ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่จำนวนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าบ้านตระกูลซู บดบังแสงจันทร์ที่จะสาดเข้ามาอย่างสนิท
อาศัยแสงสว่างจากในตัวเรือน เฉินฮั๋วเห็นร่างที่สูงยาวโดดเด่นท่ามกลางคนกลุ่มนั้น
เขาคือฉินโม่หาน ท่านชายฉิน!
เฉินฮั๋วแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่
เธอยิ้มกริ่ม แล้วเงยหน้ามองฉินโม่หาน “ท่านชาย ดึกขนาดนี้แล้ว…”
“ผมมาหาซูโม่”
ฉินโม่หานไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา
เฉินฮั๋วดีใจอย่างออกนอกหน้า
ในที่สุด!
เสน่ห์โม่โม่นั้นล้นหลาม ซูสือเยว่นังสารเลวที่เคยอุ้มท้องลูกของคนอื่น จะสู้กับเธอได้อย่างไร!
ตอนนี้ฉินโม่หานมาหาซูโม่ นอกจากอยากนอนกับเธอจะมีจุดมุ่งหมายใดอีก!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินฮั๋วก็ดีใจรีบหลีกทางให้ “คุณเข้าไปรอก่อนเถอะ โม่โม่เพิ่งจะอาบน้ำเข้านอน เดี๋ยวผมไปเรียกเธอ”
“ครับ”
ฉินโม่หานชะงักไปเล็กน้อย แล้วก็ก้าวเข้าไปในบ้าน
ด้านหลังของเขา มีบอดี้การ์ดเดินตามเข้ามา
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นั่งลงบนโซฟา และนั่งไขว่ห้างด้วยขาที่เรียวยาว “ให้เธอออกมาเถอะ”
“ครับ ครับ ครับ!”
เฉินฮั๋วรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนด้วยความตื่นเต้น
“อย่าบอกเธอล่ะว่าผมมาหา”
ขณะที่เฉินฮั๋วกำลังก้าวขึ้นบันไดขั้นแรก ชายหนุ่มก็พูดสั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน
“รับทราบครับ!”
ท่านชายฉินคงต้องการจะเซอร์ไพรส์โม่โม่แน่นอน!
เรื่องแบบนี้ เฉินฮั๋วเข้าใจดี
วัยรุ่น ชอบเล่นอะไรแปลกๆ กันอยู่เรื่อย
ที่ห้องนอนชั้นบน ซูโม่กำลังส่งข้อความหาเย่เชียนจิ่วด้วยความสะใจ “คุณเย่ หลังจากคืนนี้ ซูสือเยว่ก็ไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว!”
หลังจากที่เธอส่งข้อความเรียบร้อย เฉินฮั๋วก็เดินมาเคาะประตูพอดี
“โม่โม่นอนแล้วรึยัง? ”
ซูโม่ขมวดคิ้ว เธอรีบเก็บโทรศัพท์แล้วเดินไปเปิดประตู “มีอะไรรึเปล่า? ”
ณ ตอนนั้น โทรศัพท์ของเธอสั่นขึ้นพอดี
ซูโม่ไม่ได้สนใจ และเงยหน้ามองเฉินฮั๋วต่อ
เธอจึงไม่เห็นข้อความนั้น ที่เย่เชียนจิ่วส่งมา “แกนังโง่ จับคนผิดแล้ว!”
“มีคนมาหา!”
เฉินฮั๋วจับมือของซูโม่เอาไว้ “มีแขกมาหาลูกที่บ้าน!”
“เป็นแขกคนสำคัญมาก!”
เฉินฮั๋วมองหน้าเธอ “ลงไปข้างล่างกับพ่อ!”
“รอเดี๋ยว”
ซูโม่สงสัย ก้มลงมองชุดนอนที่บางๆ ของตัวเอง “หนูขอเปลี่ยนชุดก่อน…”
“เปลี่ยนชุดอะไรกัน แบบนี้แหละดีแล้ว!”
เฉินฮั๋วค้านหัวชนฝา “คนเขาอุตส่าห์มาหาดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ หมายความว่าอย่างไรลูกไม่รู้เหรอ? ”
ซูโม่ชะงัก เธอจึงไม่ดื้อดึงที่จะเปลี่ยนชุดต่อไป
“ใครกันแน่เนี่ย? ”
“ลงไปเดี๋ยวก็รู้!”
เฉินฮั๋วรีบดันซูโม่ให้ลงไปด้านล่าง อย่าให้คนเขารอนาน!
เมื่อลงมาจากชั้นบน ซูโม่มองไปยังชายหนุ่มผู้สูงส่งที่นั่งอยู่บนโซฟา
ฉินโม่หาน!?
ทำไมเขาถึงมาหาเธอในตอนนี้?
ลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องแย่ๆ พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที…
เธอชะงักถอยไปหนึ่งก้าวทันที ด้วยสัญชาตญาณ
ความรู้สึกของเธอบอกว่าที่ ฉินโม่หานมาหาเธอ คงไม่ใช่เพราะเรื่องอย่างที่เฉินฟางคิดอย่างแน่นอน!
ผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาเห็นเธอพอดี
“คุณซู”
เสียงของฉินโม่หานเย็นชา ไร้ซึ่งความรู้สึก “ไปกับผมหน่อยครับ”
ซูโม่กัดริมฝีปาก อยากจะวิ่งหนี แต่ไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกบอดี้การ์ดของฉินโม่หานจับตัวเอาไว้ก่อน
หญิงสาวถูกบอดี้การ์ดจับมาส่งตรงหน้าฉินโม่หาน
“ดูท่าเธอจะรู้แล้วสินะว่าผมมาหาคุณเรื่องอะไร”
เสียงดุดันของชายหนุ่ม บวกกับท่าทางทรงอำนาจของเขาที่ทำให้คนยากจะเมิน
ซูโม่เงยหน้าขึ้นมา “ฉันไม่เข้าใจว่าท่านชายฉินกำลังพูดถึงอะไร? ”
“คุณถูกนอกใจก็ไม่ควรมาเช็กบิลที่ฉันไหมคะ? ”
“ซูสือเยว่ไม่ใช่ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนั้น คุณก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ”
“คุณเป็นคนลบภาพและวิดีโอที่เธอตั้งท้องเองกับมือเลยไม่ใช่เหรอ? ฉันคิดว่าคุณจะไม่สนใจตั้งนานแล้วเสียอีก!”
เธอยิ้มเย้ย พูดทุกคำที่ตัวเองคิดว่าดีออกมาจนหมด
ด้านหนึ่ง เธอได้ลดคุณค่าของซูสือเยว่
ส่วนอีกด้านหนึ่ง เธอก็สามารถใช้วิธีการนี้ในการยั่วฉินโม่หานได้ด้วย ไม่ใช่เหรอ?
แต่สิ่งที่ซูโม่นึกไม่ถึงก็คือ พอเธอพูดประโยคนี้ออกไป ฉินโม่หานกลับไม่ได้รู้สึกโกรธ
เขาแค่เล่นกับถ้วยชาบนโต๊ะกาแฟ แล้วก็ยิ้มอย่างเย็นชาและเหยียดหยาม “ผมยังไม่ได้บอกเป้าหมายที่ผมมาที่นี่ในวันนี้เลย ทำไมคุณซูถึงได้พูดอะไรกับผมเยอะแยะไปหมดเลยล่ะ? ”
“คุณรู้ว่า คืนนี้ต้องเกิดเรื่องขึ้นกับซูสือเยว่ ใช่ไหม? ”
ซูโม่กลอกตา “นี่ท่านชายฉินใส่ร้ายฉันเหรอคะ? ”
“วันานี้ฉันก็แค่เห็นซูสือเยว่ถูกผู้ชายสามคนพาออกไปจากโรงแรมเท่านั้นเอง”
“ฉันก็แค่คิดโยงไปเท่านั้นเองค่ะ”
“ท่านชายฉินมาหาฉันดึกขนาดนี้ มาเพื่อสอบปากคำไม่ใช่เหรอคะ? ”
“ก็มาเพื่อสอบปากคำจริงๆ นั่นแหละ”
ฉินโม่หานจิบชาลงไปเบาๆ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง “ใกล้แล้ว”
ทันทีที่พูดจบ ด้านนอกของบ้านซูก็มีเสียงไซเรนดังแสบแก้วหู
ทันใดนั้นซูโม่ก็เบิกตาโพลงขึ้นทันที “คุณแจ้งตำรวจเหรอ? ”
“ผมไม่ได้แจ้ง แต่ว่าบริษัทโมเดลลิ่งเหลยถิงเป็นคนแจ้งต่างหาก”
บริษัทโมเดลลิ่งเหลยถิง ก็คือบริษัทที่ลั่วเยียนอยู่นิ
และก็เป็นบริษัทโมเดลลิ่งที่ฉินหนานเซิงเป็นผู้ถือหุ้นแบบไม่เปิดเผยรายใหญ่ที่สุด
ซูโม่อึ้งไป
บริษัทโมเดลลิ่งเหลยถิง แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนในวงการบันเทิง แต่ว่าเธอก็เคยได้ยินชื่อเหลยถิงมาบ้าง
ในฐานะบริษัทโมเดลลิ่งที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการ เหลยถิงก็ได้ผลิตศิลปินที่มีอิทธิพลมากมายในวงการบันเทิง
ซุปตาร์ลั่วเยียนก็คือศิลปินที่เป็นสัญลักษณ์ของเหลยถิง
เพียงแค่ บริษัทโมเดลลิ่งแบบนี้ เกี่ยวข้องอะไรกับซูสือเยว่ด้วยล่ะ?
ชายหนุ่มยืนขึ้นจากโซฟาด้วยท่าทีที่สง่างาม “เธอน่าจะยังไม่รู้”
“ว่าผู้หญิงที่ถูกเธอทำลายในคืนนี้ ไม่ใช่ซูสือเยว่ แต่ว่าเป็นลั่วเยียน”
ซูโม่เงยหน้าขึ้นด้วยความช็อก “เป็นไปได้ยังไง……!”
วินาทีถัดมา ตำรวจก็บุกเข้ามา
“คุณซู คุณเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีลักพาตัว เชิญมากับเราด้วยครับ”
ภายใต้สายตาที่ช็อกของเฉินฮั๋วนั้น กุญแจมือเย็นๆ ถูกใส่เข้าไปในข้อมือของซูโม่
ซูโม่ที่สวมใส่ชุดนอนสีชมพูถูกตำรวจพาตัวไป เธอไม่มีแม้แต่เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า
จนเสียงไซเรนดังออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ แล้วเฉินฮั๋วในบ้านซูถึงพึ่งได้สติกลับมา
เธอรีบเดินเข้าไปหาฉินโม่หาน “คุณฉิน นี่มันเรื่องอะไรกัน? ”
“โม่โม่เธอ……”
“เธอจะใช้เวลาที่เหลือในชีวิตของเธอในคุก”
ชายหนุ่มลุกขึ้น แล้วก็เหลือบตามองใบหน้าที่กังวลของเฉินฮั๋วด้วยสีหน้าที่เย็นชา “ขอบคุณสำหรับการต้อนรับของคุณนายซูนะครับ”
“ชาของบ้านซูนี่รสชาติแย่จริงๆ ผมคงไม่มาอีกแล้ว”
พอพูดจบ เขาก็พาบอดี้การ์ดเดินออกไป
เฉินฮั๋วมึนไปอยู่วินาทีหนึ่ง ถึงได้เข้าใจความหมายของฉินโม่หาน
เธอพุ่งเข้าไปอีกครั้ง แล้วก็กางแขนออกมาบังอยู่ตรงหน้าของฉินโม่หาน “ท่านชายฉิน มันต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันอย่างแน่นอน!”
“คุณต้องช่วยโม่โม่!”
“ทำไมผมต้องช่วยเธอด้วย?”
“เพราะ……”
เฉินฮั๋วกัดริมฝีปาก ในใจเธอก็รู้อยู่แล้วว่าฉินโม่หานนั้นไม่ได้สนใจในตัวซูโม่เลย
ในสถานการณ์เร่งรีบแบบนี้ เธอก็เลยเอาซูสือเยว่มาอ้าง “เพราะว่าคุณคือสามีของซูสือเยว่ และฉันก็เป็นแม่บุญธรรมของซูสือเยว่!”
“ให้ซูสือเยว่มาเจอฉัน! ฉันเลี้ยงเธอมา20ปี เธอต้องยอมรับเรื่องที่ฉันขอร้องอย่างแน่นอน!”
ฉินโม่หานหยุดเดิน “บุญคุณที่พวกคุณเลี้ยงเธอมา ตอนที่เธอแต่งงานกับผม ก็ได้เคลียร์ไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? ”