอีกรึเปล่าคะ? ”

“คุณอาจี้ของหนูพูดถูก”

“พ่อกับแม่ของหนูอาจจะยังรอให้หนูกลับบ้านอยู่ที่มุมไหนของโลกใบนี้ก็ได้”

“หนูจะต้องหาพวกเขาเจออย่างแน่นอน”

ซิงกวงหลับตาลง น้ำตาก็ร่วงหล่นอย่างไม่มีเสียง “หนูเองก็เชื่อแบบนั้นเหมือนกัน”

“ข้างนอกมืดแล้ว น้าซูระวังตัวด้วยนะคะ!”

พอพูดจบ เธอก็วิ่งเข้าห้องนอนของตัวเองไป

มองดูแผ่นหลังของเด็กน้อยหายลับไปจากสายตาของตัวเอง ซูสือเยว่ก็ถอนหายใจ แล้วก็เดินออกไปจากคฤหาสน์

ตอนกลางคืนวิลล่าหยุนสุ่ยค่อนข้างจะเงียบงัน ด้านนอกไม่มีคนแม้แต่คนเดียว

พอซูสือเยว่ออกมาจากคฤหาสน์แล้วก็รู้สึกผิดหวัง

วิลล่าหยุนสุ่ยเป็นพื้นที่คฤหาสน์ระดับไฮเอนด์ และแท็กซี่ไม่สามารถเข้าไปได้เลย

เธอคิดว่าถ้าจะออกไปเธอก็ต้องเดินออกไปหน้าประตูใหญ่แล้วค่อยเรียกแท็กซี่

แต่ว่าคฤหาสน์ของจี้หนานเฟิงนั้นอยู่ห่างจากประตูใหญ่ค่อนข้างไกล เธอเดินมาเกือบสิบนาที ก็ยังไม่ถึงเลย

ตอนนาทีที่สิบนั้น เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากเจิ้งเจิง

“คุณซู สามารถแกะรอยจากสัญญาณโทรศัพท์เพื่อนของคุณได้แล้วนะครับ”

“ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในรถที่มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกของเมือง ตอนนี้พวกเรากำลังรีบตามไป”

“แต่ว่าแปลกมากเลยครับ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะวนอยู่รอบๆ เมืองหรง ผมสงสัยว่าอีกฝ่ายจงใจจะใช้สัญญาณโทรศัพท์ของเธอเพื่อเป็นเหยื่อล่อ แต่ว่าตัวเธอไม่ได้อยู่บนรถ”

“ในหลายช่วงของถนนที่พวกเขาเดินทางไปไม่มีกล้องวงจรปิด ผมไม่แน่ใจว่ามีคนได้ลงมาจากรถในจุดที่ไม่มีกล้องรึเปล่า นอกจากโทรศัพท์แล้ว ยังมีข้อมูลด้านอื่นของเพื่อนคุณที่สามารถติดตามได้อีกไหมครับ? ”

ตำพูดของเจิ้งเจิง ทำให้ซูสือเยว่แข็งทื่อไปในทันที

คนกับโทรศัพท์ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

ทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิด

ข้อมูลสองข้อนี้ เพียงพอที่จะทำให้เธอล้มลงได้เลย!

เธอกัดริมฝีปากแน่น “คุณตามรถคันนั้นไป แล้วก็ลากคนในรถลงมาแล้วถามพวกเขาว่าลั่วเยียนอยู่ที่ไหน!”

“ไม่ต้องหรอกครับ พวกเราตามไปแล้ว มีคนทำแบบนั้นเรียบร้อยแล้วครับ”

“ผมวางแผนจะไปตรวจสอบรอบๆ เส้นทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ว่าขอบเขตมันกว้างเกินไป พวกเราทั้งสามคนมีความสามารถในการตรวจสอบที่จำกัด ทำได้แค่ทำให้ดีที่สุดเท่านั้น”

“แต่ว่าคนที่อยู่ด้านหน้าก็น่าจะมาช่วยเพื่อนของคุณเหมือนกัน พวกเราสามารถร่วมมือกับพวกเขาได้”

ซูสือเยว่กัดริมฝีปากของตัวเองแน่น “รบกวนด้วยนะคะ”

“คุณคือเพื่อนของเจ้าหญิงน้อยซิงกวง ก็คือเพื่อนของพวกเราเหมือนกัน”

พอพูดจบ เจิ้งเจิงก็วางสายไป

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ซูสือเยว่ก็ได้รับรูปที่เจิ้งเจิงส่งมาให้

ในรูปนั้น ฉินหนานเซิงกำลังคว้าคอเสื้อของชายคนหนึ่งอย่างบ้าคลั่งแล้วก็กระทืบเขาที่พื้น

เธอหลับตาลง

คืนนี้ต้องนอนไม่หลับอย่างแน่นอน

“ขึ้นรถสิ”

ตอนที่เธอกำลังสับสนและไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรนั้น รถมาเซราติสีดำคันหนึ่งก็จอดลงด้านข้างเธอ

ประตูรถถูกเปิดออก และก็เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคยของฉินโม่หาน

ฃซูสือเยว่อึ้งไป “นายมาได้ยังไง……”

“ก็บอกว่าจะมารับเธอไง”

ชายหนุ่มยิ้มจางๆ ให้กับเธอ “ขึ้นมาสิ”

ซูสือเยว่เม้มปาก แล้วก็ขึ้นรถไป

ตอนที่ปิดประตูรถนั้น ชายหนุ่มก็ดึงเธอเข้าไปกอด “เมื่อกี้หนานเซิงโทรมาแล้ว ฉันได้ยินเรื่องของลั่วเยียนเรียบร้อยแล้ว”

“พ่อบ้านได้จัดการให้คนไปช่วยเหลือแล้ว”

พอพูดจบ เขาก็ยกมือขึ้นหยิกแก้มของซูสือเยว่เบาๆ “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

ซูสือเยว่เงยหน้าขึ้น แล้วก็จ้องหน้าเขา

“ฉันไม่ควรออกมาเลย”

ถ้าเกิดว่าเธอไม่เชื่อฟังที่ลั่วเยียนกับหัวหน้าผู้กำกับบอกให้เธอกลับ ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับลั่วเยียนนั้น ต่อให้เธอไม่สามารถหยุดได้ แต่ว่าเธอก็สามารถเรียกคนมาช่วยได้ทันเวลา

และจะไม่เกิดสถานการณ์ที่ไม่มีใครตามหาลั่วเยียนเจอเหมือนในตอนนี้หรอก

“มันไม่ใช่ความผิดของเธอ”

ชายหนุ่มกอดเธอไว้ในอ้อมแขน “เธอไม่เป็นอะไรหรอก”

“ฉันรับรอง”

ลมหายใจที่คุ้นเคยและเสียงที่หนักแน่นของฉินโม่หาน ทำให้หัวใจของซูสือเยว่เหมือนถูกโจมตีอะไรบางอย่าง

น้ำตาไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้างของเธออย่างอดไม่ได้ เธอจับปกเสื้อของฉินโม่หานไว้แน่น “ถึงแม้ว่าคงความสัมพันธ์ของฉันกับลั่วเยียนจะไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก”

แต่ว่าเธอก็เป็นนักแสดงที่ฉันชอบมาโดยตลอด”

“และช่วงเวลาที่ฉันอับอายและลำบากมากที่สุด ถูกเซี่ยงหวั่นฉิงกับเฉิงเซวียนรังแก เธอก็เป็นคนที่ออกตัวให้ฉันไปเป็นแสตนด์อินให้……”

“ฉันไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”

“เธอควรจะได้มีอนาคตที่ดีกว่านี้……”

เสียงที่สั่นเครือและน้ำตาของหญิงสาวคนนี้ ทำให้หัวใจของฉินโม่หานหยุดลง

ชายหนุ่มเม้มปาก “วางใจเถอะ”

“หนานเซิงไม่มีทางปล่อยให้เธอเป็นอะไรหรอก”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset