นี่ ……มันเรื่องอะไรกัน?
ฉากนี้เพิ่งถ่ายทำ มีฉายทางทีวีแล้วงั้นเหรอ?
“นี่เป็นวิดีโอจากกองถ่ายเมื่อเช้านี้นิ”
“เราจะเห็นได้เลยว่า ผู้ที่รับบทนางเอกในกล้องนั้นก็คือซูสือเยว่ของหนังเรื่อง《ความทรงจำที่ขาดหาย》 และผู้ชายที่เธอถ่ายฉากจูบด้วยนั้น กลับไม่ใช่พระเอกของ《ความทรงจำที่ขาดหาย》จี้หนานเฟิง”
“นี่มันเป็นเพราะอะไรกันน่ะเหรอ? มีคนออกมาพูดว่า เพราะว่าความสามารถของนักแสดงสาวคนนี้ยงไม่ดีพอ ไม่สามารถเอาชนะความกดดันที่จะจูบกับเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้ได้”
“ดังนั้นก็เลยต้องหาตัวแสดงแทน”
“บางคนก็พอว่า สแตนด์อินคนนี้นักแสดงสาวเป็นคนหามาเอง ก็เพราะว่าอยากจะปกปิดความขาดแคลนในเรื่องของความเป็นมืออาชีพของตนเอง”
“และก็มีบางคนบอกว่า สแตนด์อินคนนี้นักแสดงชายเป็นคนหามา เพราะว่าเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงจี้ไม่อยากจะเล่นกับผู้หญิงที่แม้แต่ถ่ายฉากจูบยังไม่ได้……”
เมื่อฟังข่าวจากพิธีกรรายการในทีวี ซูสือเยว่ที่ตอนแรกก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่นั้น ก็ร่วงสู่ก้นบึ้งในทันที
แสดงว่า……มีจงใจถ่ายวิดีโอของกองถ่ายเพื่อสร้างความสับสนให้คนดูหรือเปล่า?
เธอเม้มปาก เหลือบมองชายตรงหน้าที่กำลังดูโทรศัพท์อย่างจริงจัง “ท่านชาย นายได้ยินไหม? ”
ตอนนี้เอง ฉินโม่หานกำลังดูคลิปในโทรศัพท์อยู่
และคลิปในโทรศัพท์นั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่นใด มันคือสิ่งที่กำลังถูกเผยแพร่อยู่ในโลกภายนอก ภาพที่เขากับซูสือเยว่จูบกันนั่นเอง
เขาดูไปทั้งหมดสามรอบแล้ว
ทุกครั้งที่ดูเขาก็จะรู้สึกว่าทักษะการจูบของเขามันสามารถดีได้มากกว่านี้อีก สีหน้าของซูสือเยว่ยังดูน่ารักได้มากกว่านี้อีก
นี่ยังไม่ใช่ท่าทางที่น่าดึงดูดที่สุดของเธอ
แน่นอนว่าในกองถ่าย ไม่สู้เท่าภาพจากเตียงที่บ้านของตัวเองหรอก
แน่นอนว่า เขาไม่อยากให้คนอื่นเห็นตอนที่ซูสือเยว่ดูดีที่สุดหรอก
พอเห็นว่าชายหนุ่มไม่สนใจเธอ ซูสือเยว่ก็เม้มปาก ขมวดคิ้วแล้วก็เรียกเขาอีกที “ท่านชาย? ”
ฉินโม่หานถึงได้ดึงสติกลับมา
ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์ด้วยท่าทางที่สง่างาม “ทำไมเหรอ? ”
ซูสือเยว่ชี้ไปที่ทีวีที่อยู่ไกลๆ “นี่”
เขาหันหน้าไป แค่เพียงเหลือบมองคร่าวๆ ก็รู้แล้วว่าเธอหมายถึงอะไร
ยังไงซะตอนนี้ความเห็นของสาธารณชนก็ดุเดือดมาก และก็ยังมีความดีความชอบจากซิงหยุนอีกด้วย
ชายหนุ่มยิ้มจางๆ “ให้พวกเขาพูดไปเถอะ”
ซูสือเยว่จับตะเกียบแล้วเม้มปาก “ไม่สนใจเหรอ? ”
ความจริงแล้ว……เธอเองก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าคนอื่นจะพูดยังไง
เธอไม่แคร์ความคิดของคนอื่นได้ แต่ว่าคนอื่นแคร์
จี้หนานเฟิง แล้วก็ผู้กำกับเฉิง
แม้แต่ทั้งกองถ่ายก็จะได้รับผลกระทบใช่ไหม?
ขยับเพียงแค่นิดเดียวก็กระทบไปทั้งหมด นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องของเธอเพียงคนเดียว
“ยังไม่ต้องไปยุ่งชั่วคราวก็ได้”
ฉินโม่หานคีบอาหารให้ซูสือเยว่ด้วยท่าทีที่สง่างาม “ตอนบ่ายตั้งใจถ่ายให้ดีนะ”
“เดี๋ยวเธอถ่ายเสร็จ เรื่องราวก็คลี่คลายแล้ว”
ในเมื่อเขาพูดแบบนี้แล้ว ซูสือเยว่ก็ไม่กล้าถามอะไรมากมาย
ผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ และเริ่มกินอย่างจริงจัง
ฉินโม่หานนั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอแล้วมองดูท่าทางกินข้าวอย่างจริงจังของเธอ ก็อดไม่ได้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแอบถ่ายรูปเธอแล้วโพสต์หน้าไทม์ไลน์ของตัวเอง
ไม่นาน ก็มีเพื่อนมาคอมเม้นต์
ซิงเฉิน:“หม่ามี๊ของผมสวยที่สุดเลย!”
ซิงหยุน:“น่ารัก”
ไป๋ลั่ว: “คุณหน้ากับภรรยาเข้ากันดีมากเลยครับ”
ฉินหนานเซิง: “กินอะไรกัน ดูท่าทางน่ากินมากเลย”
ไป๋ยู่หนาน: “ช่วยด้วย! ไม่อยากมานั่งชมความหวานแล้ว!”
นั่งอ่านข้อความพวกนี้ ฉินโม่หานอารมณ์ดีมาก แม้แต่กินข้าวเยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ
หลังจากกินข้าวเสร็จ เขาก็ไปส่งซูสือเยว่กลับไปที่กองถ่าย แล้วค่อยกลับบริษัทไป
ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำในตอนบ่าย และเขาต้องจัดการงานที่ควรจัดการก่อน
“จึ๊ๆๆ กลับมาจากกินข้าวกับพี่ชายสุดหล่อแล้วเหรอ? ”
พอเข้ามาในกองถ่ายเหลียงหยูซินก็ขวางทางซูสือเยว่เอาไว้ “เห็นข่าวในอินเทอร์เน็ตรึยัง? ”
“ซูสือเยว่ เธอนี่น่าขายหน้าจริงๆ เลยนะ”
หญิงสาวไม่ทำตัวต้อยต่ำแต่ก็ไม่หยิ่งยโส เธอเงยหน้ามองเหลียงหยูซิน “อยู่คนเดียวเหรอ? ”
“หยางชิงโยวล่ะ?”
น่าจะเพราะว่านึกไม่ถึงว่าซูสือเยว่จะถามถึงหยางชิงโยวเหลียงหยูซินก็ขมวดคิ้ว “เธอไปหาเพื่อนเก่า”
พอพูดจบ เธอก็เบะปาก “ทำไม ตอนนี้เริ่มหาพวกแล้วรึไง? ”
“ถึงแม้ว่าชิงโยวจะนิสัย แต่ว่าเธอเป็นเพื่อนของฉัน ไม่มีทางยืนอยู่ฝั่งเธออย่างแน่นอน!”
ซูสือเยว่จนปัญญา แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงตรงหน้าตัวเองอีกครั้ง
เหลียงหยูซินคนนี้ก็หน้าตาสะสวย ทำไมถึงไม่มีสมองได้นะ?
หยางชิงโยวก่อกองไฟให้เธอทุกครั้ง แล้วก็คอยพัดให้เปลวไฟลุกโชนด้วย ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่นิดเดียวเหรอ?
พึ่งจะเข้ามาที่กองถ่าย ช่างแต่งหน้าก็บอกซูสือเยว่ว่าเหลียงหยูซินผิดใจกับคนในวงการนี้เยอะมาก แต่ว่าหยางชิงโยวกลับดีมาก”
ตอนแรกซูสือเยว่ก็ไม่เชื่อหรอก แต่ว่าตอนนี้ เธอเริ่มเชื่อแล้ว
ผู้หญิงตรงหน้าเธอที่ชื่อเหลียงหยูซินเนี่ย ถูกคนอื่นใช้เป็นปืนโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
คนที่ทำเรื่องให้คนขุ่นเคืองนั้นก็คือเหลียงหยูซิน ส่วนเรื่องดีๆ ก็ให้หยางชิงโยวเป็นคนทำ
พอคิดได้แบบนี้ ซูสือเยว่ก็ยักไหล่ “เธอเข้าใจผิดแล้ว”
“ฉันไม่ได้อยากจะดึงหยางชิงโยวมาเป็นพวกด้วยหรอกนะ”
“ฉันอยากจะดึงเธอมาเป็นพวกต่างหาก”
เหลียงหยูซินกลอกตา “เธอป่วยทางจิตเหรอ? ดึงฉันไปเป็นพวกเนี่ยนะ? ”
“ฉันเกลียดเธอแค่ไหน ก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้? ”
“ฉันรู้”
ซูสือเยว่ดึงเก้าอี้ข้างๆ มา แล้วก็นั่งลงตรงหน้าเหลียงหยูซิน “แต่ว่าเธอไม่ควรจะเกลียดฉัน”
“ถ้าเกิดว่าสนใจ ลองมาคุยกันหน่อยไหม?”
เหลียงหยูซินเหลือบมองอย่างสงสัย แล้วก็นั่งลงข้างๆ ซูสือเยว่
ทั้งสองคุยกันจนการถ่ายทำฉากเริ่มต้นขึ้น
หลังจากที่ซูสือเยว่ถูกผู้กำกับเรียกตัวไป หยางชิงโยวก็กลับมา
เธอยุยงให้เหลียงหยูซินดูเรื่องตลกของซูสือเยว่ “พวกเราไปดูกันเถอะ เรื่องในอินเทอร์เน็ตเป็นแบบนั้นแล้ว แต่ก็ยังสร้างผลกระทบอะไรให้เธอไม่ได้”
“ไม่รู้จริงๆ ว่าจิตใจดี หรือว่าหน้าหนากันแน่”
ถ้าเกิดว่าเป็นเวลาปกตินั้นเหลียงหยูซินต้องกลอกตาอย่างรุนแรง และพูดว่าซูสือเยว่หน้าหนา
แต่ว่าครั้งนี้ พอหยางชิงโยวพูดจบเหลียงหยูซินกลับไม่ได้พูดอะไรต่อ
เธอลุกขึ้น แล้วก็เดินเข้าไปในกองถ่ายเงียบๆ มองดูซูสือเยว่ถ่ายทำอย่างจริงจัง
ในตอนบ่าย ซูสือเยว่จะถ่ายทำในฉากที่เธอต้องตกลงมาจากกำแพงเมือง
เธอไม่ได้ใช้สแตนด์อิน เธอถูกแขวนอยู่บนกำแพงที่สูง 7-8 เมตร
ความสูงขนาดนี้ ทำให้คนธรรมดามองแล้วยังใจสั่น แต่ว่าเธอกลับดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย ยังคงยิ้มและพูดคุยกับผู้กำกับเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของเธอ
เหลียงหยูซินมองดูเธอ และก็เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า……
ที่จริงแล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนิ?
“สุดท้ายแล้วก็เกิดมาจากการเป็นสแตนด์อินนั่นแหละ”
หยางชิงโยวอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “สูงขนาดนี้ยังไม่กลัว เก่งจริงๆ เลย”
“มีความสามารถแบบนี้ มิน่าล่ะถึงมาเป็นนักแสดงนำได้โดยที่ไม่ได้มีทักษะการแสดงอะไรมาก่อนเลย”
เหลียงหยูซินขมวดคิ้ว “จะบอกว่าเธอไม่มีทักษะการแสดงอะไรก็คงไม่ได้ใช่ไหม? ”
“สีหน้าที่เธอแสดงเมื่อกี้ ฉันรู้สึกว่าฉันยังเล่นไม่ได้เลย”
“ที่เธอได้มาเป็นนักแสดง ก็เพราะว่าเธอมีความสามารถสินะ”
“เมื่อก่อนในข่าวก็เคยบอกไม่ใช่เหรอ ว่าเธอเคยช่วยเซี่ยงหวั่นฉิงกับเฉิงเซวียนพัฒนาฝีมือการแสดง”
“เก่งจังเลย”
หยางชิงโยวสำลัก
เธอเบิกตาโพลง
นี่เหลียงหยูซินกำลัง……ชมซูสือเยว่อยู่
เป็นไปได้ยังไง!
เธอก็แค่ออกไปหาเย่เชียนจิ่วแป๊บเดียวเอง ทำไมทัศนคติที่เหลียงหยูซินมีต่อซูสือเยว่ถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้!?