“สองท่านนี้เหมาะสมกันมากเลย!”
ในสตูดิโอ ผู้กำกับดูเทปฉากจูบของฉินโม่หานกับซูสือเยว่ ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ถ้าเกิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณซูโสดอยู่ ผมจะสงสัยว่าทั้งคู่เป็นคู่รักกันจริงๆ นะครับเนี่ย!”
พอเขาพูดแบบนี้ ซูสือเยว่ก็อดหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้
เธอเม้มปาก“ที่จริง……”
“ที่จริงมันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
ฉินโม่หานตัดบทซูสือเยว่ด้วยเสียงเรียบ แล้วก็หันไปมองผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารัก “ไปลบเครื่องสำอางไป”
พอเห็นว่าถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ซูสือเยว่ก็มองดูเครื่องสำอางบนใบหน้าของตัวเอง แล้วก็พยักหน้า “กลางวันไปกินข้าวด้วยกันไหม? ”
ชายผู้มีใบหน้าที่เย็นชาและสูงส่งก็หัวเราะเบาๆ “ได้สิ”
“ถ้ายังงั้นเดี๋ยวฉันไปล้างเครื่องสำอางก่อน”
ซูสือเยว่ยิ้มตาหยีแล้วก็เข้าห้องแต่งหน้าไป
เธอไม่ได้กินข้าวกับฉินโม่หานมานานแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอยุ่ง ก็เขายุ่ง
พอเห็นท่าทางที่หญิงสาวจากไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของฉินโม่หานก็คลี่รอยยิ้มที่เอ็นดู
ไกลจากตรงนั้น โทรศัพท์ของหยางชิงโยวก็บันทึกภาพเหตุการณ์นี้อีกครั้ง แล้วก็ส่งให้เหลียงหยูซิน
ในเมื่อจะจัดการซูสือเยว่ ก็ต้องทำให้เป็นคลื่นลูกใหญ่ไปเลย!
เหลียงหยูซินเองก็ไม่ทำให้ผิดหวัง วิธีโอที่หยางชิงโยวส่งมาให้เธอทั้งหมดถูกโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ต
“นักแสดงหน้าใหม่รังเกียจเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้ ฉากจูบยังต้องใช้ตัวแสดงแทน”
“ถ่ายเสร็จยังชวนกันไปกินข้าว ยังมีอีกกี่เรื่องเกี่ยวกับซูสือเยว่ที่ทุกคนไม่รู้อีก? ”
ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนชื่อของซูสือเยว่ก็เคยขึ้นอันดับการค้นหายอดนิยมเพราะว่าเซี่ยงหวั่นฉิงกับเฉิงเซวียน แต่ว่าตอนนั้น ชื่อของซูสือเยว่มันถูกมัดไว้กับคนไม่มีชื่อเสียงสองคนในวงการบันเทิง ความนิยมไม่ได้สูงนัก แล้วคนที่พูดถึงก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น
แน่นอน มีคนไม่มากนักที่ให้ความสนใจเธอ
แต่ว่าครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
ครั้งนี้มันพุ่งไปที่จี้หนานเฟิง เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้ที่เป็นคนที่มาแรงในสุดในวงการบันเทิง
ดังนั้น แฟนคลับของจี้หนานเฟิงในอินเทอร์เน็ตก็เริ่มด่าซูสือเยว่อย่าบ้าคลั่ง
พวกชาวเผือกก็เริ่มโจมมตีซูสือเยว่
ไม่นาน ซอฟต์แวร์น้อยๆ ของซิงหยุนก็รับไม่ไหว
ซิงหยุนนั่งปาดเหงื่ออย่างเงียบๆ อยู่ในห้องสมุด หันไปมองซิงกวง “คุณอาจี้ของเธอ……แฟนคลับเยอะขนาดนี้เลยเหรอ? ”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”
ซิงกวงกลอกตา “คุณอาจี้ของฉันคือคนที่เก่งที่สุดในวงการบันเทิงนะ!”
พอพูดจบ เธอก็ทำปากมุ่ย “จัดการไม่ได้แล้วใช่ไหม? ”
แฟนคลับของคุณอาจี้เยอะมากจริงๆ
เธอเคยลองพยายามต่อสู้กับแฟนคลับของเขาอยู่
หลังจากนั้นก็พบว่า……
ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นโดยคนเพียงคนเดียว แม้จะฉลาดแค่ไหน ก็ไม่สามารถคุ้มกับคนหลายพันคนได้
ตอนนี้ ก็วนมาถึงซิงหยุนแล้ว
เด็กน้อยเอนกายลงบนโซฟาด้วยท่าทางที่สบาย “สู้เราโทรหาคุณอาจี้ ให้คุณอาจี้ชี้แจงเอาไม่ดีกว่าเหรอ? ”
“แฟนคลับเขาเชื่อฟังเขามากที่สุดอยู่แล้ว”
ซิงหยุนเม้มปาก
เขาไม่อยากให้หม่ามี๊ของเขากับจี้หนานเฟิงนั่นมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันเลย
ถ้าเกิดว่าครั้งนี้จี้หนานเฟิงเอ่ยปากช่วย ซูสือเยว่ ก็เท่ากับว่าครั้งนี้ซูสือเยว่ติดหนี้บุญคุณจี้หนานเฟิง
เธอต้องชดใช้หนี้บุญคุณเขา จำเป็นต้องเพิ่มการติดต่อกับเขาและค่อยๆ พัฒนาความเป็นไปได้กับเขา……
พอคิดแบบนี้ ซิงหยุนก็โทรหาฉินโม่หานในทันที
“แด๊ดดี้ เห็นข่าวรึยั ครั้งนี้ผมจัดการไม่ไหว”
“ทำยังไงดี？”
ฉินโม่หานขมวดคิ้ว แล้วก็หยิบโทรศัพท์อีกเครื่องมาเปิดดู
แล้วก็เห็นข่าวพวกนั้นในอินเทอร์เน็ต
ฉากจูบของเขากับซูสือเยว่ถูกเล่นซ้ำหลายต่อหลายครั้ง
วิดีโอที่ซูสือเยว่ชวนเขาไปกินอาหารกลางวัน ก็ถูกคนตีความไปต่างๆ นานา
ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ แต่ว่าฉินโม่หานกลับดูแล้วรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ที่แท้ตอนที่ซูสือเยว่กับเขาจูบกันนั้น มันเป็นแบบนี้นี่เอง
นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นตัวเองกับซูสือเยว่จูบกันในมุมมองของคนดู
อืม ตรงนี้มันดูผูกพันกว่านี้ได้อีก
ตรงนี้ยังกอดกันแน่นกว่านี้ได้อีก……
“แด๊ดดี้……”
น่าจะเพราะว่าไม่ได้ยินเสียงตอบรับเป็นเวลานาน ซิงหยุนที่อยู่ปลายสายก็ถอนหายใจออกมา “ฟังผมพูดอยู่ไหม? ”
ฉินโม่หานถึงได้ดึงสติกลับมา
ชายหนุ่มกระแอมเบาๆ “ในเมื่อจัดการไม่ไหว ก็ไม่ต้องจัดการแล้ว”
“สู้ไม่ได้ก็เข้าร่วมซะเลย”
ซิงหยุนขมวดคิ้ว “หมายความว่ายังไง? ”
“พ่อคิดว่าจำนวนคนเข้าดูวิดีโอนี้มันยังสูงได้อีกนะ”
“ในวิดีโอพ่อหล่อมากเลย”
ซิงหยุน：“……”
ที่พ่อไม่ได้สนใจเขาอยู่นาน ก็เพราะว่ากำลังชื่นชมความหล่อของตัวเองอยู่งั้นเหรอ?
ซิงหยุนกลอกตา “แต่ว่าข่าวนี้มันไม่ดีต่อหม่ามี๊นะ”
เรื่องนี้ ซิงหยุนไม่อยากให้จี้หนานเฟิงเป็นคนจัดการ เพราะฉะนั้นทางเลือกเดียวก็คือไปหาพ่อของเขา ให้เขาไปจัดการเรื่องนี้ก่อนที่จี้หนานเฟิงจะทำ
“ดีหรือไม่ดี มันก็แค่สิ่งตรงข้ามกันเท่านั้น”
ฉินโม่หานคลี่ยิ้มจางๆ แล้วก็มองดูวิดีโอที่เขากับซูสือเยว่จูบกันอย่างพึงพอใจ
“ตอนนี้คนอื่นกำลังด่า กำลังต่อต้านหม่ามี๊ เพราะว่าพวกเขาไม่เข้าใจภาพรวมของเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้นเอง”
“แต่ถ้าเกิดว่าคนพวกนี้รู้ว่า พ่อกับซูสือเยว่เป็นคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายล่ะ? ”
“ถ้าเกิดว่าแฟนคลับของจี้หนานเฟิงรู้ ว่าการกระทำของพ่อนี้เป็นการปกป้องพวกเราสามคน พวกเธอยังจะด่าอยู่ไหม? ”
ซิงหยุนเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมเข้าใจแล้ว”
แด๊ดดี้ของพวกเขาจะอาศัยโอกาสนี้ในการประกาศความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาใช่ไหม?
ในฐานะที่เป็นลูกชาย เขาจะไม่สนับสนุนได้อย่างไร?
“ผมจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
หลังจากวางสาย เด็กน้อยก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มเคาะคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
ซิงกวงที่อยู่ด้านข้างก็รู้สึกประหลาดใจ
เธอเอาหัวกลมๆ ของเธอออกมาจากโซฟา แล้วก็มองไปที่ซิงหยุน “พี่ นี่เขียนโค๊ดใหม่อยู่เหรอ? ”
“อืม”
ซิงหยุนพยักหน้า
ในเมื่อจะเข้าร่วมกับพวกแฟนคลับของจี้หนานเฟิง เพื่อโปรโมทแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ของเขา ถ้ายังงั้นเขาก็ต้องเปลี่ยนวิธีการเขียนโค๊ดใหม่
“อย่าเสียแรงเปล่าเลย”
ซิงกวงทำปากมุ่ย “แฟนคลับของคุณอาจี้ของฉันพี่เอาชนะไม่ได้หรอก”
ซิงหยุนมองดูคอมพิวเตอร์ แล้วริมฝีปากของเขาก็มีรอยยิ้มที่ชั่วร้าย “ใครบอกว่าฉันจะเอาชนะล่ะ? ”
…………
พอล้างเครื่องสำอางเสร็จ ซูสือเยว่พึ่งจะออกมาจากสตูดิโอ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ฟู๋เชียนเชียนโทรมา
เธอขมวดคิ้ว ฟู๋เชียนเชียนโทรมาหาเธอตอนนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกล่ะ?
ยังไม่ทันจะได้รับสาย มือหนาก็ได้คว้าโทรศัพท์ของเธอออกไปก่อน
ฉินโม่หานกดปุ่มปิดเครื่องบนโทรศัพท์ของเธอเบาๆ แล้วก็ใส่กระเป๋า “ฉันอยากให้เธอกินข้าวกับฉันอย่างสบายใจ ไม่ใช่ว่าเอาแต่คุยโทรศัพท์กับเพื่อนรักของเธอแล้วไม่สนใจฉัน”
ซูสือเยว่：“……”
เมื่อไหร่กันที่เธอเมินเขาแล้วคุยโทรศัพท์กับเพื่อน?
แต่ว่าเธอเองก็รู้ดี ว่าผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจและเผด็จการ ในเมื่อเขาพูดแล้ว ต่อให้เธอไม่กินอาหารเย็น ก็ไม่มีทางได้โทรศัพท์คืนหรอก
ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงถอนหายใจ แล้วตามเขาออกจากกองถ่าย
แต่ไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึกว่าหลังจากที่เธอล้างหน้าเสร็จแล้วออกมาอีกครั้ง สายตาของคนที่กองถ่ายที่มองมาที่เธอนั้นมันแปลกๆ ไป
แม้แต่ผู้กำกับเฉิงก็เหมือนมีอะไรอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด
ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว เธอรู้ว่าตัวเองหน้าสดมันไม่ได้ดูดีเท่าตอนแต่งหน้าเหรอ
แต่ก็ไม่ได้… น่าเกลียดจนทุกคนมีสีหน้าที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกแบบนี้รึเปล่า?
เธอคิดแบบนี้ แล้วฉินโม่หานก็พาเธอไปที่ร้านอาหารใกล้ๆ นี้
ตอนสั่งอาหารนั้น ซูสือเยว่ก็เหลือบมองไปที่ทีวีโดยที่ไม่รู้ตัว
ทันใดนั้น ร่างกายของเธอก็แข็งทื่อไปในทันที
ที่กำลังออกอากาศอยู่ในทีวีนั้น เป็นฉากจูบของเธอกับฉินโม่หาน!
