“ไม่ได้ผิดพลาดใช่ไหม? ”
มองดูรูปร่างที่สูงโปร่งของฉินโม่หาน ใบหน้าคมที่ดูเขร่งขรึมเหลียงหยูซินรู้สึกเหมือนกับตัวเองได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่า?
ผู้ชายคนนี้ ……ที่หน้าตาหล่อเหลาเกือบจะเท่าจี้หนานเฟิงอยู่แล้ว กลับจะมาเป็นนักแสดงแทนของจี้หนานเฟิงยังงั้นเหรอ?
แล้วก็จูบแทนอีกเนี่ยนะ?
เธอบ้าไปแล้วหรือว่าผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้วกันแน่?
เธอกัดริมฝีปาก แล้วก็โน้มตัวเข้าไปหาหยางชิงโยว “ฉันได้ยินอะไรผิดรึเปล่า? ”
“เปล่า”
หยางชิงโยวหรี่ตา มองหน้าซูสือเยว่ แล้วก็แอบกัดฟันกรอด
“เชอะ”
“ถ้าเกิดว่ารู้แต่แรกฉันก็หาคนมาจูบแทนเหมือนกัน”
มองดูฉินโม่หานที่กำลังแต่งหน้าอยู่เหลียงหยูซินรู้สึกโกรธอย่างมาก “ได้เล่นเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพี่ชายสุดหล่อยังจี้หนานเฟิง แถมยังได้ถ่ายบทจูบกับผู้ชายที่หล่อยิ่งกว่า ทำไมเรื่องดีๆ ต้องเป็นของเธอหมดเลย!”
“ดูผิวเผินก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีนั่นแหละ”
หยางชิงโยวมองซูสือเยว่อย่างอาฆาตแค้น แล้วก็ยิ้มมุมปาก “แต่ สุดท้ายแล้วผลจะเป็นยังไงใครจะไปรู้ได้ล่ะ? ”
ผู้ชายที่มารับบทจูบแทนนี้เหลียงหยูซินไม่รู้จัก แต่หยางชิงโยวกลับคุ้นเคยอย่างมาก
นี่คือคนในใจของเย่เชียนจิ่ว
ก่อนหน้าที่เธอจะเข้าวงการบันเทิง เธอเคยทำงานเป็นผู้ติดตามเย่เชียนจิ่วอยู่ช่วงหนึ่ง
ในช่วงเวลานั้น สิ่งที่เย่เชียนจิ่วคิดอยู่ทุกวันก็คือต้องทำยังไงถึงจะตั้งท้องลูกของฉินโม่หาน แล้วาุดท้ายก็บังคับให้ฉินโม่หานแต่งงานกับเธอ
แต่น่าเสียดาย เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ถูกฉินหลิงยี่นำกลับบ้านนั้น เย่เชียนจิ่วก็เป็นเพียงแค่สาวห้าวตัวน้อยที่แยกออกมาจากหมู่บ้านในเมืองเท่านั้นเอง
เพราะว่าทำแท้งบ่อยเกินไปจนทำให้สูญเสียความสามารถในการตั้งครรภ์ได้ สุดท้ายก็เลยต้อง……
หยางชิงโยวใช้โทรศัพท์แอบถ่ายแผ่นหลังที่สูงใหญ่ของฉินโม่หาน ส่งให้เย่เชียนจิ่ว
ไม่นาน เย่เชียนจิ่วก็ส่งข้อความกลับมา “เธออยู่กับเขาได้ยังไงกัน? ”
หยางชิงโยวอ่านข้อความในโทรศัพท์ พร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่าวงเย็นชา
ใครจะไปคิดล่ะ
หลังจากผ่านมาหลายปี เธอกลับต้องมาพัวพันกับเย่เชียนจิ่วอีกครั้งเพราะว่าผู้ชายคนนี้
……
หลังจากที่ฉินโม่หานแต่งหน้าเสร็จแล้ว ซูสือเยว่เองก็เติมหน้าเสร็จแล้ว
“นายไม่ได้มีประชุมสำคัญหรอกเหรอ? ”
ตอนที่คนอื่นๆ กำลังเตรียมฉากสำหรับถ่ายทำนั้น ซูสือเยว่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉินโม่หานก็ถามออกมาด้วยเสียงเบา
ชายหนุ่มตอบอย่างสบายๆ “เลื่อนไปแล้ว”
เลื่อนแล้ว?
ซูสือเยว่เม้มปาก “คือว่า……มันคือการประชุมที่สำคัญมากเลยไม่ใช่เหรอ? ”
“อืม”
ฉินโม่หานยิ้มอย่างสง่างาม “มันก็สำคัญมากจริงๆ นั่นแหละ เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินงานของสาขายุโรปในไตรมาสหน้า”
“แล้วนายก็เลื่อนเนี่ยนะ?”
ซูสือเยว่ขมวดคิ้วอย่างรุนแรง
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องการทำธุรกิจเท่าไหร่นัก แต่ว่ามันเกี่ยวเนื่องกับการประชุมใหญ่ของไตรมาสหน้า……
ตามนิสัยบ้างานของเขาแล้ว ไม่มีทางเลื่อนการประชุมนี้ออกไปอย่างแน่นอนไม่ใช่เหรอ?
“ถึงแม้ว่างานจะสำคัญ”
สายตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นของชายหนุ่มมองมาที่ซูสือเยว่อย่างทะนุถนอม “แต่ว่า ฉันไม่อยากให้เธอรอฉันมากกว่า”
ไม่อยากให้เธอรอเขา
และก็ยิ่งไม่อยากเห็นเธอถ่ายฉากจูบกับผู้ชายคนอื่น
ซูสือเยว่กลอกตา
ผู้ชายคนนี้จัดลำดับความสำคัญได้ไหมเนี่ย?
ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะสำคัญกับเธอ แต่ว่าเมื่อกี้เธอคุยกับผู้กำกับแล้ว มันสามารถเลื่อนไปตอนบ่ายได้
แต่ว่าการประชุมของเขาล่ะ?
ระหว่างยุโรปกับที่จีนนั้นเวลาก็ค่อนข้างจะแตกต่างกัน และตารางงานของเขาก็เต็มทุกวัน เลื่อนการประชุมนี้ออกไป แล้วจะได้ประชุมอีกครั้งเมื่อไหร่กัน?
ราวกับว่าอ่านความกังวลในใจของเธอออก ชายหนุ่มคลี่ยิ้มจางๆ “ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก มีคนประชุมแทนฉันแล้ว”
ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “ใครกัน? ”
“ซิงเฉิน”
ซูสือเยว่เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ “ซิงเฉิน?
“อืม”
ฉินโม่หานยักไหล่เบาๆ “หรือว่าเธอก็คิดเหมือนกับซิงกวง ที่คิดว่าซิงเฉินนั้นนอกจากพูดมากแล้วก็ไม่มีข้อดีอื่นเลยเหรอ? ”
“ที่จริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย”
“ซิงหยุนไอคิวสูง แต่สื่อสารไม่เก่ง ชอบทำหน้าบูดบึ้งและทำแต่ในสิ่งที่เขาชอบ”
“แต่ว่าที่จริงแล้วซิงเฉินเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลย เอกสารที่บริษัทฉัน เขาสามารถเข้าใจได้เกือบทั้งหมด แล้วอีกอย่างอายุยังน้อยขนาดนี้ กลับมีความคิดเห็นของตัวเองในการทำธุรกิจอีกด้วย”
“แต่แค่เขาซนและขี้เกียจไปหน่อยเท่านั้นเอง เขามักจะใช้ท่าทางซุกซนเพื่อหลีกเลี่ยงงานที่ฉันจะให้เขาทำ”
ซูสือเยว่:“……”
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้ ว่าซิงเฉินมีความสามารถแบบนี้ด้วย?
สมแล้วที่เป็นลูกของฉินโม่หาน…… คนจริงเขาไม่พูดเยอะจริงๆ
ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์ตระกูลฉิน
เด็ก 5 ขวบนั่งเก้าอี้ผู้บริหาร ดูเหมือนเป็นแค่ก้อนอะไรเล็กๆ ก้อนหนึ่ง แต่ว่าออร่าของเขากลับไม่แพ้ใครในการประชุมทางวิดีโอเลย
เขาสวมหูฟังบลูทูธ และฟังรายงานของคนเหล่านั้นด้วยสายตาที่เรียบเฉย
“เนื้อหาในรายงานเมื่อกี้นี้กับในรีพอร์ตมันไม่สอดคล้องกัน ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันมีปัญหาที่ตรงไหน แต่ว่ารายงานฉบับนี้แด๊ดดี้ต้องให้คุณไปทำใหม่แน่นอน”
“การวิจัยทางตลาดฉบับนี้มีปัญหาเยอะ กลุ่มตัวอย่างที่ไปสำรวจนั้นมันรวมตัวกันเกินไป ผมไม่พอใจ แด๊ดดี้ก็คงจะไม่พอใจเหมือนกัน”
“อย่าคิดว่าผมยังเด็กแล้วจะพูดอะไรไปเรื่อยได้นะ เอกสารโปรเจ็กที่คุณพึ่งพูดเมื่อกี้นี้ ผมพึ่งอ่านมาพอดี”
……
เบื้องหลังการประชุม พวกผู้บริหารที่อยู่อีกฝั่งของวิดีโอก็อดไม่ได้ที่จะเหงื่อชุ่มเต็มหลัง
ลูกชายตัวน้อยของเจ้านาย ความสามารถไม่ได้ด้อยกว่าเลยแม้แต่นิดเดียว
เขาพึ่งจะ5ขวบเองนะ!
ถ้าเขาโตขึ้น จะขนาดไหนกัน?
แต่ว่า ก็มีคนสังเกตเห็น
ว่าตอนที่ซิงเฉินกำลังประชุมอยู่นั้น หูข้างหนึ่งของเขาสวมหูฟังบลูทูธตลอดเวลา
สิ่งที่เขาพูดอยู่นั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เด็กอายุ5ขวบจะสามารถพูดได้เลย ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คือ มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำอยู่ผ่านทางหูฟังของเขา!
ดังนั้นไม่น่าจะเป็นเขาที่เก่ง แต่คนที่อยู่ในหูฟังของเขาต่างหากที่เก่ง!
แต่ว่าไม่มีคนรู้ว่า สิ่งที่อยู่ในหูฟังของซิงเฉินก็คือ……
“พี่ซิงหยุนสอนโค๊ดฉันอันเดียวก็ไปอ่านหนังสือแล้ว ไม่สนใจฉันเลย”
“ ฉันวางอิฐของเล่นไปหลายก้อนเลย โค๊ดก็พิมพ์ไปสามครั้งแล้ว เมื่อไหร่นายจะกลับมาเนี่ย? เบื่อชะมัด……”
เด็กน้อยยิ้มอย่างมีชัย
หึ ดูผิวเผินเหมือนซิงกวงชอบพี่ชาย แต่ความจริงแล้วอยู่ห่างเขาแค่แป๊บเดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว
เพราะฉะนั้นนัดนี้ เขาชนะพี่!
……
“นักแสดงเตรียมพร้อม!”
ในกองถ่าย หลังจากรอมานาน ในที่สุดช่างกล้องก็เตรียมพร้อมแล้ว
เขาดูโดดเด่นเกินไป แตกต่างกับจี้หนานเฟิงอย่างชัดเจน ผู้กำกับและช่างภาพใช้เวลานานในการค้นหามุมที่เหมาะสม
ซูสือเยว่กับฉินโม่หานเผชิญหน้ากัน ยืนอยู่ตรงกลางสตูดิโอ
คนสองคนยืนอยู่กลางกองถ่าย คนหนึ่งหล่อ อีกคนสวย เข้ากันดีมาก
มองไกลๆ ดูเข้ากันราวกับกิ่งทองใบหยก
ภาพนั้นมันดูเจ็บปวดมากจนเหลียงหยูซินที่นั่งอยู่ข้างๆ ยัดสตอเบอร์รี่เข้าไปในปากอย่างรุนแรง “เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้ ฉันคิดว่าคุณน่าจะไปถ่ายฉากจูบนี้ด้วยตัวเองนะคะ”
ก่อนหน้านี้ตอนที่รู้ว่าจี้หนานเฟิงจะใช้ตัวแสดงแทนนั้นเหลียงหยูซินนั้นรู้สึกดีอกดีใจมาก เธอคิดว่าคนใหม่อย่างซูสือเยว่เนี่ย ไม่คู่ควรกับการที่จะได้ฉากจูบกับเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้เลยแม้แต่น้อย
แต่ว่าตอนนี้ มองดูนักแสดงแทนที่หล่อกว่า ออร่าดีกว่าเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้เหลียงหยูซินรู้สึกว่าเธออิจฉาจนจะตายอยู่แล้ว!
ซูสือเยว่ชาติที่แล้วได้กอบกู้จักรวาลไว้รึยังไง?
ทำไมเรื่องดีๆ ต้องตกเป็นของเธอหมดเลย!
จี้หนานเฟิงเอนตัวลงบนเก้าอี้โยก แล้วก็เล่นโทรศัพท์อย่างเกียจคร้านและสบายๆ
พอได้ยินที่เหลียงหยูซินพูด เขาไม่ได้แม้แต่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ เพียงแค่ยิ้มจางๆ เท่านัน้ “ผมก็อยากถ่ายด้วยตัวเองเหมือนกัน แต่ว่าไม่มีโอกาส”
แต่……
เขามองดูฉินโม่หานที่ใบหน้าดูภาคภูมิใจอยู่ไกลๆ
ถึแม้ว่าฉินโม่หานจะเป็นสามีของซูสือเยว่
แต่ถ้าเขาต้องการประกาศอำนาจอธิปไตยต่อหน้าเขา……มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
ตอนที่ผู้กำกับจะตะโกนสั่งให้แอคชั่นนั้น จี้หนานเฟิงก็ยืนขึ้น “ผู้กำกับ”
“คุณว่า โปรดิวเซอร์มีสิทธิที่จะให้นักแสดงใช้คนแสดงแทนใช่ไหม? ”
ผู้กำกับชะงักไป “ใช่”
“งั้นผมเองก็เป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์เหมือนกัน”
ชายหนุ่มเหลือบมองฉินโม่หานอย่างยั่วยุ “ดังนั้น ผมก็อยากให้เปลี่ยนตัวแสดงบทจูบแทน”
นี่มันเป็นการก่อปัญหาเพิ่มไม่ใช่เหรอ?
ผู้กำกับขมวดคิ้ว “คุณก็มีตัวแสดงแทนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ”
“ผมสงสัยเรื่องทักษะการแสดงของนางเอกน่ะ”
จี้หนานเฟิงแสร้งยิ้มแล้วก็กวักมือเรียกคนที่อยู่ตรงมุม นักแสดงที่มีส่วนสูงและรูปร่างเหมือนกันกับ ซูสือเยว่ออกมา
“นี่ก็นักแสดงแทนที่ผมเตรียมไว้ให้นางเอก”
พอพูดจบ เขาก็มองไปที่ฉินโม่หานอย่างพึงพอใจ “ให้นักแสดงแทนชาย แสดงคู่กับเธอแล้วกันครับ”